Filtrer par genre
ดื่มด่ำ ซึมซาม ด้วยการฟังบทพยัญชนะที่มีความงดงามในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด เป็นข้อมูลโดยตรงจากพระสูตรในพระไตรปิฏก เพื่อให้มีการตกผลึกความคิด เกิดเป็นความคลองปากขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยความเห็นได้. New Episode ทุกวันพฤหัส เวลา 05:00, Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการธรรมะรับอรุณ ออกอากาศทุกวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) มีคำถาม/ข้อเสนอแนะ หรือสมัครติดตามฟังทั้ง 7 รายการ ที่ panya.org
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
- 365 - พุทธประวัติ ตอนทรงทำทุกรกิริยา [6719-4s]Wed, 08 May 2024 - 57min
- 364 - พุทธประวัติ ตอนก่อนออกผนวช [6718-4s]
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ เรื่องเริ่มแต่การเกิดแห่งวงศ์สากยะ การก้าวลงสู่ครรภ์ การประสูติ ประกอบด้วยมหาปุริสลักขณะ 32 บุพกรรมของการได้มหาปุริสลักขณะ ความรู้สึกที่ถึงกับทำให้ออกผนวช และออกผนวชเมื่อพระชนม์ 29 ปี
อ่าน “อัจฉริยัพภูตธัมมสูตร” พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
อ่าน “ลักขณสูตร” พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๓ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 01 May 2024 - 56min - 363 - การออกบวชที่ชอบธรรม-โฆฏมุขสูตร และ ฆฏิการสูตร [6717-4s]
สูตร# 1 โฆฏมุขสูตร [๔๑๒] เป็นเหตุการณ์ที่เกิดหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน ท่านพระอุเทนะแสดงแก่โฆฏมุขะพราหมณ์ ซึ่งเข้าไปสนทนาธรรม ณ เขมิยอัมพวัน ปรารภเหตุที่โฆฏมุขะพราหมณ์ได้แสดงความเห็นของตนว่า การบวชอันชอบธรรมย่อมไม่มี ท่านพระอุเทนะได้แสดงบุคคล 4 จำพวกและบริษัท 2 จำพวกให้โฆฏมุขะพราหมณ์ฟัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการบวชมีผล เพราะผู้ไม่ทำตนและผู้อื่นให้เดือดร้อนมีมากในนักบวช โฆฏมุขะพราหมณ์ได้ท่านพระอุเทนะเป็นกัลยาณมิตรให้เกิดความเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสรณะ และได้สร้างโรงฉันปัจจุบันเรียกว่า ‘โฆฏมุขี’ ถวายแก่สงฆ์เมืองปาตลีบุตร
สูตร# 2 ฆฏิการสูตร [๒๘๒] เป็นสมัยที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นมานพชื่อโชติปาละ ซึ่งเป็นสมัยของพระกัสสปพุทธเจ้า มีกัลยาณมิตรเป็นช่างปั้นหม้อชื่อฆฏิการะ ที่ได้ชักชวนไปฟังธรรม ซึ่งตอนแรกนั้นโชติปาละไม่ยอมไป ต้องชวนถึง 3 ครั้ง และเมื่อฟังธรรมแล้วโชติปาละมานพได้ออกบวช ส่วนช่างหม้อจำเป็นต้องเลี้ยงมารดาผู้ชราและเสียจักษุ จึงไม่ได้ออกบวช
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 24 Apr 2024 - 57min - 362 - ธรรมในธรรม-อลคัททูปมสูตร [6716-4s]
อลคัททูปมสูตรพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ในครั้นนั้นอริฏฐภิกษุมีทิฏฐิชั่วเกิดขึ้นด้วยการกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคว่า ได้รู้ทั่วถึงธรรม และธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่าเป็นธรรมก่ออันตรายนั้นไม่สามารถก่ออันตรายแก่ผู้ซ่องเสพได้จริง ซึ่งเหล่าภิกษุอื่นได้ไปหาอริฏฐภิกษุด้วยความปรารถนาให้ละทิฏฐิชั่ว แต่ก็ไม่สำเร็จ อริฏฐภิกษุยังคงมีความเข้าใจผิดในธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ เหล่าภิกษุอื่นได้กราบทูลความนี้ต่อพระผู้มีพระภาค ทรงได้รับสั่งเรียกอริฏฐภิกษุให้มาเข้าเฝ้า และได้ตรัสถามเนื้อความการกล่าวตู่ธรรมของพระผู้มีพระภาคนี้จากอริฏฐภิกษุ ซึ่งยอมรับว่าเป็นความจริง จึงได้ทรงอธิบายว่าการกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคด้วยทิฏฐิที่ถือไว้ผิด ชื่อว่าทำลายตนเอง ชื่อว่าประสบสิ่งที่มิใช่บุญ ซึ่งจะเป็นไปเพื่อความไม่เกื้อกูล เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนาน และได้รับสั่งเรียกเหล่าภิกษุเพื่ออธิบายว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่อริฏฐภิกษุจะเสพกามโดยปราศจากกาม ปราศจากกามสัญญา และปราศจากกามวิตก และได้ทรงแสดงว่าการเรียนธรรมนั้นให้พิจารณาไตร่ตรองเนื้อความแห่งธรรมด้วยปัญญา ธรรมจึงประจักษ์ชัด รวมทั้งทรงแสดงธรรมเปรียบเทียบแพเพื่อการสลัดออกไม่ใช่เพื่อการยึดถือ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 17 Apr 2024 - 1h 08min - 361 - กายภาวนาและจิตตภาวนา-มหาสัจจกสูตร [6715-4s]Wed, 10 Apr 2024 - 59min
- 360 - จิตบริสุทธิ์-อุปักกิเลสสูตรและวัตถูปมสูตร [6714-4s]
สูตร1 #อุปักกิเลสสูตร สืบเนื่องจากพวกภิกษุโกสัมพีเกิดความบาดหมางทะเลาะวิวาท พระผู้มีพระภาคทรงห้ามอยู่ 3 ครั้ง แต่ภิกษุไม่เชื่อฟัง จึงทรงเสด็จไปยังบ้านพาลกโลณการคาม ท่านพระภคุได้รับเสด็จ แล้วเสด็จต่อไปยังป่าปาจีนวังสทายวัน ซึ่งท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมพิละพักอยู่ที่นั่น โดยอยู่กันด้วยความสามัคคี ได้ทรงสนทนาและตรัสถามถึงญาณทัสสนะของพระเถระทั้ง 3 รูป ที่ได้ทูลว่า สามารถจำแสงสว่างและเห็นรูปได้แต่ไม่นาน จึงตรัสเล่าเหตุการณ์การปฏิบัติของพระองค์ก่อนการตรัสรู้ ซึ่งทรงพบอุปสรรคเช่นนั้นเหมือนกัน แต่ทรงพิจารณาจนเห็นอุปกิเลส 11 ประการ ที่เป็นเหตุให้เป็นเช่นนั้น และเมื่อทรงละอุปกิเลสได้ จึงทรงเจริญสมาธิ 3 ประการได้ ญาณทัสสนะจึงเกิดขึ้นแก่พระองค์
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
สูตร2 #วัตถูปมสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ซึ่งมีสุนทริกภารทวาชปริพาชกนั่งฟังอยู่ด้วย และทรงทราบว่าปริพาชกนี้เชื่อถือลัทธินหานสุทธิ คือเชื่อว่าความบริสุทธิ์มีได้เพราะการอาบน้ำลอยบาป จึงทรงแสดงธรรมให้เป็นไปตามอัธยาศัยของปริพาชกนี้ จึงทรงตรัสสอนปริพาชกนี้ว่า คนที่ทำกรรมชั่วไว้แล้ว ถึงจะไปอาบน้ำที่ไหนก็หาทำให้เกิดความสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ไม่ แล้วตรัสสอนการอาบน้ำในศาสนาของพระองค์ เมื่อตรัสจบ สุนทริกภารทวาชปริพาชกประกาศตนเป็นพุทธมามกะ ทูลขอบรรพชาอุปสมบทและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในกาลต่อมา
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 03 Apr 2024 - 58min - 359 - เหตุไม่สะดุ้งกลัว-ภยเภรวสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6713-4s]
สูตร 1 #ภยเภรวสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำถามของพราหมณ์ว่า การอยู่เสนาสนะอยู่ลำบาก ทำให้สงบได้ยาก การอยู่โดดเดี่ยวก็หาความรื่นรมย์ได้ยาก ป่าทั้งหลายมักจะชักนำจิตของภิกษุผู้ไม่ได้สมาธิให้เกิดความหวาดหวั่นได้ ทรงอธิบายเหตุสะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่า 16 ประการของสมณพราหมณ์พวกอื่น เปรียบเทียบกับเหตุไม่สะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่าของพระองค์ และพระอริยะทั้งหลายซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน และทรงอธิบายว่าขณะที่ยังไม่ได้ตรัสรู้ ทรงเลือกการอยู่เสนาสนะป่า และเมื่อความขลาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่ทรงอยู่ในอิริยาบถใดก็ทรงพิจารณาความขลาดกลัวให้หมดไปในอิริยาบถนั้น จะไม่ทรงเปลี่ยนอิริยาบถจนกว่าจะทรงกำจัดได้ แล้วทรงบำเพ็ญเพียรต่อไปจนได้ฌาน 4 และวิชชา 3 แม้หลังจากตรัสรู้แล้ว ก็ยังทรงอยู่เสนาสนะป่าเป็นประจำ เพราะทรงเห็นอำนาจประโยชน์ 2 ประการ คือ 1) เพื่อการอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน 2) เพื่อการอนุเคราะห์คนรุ่นหลังให้ถือปฏิบัติตาม เมื่อทรงอธิบายจบลง ชาณุสโสณิพราหมณ์เกิดความเลื่อมใส ประกาศตนเป็นอุบาสก
สูตร 2 #ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตรนิกาย # 20) พราหมณ์เข้าเฝ้าและได้สนทนากันเรื่องวิชชา 3 ของพวกพราหมณ์ ทรงตรัสว่าผู้ได้วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์เป็นอย่างหนึ่ง ผู้ได้วิชชา 3 ในอริยวินัยนี้เป็นอย่างหนึ่ง แล้วทรงแสดงในรายละเอียด
สูตร 3 # ชาณุสโสณิสูตร (สังยุตตนิกาย # 16)พราหมณ์เข้าไปเฝ้าแล้วทูลถามว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี ทรงตรัสตอบว่า ความเห็นอย่างนั้นเป็นความเห็นสุดโต่ง แล้วทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทอันเป็นทางสายกลางแก่พราหมณ์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 27 Mar 2024 - 57min - 358 - ฌานขั้นสูง-คาวีอุปมาสูตร และตปุสสสูตร [6712-4s]
สูตร1 #คาวีอุปมาสูตร อุปมาด้วยแม่โค ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ทรงเปรียบเทียบภิกษุผู้โง่เขลากับแม่โคที่โง่เขลาและภิกษุผู้ฉลาดกับแม่โคที่ฉลาดว่า ภิกษุผู้โง่เขลาที่ไม่สามารถบรรลุปฐมฌานได้ ก็จะบรรลุทุติยฌานไม่ได้ เหมือนแม่โคโง่เขลาที่ไม่สามารถหากินบนภูเขาขรุขระในถิ่นตนได้ ก็จะไปหากินในที่ต่างถิ่นไม่ได้ ส่วนภิกษุผู้ฉลาดที่สามารถบรรลุปฐมฌานได้ ก็สามารถบรรลุณานขั้นสูงขึ้นไปจนถึงสัญญาเวทยิตนิโรธได้ เหมือนแม่โคฉลาดที่สามารถหากินบนภูเขาขรุขระในถิ่นตนได้ ก็สามารถไปหากินในที่ต่างถิ่นได้ องค์ธรรมในสูตรนี้ คือ อนุปุพพวิหาร 9 ประการ นอกจากนี้ยังทรงแสดงธรรมอื่น คือ อิทธิวิธญาณ ทิพพโสตะ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ไว้โดยละเอียด
สูตร2 #ตปุสสสูตร ว่าด้วยตปุสสคหบดี ท่านพระอานนท์พาตปุสสคหบดีไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลเรื่องที่คหบดีนั้นเล่าให้ฟังว่า พวกเขาเป็นคฤหัสถ์มีความยินดีรื่นรมย์บันเทิงในกาม เนกขัมมะ (การออกบวช) ปรากฎแก่พวกเขาเหมือนเหวใหญ่ จิตของภิกษุหนุ่มๆ ยินดีในเนกขัมมะ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเนกขัมมะเป็นธรรมสงบ ภิกษุมีธรรมที่ต่างกับคฤหัสถ์ คือ เนกขัมมะ พระองค์ตรัสว่าข้อนั้นเป็นความจริง แม้พระองค์เองก่อนตรัสรู้ก็มีความดำริว่า เนกขัมมะเป็นความดี ความสุขเป็นความดี แต่จิตของพระองค์ก็ไม่น้อมไปในเนกขัมมะ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเนกขัมมะเป็นธรรมสงบ จึงดำริว่า อะไรเป็นเหตุให้เป็นเช่นนั้น รู้ว่า เพราะยังไม่เห็นโทษในกาม และยังไม่ได้รับอานิสงส์ในเนกขัมมะ ถ้าได้เห็นโทษในกาม และได้รับอานิสงส์ในเนกขัมมะ จิตก็จะน้อมไปในเนกขัมมะ แล้วทรงแสดงว่า พระองค์ทรงบรรลุอนุปุพพวิหาร 4 ทรงสรุปว่า เมื่อใด พระองค์เข้าหรือออกจากอนุปุพพวิหารสมาบัติ 4 ประการนี้ได้ตามปรารถนา ทั้งโดยอนุโลม และปฏิโลม เมื่อนั้นพระองค์จึงกล้ายืนยันว่าได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลกทั้งปวง
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 20 Mar 2024 - 58min - 357 - วิธีและผลานิสงส์แห่งการเจริญอานาปานสติ-อานาปานัสสติสูตร และอานาปานสังยุต [6711-4s]
สูตร1 # อานาปานัสสติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ซึ่งประกอบด้วยภิกษุผู้บวชใหม่ และพระเถระผู้มีชื่อเสียงหลายรูป พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ปราสาทของนางวิสาขาในบุพพาราม ในวันอุโบสถขึ้น 15 ค่ำ คืนดวงจันทร์เต็มดวง ในวันปวารณา พระผู้มีพระภาคทรงประทับนั่ง ณ ที่กลางแจ้ง มีภิกษุสงฆ์แวดล้อม ทรงตรวจดูภิกษุสงฆ์ ซึ่งนิ่งเงียบอยู่ และตรัสว่า ในหมู่ภิกษุนี้ มีภิกษุที่เป็นพระอริยเจ้า และภิกษุผู้ทำความเพียรในการเจริญหลักธรรมต่างๆอยู่ ได้ทรงแสดงหลักการเจริญ หลักธรรม 3 หมวด ที่เมื่อทำให้มากแล้ว มีผลมาก และมีอานิสงส์มาก คือ อานาปานสติ 16 ขั้น สติปัฏฐาน 4 และโพชฌงค์ 7 ตามลำดับ โดยที่สุดแล้วจึงทำให้วิชชาและวิมุตติบริบูรณ์
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
สูตร2 # อานาปานสังยุตพระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกับภิกษุเรื่องธรรมอันเป็นเอก ซึ่งคืออานาปานสติ หากทำให้มากแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ได้ทรงแสดงถึงผลานิสงส์การเจริญอานาปานสติ 7 ประการ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Thu, 14 Mar 2024 - 56min - 356 - อานิสงส์แห่งการเจริญกายคตาสติ-กายคตาสติสูตร และอานาปานสังยุต [6710-4s]
สูตร1 # กายคตาสติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำกราบทูลของภิกษุ ผู้กำลังนั่งสนทนาเรื่องกายคตาสติที่ทรงตรัสไว้ว่า เมื่อภิกษุเจริญให้มากแล้ว จะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก ได้ทรงอธิบายวิธีเจริญกายคตาสติให้ฟังโดยละเอียด ซึ่งมีทั้งหมด 18 วิธี และทรงแสดงอานิสงส์ของการเจริญไว้ 10 ประการ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
สูตร2 # อานาปานสังยุต พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสกับภิกษุเรื่องธรรมอันเป็นเอก ซึ่งคือการเจริญอานาปานสติ หากทำให้มากแล้ว มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ได้ทรงแสดงถึงผลานิสงส์การเจริญอานาปานสติ และได้ตรัสถึงการเจริญอานาปานสติโดยเปรียบเหมือนมีกองดินใหญ่อยู่ที่หนทางใหญ่ 4 แพร่ง ถ้าเกวียนหรือรถผ่านมาในทิศใดย่อมกระทบกองดินนั้น ภิกษุก็เช่นกัน ดังนั้นจึงทรงให้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ เห็นเวทนาในเวทนาอยู่ เห็นจิตในจิตอยู่ และเห็นธรรมในธรรมอยู่ ย่อมจะกำจัดอกุศลธรรมอันลามกนั้นเสียได้
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 06 Mar 2024 - 56min - 355 - คุณสมบัติของผู้เป็นพราหมณ์-โสณทัณฑสูตร [6709-4s]
โสณทัณฑสูตร ว่าด้วยพราหมณ์ชื่อโสณทัณฑะ ที่ได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้สนทนาถึงคุณสมบัติของพราหมณ์ที่เชื่อกันว่ามี 5 ประการ แต่เมื่อตัดคุณสมบัติบางอย่างออกไปก็ยังพอจะเรียกว่าพราหมณ์ได้ แต่คุณสมบัติสองประการที่มิอาจตัดได้ นั่นคือ ศีลและปัญญา เพราะสองสิ่งนี้ช่วยชำระกันและกัน ต่อมาพระพุทธเจ้าได้ขยายความถึงคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นพราหมณ์ในธรรมวินัยนี้ คือ การที่ได้มาซึ่งศีล สมาธิ และปัญญา ตามลำดับ พราหมณ์ผู้ยิ่งใหญ่ยอมรับ และได้เข้าถึงความเป็นอุบาสก
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 28 Feb 2024 - 58min - 354 - ผลแห่งความประพฤติสม่ำเสมอ-อัฏฐกนาครสูตรและสาเลยยกสูตร [6708-4s]
สูตร#1 อัฏฐกนาครสูตร พระอานนท์แสดงธรรมโปรดทสมคฤหบดี ชาวเมืองอัฏฐกะ ณ เวฬุวคาม เขตกรุงเวสาลี โดยปรารภคำถามของทสมคฤหบดีที่ว่า "ธรรมอันเป็นเอก ซึ่งเป็นที่หลุดพ้นแห่งจิตที่ยังไม่หลุดพ้น เป็นที่ถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายที่ยังไม่สิ้นไป ฯลฯ ที่พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบแล้ว มีอยู่หรือไม่ เป็นอย่างไร?" พระอานนท์อธิบายถึงธรรมต่อไปนี้ คือ รูปฌาน 4 อัปปมัญญา 4 อรูปฌาน 3 และการพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงและดับไปของธรรมนั้น ซึ่งเมื่อแสดงธรรมจบ ทสมคฤหบดีได้ชื่นชมยินดี กล่าวว่า ตนแสวงหาประตูอมตธรรมประตูเดียว แต่ได้พบถึง 11 ประตู โดยการฟังเท่านั้น เปรียบเหมือนคนแสวงหาแหล่งขุมทรัพย์แห่งเดียว แต่ได้พบแหล่งขุมทรัพย์ถึง 11 ขุม ทสมคฤหบดีทำการบูชาพระอานนท์ โดยได้ถวายอาหารอันประณีตด้วยมือของตนแก่เหล่าภิกษุสงฆ์ ได้ถวายผ้าไตรจีวรและสร้างวิหาร 500 หลังถวายแก่พระอานนท์
พระไตรปิฎกเล่มที่ 13 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 5 [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์
สูตร#2 สาเลยยกสูตร ณ หมู่บ้านพราหมณ์ชื่อสาลา เหล่าพราหมณ์และคหบดีทั้งหลายได้ยินกิตติศัพท์ของพระพุทธเจ้า จึงพากันไปเข้าเฝ้าฯ และได้ทูลถามปัญหา "อะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ทำให้สัตว์บางพวกตายแล้วเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต นรก และสัตว์บางพวกตายแล้ว เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์" พระพุทธเจ้าทรงตรัสตอบว่า พวกที่เข้าถึงอบาย ฯลฯ เพราะประพฤติอธรรม คือ อกุศลกรรมบท 10 และประพฤติธรรมไม่สม่ำเสมอ ส่วนพวกที่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์นั้น เพราะประพฤติธรรม คือ กุศลกรรมบท 10 และประพฤติธรรมสม่ำเสมอ และได้ทรงตรัสถึงผลแห่งความประพฤติโดยรายละเอียด เหล่าชาวบ้านสาลาต่างพากันชื่นชมยินดีในภาษิตของพระผู้มีพระภาค และได้แสดงตนเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
พระไตรปิฎกเล่มที่ 12 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 4 [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 21 Feb 2024 - 52min - 353 - สุขยิ่งกว่าสุขเวทนา- อนุปุพพวิหารสูตร อนุปุพพวิหารสมาปัตติสูตร นิพพานสูตร และอนุปทสูตร [6707-4S]
สูตร1 # อนุปุพพวิหารสูตรว่าด้วยอนุปุพพวิหารสูตร คำว่า “อนุปุพพวิหารธรรม” หมายถึง ธรรมเครื่องอยู่ที่ต้องเข้าสมาบัติตามลำดับมี 9 ประการ คือ รูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4 และ สัญญาเวทยิตนิโรธ พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่า “กามทั้งหลายย่อมดับในที่ใด และท่านเหล่าใดดับกามทั้งหลายได้สนิทอยู่ ท่านเหล่านั้นไม่มีความอยาก ดับสนิทแล้ว”
สูตร2 # อนุปุพพวิหารสมาปัตติสูตรว่าด้วยอนุปุพพวิหารสมาบัติมี 9 ประการ คือ รูปฌาน4 และอรูปฌาน 4 และ สัญญาเวทยิตนิโรธ โดยทรงแสดงธรรมถึงการดับของอนุปุพพวิหารสมาบัติ ตามลำดับ โดยทรงกล่าวยกย่องว่าบุคคลผู้เข้าถึงอนุปุพพวิหารสมาบัติทั้ง 9 ประการ ว่าเป็นผู้ที่ควรแสดงความอ่อนน้อมด้วยการกราบไหว้ เข้าไปนั่งใกล้
สูตร3 # นิพพานสูตร ว่าด้วยนิพพานเป็นสุข ซึ่งเป็นคำที่ท่านพระสารีบุตรกล่าวกับภิกษุทั้งหลาย ณ พระวิหารเวฬุวัน แต่ท่านพระอุทายีแย้งว่า “นิพพานไม่มีเวทนา จะเป็นสุขได้อย่างไร” ท่านพระสารีบุตรกล่าวว่า “นิพพานไม่มีเวทนานั่นแหละเป็นสุข” แล้วได้แสดงกามคุณ 5 และสุขโสมนัสที่อาศัยกามคุณ 5 เกิดขึ้นเรียกว่า กามสุข และแสดงว่า ในฌานสมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 แต่ละอย่างยังมีสิ่งกดดัน (อาพาธ) หมายถึง ความบีบคั้น เช่น ในปฐมฌานมีสัญญามนสิการที่ประกอบด้วยกามเป็นสิ่งกดดัน แต่ในองค์ธรรมประการที่ 9 คือ สัญญาเวทยิตนิโรธ ไม่มีสิ่งกดดันเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า นิพพานเป็นสุขได้อย่างไร
สูตร4 # อนุปทสูตรว่าด้วยธรรมตามลำดับบท ทรงแสดงแก่ภิกษุ ณ พระเชตะวัน ทรงตรัสสรรเสริญท่านพระสารีบุตรให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า ท่านพระสารีบุตรมีความฉลาดล้ำ มีปัญญาเลิศ มากกว่าภิกษุอื่น สามารถเห็นแจ้งธรรมตามลำดับบทได้เพียงกึ่งเดือน เห็นแจ้งตามลำดับบท คือ บรรลุรูปฌาน 4, อรูปฌาน 4, สัญญาเวทยิตนิโรธ และความสิ้นอาสวะ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Thu, 15 Feb 2024 - 54min - 352 - การปฏิบัติธรรม- จูฬธัมมสมาทานสูตรและมหาธัมมสมาทานสูตร [6706-4s]
สูตร1 # จูฬธัมมสมาทานสูตร [468] ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน เพื่อให้ภิกษุทั้งหลายทราบว่าการสมาทานธรรมมี 4 ประการ หมายถึงการนำธรรมมาปฏิบัติ ซึ่งทรงอธิบายการสมาทานธรรม 4 ประการ โดยละเอียด และยกอุปมาโวหารประกอบ ทรงถือเอาความทุกข์และความสุขในขณะปฏิบัติ กับความทุกข์และความสุขที่เป็นผลแห่งการปฏิบัติเป็นหลักเกณฑ์ ที่สูงสุดคือความสุขในสุคติโลกสวรรค์
สูตร2 # มหาธัมมสมาทานสูตร [473] ทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ตรัสไว้ว่าคนส่วนมากต้องการให้สิ่งที่ไม่พึงประสงค์เสื่อมสิ้นไป ต้องการให้สิ่งที่พึงประสงค์เจริญพอกพูน ทั้งที่หวังไว้อย่างนั้นแต่กลับไม่สมหวัง สิ่งที่ไม่ต้องการกลับเจริญพอกพูน สิ่งที่ต้องการกลับไม่มี ได้ทรงอธิบายโดยยกการสมาทานธรรม 4 ประการ ดังที่แสดงไว้ในจูฬธัมมสมาทานสูตร แต่ทรงแยกอธิบาย คือบุคคลผู้ไม่รู้จักการสมาทานธรรมตามความเป็นจริง ชื่อว่าตกอยู่ในอวิชชา ทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งไหนควรเสพ สิ่งไหนไม่ควรเสพ ธรรมที่ไม่น่าปรารถนา เป็นต้น เจริญขึ้น ธรรมที่น่าปรารถนา เป็นต้น เสื่อมไป แต่ถ้ารู้การสมาทานธรรมตามเป็นจริง ชื่อว่ามีวิชชา ก็จะเป็นเหตุให้รู้ว่าสิ่งไหนควรเสพ สิ่งไหนไม่ควรเสพ ทำให้ธรรมที่ไม่น่าปรารถนา เป็นต้น เสื่อมไป ธรรมที่น่าปรารถนา เป็นต้น เจริญขึ้น และทรงอธิบายการสมาทานธรรมโดยการปฏิบัติธรรมที่เป็นอกุศลกรรมบท 10 และกุศลกรรมบท 10 หลังจากตายจะได้รับผลเป็นทุคติและสุคติ และทรงยกอุปมาของการสมาทานธรรม 4 ประการ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๔ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 07 Feb 2024 - 57min - 351 - การทำจิตให้ว่าง-มหาสุญญตสูตรและจูฬสุญญตสูตร [6705-4s]
สูตร1 # จูฬสุญญตสูตร สมัยที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของมิคารมาตา ในบุพพาราม เขตกรุงสาวัตถี ได้ทรงตรัสตอบคำถามของพระอานนท์ที่ทูลถามเรื่อง การทำจิตในใจให้ถึงความว่างเปล่า (สุญญตวิหารธรรม) ของพระผู้มีพระภาค ได้ทรงอธิบายและแสดงรายละเอียดในวิธีปฏิบัติสุญญตาวิหารธรรมไว้ 7 ขั้น จากต่ำไปสูง และทรงสรุปว่า ในอดีต อนาคต และปัจจุบัน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเข้าสุญญตาผลสมาบัติก็จะเข้าสุญญตาอันบริสุทธิ์ยอดเยี่ยมนี้เท่านั้น
สูตร2 # มหาสุญญตสูตรสมัยที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ นิโครธาราม เขตกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์และภิกษุทั้งหลาย ทรงปรารภการอยู่คลุกคลีกันด้วยหมู่คณะของภิกษุหลายรูปในที่นั้น ซึ่งเป็นช่วงจีวรกาล ที่ภิกษุมาร่วมกันทำจีวร ทรงทอดพระเนตรเห็นเสนาสนะจำนวนมาก ทรงตำหนิว่าการที่ภิกษุพอใจในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะไม่ดีเลย ภิกษุผู้หลีกออกจากหมู่คณะไปอยู่ผู้เดียวเท่านั้น จึงจะได้รับความสุขจากความสงัด ความสงบ การตรัสรู้ และจะบรรลุเจโตวิมุตติได้ และพระองค์ก็อยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมนั้น ได้ทรงอธิบายเหตุผลโดยละเอียด วิธีฝึก และวิธีอยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรม ซึ่งการมีสัมปชัญญะ และน้อมจิตไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นขั้นตอนแรกในการทำจิตให้ถึงความว่างได้ และทรงเน้นเรื่องการปฏิบัติกับพระองค์เหมือนกับมิตร อย่าปฏิบัติกับพระองค์เหมือนศัตรู
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๖ [ฉบับมหาจุฬาฯ] มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 31 Jan 2024 - 58min - 350 - การรักษาศีล 8 และการอยู่ครองเรือน-อุโปสถสูตร อิธโลกิกสูตร อนุรุทธสูตร [6704-4S]
สูตร1 # อุโปสถสูตร (การรักษาศีล 8) สมัยหนึ่ง นางวิสาขาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ปราสาทของนางวิสาขามิคารมาตาในบุพพาราม เขตกรุงสาวัตถี ได้รับสั่งทักนางวิสาขา ซึ่งได้ทูลตอบว่าจะรักษาอุโบสถ พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า อุโบสถ 3 ประเภท ได้แก่ 1) โคปาลอุโบสถ (อุโบสถเยี่ยงคนเลี้ยงโค) เป็นการรักษาศีลไม่จริง 2) นิคัณฐอุโบสถ (อุโบสถเยี่ยงนิครนถ์) เป็นการกระทำอย่างพวกนักบวชนอกศาสนาที่เรียกว่านิครนถ์ ชักชวนสาวกให้ต้อนตีสัตว์ไปในทิศทางต่าง ๆ บ้างก็ชักชวนกันให้เมตตาสัตว์บางชนิด บ้างก็ให้ทารุณกับสัตว์บางชนิด บ้างก็ชักชวนให้สลัดผ้านุ่งห่มทุกชิ้นในวันอุโบสถ และ 3) อริยอุโบสถ (อุโบสถเยี่ยงอริยะ)เป็นการสมาทานรักษาอุโบสถของผู้ปรารภความเพียรคือ ทำจิตที่เศร้าหมองนั้นให้ ผ่องแผ้ว โดยระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เมื่อระลึกอย่างนี้จิตย่อมผ่องใส เกิดปีติปราโมทย์ ละกิเลสเครื่อง เศร้าหมองของจิต
แล้วตรัสต่อไปว่า อริยอุโบสถนี้ที่บุคคลสมาทานรักษาแล้วย่อมมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก มีความแผ่ไพศาลมาก เปรียบเหมือน พระราชาเสวยราชสมบัติ และอธิปไตยในชนบทใหญ่ ๆ ทั้ง 16 แคว้น สมบูรณ์ด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการ ถือว่า การเสวยการครองราชย์ของพระราชาพระองค์นั้นยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 แห่งอุโบสถที่ประกอบด้วยองค์ 8 ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะราชสมบัติของมนุษย์เมื่อนำไปเปรียบกับสุขที่เป็นทิพย์ถือว่าเป็นของเล็กน้อย
สูตร2 # อิธโลกิกสูตร (ธรรมที่เป็นไปเพื่อชัยชนะในโลกนี้) สมัยหนึ่ง นางวิสาขาเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ณ ปราสาทของนางวิสาขามิคารมาตา ในบุพพาราม เขตกรุงสาวัตถี ได้ตรัสกับนางวิสาขาว่า มาตุคาม(หญิงชาวบ้าน) ที่ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกนี้ ประกอบด้วย 1. จัดการงานดี (เป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้านในการงาน) 2. สงเคราะห์คนข้างเคียง (รู้จักการงานคนในบ้านสามี) 3. ปฏิบัติถูกใจสามี (ไม่ล่วงละเมิดสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจของสามี) และ 4. รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
มาตุคามผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกหน้านั้น ต้องเป็นผู้มีศรัทธา ถึงพร้อมด้วยศีล จาคะ และปัญญา ดังนั้นธรรมทั้ง 8 ประการนี้มีอยู่แก่สตรีใดสตรีนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายเรียกว่า“ผู้มีศีล ตั้งอยู่ในธรรม กล่าวคำสัตย์”อุบาสิกาเช่นนั้นผู้ถึงพร้อมด้วยอาการ 16 อย่างประกอบด้วยองค์ 8 ประการ เป็นผู้มีศีล ย่อมเกิดในเทวโลกชื่อว่า “มนาปกายิกะ”
สูตร3 # อนุรุทธสูตร (พระอนุรุทธและเทวดาเหล่ามนาปกายิกา) สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ โฆสิตาราม เขตกรุงโกสัมพี ท่านพระอนุรุทธะพักผ่อนกลางวัน หลีกเร้นอยู่ มีเทวดาเหล่ามนาปกายิกามากมาย ได้เข้าไปหาท่านพระอนุรุทธะถึงที่อยู่ เหล่าเทวดาเหล่านั้นได้กล่าวว่าเป็นเทวดาชื่อ “มนาปกายิกา” ครองความเป็นใหญ่และมีอำนาจ 3 ประการ คือหวังวรรณะ (ผิวพรรณ) เสียง และความสุข เช่นใดก็จะได้เช่นนั้น เหล่าเทวดาทราบความดำริของพระอนุรุทธะ จึงแปลงร่างผิวพรรณ นุ่งผ้าและเครื่องประดับเป็นสีเขียว เหลือง ขาว ต่างขับร้อง ฟ้อนรำ ปรบมือ มีความไพเราะเปรียบเหมือนดนตรี แต่พระอนุรุทธิทอดอินทรีย์ลง (ไม่ลืมตาดู) ได้เข้าเฝ้าและเล่าเรื่องเทวดาให้ฟังพร้อมทูลถามพระผู้มีพระภาคว่ามาตุคามต้องประกอบด้วยธรรมใด เมื่อตายไปแล้วจึงจะไปเกิดร่วมกับเทวดามนาปกายิกา ซึ่งได้ทรงตรัสว่ามาตุคามประกอบด้วยธรรม 8 ประการ เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย ของเทวดาเหล่ามนาปกายิ (ชั้นนิมมานนรดี)
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 24 Jan 2024 - 1h 05min - 349 - ความเห็นผิด- โลหิจจสูตร (2) [6703-4S]
โลหิจจพราหมณ์ผู้มีทิฎฐิ คือ มีความเห็นผิดที่ไม่เห็นถูกต้อง หลังจากได้ฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงการจำแนก แยกแยะประเภทของศาสดาที่ควรถูกทักท้วง 3 ประเภท และศาสดาที่ไม่สมควรถูกทักท้วง โดยได้ทรงแสดงให้เห็นว่าศาสดาที่สาวกได้บรรลุคุณธรรมอันวิเศษยอดเยี่ยมเป็นที่ประจักษ์นั้นไม่สมควรถูกทักท้วง ได้ทรงอธิบายการบรรลุคุณธรรมอันวิเศษต้องเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล การสำรวมอินทรีย์ ฌาณ และวิชชา(ความรู้แจ้ง ความรู้วิเศษ) 8 ประการ ประกอบด้วย วิปัสสนาญาณ มโนมยิทธิญาณ อิทธิวิธญาณ ทิพยโสตญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ทิพพจักขุญาณ และอาสวักขยญาณ เมื่อทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้วโลหิจจพราหมณ์กราบทูลสรรเสริญพระธรรมเทศนา แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 17 Jan 2024 - 56min - 348 - ความเห็นผิด- โลหิจจสูตร (1) [6702-4S]
สูตร 1 โลหิจจสูตร #สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศล พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ 500 รูป เสด็จถึงหมู่บ้านสาลวติกา ซึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานให้โลหิจจพราหมณ์ครอบครอง โลหิจจพราหมณ์มีความเห็นผิดเกิดขึ้นว่า สมณะหรือพราหมณ์ผู้บรรลุกุศลธรรมแล้วไม่ควรสอนคนอื่น เพราะคนอื่นจะทำอะไรแก่อีกคนหนึ่งได้ การบอกแก่คนอื่น จัดว่าเป็นความโลภ ( ความอยากได้ ) เป็นบาป เปรียบเหมือนคนตัดเครื่องจองจำเก่าออกแล้ว กลับทำเครื่องจองจำใหม่ให้แก่ตัวเองอีก โลหิจจพราหมณ์ได้ข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จมาถึงตำบลบ้านชื่อสาลวติกา จึงใช้ช่างกัลบก ชื่อโรสิกะ ให้ไปกราบทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ให้มารับภัตตาหารในวันรุ่งขึ้นเมื่อเสด็จไปฉันเสร็จแล้ว ได้ทรงโต้ตอบกับโลหิจจพราหมณ์ถึงเรื่องความเห็นผิดนั้น ทรงเปรียบเทียบให้เห็นว่า โลหิจจพราหมณ์ซึ่งครอบครองตำบลบ้านสาลวติกาก็ตาม พระเจ้าปเสนทิโกศล ซึ่งทรงครอบครองแคว้นโกศลก็ตาม ถ้าบริโภคผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในดินแดนที่ปกครองแต่ผู้เดียว ไม่ยอมแบ่งปันให้ผู้อื่นอย่างนี้ จะเชื่อว่าทำอันตรายแก่ผู้ที่เป็นข้าทาสบริวาร ซึ่งโลหิจจพราหมณ์ยอมรับว่าเป็นการทำอันตรายแก่คนเหล่านั้น ทรงเปรียบเทียบว่า การกล่าวว่าผู้ครอบครองบริโภคผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นแต่ผู้เดียวไม่แบ่งปันแก่ใครเลย ก็เช่นเดียวกันการกล่าวว่า ผู้บรรลุกุศลธรรมไม่ควรบอกแก่ใคร ๆ ซึ่งเป็นการทำอันตรายเป็นการตั้งจิตเป็นศัตรูต่อผู้ที่ควรจะได้รับ และเป็นการมีความเห็นผิด แล้วทรงแสดงถึงศาสดาที่ควรถูกทักท้วง 3 ประเภท และศาสดาที่ไม่ควรถูกทักท้วง โลหิจจพราหมณ์กราทูลสรรเสริญพระธรรมเทศนา แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
สูตร 2 # จุลศีล
ได้ทรงแสดงภิกษุผู้ถึงพร้อมด้วยศีล คือ จุลศีล มี 26 ข้อ
สูตร 3 # มัชฌิมศีล
ได้ทรงแสดงศีลที่ภิกษุละเว้น มี 10 ข้อ
สูตร 4 # มหาศีล
ได้ทรงแสดงศีลที่ภิกษุเว้นจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด มี 7 ข้อ
สูตร 5 # อินทรียสังวร
ได้ทรงแสดงการสำรวมอินทรียทั้ง 6 คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้ยินดียินร้าย ในเวลาเห็นรูป ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะ(กาย) รู้ธรรมารมณ์ด้วยใจ, ระวังไม่ให้กิเลสครอบงำใจ ในเวลารับรู้อารมณ์ทางอินทรีย์ทั้ง ๖ นั้นเพื่อไม่ให้บาปอกุศลธรรมครอบงำใจ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 10 Jan 2024 - 57min - 347 - การระงับความขัดแย้ง และความบาดหมาง - โกสัมพิยสูตรสามคามสูตร [6701-4S]
สูตร1# ภิกษุชาวเมืองโกสัมพี (โกสัมพิยสูตร) สมัยที่พระผู้มีพระภาคประทับ ณ โฆสิตาราม ใกล้กรุงโกสัมพี ครั้งนั้นภิกษุในกรุงโกสัมพีทะเลาะวิวาทกัน บาดหมางกัน ทรงตรัสเรียกเหล่าภิกษุที่บาดหมาง และทะเลาะวิวาทกันมาเข้าเฝ้า โดยทรงแสดงสาราณิยธรรม ซึ่งเป็นธรรมให้ระลึกถึงกันมี 6 ประการ คือทำให้เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นไปเพื่อสงเคราะห์กัน เพื่อไม่วิวาทกัน เพื่อความสามัคคีกัน เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และได้ทรงตรัสถึงทิฏฐิอันประเสริฐ เพื่อความสิ้นทุกข์ โดยทรงอธิบายตั้งแต่ฌานที่ 1 ถึงญาณที่ 7 อันเป็นโลกกุตตระ ( ข้ามโลก )ไม่ทั่วไปแก่ปุถุชนทั้งหลาย ซึ่งทำให้ผู้ประกอบด้วยธรรม 7 ประการ เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยโสดาปัตติผล
สูตร2# เหตุการณ์ในหมู่บ้านสามคาม (สามคามสูตร) สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ หมู่บ้านสามคาม แคว้นสักกะ ครั้งนั้นนิครนถ์ นาฏบุตรได้ถึงแก่กรรมไม่นาน ได้เกิดการแตกกันของลัทธินิครณฐ์ เป็น 2 พวก เนื่องจากธรรมวินัยของเจ้าลัทธิที่ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกจากทุกข์ได้ เป็นธรรมวินัยที่ไม่มีที่พึ่งอาศัย เป็นธรรมวินัยที่ผู้มิใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศไว้ และสาวกก็ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม พระจุนทะเข้าไปหาพระอานนท์เล่าความให้ฟัง พระอานนท์จึงนำเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลเรื่องราว และแสดงความปรารถนาที่จะเห็นว่าไม่มีการวิวาทเกิดขึ้นในสงฆ์ซึ่งเป็นไปเพื่อไม่เป็นประโยชน์ ไม่เป็นความสุขแก่ชนเป็นอันมาก พระผู้มีพระภาคจึงตรัสแก่พระอานนท์ ทรงแสดงโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ (สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 อริยมรรคมีองค์ 8) มูลเหตุแห่งการทะเลาะวิวาท 6 ประการ, อธิกรณ์ 7 อย่าง, และในที่สุดได้ทรงแสดงธรรมสำหรับอยู่รวมกัน 6 ประการที่เรียกว่าสาราณิยธรรม อันเป็นไปเพื่อสงเคราะห์อนุเคราะห์และมีเมตตาต่อกัน เพื่อสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 03 Jan 2024 - 57min - 346 - คุณธรรมแห่งความสำเร็จ-สังขารูปปัตติสูตร ทักขิณาวิภังคสูตร อิฏฐสูตร [6652-4S]
สูตร1# เหตุสำเร็จความปรารถนา(สังขารูปปัตติสูตร) สมัยที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี ทรงแสดงธรรมแก่พระภิกษุ เรื่องเหตุสำเร็จความปรารถนา(สังขารูปปัตติ) ว่าธรรม 5 ประการ ประกอบด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ซึ่งเมื่อตั้งจิต อธิษฐานจิต เจริญจิต และเมื่อทำให้มากแล้ว จะเกิดในฐานะนั้น ๆ ได้ตามปรารถนา ตั้งแต่ความเป็นกษัตริย์มหาศาล คหบดีมหาศาล พราหมณ์มหาศาล จนถึงเทพ, พรหม ทั้งรูปพรหมและอรูปพรหม และในที่สุดถึงซึ่งอาสวะ(ไม่เกิดในภพไหนๆอีก)
สูตร2# การจำแนกผู้ควรรับทาน (ทักขิณาวิภังคสูตร)สมัยที่พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่พระวิหารนิโครธาราม เขตนครกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ พระนางมหาปชาบดีโคตมี นำคู่ผ้าใหม่ซึ่งทรงกรอด้ายเองไปถวายพระผู้มีพระภาค ขอให้ทรงรับเป็นการอนุเคราะห์ พระผู้มีพระภาคตรัสแนะให้ถวายในหมู่สงฆ์ ซึ่งเป็นการบูชาทั้งพระองค์และพระสงฆ์ แม้ว่าพระนางมหาปชาบดีโคตมี ทรงยืนยันขอถวายพระผู้มีพระภาคตามเดิมเป็นครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 แต่พระผู้มีพระภาคก็ทรงแนะนำตามเดิมแม้ครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 พระอานนท์ได้กราบทูลให้พระผู้มีพระภาคทรงรับ โดยอ้างอุปการะคุณ ซึ่งพระนางมหาปชาบดีโคตมีเคยมีต่อพระผู้มีพระภาคในการที่ทรงเลี้ยงดู และอ้างอุปการะคุณที่พระผู้มีพระภาคทรงมีต่อพระนางมหาปชาบดีโคตมี แล้วทรงตรัสแก่พระอานนท์เรื่องทักษิณาเป็นปาฏิปุคคลิก ที่เจาะจงบุคคล 14 อย่าง อานิสงส์จากการถวายทานที่ไม่เท่ากัน ทักษิณาที่ถึงแล้วในสงฆ์ และความบริสุทธิ์แห่งทักษิณาโดยทรงแสดงรายละเอียดกำหนดความบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ ทั้งผู้ให้(ทายก)และผู้รับ(ปฏิคาหก) ที่เป็นผู้มีศีล และผู้ทุศีล
สูตร3# ธรรมที่น่าปรารถนา (อิฏฐสูตร)ทรงแสดงธรรมแก่ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี ว่าด้วยธรรม 5 ประการ ได้แก่ อายุ วรรณะ ความสุข ยศ สวรรค์ ซึ่งเป็นที่ปรารถนาและหายากในโลก แต่การได้มานั้นพระพุทธเจ้าไม่ได้ให้อ้อนวอน หรือเพลิดเพลิน กับอายุ วรรณะ ความสุข ยศ สวรรค์ แต่ควรปฏิบัติฏิปทาเพื่อความเป็นไปด้วยธรรมทั้ง 5 ประการนี้แล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 27 Dec 2023 - 56min - 345 - ความสมบูรณ์แห่งพรหมจรรย์– ปาสาทิกสูตร (2) [6651-4S]
ปาสาทิกสูตร#2 ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทในอัมพวันของพวกเจ้าศากยะนามว่า เวธัญญา แคว้นสักกะ พระอานนท์ได้นำพระจุนทะ เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับและได้กราบทูลเรื่องการถึงแก่กรรมของนิครณฐ์นาฏบุตร (เจ้าลัทธิ) ภายหลังการถึงแก่กรรมไม่นาน เกิดการแตกกันของลัทธินิครณฐ์ เป็น 2 พวก ทำให้ธรรมวินัยของเจ้าลัทธิที่ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำ ผู้ปฏิบัติให้ออกจากทุกข์ได้ เป็นธรรมวินัยที่ไม่มีที่พึ่งอาศัย
พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่าธรรมวินัยของนิครนฐ์ ที่กล่าวไว้ไม่ดี ไม่นำพาให้พ้นทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบระงับ เป็นธรรมวินัยที่ผู้มิใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศไว้ และสาวกก็ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมทรงตรัสว่าองค์ประกอบที่สำคัญของศาสนา คือ ศาสดา หลักธรรม และสาวก มีส่วนสำคัญทำให้ศาสนามีความบริบูรณ์ครบถ้วน ได้รับคำสรรเสริญ และทรงกล่าวถึงพระธรรมคำสั่งสอนที่ทรงแสดงได้ควรต้องมีการตรวจสอบและสังคายนา เพื่อความดำรงอยู่ได้นาน เพื่อเกื้อกูลแก่คนหมู่มาก เพื่อสุขแก่คนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลกเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย รวมทั้งทรงตรัสสอนหลักการตอบคำถามที่ถูกต้องหากมีผู้ไม่เข้าใจ ไม่เห็นด้วย เมื่อพระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว ท่านพระอุปวาณะมีใจยินดีชื่นชมพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 20 Dec 2023 - 54min - 344 - ความสมบูรณ์แห่งพรหมจรรย์– ปาสาทิกสูตร#1 [6650-4S]
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทในอัมพวันของพวกเจ้าศากยะนามว่า เวธัญญา แคว้นสักกะ พระอานนท์ได้นำพระจุนทะ เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ และได้กราบทูลเรื่องการถึงแก่กรรมของนิครณฐ์นาฏบุตร (เจ้าลัทธิ) ภายหลังการถึงแก่กรรมไม่นาน เกิดการแตกกันของลัทธินิครณฐ์ เป็น 2 พวก ทำให้ธรรมวินัยของเจ้าลัทธิที่ประกาศไว้ไม่ดี ไม่เป็นธรรมวินัยที่จะนำผู้ปฏิบัติให้ออกจากทุกข์ได้ เป็นธรรมวินัยที่ไม่มีที่พึ่งอาศัย
พระผู้มีพระภาคทรงตรัสว่าธรรมวินัยของนิครนฐ์ ที่กล่าวไว้ไม่ดี ไม่นำพาให้พ้นทุกข์ได้ ไม่เป็นไปเพื่อความสงบระงับ เป็นธรรมวินัยที่ผู้มิใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประกาศไว้ และสาวกก็ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ทรงตรัสว่าองค์ประกอบที่สำคัญของศาสนา คือ ศาสดา หลักธรรม และสาวก มีส่วนสำคัญทำให้ศาสนามีความบริบูรณ์ครบถ้วน ได้รับคำสรรเสริญ และทรงกล่าวถึงพระธรรมคำสั่งสอนที่ทรงแสดงได้ควรต้องมีการตรวจสอบและสังคายนา เพื่อความดำรงอยู่ได้นาน เพื่อเกื้อกูลแก่คนหมู่มาก เพื่อสุขแก่คนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์ชาวโลกเพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 13 Dec 2023 - 58min - 343 - ความบริสุทธิ์อันมีวรรณะ 4- อัสสลายนสูตร [6649-4s]
อัสสลายนสูตร ว่าด้วยการโต้วาทะระหว่างพระพุทธเจ้ากับอัสสลายนมาณพ ในเรื่องทิฎฐิความเชื่อของเหล่าพราหมณ์ทั้งหลายที่ว่า 1) พราหมณ์เท่านั้นเป็นวรรณะประเสริฐ วรรณะอื่นเลว 2) พราหมณ์เท่านั้น เป็นวรรณะขาว วรรณะอื่นดำ 3)พราหมณ์เท่านั้นย่อมบริสุทธิ์ คนที่มิใช่พราหมณ์ไม่บริสุทธิ์ และ 4) พราหมณ์เท่านั้นเป็นบุตรพรหม เป็นโอรสพรหม เกิดแต่ปากของพรหม เกิดแต่พรหม อันพรหมนิรมิต เป็นทายาทของพรหม
พระพุทธเจ้าทรงโต้กลับอัสสลายนมาณพ โดยยกถึง 1) การเกิดจากช่องคลอดเหมือนกัน 2) การสลับกลับไปมาระหว่างวรรณะเจ้าและทาส 3) แม้กษัตริย์..พราหมณ์..แพศย์..ศูทร..วรรณะ 4 ผู้มีปกติฆ่าสัตว์...มีความเห็นผิด เมื่อตายไป ก็พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ทั้งหมด 4) แม้กษัตริย์..พราหมณ์..แพศย์..ศูทร..วรรณะ 4 ผู้งดเว้นจากการฆ่าสัตว์...มีความเห็นชอบ เมื่อตายไป ก็พึงเข้าถึง สุคติ โลกสวรรค์ทั้งหมด 5) แม้กษัตริย์..พราหมณ์..แพศย์..ศูทร..วรรณะ 4 ก็สามารถเจริญเมตตาจิต อันไม่มีเวรไม่มีความ เบียดเบียนได้ทั้งหมด 6) เปรียบเทียบมาณพสองคน ที่เป็นพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน คนหนึ่งเป็นคนศึกษาเล่าเรียน แต่เป็นคนทุศีล มีธรรมอันลามก อีกคนหนึ่งไม่ได้ศึกษาเล่าเรียน แต่เป็นคนมีศีล มีกัลยาณธรรม ในสองคนนี้พึงเชื้อเชิญคนไหนให้บริโภคก่อน ..(คัดมาบางส่วน)
พระพุทธเจ้าได้ตรัสอธิบายถึงเรื่องของวรรณะ ที่ไม่ว่าจะวรรณะใด ก็สามารถทำดีหรือทำไม่ดีได้ และถ้ามีคุณธรรมดี มันดีกว่ามีปัญญาความรู้ หรือว่าชาติกำเนิดนั้น ๆ ยังได้ตรัสเล่าถึงวรรณะ 4 จำพวกในอดีตและเรื่องราวของอสิตเทวลฤาษีที่ปราบพราหมณฤษี 7 ตน ทำให้อัสสลายนมาณพย่อมจำนนทั้งเกิดความแจ่มแจ้ง จนกลายเป็นผู้มีศรัทธา มีความเลื่อมใส กราบทูลสรรเสริญแสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 06 Dec 2023 - 47min - 342 - ธรรมของสัตบุรุษ (คนดี)-จูฬปุณณมสูตร สัปปุริสสูตร และธัมมัญญสูตร [6648-4S]
สูตร1# จูฬปุณณมสูตร พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของมิคารมาตา ในบุพพาราม กรุงสาวัตถี ประทับนั่ง ณ ที่แจ้ง ในคืนพระจันทร์เต็มดวงขึ้น 15 ค่ำ มีภิกษุสงฆ์แวดล้อม ทรงตรัสสอนภิกษุเรื่อง อสัตบุรุษ (คนชั่ว) และ สัตบุรุษ (คนดี)
สูตร2# สัปปุริสสูตร พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี รับสั่งเรียกภิกษุเพื่อแสดงธรรมของสัตบุรุษและธรรมของอสัตบุรุษ
สูตร3 #วาจาของสัตบุรษ อสัตบุรุษ และหญิงสะใภ้ใหม่ ทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุว่าด้วยธรรม 4 ประการของคนดี ให้พึงรักษาความละอายใจและความกลัว เหมือนหญิงที่ออกเรือนใหม่ เข้าสู่ตระกูลสามี
สูตร4 # ธัมมัญญสูตร ผู้รู้ธรรม หากรู้จักธรรม (ธัมมัญญู) 7 ประการ นี้ได้รับการสรรเสริญจากพระผู้มีพระภาคว่าเป็นผู้ควรได้รับการยกย่อง ควรเคารพ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 29 Nov 2023 - 57min - 341 - ความเพียรที่ถูกต้องเพื่อพ้นทุกข์-เทวทหสูตร [6647-4s]
พระผู้มีพระภาค ครั้นประทับอยู่ในนิคมเทวทหะ แคว้นสักกายะ ได้แสดงธรรมกับภิกษุว่า มีสมณพราหมณ์บางพวกมีความเห็นทุกข์ทั้งหลายเกิดขึ้น เพราะกรรมในชาติก่อน จะหมดทุกข์ได้ต้องบำเพ็ญเพียรอย่างหนัก ตรัสว่าการเชื่ออย่างนั้นเป็นความเชื่ออย่างหลงงมงาย เพราะพิสูจน์ไม่ได้
ทรงแสดงวิธีที่ความพยายาม ความเพียรจะมีผล คือ ไม่ปล่อยตัวให้ทุกข์ครอบงำไม่สละสุขที่ถูกธรรม ไม่ติดอยู่ในสุขนั้น มีปัญญารู้เห็นตามเป็นจริง ก็จะคลายความกำหนัดยินดีเสียได้ ความทุกข์ก็จะหมดไปได้ ความพยายาม ความเพียร จึงชื่อว่ามีผล
ทรงแสดงในที่สุดว่า พระคถาคตได้เสวยสุขเวทนาอันไม่มีอาสวะ (ตรงกันข้ามกับนิครนถ์ที่เสวยทุกขเวทนาอันหนัก) จึงได้รับการสรรเสริญ (ตรงกันข้ามกับการพวกสมณพราหมณ์ถูกติเตียน)
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 22 Nov 2023 - 58min - 340 - แก่นแห่งพรหมจรรย์-จูฬสาโรปมสูตร และจูฬโคสิงคสาลสูตร [6646-4s]
สูตร#1 จูฬสาโรปมสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์ชื่อปิงคลโกจฉะ ขณะประทับอยู่ ณ พระเชตวัน พราหมณ์ได้กราบทูลถามเรื่องสมณพราหมณ์ที่มีชื่อเสียงว่า ท่านเหล่านั้นรู้ยิ่งตามปฏิญญาของตนหรือไม่ พระผู้มีพระภาคไม่ทรงตอบ ทรงตรัสแสดงธรรม อุปมานักบวชกับผู้แสวงหาแก่นไม้ เมื่อทรงแสดงธรรมจบ ปิงคลโกจฉพราหมณ์แสดงตนเป็นอุบาสก ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
สูตร#2 จูฬโคสิงคสาลสูตร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแก่ท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละ ในคราวที่เสด็จไปเยี่ยมที่ป่าโคสิงคสาลวัน ท่านอยู่กันด้วยความสามัคคี มีเมตตาให้กันทั้งต่อหน้า และลับหลัง ทั้งทางกาย วาจา และใจ พยายามที่จะเก็บจิตของตนเองแล้วทำตามจิตของผู้อื่น จึงสามารถอยู่เป็นสุขได้ พระผู้มีพระภาคทรงยกย่องพระเถระทั้ง 3 รูป
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 15 Nov 2023 - 1h 00min - 339 - ทำมารให้ตาบอด-นิวาปสูตร เทวาสุรสังคามสูตร และมาคัณฑิยสูตร [6645-4s]
สูตร#1 นิวาปสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงตรัสว่า พรานเนื้อที่ปลูกหญ้าไว้ในทุ่งหญ้ามิได้หวังให้ฝูงเนื้อมากินเพื่อจะได้อายุยืน ผิวพรรณดี มีชีวิตอยู่นานแต่ปลูกไว้เพื่อล่อจับเนื้อ ทรงอธิบายว่า มีเนื้ออยู่ 4 ฝูง ฝูงเนื้อที่ 1-3 เป็นเนื้อที่ถูกพรานเนื้อ และบริวารจับได้ ส่วนฝูงเนื้อที 4 พรานเนื้อ และบริวารจับไม่ได้ อุปมาอุปไมยเปรียบเทียบนักบวช 4 ประเภทกับเนื้อ 4 ฝูง ซึ่งนักบวชประเภทที่ 1-3 นั้น ถูกมารทำอะไร ๆ ได้ตามใจชอบ ส่วนนักบวชประเภทที่ 4 งดเว้นจากการบริโภคกามได้เด็ดขาด และไม่ยึดติดอยู่กับทิฏฐิใด ๆ จึงเป็นผู้ข้ามพ้นโลกามิสได้ จึงพ้นจากเงื้อมมือมาร และทรงตรัสแสดงข้อปฏิบัติ คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ ที่มาร และบริษัทของมารมองไม่เห็น ข้ามพ้นตัณหาได้
สูตร#2 เทวาสุรสังคามสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยสงครามระหว่างเทวดากับอสูร ที่รบกันถึง 3 ครั้ง และพวกอสูรชนะทุกครั้ง พวกเทวดาที่พ่ายแพ้จึงหนีไปยังเทพบุรี พวกอสูรทำอะไรพวกเทวดาไม่ได้ ต่อมาเทวดากับอสูรรบกันอีก พวกอสูรพ่ายแพ้หนีไปยังอสูรบุรี พวกเทวดาทำอะไรพวกอสูรไม่ได้ ทำให้ต่างได้เครื่องป้องกันภัย ทรงเปรียบเทียบกับภิกษุได้บรรลุธรรมแต่ละอย่าง คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1 ทำให้ตนได้เครื่องป้องกันภัย มารทำอะไรภิกษุไม่ได้ ทำให้มารสิ้นสุดปิดตามารจนมองไม่เห็น ข้ามพ้นตัณหาได้
สูตร#3 มาคัณฑิยสูตร (บางส่วน) ทรงแสดงแก่มาคัณฑิยปริพาชก ทรงเปล่งอุทานว่า “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง บรรดาทางทั้งหลายอันให้ถึงอมตธรรม ทางมีองค์ 8 เป็นทางอันเกษม"
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 08 Nov 2023 - 58min - 338 - ปฏิปทาเพื่อความสำเร็จ-อากังเขยสูตร สังขารูปปัตติสูตร และนคโรปมสูตร [6644-4s]
สูตร#1 อากังเขยสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงตรัสเรื่อง ให้สำรวมในปาฏิโมกข์ (ศีลที่เป็นประธาน) เพียบพร้อมด้วยอาจาระ และโคจร คือ ความสำรวมระวังในศีลทั้งปวง และไม่เลี้ยงชีวิตด้วยมิจฉาอาชีวะที่พระพุทธเจ้าทรงตำหนิ รวมถึงการรู้จักไปในที่อันควร เห็นภัยในโทษแม้เล็กน้อย
ต่อจากนั้นได้ทรงแสดงว่า ถ้าภิกษุพึงหวังประการใดใน 17 ข้อนี้ เริ่มตั้งแต่ความหวังให้เป็นที่รักเคารพของเพื่อนพรหมจารีขึ้นไปจนถึงความหวังขั้นสูงสุด คือ การทำให้แจ้งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันไม่มีอาสวะ คือ เป็นพระอรหันต์ ก็จงทำให้บริบูรณ์ในศีล หมั่นประกอบความสงบจิตในภายใน หมั่นเจริญฌานประกอบด้วยวิปัสสนา และเพิ่มพูนเรือนว่าง (การเรียนกัมมัฏฐาน คือ สมถะ และวิปัสสนา) ข้อปฏิบัติที่แสดงในที่นี้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
สูตร#2 สังขารูปปัตติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงตรัสว่า การที่ภิกษุประกอบด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ซึ่งเมื่อเจริญและทำให้มากแล้ว เมื่อปราถนาจะไปเกิดในสิ่งที่ดี ๆ อย่างไร ให้ตั้งจิต อธิษฐานจิต และเจริญจิตนั้น ก็จะเกิดในฐานะนั้น ๆ ได้ตามปรารถนา ตั้งแต่ความเป็นกษัตริย์มหาศาล พราหมณมหาศาล จนถึงเทพ พรหมทั้งรูปพรหม และอรูปพรหม และในที่สุด ถึงทำอาสวะให้สิ้นได้
สูตร#3 นคโรปมสูตร ทรงแสดงคุณสมบัติของพระอริยสาวก 7 ประการ ที่ทำให้ละอกุศล เจริญกุศลได้ เปรียบเทียบกับเครื่องป้องกันนคร 7 อย่าง ที่ทำให้นครที่ตั้งอยู่ชายแดนปราศจากภัยอันตรายได้ และทรงแสดงฌาน 4 ประการ ที่เป็นคุณสมบัติภายในของอริยสาวกซึ่งทำให้บรรลุคุณพิเศษชั้นสูงได้ เปรียบเทียบกับคุณสมบัติภายในของนครชายแดน 4 ประการ ที่ทำให้ชาวเมืองอยู่ผาสุก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 01 Nov 2023 - 57min - 337 - ภิกษุผู้เป็นบัณฑิต-พหุธาตุกสูตร และสฬายตนวิภังคสูตร [6643-4s]
สูตร#1 พหุธาตุกสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงตรัสว่า ภัย อุปัททวะ และอุปสรรคล้วนเกิดจากคนพาลมิใช่เกิดจากบัณฑิต เหมือนไฟที่ลุกไหม้จากเรือนไม้อ้อ ไหม้เรือนยอดที่มีประตูหน้าต่างปิดสนิทได้ฉะนั้น ท่านพระอานนท์ทูลถามว่า ด้วยเหตุเท่าไร จึงสมควรเรียกว่าภิกษุผู้เป็นบัณฑิต ตรัสตอบว่า เพราะเป็นผู้ฉลาดในธาตุ เป็นผู้ฉลาดในอายตนะ เป็นผู้ฉลาดในปฏิจจสมุปบาท และเป็นผู้ฉลาดในฐานะ อฐานะ จากนั้นทรงจำแนกธรรมเหล่านี้โดยละเอียด
สูตร#2 สฬายตนวิภังคสูตร ว่าด้วยการจำแนกอายตนะ 6 ประการ ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี โดยมีพระประสงค์ให้ ภิกษุได้ศึกษาเรื่องอายตนะโดยละเอียดลึกซึ้ง ทรงตรัสอธิบาย เรื่อง อายตนะภายใน 6, อายตนะภายนอก 6, หมวดวิญญาณ 6, หมวดผัสสะ 6, มโนปวิจาร 18, สัตตบท 36 และสติปัฏฐาน 3
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 25 Oct 2023 - 1h 01min - 336 - พราหมณ์ ชื่อ พรหมายุ-พรหมายุสูตร [6642-4s]
สูตร#1 พรหมายุสูตร สมัยหนึ่งทรงเสด็จจาริกไปในแคว้นวิเทหะ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ พราหมณ์ชื่อพรหมายุอาศัยอยู่ในกรุงมิถิลา เป็นคนชราอายุ 120 ปี เป็นพราหมณ์ผู้ใหญ่ เชี่ยวชาญไตรเวท รู้จักศาสตร์ ว่าด้วยคดีโลก และมหาปุริสลักษณะ ได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับพระผู้มีพระภาค จึงใช้อุตตรมาณพ (ผู้เป็นศิษย์) ให้ไปติดตามดูมหาปุริสลักษณะ และดูความเป็นไปของพระผู้มีพระภาคทุกอริยาบทตลอดเวลา 7 เดือน แล้วไปแจ้งให้พรหมายุพราหมณ์ทราบ
พรหมายุพราหมณ์จึงได้เดินทางไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงป่ามะม่วงของพระเจ้ามฆเทพ เมื่อไปถึงได้ใช้อุตตรมาณพเข้าไปกราบทูลก่อน ด้วยถือว่าเป็นมารยาทที่จะเข้าไปเฝ้าต่อเมื่อได้รับอนุญาตหรือเชื้อเชิญ เมื่อมาณพไปเฝ้ากราบทูล และทรงเปิดโอกาสแล้ว จึงเข้าไปเฝ้าพิจารณาดูมหาปุริสลักษณะ ทรงเปิดโอกาสให้เห็นอย่างธรรมดา มี 2 ส่วนที่เห็นยาก คือ (1) พระคุยหฐานอันเร้นอยู่ในฝัก (2) พระชิวหาใหญ่ พราหมณ์จึงขอดู ก็ทรงแสดงอิทธาภิสังขาร (แสดงโดยฤทธิ์) ให้เห็น
เมื่อได้เห็นครบทั้งสามสิบสองประการแล้ว จึงทูลถามปัญหา เกี่ยวกับคุณธรรมของพราหมณ์ผู้รู้เวท ฯลฯ ทรงตอบ ทรงแสดงคุณธรรมเหล่านั้น พราหมณ์นั้นเกิดความเลื่อมใส จึงทรงแสดงอนุปุพพิกถา และเรื่องอริยสัจจ์ 4 พรหมายุพราหมณ์ได้บรรลุธรรมขั้นโสดาบัน จึงนิมนต์พระผู้มีพระภาค พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ไปฉันในวันรุ่งขึ้น เมื่อเสด็จไปฉันแล้วพักอยู่ในแคว้นวิเทหะนั้นอีก 7 วัน ก็เสด็จจากไป
ต่อมา พรหมายุถึงแก่กรรม ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลถามถึงคติ จึงตรัสตอบว่า เป็นอนาคามี ไม่กลับมาสู่โลกนี้อีก
สูตร#2 (เพิ่มเติม) ความเป็นอยู่ก่อนออกบวช และการออกบวช
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 18 Oct 2023 - 57min - 335 - ธรรมอันน่าอัศจรรย์ของพระพุทธเจ้า-อัจฉริยัพภูตธัมมสูตร และมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ [6641-4s]
สูตร#1 อัจฉริยยัพภูตธัมมสูตร ทรงรับสั่งให้ท่านพระอานนท์แสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี หลังจากกลับจากบิณฑบาต และฉันภัตตาหารแล้ว ภิกษุจำนวนมาก นั่งสนทนากันที่หอประชุมว่า น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏที่พระผู้มีพระภาคทรงมีอานุภาพมาก ทรงสามารถระลึกถึงพระประวัติของพระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีตได้แจ่มแจ้งทั้งหมด ท่านพระอานนท์ซึ่งร่วมอยู่ในที่ประชุมนั้น ก็ได้กล่าวเสริมว่า พระตถาคตทั้งหลายทรงเป็นผู้น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ และทรงประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์ไม่เคยปรากฏ ครั้นสนทนาถึงตรงนี้ พระผู้มีพระภาคเสด็จมาสู่ที่ประชุมนั้น ตรัสถามว่า สนทนาเรื่องอะไร เมื่อท่านพระอานนท์กราบทูลให้ทรงทราบ จึงรับสั่งให้ท่านพระอานนท์อธิบายธรรมอันน่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฎของพระองค์ให้ภิกษุเหล่านั้นฟัง เพื่อจดจำไว้ ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลรายงานความน่าอัศจรรย์ไม่เคยปรากฎของพระองค์ 19 ประการที่ได้สดับรับฟังมาเฉพาะพระพักตร์ เมื่อกราบทูลจบ พระองค์ทรงเพิ่มประการที่ 20 ให้ รวมเป็นอัจฉริยัพภูตธรรม 20 ประการ และรับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายจดจำไว้
สูตร#2 พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ตอน มหาปุริสลักษณะ 32 ประการ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 11 Oct 2023 - 57min - 334 - ภัยคือความแก่ ความเจ็บ และความตาย-ปัพพโตปมสูตร ภยสูตร ฐานสูตร และจุนทสูตร [6640-4s]
สูตร#1 ปัพพโตปมสูตร พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ตรัสถามถึงกิจที่พระราชาพึงขวนขวาย พระผู้มีพระภาคตรัสถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า เมื่อมหาภัยอันร้ายกาจที่ทำให้มนุษย์พินาศบังเกิดขึ้น อะไรที่พระองค์จะพึงทรงกระทำในภาวะแห่งมนุษย์ที่ได้แสนยาก พระเจ้าปเสนทิโกศลตอบว่า สิ่งที่ควรทำ คือ การประพฤติธรรม การประพฤติสม่ำเสมอ การสร้างกุศล การทำบุญ
สูตร#2 ภยสูตร ว่าด้วยเรื่องภัยใหญ่ คือ ภัยที่ปุถุชนเรียกว่า อมาตาปุตติกภัย ได้แก่ ภัยจากไฟไหม้ใหญ่ ภัยจากน้ำท่วมใหญ่ และภัยจากโจรปล้นใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุให้บุตรพลัดพรากจากมารดา แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภัยใหญ่ดังกล่าวยังเป็น สมาตาปุตติกภัย คือ ภัยที่ยังพอมีโอกาสให้บุตรพบกับมารดาได้บ้าง แต่ภัยใหญ่ต่อไปนี้ มารดา และบุตรไม่สามารถจะห้ามมิให้เกิดขึ้นแก่กันและกันได้เลย คือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย จึงตรัสเรียกว่า อมาตาปุตติกภัย หนทางที่จะให้ล่วงพ้นภัย 2 อย่างนี้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8
สูตร#3 ฐานสูตร พระพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยฐานะที่ใคร ๆ ไม่พึงได้ มี 5 ประการ คือ อย่าแก่ อย่าเจ็บไข้ อย่าตาย อย่าสิ้นไป และอย่าฉิบหาย ทรงแสดงว่า ฐานะแต่ละอย่างเกิดขึ้นทั้งแก่ปุถุชน และอริยสาวก แต่ปุถุชนไม่มีปัญญาพิจารณาเห็นสิ่งเหล่านี้ตามความเป็นจริง ตรงกันข้ามกลับถูกสิ่งเหล่านี้ครอบงำจนเกิดทุกข์กาย และทุกข์ใจ ส่วนอริยสาวกมีนัยตรงกันข้ามกับปุถุชน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 04 Oct 2023 - 1h 07min - 333 - มุนีผู้สงบ-ธาตุวิภังคสูตร และชาณุสโสณิพราหมณสูตร [6639-4s]
สูตร#1 ธาตุวิภังคสูตร ว่าด้วยการจำแนกธาตุ ทรงแสดงแก่ท่านปุกกุสาติผู้บวชอุทิศต่อพระองค์แต่ไม่เคยรู้จัก และไม่เคยเห็นพระองค์ เพื่อโปรดท่านให้เข้าถึงธรรม ขณะท่านพักอยู่ที่ศาลาของช่างหม้อชื่อ ภัคควะ เขตกรุงราชคฤห์ ทรงแสดงว่า บุรุษผู้มีธาตุ 6 มีผัสสายตนะ 6 มีมโนปวิจาร 18 มีอธิษฐานธรรม 4 บัณฑิตเรียกว่า มุนีผู้สงบ และทรงแสดงในรายละเอียด ผลจากการแสดงธรรมครั้งนี้ทำให้ท่านปุกกุสาติ ได้ทราบว่า ผู้ที่แสดงธรรมนั้น คือ พระพุทธเจ้าจึงกราบลงแทบพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาค แล้วกราบทูลขออภัยโทษที่เรียกพระองค์ด้วยวาทะว่า "ผู้มีอายุ" เมื่อพระองค์ทรงยกโทษให้ จึงขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา แต่ไม่มีบาตร และจีวร พระผู้มีพระภาคไม่ทรงอุปสมบทให้ ท่านจึงไปเที่ยวแสวงหาบาตรและจีวร แต่ถูกแม่โคขวิดตายเสียก่อน เมื่อภิกษุทั้งหลายเข้าไปทูลถามถึงคติภพของท่าน พระองค์ตรัสว่าท่านปุกกุสาติเป็นพระอนาคามี ไปเกิดในพรหมโลกและจะนิพพานในโลกนั้น
สูตร#2 ชาณุสโสณิพราหมณสูตร (สังยุตตนิกาย #19) ท่านพระอานนท์เห็นชาณุสโสณิพราหมณ์ขึ้นรถเทียมม้าขาว และตกแต่งส่วนต่างๆของรถด้วยสีขาว ออกจากกรุงสาวัตถี และมีคนชมว่ายานประเสริฐ จึงเข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ในธรรมวินัยนี้สามารถบัญญัติยานอันประเสริฐได้หรือไม่ พระองค์ตรัสตอบว่า ได้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งเรียกว่า พรหมยานบ้าง ธรรมยานบ้าง รถพิชัยสงครามบ้าง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 27 Sep 2023 - 57min - 332 - กามและกามคุณ-โปตลิยสูตร และนิพเพธิกสูตร [6638-4s]
สูตร#1 โปตลิยสูตร ทรงแสดงแก่โปตลิยคหบดี ณ นิคมของชาวอังคุตตราปะชื่ออาปณะ แคว้นอังคุตตราปะ โดยทรงปรารภคำกล่าวของโปตลิยคหบดีเรื่องที่ได้ตัดขาดโวหารทุกอย่างแล้ว พระผู้มีพระภาคจึงตรัสถามถึงการตัดขาดโวหารของเขา แล้วทรงแสดงธรรม 8 ประการที่เป็นไปเพื่อการตัดขาดโวหารในอริยวินัย ทรงอธิบายถึงโทษแห่งกาม (กามาทีนวกถา) 7 ประการ พร้อมทั้งการพิจารณาให้เห็นโทษแห่งกาม ซึ่งจะทำให้บรรลุฌาน 4 และวิชชา 3 เมื่อทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบลง โปตลิยคหบดีได้แสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต
สูตร#2 นิพเพธิกสูตร ว่าด้วยธรรมบรรยายที่เป็นเหตุชำแรกกิเลส คือ ทรงสอนให้ภิกษุทั้งหลายทราบสภาวธรรมต่าง ๆ รวม 6 ประการดังนี้ (1) กาม เหตุเกิดแห่งกาม ความต่างกันแห่งกาม ความดับแห่งกาม ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งกาม (2) เวทนา... (3) สัญญา... (4) อาสวะ... (5) กรรม... (6) ทุกข์... ทรงอธิบายขยายความแต่ละประการอย่างพิสดาร
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 20 Sep 2023 - 58min - 331 - ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ-มาคัณฑิยสูตร [6637-4s]
มาคัณฑิยสูตร ทรงแสดงแก่มาคัณฑิยปริพาชก ขณะประทับอยู่ที่โรงบูชาไฟของพราหมณ์ภารทวาชโคตร ในนิคมของชาวกุรุ ชื่อกัมมาสธัมมะ มาคัณฑิยปริพาชกเข้าไปขออาศัยโรงบูชาไฟของพราหมณ์ภารทวาชโคตร และเมื่อปริพาชกทราบว่าทรงประทับอยู่ก่อนแล้ว จึงกล่าวกับพราหมณ์ว่า การเห็นที่นอนของพระผู้มีพระภาคเป็นอัปมงคล และกล่าวหาว่าพระองค์เป็นผู้ทำลายความเจริญ
ทรงสดับการสนทนานั้นด้วยพระโสตธาตุอันเป็นทิพย์ จึงเสด็จกลับมายังโรงบูชาไฟ ทรงตรัสถามมาคัณฑิยปริพาชกเรื่องการสำรวมอินทรีย์ และทรงเล่าถึงเมื่อยังทรงเป็นคฤหัสถ์ เอิบอิ่มพรั่งพร้อมด้วยกามคุณ 5 ประการ ต่อมาทรงรู้ความเกิด ความดับ คุณ โทษ และอุบายเป็นเครื่องสลัดออกจากกามทั้งหลาย ละตัณหาได้ บรรเทาความเร่าร้อนที่เกิดเพราะกามได้ มีจิตสงบ เพราะได้รับสุขระดับสุขทิพย์
จากนั้นทรงยกอุปมาอุปไมยเปรียบผู้บริโภคกามเหมือนคนเป็นโรคเรื้อน เหมือนคนตาบอด
ทรงตรัสว่า การที่มาคัณฑิยปริพาชกกล่าวว่า ร่างกายที่ไม่มีโรค เป็นความไม่มีโรค เป็นนิพพานนั้น เป็นการกล่าวโดยไม่มีจักษุอย่างที่พระอริยบุคคลมี มาคัณฑิยปริพาชกจึงกราบทูลให้ทรงแสดงธรรมเพื่อให้ตนไม่เป็นคนตาบอด ทรงตรัสแนะนำให้คบสัตบุรุษ ฟังธรรมจากท่านและปฏิบัติตาม เมื่อทรงแสดงธรรมจบ มาคัณฑิยปริพาชกจึงขออุปสมบท และต่อมาท่านพระมาคัณฑิยะได้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 13 Sep 2023 - 55min - 330 - การปฏิบัติที่ไม่ผิด (ตอนที่ 2)-อปัณณกสูตร อาเนญชสัปปายสูตร และอัคคิวัจฉะโคตรสูตร [6636-4s]
สูตร#1 อปัณณกสูตร (พระสุตตันตปิฏก เล่มที่ 12 อังคุตตรนิกาย ข้อที่ 16) ว่าด้วยข้อปฏิบัติที่ไม่ผิด 3 ประการ คือ การคุ้มครองทวารในอินทรีย์ 6 การรู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร และการประกอบความเพียรเครื่องตื่นอยู่เนือง ๆ
สูตร#2 อปัณณกสูตร (พระสุตตันตปิฏก เล่มที่ 12 อังคุตตรนิกาย ข้อที่ 119) ว่าด้วยข้อปฏิบัติที่ผิด และที่ไม่ผิด ได้แก่ วิบัติ 3 คือ สีลวิบัติ จิตตวิบัติ และทิฏฐิวิบัติ และสัมปทา 3 คือ สีลสัมปทา จิตตสัมปทา และทิฏฐิสัมปทา
สูตร#3 อาเนญชสัปปายสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ นิคมของชาวกุรุ ชื่อกัมมาสธัมมะ โดยทรงปรารภกามทั้งหลาย ทั้งวัตถุกาม และกิเลสกามว่า จะเป็นอุปสรรคแก่การปฏิบัติธรรมของภิกษุเหล่านั้น จึงทรงสอนเรื่องปฏิปทาอันเป็นสัปปายะแก่สมาบัติทั้งหลาย มี อาเนญชสมาบัติเป็นต้น
สูตร#4 อัคคิวัจฉะโคตรสูตร (พระสูตรประกอบ)
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 06 Sep 2023 - 54min - 329 - ภูมิของผู้ที่ได้รับการฝึก-ทันตภูมิสูตร และภูมิชสูตร [6635-4s]
สูตร#1 ทันตภูมิสูตร ทรงแสดงแก่สามเณรอจิรวตะ ขณะประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน เขตกรุงราชคฤห์ ทรงปรารภคำกราบทูลของสามเณรเรื่องที่ ชยเสนราชกุมาร (พระโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร) ไม่ทรงเชื่อว่าภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรอุทิศกายและใจอยู่ จะบรรลุเอกัคคตาจิต (สภาวะที่จิตมีอารมณ์เดียว) ได้
พระผู้มีพระภาคตรัสกับสามเณรอจิรวตะว่า ชยเสนราชกุมารยังบริโภคกาม จักทรงรู้เห็นสภาวะที่จิตมีอารมณ์เดียวได้อย่างไร เหมือนช้าง ม้า โค ที่ไม่ได้ฝึกก็ ไม่สำเร็จภูมิของสัตว์ที่ฝึกแล้ว เหมือนผู้ยืนอยู่ที่เชิงภูเขามองไม่เห็นสิ่งที่ผู้ยืนอยู่บนยอดภูเขามองเห็น แล้วทรงยกอุปมาขึ้นแสดง
สูตร#2 ภูมิชสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระภูมิชะ ขณะประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน เขตกรุงราชคฤห์ โดยทรงปรารภคำกราบทูลของท่านพระภูมิชะ เรื่องวาทะของสมณพราหมณ์พวกหนึ่งที่ชยเสนราชกุมารนำมาตรัสถามท่าน ท่านพระภูมิชะกราบทูลว่า ราชกุมารมาตรัสถามท่านว่า พระผู้มีพระภาคทรงเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวาทะของสมณพราหมณ์พวกหนึ่งที่ว่า บุคคลจะตั้งความหวัง ไม่ตั้งความหวัง ทั้งตั้งความหวังและไม่ตั้งความหวัง ตั้งความหวังก็มิใช่ ไม่ตั้งความหวังก็มิใช่ แล้วประพฤติพรหมจรรย์ พวกเขาก็จะไม่สามารถบรรลุผลอะไรได้เลย
ท่านตอบราชกุมารไปว่า ท่านยังมิได้สดับรับฟังมาจากพระองค์โดยตรง แต่คิดว่าพระองค์คงจะตรัสตอบโดยใช้ “ความแยบคายและความไม่แยบคาย“ เป็นเครื่องตัดสิน ราชกุมารจึงตรัสว่า ถ้าพระองค์ตรัสตอบอย่างนั้น ก็จะทรงมีความรู้เหนือสมณพราหมณ์พวกอื่น พระผู้มีพระภาคตรัสรับรองว่า ท่านพระภูมิชะตอบถูกแล้ว จากนั้นทรงอธิบายว่าความแยบคาย หมายถึงอริยมรรคมีองค์ 8 ความไม่แยบคายหมายถึงมิจฉามรรคมีองค์ 8 และทรงยกอุปมาขึ้นมาแสดง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 30 Aug 2023 - 1h 03min - 328 - การปฏิบัติที่ไม่ผิด-อปัณณกสูตร [6634-4s]อปัณณกสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์ และคหบดีชาวบ้านสาลา ทรงตรัสถามว่า มีศาสดาองค์ใดที่ท่านชอบใจ เป็นเหตุให้ได้ศรัทธาที่มีเหตุผลมีอยู่หรือไม่ ชาวบ้านสาลากราบทูลว่า ไม่มี จึงทรงแสดงอปัณณกธรรม เพื่อใช้เป็นหลักในการพิจารณาทิฏฐิ คือ ทรงยกทิฏฐิต่าง ๆ ขึ้นมาอธิบายเปรียบเทียบให้เห็นโทษและคุณอย่างชัดเจน แล้วทรงแนะนำวิธีปฏิบัติที่ไม่ผิด ซึ่งผู้ที่ปฏิบัติตามจะสามารถละอกุศลได้ และจะเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อจบเทศนา พราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านสาลาได้แสดงตนเป็นอุบาสก ผู้ถึงไตรสรณะตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 23 Aug 2023 - 1h 01min - 327 - เจ้าสุนักขัตตลิจฉวีบุตร-มหาลิสูตร และมหาสีหนาทสูตร (ตอนที่ 2) [6633-4s]
สูตร#1 มหาลิสูตร ทรงแสดงแก่เจ้ามหาลิหรือเจ้าโอฏฐัทธลิจฉวี ขณะประทับอยู่ที่กูฎาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี ในวันนั้น นอกจากคณะของเจ้ามหาลิแล้ว ยังมีคณะพราหมณทูตจากแคว้นโกศล และคณะพราหมณทูตจากแควันมคธมาเฝ้าด้วย เมื่อคณะพราหมณทูตทั้ง 2 คณะสนทนากับพระพุทธเจ้าเสร็จแล้วก็นั่งอยู่ในที่ประชุมนั้น ต่อจากนั้น เจ้ามหาลิได้ทูลถามปัญหาเรื่องตาทิพย์ หูทิพย์ เจ้ามหาลิกราบทูลว่า ท่านได้ทราบว่าเจ้าลิจฉวีชื่อสุนักขัตตะ ผู้มาปฏิบัติธรรมอยู่กับพระผู้มีพระภาคถึง 3 ปี ได้คุณวิเศษขั้นตาทิพย์เท่านั้น ยังไม่ได้หูทิพย์ จึงอยากจะทราบว่า ตาทิพย์ และหูทิพย์มีจริงหรือไม่ ตรัสตอบว่า มีจริง ซึ่งการได้ตาทิพย์ และหูทิพย์ขึ้นอยู่กับกำลังของสมาธิของแต่ละคน และทรงตรัสว่าภิกษุในพระศาสนานี้มาประพฤติพรหมจรรย์ไม่ใช่เพื่อให้ได้ตาทิพย์ และหูทิพย์เท่านั้น แต่ยังมีคุณวิเศษที่สูงกว่านี้อีกที่ภิกษุในพระศาสนานี้ควรทำให้เกิดมีขึ้นในตน คือ อริยผล 4 และ ข้อปฏิบัติเพื่อให้บรรลุคุณวิเศษเหล่านั้น คือ อริยมรรคมีองค์ 8
สูตร#2 มหาสีหนาทสูตร (ตอนที่ 2)ทรงตรัสว่า พระองค์ทรงบำเพ็ญพรหมจรรย์มีองค์ 4 มาแล้ว ทรงอธิบายวิธีบำเพ็ญพรหมจรรย์เหล่านี้โดยละเอียดพิสดาร แล้วทรงเล่าถึงการทดลองบำเพ็ญธรรมตามลัทธิที่มีอยู่ขณะนั้นโดยละเอียด ขณะที่ทรงตรัสเล่านั้น ท่านพระนาคสมาละซึ่งกำลังยืนถวายงานพัดพระผู้มีพระภาคอยู่ตลอดเวลา เมื่อทรงตรัสจบลง ได้กราบทูลว่า ท่านเกิดชนลุกชูชันขึ้น ได้ทูลถามว่า ธรรมบรรยายนี้ชื่ออะไร ตรัสตอบว่าชื่อโลมหังสนบรรยาย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 16 Aug 2023 - 58min - 326 - การบันลือสีหนาท-มหาสีหนาทสูตร (ตอนที่ 1) [6632-4s]
มหาสีหนาทสูตร (ตอนที่ 1) ทรงแสดงแก่ท่านพระสารีบุตร ณ ราวป่านอกเมืองด้านทิศตะวันตกของกรุงเวสาลี แควันวัชชี ทรงปรารภคำกราบทูลของท่านพระสารีบุตรเรื่องโอรสของเจ้าลิจฉวีองค์หนึ่ง ชื่อสุนักขัตตะ กล่าวตู่พระองค์ในที่ชุมชน
สุนักขัตตลิจฉวี ได้กล่าวว่า พระองค์ทรงไม่มีญาณทัสสนะที่ประเสริฐอันสามารถวิเศษยิ่งกว่าธรรมดาของมนุษย์ แสดงธรรมตามที่นึกเดาเอา พิจารณาเอา ตามปฏิภาณของตน แต่ธรรมนั้นก็นำให้ผู้ที่ทำตามพ้นทุกข์ได้ ท่านพระสารีบุตรได้บิณฑบาตในกรุงเวสาลี ได้ทราบเรื่อง จึงนำความมากราบทูล
ทรงตรัสว่า สุนักขัตตลิจฉวีกล่าวด้วยความโกรธ คิดว่าจะกล่าวโทษ แต่ที่กล่าวมา ก็เป็นการกล่าวคุณ แล้วทรงแสดงว่า สุนักขัตตะไม่รู้ซึ้งถึงพระพุทธคุณ 9 และพระญาณ หรือวิชชา 3
จากนั้นทรงแสดง กำลังของพระตถาคต 10 ประการโดยละเอียด ที่เป็นเหตุให้พระองค์ทรงปฏิญญาฐานะที่องอาจบันลือสีหนาท ประกาศพรหมจักรในบริษัททั้งหลายได้
ทรงแสดงความเป็นผู้แกล้วกล้า (เวสารัชชญาณ) ของพระตถาคต 4 อย่าง, ทรงตรัสถึงบริษัท 8 จำพวก ที่ทรงเข้าสู่บริษัทเหล่านี้หลายร้อยหลายพันครั้ง โดยไม่ทรงรู้สึกสะทกสะท้าน
และตรัสถึงกำเนิด 4 ชนิด และคติ 5 ประการ เพื่อทรงยืนยันว่า ทรงมีพระญาณหยั่งรู้เรื่องเหล่านี้โดยแจ่มแจ้งไม่ใช่ประมวลมาด้วยความตรึก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 09 Aug 2023 - 55min - 325 - เนื้อนาบุญ-มหาโคปาลสูตร จูฬโคปาลสูตร และนาคสูตร [6631-4s]
สูตร#1 มหาโคปาลสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงปรารภความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนาของภิกษุ ทรงเปรียบเทียบ คนเลี้ยงโคผู้ไม่ฉลาดเปรียบกับภิกษุผู้ไม่ฉลาดเพราะขาดองค์คุณ 11 ประการ จะไม่เจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนานี้ และคนเลี้ยงโคผู้ฉลาดเปรียบกับภิกษุผู้ฉลาดเพราะมีองค์คุณ 11 ประการ จะเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนานี้
สูตร#2 จูฬโคปาลสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ริมฝั่งแม่น้ำคงคา เขตเมืองอุกกเจลา แคว้นวัชชี ปรารภเหตุการณ์ในอดีตเรื่องของคนเลี้ยงโคที่พาฝูงโคลงน้ำว่ายตัดกระแสน้ำ ตรัสเล่าเปรียบเทียบให้ฟัง 2 กรณี 1. คนเลี้ยงโคไม่ฉลาด ไม่พิจารณาฝั่งนี้ฝั่งโน้นให้ดีก่อน ตรงที่ต้อนฝูงโคลงแม่น้ำนั้นไม่ใช่ท่าข้าม ว่ายเข้าไปในวังวนของกระแสน้ำกลางแม่น้ำ ถึงแก่ความตายหมดทั้งฝูง 2. คนเลี้ยงโคผู้ฉลาด ต้อนฝูงโคไปสู่ที่หมาย ว่ายตัดกระแสน้ำถึงฝั่งโน้นโดยสวัสดิภาพ เพราะตรงที่ข้ามเป็นท่าน้ำ ซึ่งพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว จึงปล่อยโคข้ามไปตามลำดับ เปรียบเหมือนสมณะ หรือพราหมณ์ผู้ฉลาดเรื่องโลกนี้ และโลกหน้า รู้ทั่วถึงธรรมทั้งปวง สามารถชักนำผู้อื่นให้ได้รับความสุขพ้นทุกข์ทั้งปวงได้
สูตร#3 นาคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยองค์ของช้างต้น ซึ่งเป็นช้างควรแก่พระราชา จะต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการ จึงนับว่าเป็นพระราชพาหนะโดยแท้ เปรียบเทียบกับภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ย่อมเป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ทักษิณา ควรแก่การทำอัญชลี เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก ธรรม 4 ประการ คือ เป็นผู้เชื่อฟัง เป็นผู้ฆ่าได้ เป็นผู้อดทน และเป็นผู้ไปได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 02 Aug 2023 - 58min - 324 - การบวชที่ให้ผลมาก-จูฬอัสสปุรสูตร และจูฬสีหนาทสูตร [6630-4s]
สูตร#1 จูฬอัสสปุรสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่ในอัสสปุรนิคมของเจ้าชายชาวอังคะ แคว้นอังคะ โดยทรงปรารภเรื่องข้อปฏิบัติที่สมควรแก่สมณะ ซึ่งทรงแสดงต่อจากมหาอัสสปุรสูตร ทรงตรัสถึงภิกษุผู้ยังละกิเลสที่เป็นมลทิน เป็นโทษของสมณะ 12 ประการไม่ได้ ทรงเรียกว่า ผู้ไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติที่สมควรแก่สมณะ กิเลสที่เป็นมลทินแก่สมณะ คือ อภิชฌา พยาบาท ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบหลู่ ความดีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความโอ้อวด มารยา ความปรารถนาที่เป็นบาป ความเห็นผิด และทรงกล่าวว่าการบรรพชาของภิกษุนั้นเหมือนฝักของอาวุธชื่อมตชะที่คมจัด และการเป็นสมณะไม่ได้วัดกันด้วยเครื่องแบบ และข้อวัตร
แต่ทรงแสดงถึงภิกษุผู้ปฏิบัติข้อปฏิบัติชอบของสมณะ คือละมลทินทั้ง 12 ประการได้ พิจารณาเห็นตนบริสุทธิ์ พ้นจากบาปอกุศลธรรมทั้งหลาย ฯลฯ ผู้เช่นนี้ ตรัสว่า ปฏิบัติข้อปฏิบัติอันชอบของสมณะ และผู้ที่ออกบวชจากสกุลไหนก็ตาม ทำให้แจ้งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันไม่มีอาสวะ ตรัสว่า เป็นสมณะ เพราะสิ้นอาสวะ.
สูตร#2 จูฬสีหนาทสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า พระองค์ และภิกษุสงฆ์มีลาภสักการะเกิดขึ้นเป็นอันมาก แต่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกกลับเสื่อมลาภสักการะ พากันร้องไห้คร่ำครวญไปตามท้องถนน พระองค์จึงตรัสสอนให้ภิกษุบันลือสีหนาทโดยชอบว่า สมณะที่ 1 ถึงที่ 4 (โสดาบันถึงอรหันต์) มีในพระศาสนานี้เท่านั้น จากนั้นทรงอธิบายว่า ถ้านักบวชลัทธิอื่นถามถึงเหตุผลที่กล่าวอย่างนี้ พึงอ้างธรรม 4 ประการ คือ ความเลื่อมใสในศาสดา ในพระธรรม บำเพ็ญศีลได้บริบูรณ์ และผู้ร่วมประพฤติธรรมทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตเป็นที่รักที่พอใจของเรา จากนั้นทรงแสดงเรื่องทิฏฐิ 2 ประการ อุปาทาน (ความยึดมั่นถือมั่น) 4 อย่าง ในตอนท้าย ทรงอธิบายหลักปฏิจจสมุปบาท
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 26 Jul 2023 - 57min - 323 - ธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ - มหาอัสสปุรสูตร และ มหาสกุลุทายิสูตร [6629-4s]
สูตร#1 มหาอัสสปุรสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่ที่อัสสปุรนิคมของราชกุมารชาวอังคะ แคว้นอังคะ ชาวนิคมนั้นมีความศรัทธาในพระรัตนตรัยเป็นอย่างยิ่ง จึงทรงตรัสสอนภิกษุเรื่อง ธรรมที่ทำให้เป็นสมณะ และเป็นพราหมณ์ ได้แก่(1) หิริโอตตัปปะ(ความละอายและความเกรงกลัวต่อความชั่ว) (2) กายสมาจารบริสุทธิ์ (3) วจีสมาจารบริสุทธิ์ (4) มโนสมาจารบริสุทธิ์ (5) อาชีวะบริสุทธิ์ (6) การสำรวมอินทรีย์ (7) การรู้จักประมาณในโภชนะ (8) ตื่นบำเพ็ญเพียรอย่างต่อเนื่อง (9) เจริญสติสัมปชัญญะ (10) ละนิวรณ์ 5
หลักธรรมนี้ ทรงแนะนำให้ภิกษุทั้งหลายประพฤติปฏิบัติตามลำดับขั้นตอน จากต่ำไปหาสูงที่ทรงเรียกว่า กิจที่ควรทำให้ยิ่งขึ้นไป จนกระทั่งถึงสมาธิและปัญญา
สูตร#2 มหาสกุลุทายิสูตร ตอน ธรรมเป็นเหตุให้ทำความเคารพประการอื่นๆ คือ 1. ทรงมีอธิศีล 2. ทรงมีญาณทัสสนะ 3. ทรงมีอธิปัญญา 4. ทรงสามารถตรัสตอบปัญหาเรื่องอริยสัจ 4 ได้ 5. ทรงสามารถตรัสบอกข้อปฏิบัติที่ทำให้บรรลุที่สุดแห่งอภิญญา และอภิญญาบารมี (อรหัตตผล) คือ โพธิปักขิยธรรม 37 วิโมกข์ 8 อภิภายตนะ 8 กสินายตนะ 10 ฌาน 4 และวิชชา 8
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 19 Jul 2023 - 57min - 322 - เป็นไปเพราะกรรม-วาเสฏฐสูตร และเอสุการีสูตร [6628-4s]
สูตร#1 วาเสฏฐสูตร ทรงแสดงแก่มาณพชื่อ วาเสฎฐะผู้เป็นศิษย์ของโปกชรสาติพราหมณ์ และภารทวาชะผู้เป็นศิษย์ของตารุกขพราหมณ์ ขณะประทับอยู่ ณ ราวป่าอิจฉานังคละใกล้หมู่บ้านชื่ออิจฉานังคละ มาณพทั้งสองได้สนทนากันเรื่องเหตุที่ทำให้ชื่อว่าเป็นพราหมณ์ แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาค โดยวาเสฏฐมาณพเป็นผู้ทูลถามว่า บุคคลจะชื่อว่าเป็นพราหมณ์ เพราะชาติกำเนิด หรือเพราะกรรม ทรงตรัสอธิบายว่า ต้นไม้และสัตว์ต่าง ๆ แตกต่างกันไปตามกำเนิด แต่มนุษย์ไม่แตกต่างกันโดยกำเนิด การเรียกกันในหมู่มนุษย์เป็นการเรียกกันตามบัญญัติ มนุษย์จึงไมใช่พราหมณ์เพราะกำเนิด (ชาติตระกูล) แต่เป็นพราหมณ์เพราะกรรม จากนั้นได้ตรัสถึงคุณสมบัติอีกหลายประการของผู้เป็นพราหมณ์ในพระพุทธศาสนา และทรงตรัสว่า ตบะ พรหมจรรย์ สัญญมะ และทมะ เป็นคุณธรรมสูงสุดของพราหมณ์ แต่ถ้าบุคคลใด ถึงพร้อมด้วยวิชชา 3 เป็นผู้สงบ สิ้นภพใหม่แล้ว บุคคลนั้นเป็นทั้งพรหมและท้าวสักกะ เมื่อทรงแสดงธรรมจบมาณพทั้งสองแสดงตนเป็นอุบาสกจนตลอดชีวิต
สูตร#2 เอสุการีสูตร ทรงแสดงแก่เอสุการีพราหมณ์ ณ เชตวัน เอสุการีทูลถามข้อบัญญัติเกี่ยวกับการบำเรอ 4 ประการของพวกพราหมณ์ และเกี่ยวกับทรัพย์ 4 ประการของพวกพราหมณ์ ทรงตรัสว่าเป็นการบัญญัติเอาเองโดยที่ชาวโลกไม่ยอมรับ เหมือนการบังคับคนยากจนให้กินเนื้ออาบยาพิษแล้วบังคับให้จ่ายค่าเนื้อ ทรงอธิบายต่อว่า บุคคลจะเป็นผู้ประเสริฐหรือเลวทรามไม่ใช่เพราะเกิดในตระกูลสูง ผิวพรรณดี มีโภคะมาก แต่อยู่ที่ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญา ในเรื่องของทรัพย์ทรงบัญญัติว่า ทรัพย์ของบุคคล คือ โลกุตตรธรรมอันเป็นอริยะ เพราะไม่ว่าบุคคลจะเกิดในตระกูลกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ ศูทร ก็สามารถออกบวช เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ เป็นต้น ได้เหมือนกัน เจริญเมตตาจิต อาบน้ำลอยละอองธุลีได้เหมือนกัน เมื่อเอาไม้มาสีให้เกิดเป็นไฟก็เป็นไฟเหมือนกัน เมื่อทรงแสดงจบเอสุการีพราหมณ์ได้แสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 12 Jul 2023 - 56min - 321 - ธรรมที่ไม่มีกิเลส-อรณวิภังคสูตร และธรรมทายาทสูตร [6627-4s]
สูตร#1 อรณวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่พระเชตวัน กรุงสาวัตถี โดยมีพระประสงค์ให้ภิกษุเหล่านั้นปฏิบัติตามธรรมที่ไม่มีกิเลส เว้นธรรมที่มีกิเลส ทรงตรัสกับภิกษุทั้งหลายว่า
- ภิกษุไม่พึงประกอบเนือง ๆ ซึ่งสุขในกาม อันทราม เป็นของชาวบ้านเป็นของปุถุชน ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และไม่พึงประกอบเนือง ๆ ซึ่งอัตตกิลมถานุโยค (การประกอบความลำบากเดือดร้อนแก่ตน) อันเป็นทุกข์ ไม่ใช่ของพระอริยะ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์มัชฌิมาปฏิปทาที่ไม่เอียงเข้าใกล้ที่สุด 2 อย่างนั้น ที่ทรงได้ตรัสรู้แล้ว อันเป็นปฏิปทาก่อให้เกิดจักษุ ก่อให้กิดญาณ เป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อตรัสรู้ เพื่อนิพพานรู้จักการยกย่องและการตำหนิ ครั้นรู้แล้ว ไม่พึงยกย่อง ไม่พึงตำหนิ พึงแสดงธรรมเท่านั้นพึงรู้การตัดสินความสุข ครั้นรู้แล้ว พึงประกอบเนือง ๆ ซึ่งความสุขภายใน สุขนี้เรียกว่า เนกขัมมสุขไม่พึงกล่าวความลับ ไม่พึ่งกล่าวคำล่วงเกินต่อหน้า เมื่อไม่รีบร้อนจึงพูด เมื่อรีบร้อนไม่ควรพูด ไม่พึงยึดภาษาท้องถิ่น ไม่พึงละเลยคำพูดสามัญ (คำที่คนทั่วไปใช้พูดกัน)
แล้วทรงยกตัวอย่าง กุลบุตรผู้มีนามว่าสุภูติ ได้ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติเพื่อไม่มีกิเลสแล้ว
สูตร#2 ธรรมทายาทสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภลาภสักการะเป็นอันมากที่เกิดขึ้นแก่พระองค์ และภิกษุสงฆ์ในขณะนั้น จะเป็นเหตุให้ภิกษุบางพวกยึดติดในลาภสักการะเหล่านั้น จึงทรงสอนให้ภิกษุเป็นธรรมทายาทของพระองค์ ไม่ให้เป็นอามิสทายาท เพราะถ้าเป็นธรรมทายาท วิญญูชนจะยกย่องสรรเสริญ จากนั้นท่านพระสารีบุตรได้แสดงธรรมต่อถึงหนทางในการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิดความสงัดขึ้นแก่ตน และอริยมรรคมีองค์ 8
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 05 Jul 2023 - 58min - 320 - สฬายตนะ-สฬายตนวิภังคสูตร และมหาสฬายตนวิภังคสูตร [6626-4s]
สูตร#1 สฬายตนวิภังคสูตร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่พระเชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตกรุงสาวัตถี โดยมีพระประสงค์ให้ ภิกษุได้ศึกษาเรื่องอายตนะโดยละเอียดลึกซึ้ง ทรงตรัสอธิบาย เรื่อง อายตนะภายใน 6, อายตนะภายนอก 6, หมวดวิญญาณ 6, หมวดผัสสะ 6, มโนปวิจาร 18, สัตตบท 36 และสติปัฏฐาน 3
ซึ่งพระสูตรนี้ อยู่วรรคที่ 4 คือ วิภังควรรค ในพระไตรปิฎกเล่มที่ 14 พระสุตตันตปิฏก มัชฌิมนิกาย อุปปริปัณณาส เล่มที่ 6 ซึ่งมีชื่อพ้องกับพระสูตรที่ 7 ของวรรคที่ 5 คือสฬายตนวรรค ของเล่มนี้เหมือนกัน แต่มีเนื้อหาสาระแตกต่างกัน จึงควรนำมาศึกษาเปรียบเทียบกับพระสูตรนั้นด้วย จะช่วยให้เข้าใจเรื่องสฬายตนะดีขึ้นกว้างขวางขึ้น
สูตร#2 มหาสฬายตนวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงแสดงธรรมเนื่องด้วยอายตนะ 6 ที่สำคัญให้ฟัง และทรงแสดงผลของผู้ที่รู้เห็นตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์ 8 ย่อมเจริญขึ้น ธรรมเหล่าอื่นก็เจริญเต็มที่ด้วย สมถะและวิปัสนาของเขาย่อมเคียงคู่กันไป จนสามารถกำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้คือขันธ์ 5 ละธรรมที่ควรละ คือ อวิชชา และภวตัณหา เจริญธรรมที่ควรเจริญ คือ สมถะ และวิปัสสนา ทำให้แจ้งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง คือ วิชชา และวิมุตติ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 28 Jun 2023 - 56min - 319 - อายตนะ และการพัฒนาอินทรีย์-อินทริยภาวนาสูตร ปิณฑปาตปาริสุทธิสูตร และสาเกตสูตร [6625-4s]
สูตร#1 อินทริยภาวนาสูตร ทรงแสดงแก่อุตตรมาณพซึ่งเป็นศิษย์ของปาราสิริยพราหมณ์ ขณะประทับอยู่ ณ เวฬุวัน ในกัชชังคลานิคม ทรงปรารภคำกราบทูลของอุตตรมาณพเรื่องการเจริญอินทรีย์ของปาราสิริยพราหมณ์ ซึ่งปาราสิริยพราหมณ์แสดงการเจริญอินทรีย์แก่สาวก คือ แสดงว่า อย่าดูรูปทางตา อย่าฟังเสียงทางหู ทรงตรัสว่า ผู้เจริญอินทรีย์ตามคำสอนของปาราสิริยพราหมณ์ จักเป็นคนตาบอด หูหนวก จากนั้นทรงเรียกพระอานนท์มาแล้ว ทรงแสดงเรื่องการเจริญอินทรีย์ตามหลักคำสอนของพระองค์
สูตร#2 ปิณฑปาตปาริสุทธิสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระสารีบุตร ขณะประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน เขตกรุงราชคฤห์ ทรงปรารภวิหารธรรมที่ทำให้พระสารีบุตรมีอินทรีย์ผ่องใส มีผิวพรรณบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทรงแสดงว่า ภิกษุผู้ต้องการอยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมนั้นต้องพิจารณาว่า ขณะกลับจากบิณฑบาต มีอกุศลธรรมที่อาศัยอายตนะภายในเกิดขึ้นแก่ตนหรือไม่ ถ้ามีให้พยายามละเสีย ถ้าไม่มี ให้ยินดีศึกษาในกุศลธรรมต่อไป
นอกจากนี้ ผู้อยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมควรพิจารณา กามคุณ 5 นิวรณ์ 5 และอุปาทานขันธ์ 5 เป็นต้น ทรงสรุปว่า ในอดีต อนาคต และปัจจุบัน ผู้พิจารณาเช่นนี้ จึงทำบิณฑบาตให้บริสุทธิ์ได้
สูตร#3 สาเกตสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณป่าอัญชนวัน สถานที่พระราชทานอภัยแก่หมู่เนื้อ เขตเมืองสาเกต ทรงแสดงเหตุที่ทำให้อินทรีย์ 5 ประการอาศัยแล้วกลายเป็นพละ 5 ประการ และเหตุที่พละ 5 ประการอาศัยแล้วกลายเป็นอินทรีย์ 5 ประการ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 21 Jun 2023 - 54min - 318 - อายตนะ 6 ประการ-สฬายตนวิภังคสูตร นครวินเทยยสูตร และมหาสมัยสูตร [6624-4s]
สูตร#1 สฬายตนะวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงแสดงธรรมเนื่องด้วยอายตนะ 6 ที่สำคัญให้ฟัง และทรงแสดงผลของผู้ที่รู้เห็นตามความเป็นจริง อริยมรรคมีองค์ 8 ย่อมเจริญขึ้น ธรรมเหล่าอื่นก็เจริญเต็มที่ด้วย สมถะ และวิปัสนาของเขาย่อมเคียงคู่กันไป จนสามารถกำหนดรู้ธรรมที่ควรกำหนดรู้คือขันธ์ 5 ละธรรมที่ควรละ คือ อวิชชา และภวตัณหา เจริญธรรมที่ควรเจริญ คือ สมถะ และวิปัสสนา ทำให้แจ้งธรรมที่ควรทำให้แจ้ง คือ วิชชา และวิมุตติ
สูตร#2 นครวินทยสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์ และคหบดีชาวบ้านนครวินทะ แควันโกศล ซึ่งพากันมาเฝ้าพระองค์เมื่อทราบว่าเสด็จมาที่หมู่บ้านนั้น โดยทรงประสงค์ให้ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างสมณพราหมณ์ที่ควรสักการะ เคารพ นับถือบูชา กับสมณพราหมณ์ที่ไม่ควรสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ผลจากการแสดงธรรมครั้งนี้ ทำให้พราหมณ์ และคหบดีเหล่านั้น ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ แสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต
สูตร#3 มหาสมัยสูตร ว่าด้วยการประชุมครั้งใหญ่ของเทวดา ทรงแสดงแก่ภิกษุประมาณ 500 รูปขณะประทับอยู่ที่ป่ามหาวัน เขตกรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ซึ่งล้วนเป็นพระอรหันต์ มีเหล่าเทวดาจำนวนมากจาก 10 โลกธาตุมาประชุมกันเพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค และเยี่ยมภิกษุสงฆ์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 14 Jun 2023 - 1h 00min - 317 - อดีตพระเจ้าพิมพิสาร-ชนวสภสูตร [6623-4s]
ชนวสภสูตรทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ณ ตำหนักอิฐในนาทิกคาม เขตแคว้นวัชชี เมื่อครั้งเสด็จจาริกแสดงธรรมครั้งสุดท้าย ทรงปรารภคำกราบทูลเลียบเคียงท่านพระอานนท์ เรื่องการที่พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์คติและอภิสัมปรายภพของพุทธบริษัทผู้ล่วงลับไปแล้ว เช่น ชาวบ้านนาทิกคาม แคว้นวัชชี ฯลฯ (ยกเว้นแคว้นมคธ) ทำให้พุทธบริษัทเหล่านั้นมีความยินดี เกิดปีติโสมนัส แต่การที่ไม่ทรงพยากรณ์พุทธบริษัทชาวมคธผู้ล่วงลับไปแล้วทำให้ดูเหมือนว่า แคว้นนี้ไม่มีพุทธบริษัท ทั้ง ๆ ที่มีเป็นจำนวนมาก การที่ทรงพยากรณ์จะทำให้พุทธบริษัทจำนวนมากในแคว้นนี้เกิดความเลื่อมใส และจะไปเกิดในสุคติภูมิต่อไป ด้วยเหตุนี้ จึงทรงตั้งพระทัยเพ่งพิจารณากำหนดจะทรงทราบคติและอภิสัมปรายภพของพุทธบริษัทชาวมคธผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็ทรงทราบชัดตามที่ทรงปรารถนา
เมื่อท่านพระอานนท์เข้าเฝ้าจึงตรัสเล่าเรื่องที่ทรงทราบให้ฟังว่า ชนวสภยักษ์ คือ อดีตพระเจ้าพิมพิสารมาเฝ้าพระองค์ กราบทูลให้ทรงทราบว่า ท่านไปเกิดเป็นยักษ์ชื่อชนวสภะในชั้นจาตุมหาราช ท่านบรรลุโสดาบันแล้ว และปรารถนาจะบรรลุเป็นพระสกทาคามีต่อไป โดยประพฤติธรรมคำสอนของพระองค์ตลอดมามิได้เว้น ซึ่งการมาเฝ้าครั้งนี้มาด้วยเหตุ 2 ประการ คือ (1) มาด้วยความเลื่อมใสและปรารถนาจะเข้าเฝ้า (2) มีเรื่องจะกราบทูลให้ทรงทราบคือเรื่องการประชุมของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ ที่เทวธรรมสภา ซึ่งในครั้งนั้นท้าวมหาพรหมได้เสด็จมา กล่าวสรรเสริญพระรัตนตรัย แล้วทรงแสดงธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงสอน รวม 4 เรื่อง และสนังกุมารพรหมทรงสรุปว่า มีชาวมคธผู้มีความเสื่อมใสอันไม่หวั่นไหว ในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ จำนวนมาก ที่ล่วงลับดับชีพไปแล้ว เป็นพระโสดาบัน และเป็นพระสกทาคามี
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 07 Jun 2023 - 59min - 316 - มายาเครื่องกลับใจ-อุปาลิวาทสูตร [6622-4s]
อุปาลิวาทสูตร ทรงแสดงแก่นิครนถ์ชื่อทีฆตปัสสี และอุบาลีคหบดี ขณะประทับ ณ ปาวาริกัมพวัน เขตเมืองนาลันทา ในตอนต้น ทรงแสดงแก่นิครนถ์ทีฆตปัสสี ที่ได้เข้าไปสนทนาธรรมกับพระผู้มีพระภาค ทรงตั้งคำถาม ถามทีฆตปัสสีเรื่อง นิครนถ์ นาฏบุตร บัญญัติกรรมในการทำชั่ว ประพฤติชั่วไว้เท่าไร และอย่างไหนมีโทษมากกว่ากัน ทีฆตปัสสีทูลตอบว่า ไม่ได้บัญญัติเรื่องกรรมแต่บัญญัติทัณฑะ มี 3 อย่าง และกายทัณฑะมีโทษมากกว่า จากนั้นตปัสสี ได้ทูลย้อนถามว่า พระองค์บัญญัติทัณฑะในการทำชั่ว ประพฤติชั่วไว้เท่าไร และอย่างไหนมีโทษมากกว่ากัน ทรงตอบว่า ไม่ได้บัญญัติทัณฑะ แต่บัญญัติ กรรม มี 3 อย่าง และมโนกรรมมีโทษมากกว่า
จากนั้นทีฆตปัสสี ได้นำเรื่องไปเล่าให้นิครนถ์ นาฏบุตร และนิครนถ์บริษัทฟัง ทุกคนเห็นว่าทีฆตปัสสีกล่าวถูกต้อง อุบาลีคหบดีจึงรับอาสานำเรื่องนั้นไปโต้วาทะกับพระพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงย้อนถามปัญหาอุบาลี 4 ข้อ เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสถามปัญหาจบลง อุบาลีคหบดียอมรับว่า มโนกรรมมีโทษมากกว่าจริง และได้แสดงตนเป็นอุบาสกถึง 3 ครั้ง จากนั้นทรงแสดงอนุปุพพิกถา จนอุบาลีคหบดี บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 31 May 2023 - 1h 00min - 315 - นี้เป็นวรรณะสูงสุด-เวขณสสูตร และจูฬสกุลุทายิสูตร [6621-4s]
สูตร#1 เวขณสสูตร ทรงแสดงแก่ปริพาชกชื่อ เวขณสะ ขณะประทับอยู่ พระเชตวัน เขตกรุงสาวัตถี ทรงปรารภคำอุทานของเวขณสปริพาชก ซึ่งทำทีเปล่งอุทานในสำนักของพระองค์ให้ทรงได้ยินว่า “นี้เป็นวรรณะสูงสุด นี้เป็นวรรณะสูงสุด”
ทรงตรัสถามความหมายของวรรณะสูงสุด แต่เขากราบทูลแต่คำเดิม จึงทรงตรัสว่า เวขณสะใช้คำพูดเลื่อนลอย เปรียบเหมือนชายหนุ่มที่รักหญิงงามแต่ไม่รู้ว่านางเป็นใคร ไม่รู้จักชื่อ ตระกูล ลักษณะและที่อยู่
ในที่สุดเวขณสปริพาชกยอมอธิบายว่า หมายถึง อัตตาที่ยั่งยืน หลังจากตายแล้วมีวรรณะเหมือนแก้วไพฑูรย์ ฯลฯ ส่องแสงสว่างเป็นประกาย พระผู้มีพระภาคจึงทรงแสดงสิ่งที่ส่องสว่างกว่านั้น และแต่ละอย่างส่องแสงสว่างยิ่งกว่าวรรณะที่เขากล่าวถึง
จากนั้นได้ตรัสกามคุณ 5 กามสุข และความสุขอันเลิศกว่ากามสุข มีเพียงพระอรหันตขีณาสพเท่านั้นที่จะรู้ได้ เวขณสะได้ฟังเช่นนั้นก็โกรธ กล่าวหาว่าทรงตรัสถึงพระอรหันตขีณาสพโดยไม่รู้จริง จึงทรงท้าทายให้เขาเข้ามาปฏิบัติ ตามคำสั่งสอนของพระองค์ ก็จะรู้เองเห็นเอง เวขณสปริพาชก จึงยอมแสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต
สูตร#2 จูฬสกุลุทายิสูตร ทรงแสดงแก่สกุลุทายีปริพาชก ณ อารามของปริพาชก เขตกรุงราชคฤห์
สกุลุทายีได้สนทนาธรรมกับพระผู้มีพระภาคถึงเรื่องนิครนถ์ นาฏบุตรซึ่งอ้างว่าตนเป็นสัพพัญญู เห็นสิ่งทั้งปวง แม้ขณะเดิน หยุด หลับ และตื่น แต่พอถูกถามปัญหาเรื่องการระลึกชาติในอดีตกลับเอาเรื่องอื่นมาพูดกลบเกลื่อน พูดนอกเรื่อง ทั้งแสดงอาการโกรธไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาระลึกถึงพระผู้มีพระภาคมีแต่พระองค์เท่านั้นที่ทรงทราบเรื่องนี้จริงๆ
จากนั้นทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทให้ฟัง และทรงตรัสถามถึงความเห็นในลัทธิของปริพาชกเกี่ยวกับวรรณะสูงสุด และปัญหาเรื่องโลกที่มีสุขโดยส่วนเดียว (โลกที่ไม่มีทุกข์) ทรงซักไซร้ ไล่เลียงจนสกุลุทายีปริพาชกยอมรับว่า ลัทธิของตนว่างเปล่า และผิดไปหมด
จากนั้นทรงแสดงข้อปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งโลกที่มีสุขโดยส่วนเดียว คือ ฌาน 4 และวิชชา 3 เมื่อทรงแสดงธรรมจบสกุลุทายีปริพาชกขอบวชแต่ลูกศิษย์ห้ามมิให้บวช
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 24 May 2023 - 1h 05min - 314 - การแสวงหาที่ประเสริฐ-ปาสราสิสูตร [6620-4s]
ปาสราสิสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุจำนวน 500 รูป ณ อาศรมรัมมกพราหมณ์ เขตกรุงสาวัตถี เนื่องจากภิกษุเหล่านี้ได้เดินทางมาพบท่านพระอานนท์ เพื่อขอเข้าเฝ้าและฟังธรรม พระอานนท์จึงได้กราบทูลพระพุทธเจ้าให้เสด็จไปโปรดภิกษุเหล่านี้
เมื่อทรงเสด็จไปถึง ทรงได้ยินภิกษุกำลังสนทนาธรรมกันอยู่ ทรงประทับยืนรอจนภิกษุเหล่านั้นสนทนาธรรมจบลง จึงเสด็จเข้าไป ทรงตรัสถึงผู้มาประชุม มีกิจที่ควรทำ 2 ประการ คือ 1) การสนทนาธรรม 2) การเป็นผู้นิ่งอย่างพระอริยะ แล้วทรงปรารภการแสวงหามี 2 อย่าง คือ การแสวงหาที่ประเสริฐ และการแสวงหาที่ไม่ประเสริฐ แล้วทรงอธิบาย ว่า
การแสวงหาที่ไม่ประเสริฐ ได้แก่ การแสวงหากาม การแสวงหาที่ประเสริฐ ได้แก่ การแสวงหาทางเพื่อพ้นไปจากกาม บรรลุถึงพระนิพพาน สำหรับการแสวงหาที่ประเสริฐ ทรงยกการแสวงหาโมกขธรรมของพระองค์เองเป็นตัวอย่าง จึงทรงเล่าพุทธประวัติตอนต้น
และทรงแสดงด้วยอุปมาโวหารเปรียบเทียบให้เห็นโทษของกามคุณ 5 ซึ่งถ้าไม่มีปัญญาสลัดออกจากกามคุณ 5 ได้ จะต้องถูกมารใจบาปทำอะไรๆ ได้ตามชอบใจเหมือนเนื้อป่าที่ติดบ่วง ถูกพรานเนื้อทำอะไรๆ ได้ตามชอบใจ แล้วทรงสอนวิธีสลัดออกจากกามคุณ 5 ด้วยการปฏิบัติสมถะ และวิปัสสนา
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 17 May 2023 - 1h 06min - 313 - ปริพาชกชื่อวัจฉโคตร-จูฬวัจฉโคตตสูตร อัคคิวัจฉโคตตสูตร และมหาวัจฉโคตตสูตร [6619-4s]
สูตร#1 จูฬวัจฉโคตตสูตร ทรงแสดงแก่วัจฉโคตรปริพาชก ขณะประทับ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน กรุงสาวัตถี ปรารภคำถามของวัจฉโคตรปริพาชกว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นพระสัพพัญญูเห็นธรรมทั้งปวง ยืนยันญาณทัสสนะในขณะ เดิน หยุด หลับและตื่น เป็นการกล่าวถูกต้องหรือไม่ ตรัสตอบว่าไม่ถูกต้อง เพราะทรงเป็นผู้มีวิชชา 3 แล้วทรงแสดงวิชชา 3 เพื่อให้วัจฉโคตรปริพาชกรู้ว่าลัทธิอื่น นอกจากพระพุทธศาสนาไม่มีใครเป็นสัพพัญญู
สูตร#2 อัคคิวัจฉโคตตสูตร ทรงแสดงแก่วัจฉโคตรปริพาชก ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำถามของปริพาชกว่า พระองค์ทรงมีอันตคาหิกทิฏฐิ (ความเห็นสุดโต่ง) 10 ประการหรือไม่ ทรงตอบว่า ไม่มี แล้วทรงตรัสถึงโทษของทิฏฐิเหล่านั้น ซึ่งทรงกำจัดได้แล้ว และทรงหลุดพ้นจากการยึดมั่นทิฏฐิในเรื่องขันธ์ 5 ปริพาชกมีความเข้าใจ จนได้ประกาศตนเป็นอุบาสก สมาทานไตรสรณคมน์
สูตร#3 มหาวัจฉโคตตสูตร ทรงแสดงแก่วัจฉโคตรปริพาชกขณะประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน เขตกรุงราชคฤห์ ปริพาชกทูลขอให้พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมให้ฟัง ทรงแสดง อกุศลมูล 3 กุศลมูล 3 อกุศลกรรมบท 10 กุศลกรรมบท 10 และทรงแสดงผลที่ผู้นับถือพระพุทธศาสนาจะได้รับ ที่ไม่ได้มีเฉพาะพระพุทธเจ้า หรือเหล่าสาวกเพียงบางคนบางท่านแต่มีกว่านั้นมากนัก จึงทำให้มีศรัทธาเห็นถึงความบริบูรณ์เต็มพร้อมของธรรมวินัยนี้ และได้ขอบรรพชาจนกระทั่งสามารถทำวิชชา 3 ให้เกิดขึ้นได้ เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในโลก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 10 May 2023 - 1h 00min - 312 - ศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา-มหาสกุลุทายิสูตร ตอนที่ 2 [6618-4s]
มหาสกุลุทายิสูตร ตอนที่ 2 ทรงตรัสว่า สาวกผู้ปฏิบัติเคร่งครัดในธรรม 5 ประการนี้ เทียบเท่าหรือยิ่งกว่าพระองค์มีอยู่ ถ้าถือธรรม 5 ประการนั้นเป็นเหตุ สาวกเหล่านั้นก็คงไม่เคารพพระองค์ แล้วทรงแสดงธรรม 5 ประการอื่นอีก คือ
1. ทรงมีอธิศีล
2. ทรงมีญาณทัสสนะ
3. ทรงมีอธิปัญญา
4. ทรงสามารถตรัสตอบปัญหาเรื่องอริยสัจ 4 ได้
5. ทรงสามารถตรัสบอกข้อปฏิบัติที่ทำให้บรรลุที่สุดแห่งอภิญญา และอภิญญาบารมี (อรหัตตผล) คือ โพธิปักขิยธรรม 37 วิโมกข์ 8 อภิภายตนะ 8 กสินายตนะ 10 ฌาน 4 และวิชชา 8
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 03 May 2023 - 54min - 311 - ธรรมให้เกิดความเคารพเลื่อมใส-มหาสกุลุทายิสูตร ตอนที่ 1 [6617-4s]
มหาสกุลุทายิสูตร ตอนที่ 1 ทรงแสดงแก่สกุลุทายิปริพาชก ณ อารามของปริพาชก เขตกรุงราชคฤห์ พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังอารามของปริพาชก ขณะนั้น สกุลุทายีปริพาชกกำลังนั่งสนทนาดิรัจฉานกถาอยู่กับปริพาชกบริษัท ทูลเชิญให้พระผู้มีพระภาคประทับนั่ง ได้กราบทูลเรื่องที่สนทนากันว่า มีสมณพราหมณ์มาประชุมกันสนทนากันว่า บรรดาสมณพราหมณ์ผู้เป็น เจ้าหมู่เจ้าคณะ เป็นเจ้าลัทธิ ในที่ประชุมมีผู้ห็นว่า สมณพราหมณ์ผู้เป็นเจ้าหมู่ 6 ท่านแรก เคยมีเรื่องที่สาวกแสดงความไม่เคารพมาแล้ว
ส่วนท่านที่ 7 คือ พระสมณโคดม เมื่อแสดงธรรมจะไม่มีเสียงจามหรือเสียงไอของพระสาวกเลย ทำให้ผู้ต้องการฟังธรรมฟังได้เต็มที่ แม้สาวกผู้ลาสิกขาไปก็ยังกล่าวสรรเสริญ สาวกผู้เป็นอุบาสกก็พากันสมาทานประพฤติสิกขาบท 5 สาวกสักการะเคารพ นับถือ บูชาพระสมณโคดมอย่างนี้ และยังได้อาศัยพระสมณโคดมด้วย
ทรงตรัสถามสกุลุทายีว่า เห็นธรรมกี่ประการ ซึ่งเป็นเหตุให้สาวกของพระองค์แสดงความเคารพพระองค์เช่นนั้น เขากราบทูลว่า เห็นธรรม 5 ประการ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สาวกผู้ปฏิบัติเคร่งครัดในธรรม 5 ประการนี้เทียบเท่าหรือยิ่งกว่าพระองค์ มีอยู่ ถ้าถือธรรม 5 ประการนั้นเป็นเหตุ สาวกเหล่านั้นก็คงไม่เคารพพระองค์ แล้วทรงแสดงธรรม 5 ประการอื่นอีก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 26 Apr 2023 - 56min - 310 - มูลเหตุแห่งธรรม-มูลปริยายสูตร [6616-4s]
มูลปริยายสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับ ณ โคนไม้รังใหญ่ ในสุภควัน เขตเมืองอุกกัฏฐา ได้ทรงแสดงเรื่องราวอันเป็นมูลแห่งธรรมทั้งปวง (สัพพธัมมมูลปริยาย) มีใจความสำคัญแบ่งออกเป็น 8 ส่วน คือ เนื่องด้วยปุถุชน (คนที่ยังหนาไปด้วยกิเลส) 1 จำพวก เนื่องด้วยเสขะ 1 จำพวก เนื่องด้วยพระขีณาสพ (พระอรหันต์) 4 จำพวก และ เนื่องด้วยพระศาสดา 2 จำพวก คือ
⁃ปุถุชนผู้มิได้สดับ ย่อมรู้ตามความจำถึงสิ่งต่างๆ แล้วยึดถือว่าเป็นของเรา เพราะไม่ได้กำหนดรู้ตามเป็นจริงซึ่งสิ่งนั้นๆ
⁃ภิกษุผู้เป็นเสขะ รู้ยิ่งด้วยปัญญาซึ่งสิ่งต่างๆ การยึดถือว่าเป็นของเราเพราะสิ่งนั้น พระเสขะควรกำหนดรู้ได้
⁃ภิกษุผู้เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ รู้ยิ่งด้วยปัญญาซึ่งสิ่งต่างๆ ย่อมไม่ถือว่าเป็นของเรา เพราะกำหนดสิ่งนั้นๆ แล้ว เพราะสิ้นราคะความกำหนัดยินดี เพราะสิ้นโทสะความคิดประทุษร้าย เพราะสิ้นโมหะความหลง
⁃พระศาสดา รู้ยิ่งด้วยปัญญาซึ่งสิ่งต่างๆ ไม่ยึดถือว่าเป็นของเรา เพราะกำหนดรู้ในสิ่งนั้นๆ แล้ว และเพราะสิ้นตัญหาด้วยประการทั้งปวง ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 19 Apr 2023 - 55min - 309 - การอยู่อย่างผาสุก-นฬกปานสูตร และปุตตมังสสูตร [6615-4s]
สูตร#1 นฬกปานสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ หมู่บ้านนฬกปานะ ทรงปรารภกุลบุตรผู้มีชื่อเสียงจำนวนมากที่บวชด้วยศรัทธา
ทรงตรัสถามกุลบุตรถึงความยินดีในพรหมจรรย์ และการออกบวชเพื่อกระทำที่สุดแห่งทุกข์ และตรัสถึงหน้าที่ที่ผู้บวชใหม่จะต้องประพฤติปฏิบัติ และได้ทรงพยากรณ์ถึงการบรรลุธรรมของเหล่าภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จุดประสงค์เพื่อให้คนที่ได้ยินได้ฟังถึงบุคคลที่เขารู้จัก เคยร่วมพูดคุย คบหาสมาคม จะสามารถรู้ถึงศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ และปัญญาของบุคคลต่างๆ เหล่านั้น ทำให้น้อมจิตไปเพื่อศรัทธา เป็นต้น ทำให้มีความอยู่อย่างผาสุกได้
สูตร#2 ปุตตมังสสูตร พระพุทธเจ้าทรงแสดงอาหาร 4 อย่าง เพื่อความดำรงอยู่ของสัตว์โลกที่เกิดมาแล้ว (ภูตสัตว์) หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่เหล่าสัตว์ ผู้แสวงหาที่เกิด (สัมภเวสีสัตว์)
และทรงยกอุปมาโดยลักษณะอาหาร 4 เพื่อให้อริยสาวกกำหนดรู้ได้ ราคะซึ่งเกิดจากกามคุณ 5 เวทนา 3 ประการ ตัณหา 3 ประการ และนามรูป จะกำหนดรู้ได้ด้วย เมื่อกำหนดรู้ได้แล้วจึงเป็นเหตุให้ไม่กลับมาสู่โลกนี้อีก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 12 Apr 2023 - 56min - 308 - ประทานโอวาทแก่พระราหุล-มหาราหุโลวาทสูตร และจูฬราหุโลวาทสูตร [6614-4s]
สูตร#1 มหาราหุโลวาทสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระราหุล (สมัยยังเป็นสามเณร) เพื่อให้ท่านบรรเทาความพอใจและความกำหนัดเกี่ยวกับเรือนร่าง คือ ขันธ์ 5
ขณะนั้นทรงประทับอยู่พระเชตวัน เขตกรุงสาวัตถี ในตอนเช้าก่อนเสด็จออกบิณฑบาต ทรงแสดงวิธีการเจริญกัมมัฏฐานหลายอย่าง ทรงสอนให้พิจารณาขันธ์ 5 และการเจริญอานาปานสติให้มีผลมาก มีอานิสงส์มาก คือ ให้พิจารณาธาตุ 5 ให้เจริญภาวนาเสมอด้วยธาตุทั้ง 5 นั้น ให้เจริญภาวนา 6 อย่าง และให้เจริญอานาปานสติ 16 ชั้น
สูตร#2 จูฬราหุโลวาทสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระราหุล (สมัยยังเป็นสามเณร) ขณะประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน เขตกรุงราชคฤห์ ทรงปรารภว่า ท่านพระราหุลยังเยาว์อยู่ อาจจะพูดเท็จทั้งๆ ที่รู้ จึงทรงเสด็จเข้าไปหาท่านพระราหุลซึ่งกำลังพักอยู่ ณ ปราสาทชื่อ อัมพลัฏฐิกา
ขณะที่พระองค์ทรงล้างพระบาท ทรงเหลือน้ำไว้ในภาชนะหน่อยหนึ่ง รับสั่งเรียกท่านพระราหุลมาพิจารณาดูน้ำนั้น แล้วทรงแสดงเปรียบเทียบว่า เป็นสมณะถ้าไม่มีความละอายกล่าวเท็จทั้งที่รู้ ก็เหลือความเป็นสมณะเพียงหน่อยหนึ่งเหมือนน้ำในขัน
ทรงเทน้ำทิ้งแล้วทรงคว่ำขัน และหงายขันขึ้น แล้วทรงเปรียบเทียบให้ฟังว่า ถ้ายังกล่าวเท็จอยู่ก็เหมือนน้ำที่เขาทิ้งแล้ว เหมือนขันที่คว่ำ และว่างเปล่าเหมือนขันที่หงายขึ้น
ทรงยกอุปมาด้วยช้างขึ้นมาเปรียบเทียบว่า ช้างต้นที่ใช้อวัยวะทุกส่วนทำงานให้พระราชาได้
ไม่มีอะไรที่ช้างต้นนั้นจะทำไม่ได้ คนที่ไม่มีความละอายกล่าวเท็จทั้งที่รู้ก็เหมือนกัน ที่จะไม่ทำบาปอะไรเลยไม่มี
จากนั้นทรงสอนให้พิจารณาดูกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมของตน เหมือนคนใช้คันฉ่องส่องดูเงาหน้าตัวเอง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 05 Apr 2023 - 54min - 307 - ธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้น-ปฏิจจสมุปบาท [6613-4s]
"ปฏิจจสมุปบาท" คือ ธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้น ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ วิหารเชตวัน ถึงความหมายในแต่ละข้อ อุปมาอุปไมย และความเกี่ยวเนื่องกับอริยสัจสี่
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 29 Mar 2023 - 55min - 306 - โทษแห่งกาม-มหาทุกขักขันธสูตร และจูฬทุกขักขันธสูตร [6612-4s]
สูตร#1 มหาทุกขักขันธสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำถามของพวกอัญเดียรถีย์ปริพาชก ที่ภิกษุนำมากราบทูลให้ทรงทราบ า พระองค์ทรงบัญญัติคำสอนเหมือนที่พวกปริพาชกบัญญัติไว้เหมือนกัน คือ เรื่องการละกาม การละรูป และการละเวทนาทั้งหลาย คำสอนเหล่านี้ ผิดแผกแตกต่างกันอย่างไร พระองค์จึงทรงตรัสสอนภิกษุในการตอบโต้วาทะของนักบวชพวกนั้นด้วยการตั้งคำถามย้อนกลับ ดังนี้ 1. อะไรเป็นเหตุแห่งกามทั้งหลาย อะไรเป็นโทษ อะไรเป็นการสลัดออกจากกามทั้งหลาย 2. อะไรเป็นคุณ โทษ และเป็นการสลัดออกจากรูปทั้งหลาย 3. อะไรเป็นคุณ โทษ และการสลัดออกจากเวทนาทั้งหลาย ทรงย้ำว่า คำถามเหล่านี้ นอกจากพระองค์และสาวกของพระองค์ ไม่มีผู้ใดสามารถตอบให้ถูกต้องสมบูรณ์ได้ สมณหรือพราหมณ์พวกใดก็ตามถ้าไม่รู้ชัดในคุณ โทษและการสลัดออก ตามความเป็นจริง ก็จะไม่มีทางรอบรู้ กาม รูปและเวทนาทั้งหลายได้เอง หรือชักชวนผู้อื่นให้รู้ได้และปฏิบัติตามจนรอบรู้ได้
สูตร#2 จูฬทุกขักขันธสูตร ทรงแสดงแก่เจ้ามหานามะ ณ นิโครธาราม ทรงตอบข้อสงสัยในธรรมของเจ้ามหานามะ ที่กราบทูลว่า พระองค์ทรงรู้ทั่วถึงธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ว่า โลภะ โทสะ โมหะ เป็นเครื่องเศร้าหมองของจิต แต่บางครั้ง ยังถูกโลภะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง ครอบงำพระทัย ธรรมอะไรที่ยังทรงละไม่ได้ในภายใน พระพุทธเจ้าทรงตัสตอบว่า คือธรรมในภายในถ้าทรงละได้ จะไม่ทรงครองเรือน ไม่ทรงบริโภคกาม แล้วทรงเล่าเรื่องของพระองค์ตั้งแต่ยังทรงเป็นโพธิสัตว์ก่อนการตรัสรู้ และทรงแสดงถึงคุณ โทษ และการสลัดออกแห่งกามทั้งหลาย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 22 Mar 2023 - 54min - 305 - ปาฏิหาริย์ 3 อย่าง-เกวัฏฏสูตร [6611-4s]
เกวัฏฏสูตร ทรงตรัสแก่เกวัฏฏบุตรคหบดีขณะประทับอยู่ในสวนมะม่วงของปาวาริกเศรษฐี หรือที่เรียกว่า ปาวาริกัมพวัน เขตเมืองนาลันทา เกวัฏฎบุตรคหบดีเป็นพุทธศาสนิกชนผู้มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะให้ชาวนาลันทาหันมานับถือพระพุทธศาสนาโดยทั่วกัน จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลให้รับสั่งแก่ภิกษรูปใดรูปหนึ่งผู้ชำนาญทางการแสดงปาฏิหาริย์ไปแสดงปาฏิหาริย์ให้ชาวเมืองนั้นชม พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสเทศนาพระสูตรนี้ ทรงตรัสว่า พระองค์มิได้สอนธรรมเพื่อให้ภิกษุแสดงปาฏิหาริย์แก่คฤหัสถ์ แล้วทรงชี้แจงว่า ทรงรู้แจ้งปาฏิหาริย์ 3 อย่างคือ (1) อิทธิปาฏิหาริย์ (การแสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์) (2) อาเทสนาปาฏิหาริย์ (การดักทายใจผู้อื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์) (3) อนุสาสนีปาฏิหาริย์ (การพร่ำสอนที่มีผลอย่างน่าอัศจรรย์) จากนั้นทรงแสดงอนุสาสนีปาฏิหาริย์ให้เกวัฏฏะฟัง คือทรงแสดงผลของศีล 3 ชั้น ผลของฌาน 4 และวิชชา 8 ในตอนท้ายทรงเล่าเรื่องภิกษุรูปหนึ่งต้องการทราบว่ามหาภูตรูป 4 ดับสนิทในที่ใด จึงเข้าสมาธิไปเที่ยวถามพวกเทวดาในเทวโลกทุกๆ ชั้นก็ไม่ได้รับคำตอบ จึงไปเที่ยวถามพวกเทพที่เป็นพรหมบริษัทในพรหมโลกจนได้เข้าพบท้าวมหาพรหมที่อ้างว่าเป็นผู้สร้างโลก ท้าวมหาพรหมได้บอกภิกษุรูปนั้นไปว่า ไม่มีใครรู้ นอกจากพระพุทธเจ้า ภิกษุรูปนั้นจึงกลับมาเฝ้าพระผู้มีพระภาค ทูลถามข้อข้องใจนั้น พระองค์ตรัสตอบว่า ดับสนิทในจิตของพระอรหันต์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 15 Mar 2023 - 56min - 304 - ความคิดเห็นชั่วร้าย-โลหิจจสูตร [6610-4s]
โลหิจจสูตร ทรงตรัสแก่โลหิจจพราหมณ์เพื่อแก้ความเห็นผิด ขณะทรงแวะพักในหมู่บ้านสาลวติกา (หมู่บ้านที่มีต้นสาละเป็นรั้ว) แคว้นโกศล ที่พระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานเป็นพรหมไทยให้โลหิจจพราหมณ์ปกครอง ทรงตรัสถามโลหิจจพราหมณ์ จริงหรือไม่ที่มีผู้กล่าวว่า โลหิจจพราหมณ์มีความเห็นชั่วร้ายว่า สมณะหรือพราหมณ์ควรบรรลุกุศลธรรม แต่ไม่ควรบอกแก่ผู้ใด เพราะไม่มีใครช่วยใครได้ ผู้ที่บอกถือว่ายังมีความโลภ เหมือนคนที่ตัดเครื่องจองจำเก่า แล้วสร้างเครื่องจองจำใหม่ขึ้นแทน ก็ถือว่ามีความโลภอย่างเดียวกัน ความโลภเป็นความชั่วร้าย จึงไม่ควรมีความโลภ โลหิจจพราหมณ์กราบทูลว่าจริง จึงทรงซักถาม ในกรณีที่โลหิจจพราหมณ์เป็นผู้ปกครองหมู่บ้านและกรณีพระเจ้าปเสนทิโกศลปกครองแคว้นโกศลและแคว้นกาสี ไล่เลียงให้โลหิจจพราหมณ์ตอบ จนจบลงที่ผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิมีคติ 2 อย่าง คือ ตายแล้วไปเกิดในนรก หรือในกำเนิดสัตว์เดรัจฉาน แล้วทรงสรุปว่า ความเห็นที่ว่า สมณะหรือพราหมณ์ควรบรรลุกุศลธรรมแต่ไม่ควรบอกผู้ใดนั้น ก็ถือว่าไม่แบ่งผลประโยชน์แก่ผู้อื่นจัดเป็นมิจฉาทิฏฐิเช่นกัน จากนั้นทรงแสดงว่ามีศาสดาอยู่ 3 ประเภทที่สมควรถูกทักทัวง และศาสดาอีก 1 ประเภทที่ไม่สมควรถูกทักทัวง เมื่อตรัสจบ โลหิจจพราหมณ์ได้ประกาศตนเป็นอุบาสกผู้ถึงพระรัตนตรัยไปตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 08 Mar 2023 - 56min - 303 - พึ่งตน พึ่งธรรม-จักกวัตติสูตร [6609-4s]
จักกวัตติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่ที่เมืองมาตุลา แคว้นมคธ ทรงตรัสสอนให้พึ่งตน พึ่งธรรม โดยการเจริญสติปัฏฐาน 4 และให้ประพฤติธรรมอันเป็นที่โคจรที่สืบเนื่องมาจากบิดา เมื่อประพฤติข้อนี้ บุญกุศลจะเจริญยิ่งขึ้น มารจะขัดขวางมิได้ ทรงอธิบายว่า ผู้พึ่งตนพึ่งธรรมจะเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ โภคะ และพละ แล้วทรงตรัสเล่านิทานเกี่ยวกับพระเจ้าจักรพรรดิในอดีต 7 พระองค์ มีพระเจ้าทัฬหเนมิ เป็นต้น ผู้ประพฤติจักรวรรดิวัตรสืบทอดต่อๆ กันมาโดยลำดับ เมื่อกษัตราธิราชทรงประพฤติจักรวรรดิวัตรนี้โดยบริบูรณ์แล้ว แก้ว 7 ประการ ได้เกิดขึ้น ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองอุดมสมบูรณ์ พระเจ้าจักรพรรดิ และประชาราษฎร์ผู้ประพฤติตามมีอายุยืนถึง 80,000 ปี มีวรรณะผ่องใส มีความสุข มีโภคะ และพละ แต่ยังมีกษัตราธิราชผู้ได้รับมูรธาภิเษกพระองค์หนึ่ง ซึ่งนับเป็นองค์ที่ 8 ไม่ทรงประพฤติจักรวรรดิวัตรสืบทอดจากพระชนก จึงไม่ทรงมีแก้ว 7 ประการ บ้านเมืองของพระองค์จึงไม่เจริญรุ่งเรือง ประชาราษฎร์ประสบความเดือดร้อน อดอยากต้องขโมยเขากิน อกุศลธรรมข้อ อทินนาทาน จึงเกิดขึ้น อายุ วรรณะ สุขะ โภคะ และพละเริ่มเสื่อมถอย ต่อมา ได้เกิดอกุศลธรรมข้อ ปาณาติบาต มุสาวาท ฯลฯ ขึ้นตามลำดับ เมื่ออกุศลธรรมแต่ละข้อเจริญขึ้น กุศลธรรมเสื่อมลงๆ อายุ วรรณะ สุขะ โภคะ และพละก็เสื่อมลงๆ
จนถึงสมัยหนึ่งที่มนุษย์มีอายุขัยแค่ 10 ปีตาย ในสมัยนั้นจะเกิดกาลยุคขั้นมิคสัญญีเป็นเวลา 7 วัน คือ คนเห็นคนเข้าใจว่าเป็นเนื้อที่ตนอยากกินเพื่อแก้ความหิวโหย จึงใช้อาวุธประหัตประหารกัน จนผู้คนล้มตายไปเกือบหมดโลก ช่วงเวลานั้น เรียกว่า สัตถันตรกัป คนที่รอดตาย คือ ผู้ที่หลบหนีออกจากหมู่คณะไปหลบซ่อนตัวอยู่ป่า พอพ้น 7 วัน จึงออกจากที่ซ่อน เกิดความรู้สึกสำนึกถึงคุณค่าของธรรม แล้วตั้งใจปฏิบัติธรรม ทำให้ค่อยๆ กลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นโดยลำดับอีก
และเมื่อมนุษย์มีอายุ 80,000 ปี พระเจ้าจักรพรรดิพระองค์หนึ่ง พระนามว่าสังขะ จะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์ทรงประพฤติจักรวรรดิวัตรอย่างเคร่งครัด ทำให้บ้านเมืองของพระองค์เจริญรุ่งเรือง กว้างขวาง อาณาจักรของพระองค์มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่กรุงพาราณสี แต่จะมีชื่อว่าเกตุมดีราชธานี มีประชากรหนาแน่น ในสมัยนั้น พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า เมตไตรย จะเสด็จอุบัติขึ้นในโลก จะทรงสั่งสอนธรรมและบริหารการคณะสงฆ์อย่างเดียวกับพระองค์ในบัดนี้ ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงทรงสอนให้พึ่งตนพึ่งธรรมโดยการเจริญสติปัฏฐาน 4 และประพฤติธรรมอันเป็นโคจร ซึ่งสืบเนื่องมาจากบิดา ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ โภคะ และพละ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 01 Mar 2023 - 1h 09min - 302 - เห็นตรงตามพระสัทธรรม - สัมมาทิฏฐิสูตร [6608-4s]
ท่านพระสารีบุตรได้อธิบายไว้ถึงลักษณะของสัมมาทิฏฐิ ที่มีแม่แบบตามนัยยะของอริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ อริยมรรค) โดยอธิบายไล่เรียงมาตามลำดับในแต่ละอาการของหลักปฏิจจสมุปบาท และประเด็นที่เมื่อได้ฟังแล้วจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ก็คือแนวทางการอธิบายที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากที่พระพุทธเจ้าได้ทรงอธิบายเอาไว้สุดจบที่อวิชชา โดยได้อธิบายต่อไปจนถึงอาสวะ ซึ่งทำให้มีความเห็นตรงโดยสัมมาทิฏฐิว่าอาสวะและอวิชชานั้นมีความเกี่ยวข้องกัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 22 Feb 2023 - 58min - 301 - พุทธประวัติ ตอน หลังการตรัสรู้และแสดงธรรม [6607-4s]
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ #4 หลังจากตรัสรู้แล้วทรงอยู่ที่ตำบลอุรุเวลา ใกล้ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ที่ต้นไทร มีเหตุการณ์ตามลำดับ ดังนี้ ทรงคิดหาที่พึ่งสำหรับพระองค์เอง ทรงมีความคิดว่า ธรรมใดที่ทรงตรัสรู้แล้ว พึงสักการะเคารพธรรมนั้น เข้าไปอาศัยธรรมนั้น ทรงถูกพวกพราหมณ์ตัดพ้อ ว่าไม่ทรงอภิวาท ไม่ลุกรับ พราหมณ์ผู้แก่ผู้เฒ่า ทรงอธิบายธรรมที่ทำให้คนเราเป็นเถระ มารทูลให้นิพพาน ทรงตรัสว่า จะไม่ปรินิพพาน จนกว่า สาวกของพระองค์จะเป็นผู้ฉลาด ฯลฯ และศาสนานี้ตั้งมั่น รุ่งเรือง แผ่ไพรศาล ฯลฯ ทรงท้อพระทัยในการแสดงธรรม จิตน้อมไปเพื่อการขวนขวายน้อย พรหมอาราธนาให้ทรงแสดงธรรม เพราะสัตว์ที่มีธุลีในดวงตาแต่เล็กน้อยมีอยู่ ทรงเห็นสัตว์ดุจดอกบัว 3 เหล่า คือ จมอยู่ในน้ำ ตั้งอยู่เสมอพื้นน้ำ และโผล่ขึ้นพ้นน้ำ ทรงแสดงธรรม เพราะเห็นความจำเป็นของสัตว์บางพวก คือ พวกที่เมื่อได้เห็น และได้ฟังธรรมจึงเข้ามาสู่คลองแห่งกุศลธรรมทั้งหลายได้ ทรงเห็นลู่ทางที่จะช่วยเหลือปวงสัตว์ ซึ่งเป็นหนทางเครื่องไปทางเดียว เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง คือ สติปัฏฐาน 4 ทรงระลึกหาผู้รับปฐมเทศนา คือ ปัญจวัคคีย์ ซึ่งอยู่ที่เมืองพาราณสี ทรงเสด็จพาราณสี พบอุปกาชีวก ทรงโปรดปัญจวัคคีย์ และแสดงปฐมเทศนา ทรงประกาศธรรมจักรที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ครั้งนั้น ท่านโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรม
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 15 Feb 2023 - 1h 01min - 300 - คนเราเปลี่ยนแปลงได้-อังคุลิมาลสูตร และทีฆาวุวัตถุ [6606-4s]
สูตร#1 อังคุลิมาลสูตร พระพุทธเจ้าทรงเสด็จไปโปรดโจรองคุลีมาลซึ่งเป็นมหาโจร ผู้โหดร้าย ตัดนิ้วมือคนที่ตนฆ่าแล้วร้อยเป็นพวงมาลัยสวมคอไว้ สมัยนั้น ทรงออกบิณฑบาต เมื่อโจรองคุลีมาลเห็นพระพุทธเจ้าคิดจะปลงพระชนม์ จึงถือดาบและธนูติดตามไปเบื้องหลัง ทรงบันดาลอิทธาภิสังขารมิให้โจรองคุลีมารตามไม่ทัน องคุลิมาลหยุดยืนและกล่าวว่า “หยุดก่อนสมณะ หยุดก่อนสมณะ” ทรงตรัสว่า “เราหยุดแล้ว องคุลิมาล ท่านต่างหากจงหยุด” โจรองคุลีมาลสงสัยว่า ทรงดำเนินอยู่ แต่กลับตรัสว่าหยุด จึงทูลถามสาเหตุที่ตรัสเช่นนั้น ทรงตรัสว่า ทรงวางอาชญาในสรรพสัตว์ได้แล้วจึงชื่อว่า หยุดแล้วตลอดกาล ส่วนโจรองคุลีมาลไม่สำรวมในสัตว์ทั้งหลายจึงชื่อว่า ไม่หยุด องคุลีมาลรู้ว่าทรงเสด็จมาอนุเคราะห์จึงทิ้งดาบและอาวุธ แล้วทูลขอบรรพชา ต่อมาได้หลีกออกไปอยู่ผู้เดียว บำเพ็ญเพียรจนบรรลุเป็นพระอรหันต์
สูตร#2 ทีฆาวุวัตถุ ว่าด้วย ฑีฆาวุกุมาร พระเจ้าพรหมทัต แห่งนครพาราณสี ยกทัพไปตีพระเจ้าทีฆีติ ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่มีทรัพย์และกำลังพลน้อยกว่า จึงพามเหสีหนีออกมาด้วยการปลอมตัวเป็นปริพาชกแล้วเข้าไปอาศัยอยู่ที่บ้านช่างหม้อที่ชานเมืองแห่งหนึ่งในนครพาราณสี หลังจากนั้น พระมเหสีก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายชื่อว่าทีฆาวุราชกุมาร พระเจ้าทีฆีติส่งบุตรชายไปไว้นอกเมือง ด้วยเกรงว่าหากพระเจ้าพรหมทัตรู้ จะสั่งประหารชีวิตทั้งสามพระองค์
ต่อมา พระเจ้าพรหมทัตจับพระเจ้าทีฆีติและภรรยาได้ ก็สั่งให้มัดประจานรอบเมืองแล้วประหารเสีย ทีฆาวุราชกุมารมาเห็นเข้า พระเจ้าทีฆีติกได้ตะโกนสั่งเสียบุตรว่า “พ่อทีฆาวุ เจ้าอย่าเห็นแก่ยาวอย่าเห็นแก่สั้น เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร แต่ระงับได้ด้วยการไม่จองเวร” ภายหลัง ทีฆาวุราชกุมารได้เป็นคนสนิทของพระเจ้าพรหมทัต และมีโอกาสที่จะสามารถฆ่าพระเจ้าพรหมทัตได้ แต่นึกถึงคำสั่งเสียของพ่อ ตัดสินใจไม่ลงมือทำ ได้เล่าความจริงให้พระเจ้าพรหมทัตฟัง ทั้งคู่ให้ชีวิตกันและกัน และพระเจ้าพรหมทัตได้ยกแผ่นดินและทรัพย์สินเดิมของพระเจ้าทีฆีติคืนให้ทีฆาวุราชกุมาร พร้อมทั้งยกธิดาของตนให้อภิเษกสมรสด้วย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 08 Feb 2023 - 1h 01min - 299 - ลักษณะของคนพาลและบัณฑิต - พาลบัณฑิตสูตร [6605-4s]
พาลบัณฑิตสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงตรัสลักษณะของคนพาล 3 ประการ คือ คิดแต่เรื่องชั่ว พูดแต่เรื่องชั่ว ทำแต่กรรมชั่ว คนพาลจึงได้รับทุกขโทมนัส 3 ประการ ในปัจจุบัน หลังจากตายไป จะไปเกิดในทุคติ วินิบาต นรก หรือไปเกิดในภูมิของสัตว์ดิรัจฉาน
ส่วนลักษณะของบัณฑิต 3 ประการคือ คิดแต่เรื่องดี พูดแต่เรื่องดี ทำแต่กรรมดี จึงได้รับสุขโสมนัส 3 ประการ ในปัจจุบัน หลังจากตายไป ก็จะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่น่าปรารถนา หรือถ้าไปเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะเกิดในตระกูลสูง มีทรัพย์มาก มีรูปงามน่าดูน่าเลื่อมใส
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 01 Feb 2023 - 59min - 298 - พุทธประวัติ ตอน ปฏิบัติตามทางสายกลาง [6604-4s]
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ #3 ปฏิบัติตามทางสายกลาง เมื่อทรงแน่พระทัยว่าไม่อาจตรัสรู้เพราะการทำทุกรกิริยา ทรงระลึกได้ว่า เมื่องานแรกนาแห่งพระบิดา ทรงนั่งอยู่ใต้ร่มไม้หว้า ทรงบรรลุปฐมฌาน นี่คงเป็นหนทางแห่งการตรัสรู้ จึงทรงหันหาทางสายกลาง กลับพระทัยฉันอาหารหยาบ เมื่อทรงฉันอาหารหยาบ ปัญจวัคคีย์ผู้คอยบำรุงอยู่พากันหน่ายหลีกไป ด้วยคิดว่าทรงเป็นคนมักมาก จากนั้นทรงเล่าเหตุการณ์ขณะทำความเพียรก่อนการตรัสรู้ คือ ทรงเกิดความรู้สึกว่า พึงทำวิตกให้เป็นสองส่วนและคอยควบคุม ได้ทรงทำลายความขลาดกลัว ทรงกลั้นจิตจากกามคุณในอดีต ทรงคิดค้นวิธีแห่งอิทธิบาท ทรงค้นห่วงโซ่แห่งทุกข์ ทรงเจริญอานาปานสติ ทรงแก้ปัญหาสมาธิเสื่อม ทรงพยายามในอธิเทวญาณทัศนะเป็นขั้นๆ ได้ทรงฝันครั้งสำคัญ (มหาสุบิน) 5 อย่าง และทรงอธิษฐานทำความเพียร
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 25 Jan 2023 - 1h 12min - 297 - พุทธประวัติ ตอนทรงทำทุกรกิริยา [6603-4s]
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ #2 เมื่อทรงบวชแล้ว ทรงแสวงหาว่า อะไรเป็นกุศล ทรงเสด็จสำนักอาฬารดาบส และอุทกดาบส เพื่อทรงประพฤติพรหมจรรย์ ทรงได้สมาบัติแปด แต่ทรงไม่พอใจ เบื่อจากธรรมนั้น เพราะธรรมนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย ฯลฯ นิพพาน จึงทรงหลีกไป ทรงเสด็จต่อไปถึงตำบลอุรุเวลาเสนานิคม และทรงตั้งความเพียร ณ ที่ตำบลนี้ โดยทรงประพฤติอัตตกิลมถานุโยค (วัตรของเดียรถีย์ อันประกอบด้วยองค์ 4) คือ การบำเพ็ญความเพียรเพื่อทรมานตนเอง และทำทุกรกิริยา
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 18 Jan 2023 - 57min - 296 - พุทธประวัติ ตอนก่อนออกผนวช [6602-4s]
พุทธประวัติจากพระโอษฐ์ เรื่องเริ่มแต่การเกิดแห่งวงศ์สากยะ การก้าวลงสู่ครรภ์ การประสูติ ประกอบด้วยมหาปุริสลักขณะ 32 บุพกรรมของการได้มหาปุริสลักขณะ ความรู้สึกที่ถึงกับทำให้ออกผนวช และออกผนวชเมื่อพระชนม์ 29 ปี
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 11 Jan 2023 - 56min - 295 - ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน-ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร และอนัตตลักขณสูตร [6601-4s]
สูตร#1 ตอน ทรงบำเพ็ญทุกรกิริยา
สูตร#2 ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ว่าด้วยการประกาศพระธรรมจักร ทรงแสดงแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตรัสว่า ที่สุด 2 ประการ ที่บรรพชิตไม่ควรเสพ คือ กามสุขัลลิกานุโยคและอัตตกิลมถานุโยค แล้วทรงแสดงมัชฌิมาปฏิทา คือ มรรคมีองค์ 8 ว่าควรเสพ ทรงแสดงอริยสัจ 4 ประการ และญาณทัสสนะมีวน 3 รอบ มี 12 อาการ ตรัสว่า ญาณทัสสนะของพระองค์ในเรื่องอริยสัจ 4 ประการนี้ หมดจดดีแล้วจึงทรงประกาศยืนยันการตรัสรู้ของพระองค์ เมื่อทรงแสดงจบลง ท่านพระโกณฑัญญะได้ธรรมจักษุ (ดวงตาเห็นธรรม) เป็นพระอริยบุคคลองค์แรกของโลก
สูตร#3 อนัตตลักขณสูตร ว่าด้วยลักษณะแห่งอนัตตา ทรงแสดงแก่ภิกษุปัญจวัคคีย์ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ตรัสว่า ขันธ์ 5 เป็นอนัตตา เป็นไปเพื่ออาพาธ บังคับให้เป็นไปตามใจไม่ได้ และทรงสอนให้พิจารณาขันธ์ 5 ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง พระปัญจวัคคีย์ก็มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ครั้งนั้น มีพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก 6 องค์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 04 Jan 2023 - 56min - 294 - การบันลือสีหนาท-จูฬสีหนาทสูตร และเวรัญชกสูตร [6552-4s]
สูตร#1 จูฬสีหนาทสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า พระองค์ และภิกษุสงฆ์มีลาภสักการะเกิดขึ้นเป็นอันมาก แต่พวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกกลับเสื่อมลาภสักการะ พากันร้องไห้คร่ำครวญไปตามท้องถนน พระองค์จึงตรัสสอนให้ภิกษุบันลือสีหนาทโดยชอบว่า สมณะที่ 1 ถึงที่ 4 (โสดาบันถึงอรหันต์) มีในพระศาสนานี้เท่านั้น จากนั้นทรงอธิบายว่า ถ้านักบวชลัทธิอื่นถามถึงเหตุผลที่กล่าวอย่างนี้ พึงอ้างธรรม 4 ประการ คือ ความเลื่อมใสในศาสดา ในพระธรรม บำเพ็ญศีลได้บริบูรณ์ และผู้ร่วมประพฤติธรรมทั้งคฤหัสถ์ และบรรพชิตเป็นที่รักที่พอใจของเรา จากนั้นทรงแสดงเรื่องทิฏฐิ 2 ประการ ที่สมณะหรือพราหมณ์ยึดติด คือ ภวทิฏฐิ (หมายถึง สัสสตทิฏฐิ ความเห็นว่าเที่ยง) วิภวทิฏฐิ (หมายถึงอุจเฉททิฏฐิ ความเห็นว่าขาดสูญ) และทรงแสดงอุปาทาน (ความยึดมั่นถือมั่น) 4 อย่าง คือ กามุปาทาน (ความยึดมั่นในกาม) ทิฏฐุปาทาน (ทิฏฐิ) สีลัพพตุปาทาน (ศีล และวัตร) และอัตตวาทุปาทาน (วาทะว่าอัตตา) ที่สมณพราหมณ์ทั้งหลายมักอ้างว่า รอบรู้อุปาทานทุกอย่าง แต่ก็ไม่บัญญัติการกำหนดรู้อุปาทานทั้งปวงจริง บัญญัติไว้เพียงประการใดประการหนึ่งเท่านั้น ในตอนท้าย ทรงอธิบายหลักปฏิจจสมุปบาทเริ่มต้นด้วยอุปาทานว่า อุปาทาน 4 ประการดังกล่าวเกิดจากตัณหา ฯลฯ สังขารเกิดจากอวิชชา เมื่อละอวิชชาได้ วิชชาเกิดขึ้น อุปาทานทั้ง 4 ประการ ก็ไม่เกิดขึ้น เมื่อไม่ยึดมั่นก็ปรินิพพานเฉพาะตน
สูตร#2 เวรัญชกสูตร ทรงแสดงแก่พวกพราหมณ์ และคหบดีชาวเมืองเวรัญชาที่มาทำธุรกิจบางอย่างในกรุงสาวัตถี ขณะประทับ ณ เชตวัน ที่มาเข้าเฝ้า และได้ทูลถามปัญหาเรื่องเหตุที่ทำให้สัตว์ไปเกิดในทุคติ และสุคติ ตรัสตอบว่า พวกที่เข้าถึงอบาย ฯลฯ เพราะประพฤติอธรรม คือ อกุศลกรรมบท 10 และประพฤติไม่สม่ำเสมอ ส่วนพวกที่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะประพฤติธรรม คือ กุศลกรรมบท 10 และประพฤติสม่ำเสมอ แล้วทรงแสดงในรายละเอียด เมื่อทรงแสดงจบ ชาวเมืองเวรัญชาขอถึงพระรัตนตรัยไปจนตลอดชีวิต (ทรงแสดงหมวดธรรมนี้ไว้ในสาเลยกสูตร)
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 28 Dec 2022 - 54min - 293 - เสขธรรม และอเสขธรรม-สมณมุณฑิกสูตร โจทนาสูตร และวุฏฐิสูตร [6551-4s]
สูตร#1 สมณมุณฑิกสูตร ทรงแสดงแก่ช่างไม้ชื่อปัญจกังคะ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภข้อบัญญัติเรื่องคุณสมบัติของผู้เป็นสมณะของอุคคาหมานปริพาชก ซึ่งช่างไม้ปัญจกังคะนำเข้าไปกราบทูลให้ทรงทราบ อุคคาหมานะกล่าวถึงข้อบัญญัติของตนว่า บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการเป็นผู้มีกุศลเพียบพร้อม มีกุศลยอดเยี่ยม เป็นสมณะผู้บรรลุธรรมขั้นสูงที่ควรบรรลุ ไม่มีใครสู้วาทะได้ ธรรม 4 ประการ คือ ไม่ทำกรรมชั่วทางกาย ทางวาจา ไม่ดำริความดำริชั่ว และไม่ประกอบอาชีพชั่ว ทรงตรัสว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เด็กอ่อนที่ไม่รู้จักกรรมชั่ว ไม่เคยทำกรรมชั่วก็จะกลายเป็นผู้มีกุศลเพียบพร้อม ทรงไม่ยอมรับการบัญญัติเช่นนั้น แล้วทรงแสดงเสขธรรม (ธรรมสำหรับผู้เป็นพระเสขะ) คือ ความรู้เรื่องศีล และความดำริ ทั้งฝ่ายกุศลและอกุศล พร้อมทั้งสมุฏฐานความดับและข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งศีลและดำริ และอเสขธรรม (ธรรมของพระอเสขะ) คือ อเสขธรรม 10 ประการ
สูตร#2 โจทนาสูตร ท่านพระสารีบุตรแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยคุณสมบัติของผู้เป็นโจทก์ แสดงว่า ภิกษุผู้เป็นโจทก์ควรมีธรรม 5 ประการ เพื่อไม่ให้มีวิปปฏิสาร (ความเดือดร้อนใจ) แก่ทั้งผู้โจทก์ และผู้ถูกโจทก์ ธรรม 5 ประการได้แก่ กล่าวในกาลอันควร กล่าวถ้อยคำจริง กล่าวถ้อยคำอ่อนหวาน กล่าวถ้อยคำมีประโยชน์ และกล่าวด้วยเมตตาจิต
สูตร#3 วุฏฐิสูตร ว่าด้วยการบันลือสีหนาทของท่านพระสารีบุตร พระพุทธเจ้าขณะประทับอยู่ ณ พระเชตวัน ภิกษุรูปหนึ่งกราบทูลว่าท่านพระสารีบุตรกระทบตนแล้วไม่ขอโทษก่อนจาริกไป จึงรับสั่งให้ตามท่านพระสารีบุตรมา ระหว่างนั้น พระมหาโมคคัลลานะและพระอานนท์ได้ป่าวประกาศเชิญชวนให้คนไปฟังท่านพระสารีบุตรบันลือสีหนาท ณ เบื้องพระพักตร์ พระสารีบุตรบันลือสีหนาทว่า ภิกษุที่ไม่ตั้งกายคตาสติไว้ในกายเท่านั้นที่กระทบเพื่อนพรหมจารีแล้วไม่ขอโทษก่อนจากไป แต่ท่านไม่มีความประพฤติเช่นนั้น และได้ยกอุปมาอุปมัยเปรียบเทียบการวางจิตของท่าน เมื่อแสดงธรรมจบ ภิกษุรูปนั้นรู้ว่าตนผิดจึงกราบขอโทษท่านพระสารีบุตร
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 21 Dec 2022 - 1h 01min - 292 - วิธีและอานิสงส์แห่งการเจริญกายคตาสติ-กายคตาสติสูตร และอานาปานสังยุต [6550-4s]
กายคตาสติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำกราบทูลของภิกษุ ผู้กำลังนั่งสนทนาเรื่องกายคตาสติที่ทรงตรัสไว้ว่า เมื่อภิกษุเจริญให้มากแล้ว จะมีผลมาก มีอานิสงส์มาก จึงทรงอธิบายวิธีเจริญกายคตาสติให้ฟังโดยละเอียด ซึ่งมีทั้งหมด 18 วิธี และทรงแสดงอานิสงส์ของการเจริญไว้ 10 ประการ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 14 Dec 2022 - 56min - 291 - การตรวจสอบการพยากรณ์อรหัตตผล-สุนักขัตตสูตร และฉวิโสธนสูตร [6549-4s]
สูตร#1 สุนักขัตตสูตร ทรงแสดงแก่เจ้าสุนักขัตตะ ลิจฉวีบุตร ขณะประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน เขตกรุงเวสาลี ทรงปรารภคำถามเจ้าสุนักขัตตะ เรื่องการพยากรณ์อรหัตตผลของภิกษุจำนวนมากที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้าว่า ภิกษุเหล่านั้นพยากรณ์อรหัตตผลถูกต้องตามความเป็นจริง หรือตามที่ตนเข้าใจเอาเองว่าได้บรรลุ ตรัสตอบว่ามีทั้งสองประเภท แต่ประเภทที่สำคัญผิดว่าได้บรรลุ ก็ทรงคิดว่าจักแสดงธรรมแก่ภิกษุเหล่านั้น ส่วนผู้ที่แต่งปัญหาเข้ามาถาม แม้ทรงคิดว่าจะแสดงธรรมแก่เขา ความคิดนั้นก็เป็นอย่างอื่น เมื่อสุนักขัตตะกราบทูลขอให้ทรงแสดงธรรมเพื่อภิกษุทั้งหลายจะได้ทรงจำไว้ จึงทรงแสดงเรื่องกามคุณ 5 และทรงแสดงฐานะที่เป็นไปได้ 7 ประการ โดยละเอียด และอุปมาอุปไมยประกอบ เมื่อทรงแสดงจบ เจ้าสุนักขัตตะเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
สูตร#2 ฉวิโสธนสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน เพื่อให้ภิกษุรู้จักหลักการตรวจสอบการพยากรณ์อรหัตตผล ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ตรัสว่า ถ้ามีเพื่อนภิกษุพยากรณ์อรหัตตผล ก็อย่าเพิ่งยินดี อย่าเพิ่งคัดค้าน แต่ควรตรวจสอบก่อน หลักการตรวจสอบมี 6 ข้อ คือ ให้สอบถามว่า รู้เห็นอย่างไรในโวหาร 4 รู้เห็นอย่างไรในขันธ์ 5 ที่ยึดถือ รู้เห็นอย่างไรในธาตุ 6 รู้เห็นอย่างไรในอายตนะ 12 ประการ รู้เห็นอย่างไรในกายที่มีวิญญาณครอง รู้เห็นอย่างไรในนิมิตทั้งปวงภายนอก จิตจึงหลุดพ้นจากอาสวะ ถอนอหังการ มมังการ และมานานุสัยเสียได้ จนได้อาสวักขยญาณ คือ ญาณอันทำอาสวะให้สิ้นเป็นที่สุด และรู้ชัดอริยสัจ 4 แล้วจึงชื่นชมยินดีกับภิกษุนั้นว่า เป็นผู้อยู่จบพรหมจรรย์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 07 Dec 2022 - 1h 04min - 290 - วิธีและผลานิสงส์แห่งการเจริญอานาปานสติ-อานาปานสติสูตร และอานาปานสังยุต [6548-4s]
สูตร#1 อานาปานสติสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ซึ่งประกอบด้วยภิกษุผู้บวชใหม่ และพระเถระผู้มีชื่อเสียงหลายรูป นั่งแวดล้อมพระองค์ ณ ที่กลางแจ้งใกล้ปราสาทของนางวิสาขามิคารมาตา ในบุพพาราม กรุงสาวัตถี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ อันเป็นวันครบ 4 เดือนแห่งฤดูฝน เป็นเดือนที่มีดอกโกมุท ทรงตรวจดูภิกษุสงฆ์ ซึ่งนิ่งเงียบอยู่ และตรัสว่า ในหมู่ภิกษุนี้ มีภิกษุที่เป็นพระอริยเจ้า และภิกษุผู้ทำความเพียรในการเจริญหลักธรรมต่างๆ อยู่ จึงได้ทรงแสดงหลักการเจริญ หลักธรรม 3 หมวดที่ทำให้ได้ผลมาก และมีอานิสงส์มาก คือ อานาปานสติ 16 ขั้น สติปัฏฐาน 4 และโพชฌงค์ 7 โดยลำดับแห่งเหตุและผล ที่ทำให้บรรลุผลคือวิชชา และวิมุตติได้สมบูรณ์
สูตร#2 อานาปานสังยุต และผลานิสงส์ 7 ประการ แห่งการเจริญอานาปานสติ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 30 Nov 2022 - 1h 05min - 289 - หนทางสู่พรหมโลก - มหาโควินทสูตร(ตอนที่ 2)[6547-4s]
มหาโควินทสูตร#2 พระเจ้าทิสัมบดีได้แต่งตั้งโชติปาลมานพให้ดำรงตำแหน่งแทนบิดาไว้ในตำแหน่งโควินทพราหมณ์ ได้ถวายคำปรึกษาอรรถคดี และจัดแจงการงานต่างๆได้เรียบร้อย จึงมีสมญาว่า โควินทะ ต่อมาเมื่อพระเจ้าทิสัมบดีสวรรคต เรณุราชกุมารผู้เป็นพระราชโอรส และเป็นพระสหายของโควินทะขึ้นเสวยราชย์ ก็ตรัสสั่งโควินทะให้แบ่งราชสมบัติออกเป็น 7 ส่วน ส่วนหนึ่งเพื่อพระองค์ อีก 6 ส่วนเพื่อกษัตริย์ราชกุมารอื่น ๆ ที่เป็นพระสหายรัก โควินทะได้เป็นที่ปรึกษาแด่พระมหากษัตริย์ทั้งเจ็ดแคว้นนั้น ต่อมา มหาโควินทะมีกิตติศัพท์อันงามขจรไปว่า มหาโควินทะสามารถมองเห็นพระพรหม สามารถสนทนาปราศรัยปรึกษากับพระพรหมได้ แต่ในความจริงท่านไม่เคยเห็นพระพรหมและไม่เคยสนทนาปราศรัยกับพระพรหม จึงคิดว่า จะไปหลีกเร้น เพ่งกรุณาฌานตลอด 4 เดือนในฤดูฝน ตามคำของพราหมณ์ผู้เป็นอาจารย์ว่า จะสามารถเห็นและสนทนาปราศรัยกับพระพรหมได้ จึงไปหลีกเร้นอยู่ตลอด 4 เดือน ก็ยังไม่เห็นพระพรหม จึงเกิดความระอาท้อแท้ สนังกุมารพรหมทราบความคิด จึงมาปรากฏตัว ได้สนทนากันและออกบวชประพฤติพรหมจรรย์เพื่อไปเกิดในพรหมโลกตามคำแนะนำของสนังกุมารพรหม ได้สั่งสอนธรรมแก่คนทั้งหลาย หลังจากถึงแก่มรณภาพไปเกิดในพรหมโลก
เมื่อปัญจสิขะกราบทูลจบ ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ทรงระลึกเรื่องนั้นได้หรือไม่ ทรงตรัสว่า ทรงระลึกได้ พระองค์เองได้เสวยพระชาติเป็นมหาโควินทพราหมณ์ในครั้งนั้น แต่ในครั้งนั้น ทรงชี้ทางแก่สาวกเพียงแค่ที่จะไปอยู่ร่วมกับพรหมได้ แต่ในชาตินี้ทรงแสดงมรรค 8 อันเป็นไปเพื่อพระนิพพาน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 23 Nov 2022 - 58min - 288 - พระคุณ 8 ประการ - มหาโควินทสูตร(ตอนที่ 1)[6546-4s]
มหาโควินทสูตร ตอนที่ 1 ทรงแสดงแก่ปัญจสิขะ คนธรรพบุตร ขณะประทับอยู่ภูเขาคิชกูฏ กรุงราชคฤห์ ทรงปรารภคำกราบทูลของปัญจสิขะ เรื่องการประชุมของพวกเทพชั้นดาวดึงส์ ณ เทวสภาชื่อสุธัมมา ในวันอุโบสถขึ้น 15 ค่ำ ซึ่งมีท้าวสักกะจอมเทพเป็นประธาน ได้ตรัสสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่า ทรงทำให้หมู่เทพเจริญเต็มที่ หมู่อสูรเสื่อมถอยลง และท้าวสักกะได้กล่าวสรรเสริญพระคุณของพระพุทธเจ้า 8 ประการให้พวกเทพฟัง ต่อมาสนังกุมารพรหมได้มาปรากฏต่อเทพชั้นดาวดึงส์ ได้ตรัสเล่าเรื่องอดีตชาติของพระพุทธเจ้าที่เกิดมาเป็นพราหมณ์ ชื่อ มหาโควินทะ ซึ่งเป็นปุโรหิตของพระเจ้าเรณุ ทำหน้าที่ถวายคำปรึกษาอรรถคดีและสามารถจัดแจงการงานต่างๆ ได้เรียบร้อย จนคนทั้งหลายขนานนามว่า มหาโควินทพราหมณ์ ซึ่งต่อมาได้มีชื่อเสียงขจรไปว่า สามารถมองเห็นพระพรหมและสนทนาปราศรัยปรึกษาพระพรหมได้ แต่จริงๆทำไม่ได้ จึงมีความคิดว่าจะไปหลีกเร้น เพื่อที่จะให้เห็นพระพรหมได้ คุยได้ ซึ่งต้องใช้การเจริญกรุณาภาวนาตลอดฤดูฝน 4 เดือน ตามคำของพราหมณ์ผู้แก่ ผู้เฒ่า ผู้เป็นอาจารย์ และผู้เป็นปาจารย์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 16 Nov 2022 - 55min - 285 - ผลแห่งความประพฤติสม่ำเสมอ-อัฏฐกนาครสูตร และสาเลยยกสูตร [6545-4s]
สูตร#1 อัฏฐกนาครสูตร ท่านพระอานนท์แสดงแก่ทสมคหบดีชาวอัฏฐกนคร ณ เวฬุวคาม เขตกรุงเวสาลี ปรารภคำถามที่ทสมะเรียนถามพระอานนท์ว่า ธรรมอันเป็นเอกซึ่งเป็นที่หลุดพ้นแห่งจิตที่ยังไม่หลุดพ้น เป็นที่ถึงความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลายที่ยังไม่สิ้นไป ฯลฯ ที่พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบแล้ว มีอยู่หรือไม่ ท่านพระอานนท์ตอบว่ามีอยู่ และอธิบายว่าได้แก่ธรรมต่อไปนี้ คือ รูปฌาน 4 อัปปมัญญา 4 อรูปฌาน 3 และให้พิจารณาเห็นความไม่เที่ยงและดับไปของธรรมนั้น เมื่อแสดงจบ ทสมคฤหบดีชื่นชมภาษิตของพระอานนท์ว่า ตนแสวงหาประตูอมตธรรมประตูเดียว แต่ได้พบถึง 11 ประตู เปรียบเหมือนคนแสวงหาแหล่งขุมทรัพย์แห่งเดียว แต่ได้พบแหล่งขุมทรัพย์ถึง 11 ขุม ทสมะได้นิมนต์ภิกษุสงฆ์ และถวายอาหาร ถวายผ้าไตรพระอานนท์ และได้ให้สร้างวิหาร 500 หลังถวายพระอานนท์
สูตร#2 สาเลยยกสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์และคหบดีทั้งหลาย ณ หมู่บ้านพราหมณ์ชื่อสาลา เพื่อตอบปัญหาของพราหมณ์และคหบดี ซึ่งได้ยินกิตติศัพท์ของพระพุทธเจ้าได้พากันไปเฝ้ากราบทูลถามเหตุปัจจัย ที่ทำให้สัตว์บางพวกตายแล้วเข้าถึงอบาย ทุคคติ วินิบาต นรก และสัตว์บางพวกตายแล้ว เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ตรัสตอบว่า พวกที่เข้าถึงอบาย ฯลฯ เพราะประพฤติอธรรม คือ อกุศลกรรมบท 10 และประพฤติไม่สม่ำเสมอ ส่วนพวกที่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะประพฤติธรรม คือ กุศลกรรมบท 10 และประพฤติสม่ำเสมอ แล้วทรงแสดงในรายละเอียด เมื่อทรงตรัสจบ ชาวบ้านสาลาได้ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 09 Nov 2022 - 52min - 284 - ทำมารให้ตาบอด-นิวาปสูตร เทวาสุรสังคามสูตร และมาคัณฑิยสูตร [6544-4s]
สูตร#1 นิวาปสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงตรัสว่า พรานเนื้อที่ปลูกหญ้าไว้ในทุ่งหญ้ามิได้หวังให้ฝูงเนื้อมากินเพื่อจะได้อายุยืน ผิวพรรณดี มีชีวิตอยู่นานแต่ปลูกไว้เพื่อล่อจับเนื้อ ทรงอธิบายว่า มีเนื้ออยู่ 4 ฝูง ฝูงเนื้อที่ 1-3 เป็นเนื้อที่ถูกพรานเนื้อและบริวารจับได้ ส่วนฝูงเนื้อที 4 พรานเนื้อและบริวารจับไม่ได้ อุปมาอุปไมยเปรียบเทียบนักบวช 4 ประเภทกับเนื้อ 4 ฝูง ซึ่งนักบวชประเภทที่ 1-3 นั้น ถูกมารทำอะไรๆ ได้ตามใจชอบ ส่วนนักบวชประเภทที่ 4 งดเว้นจากการบริโภคกามได้เด็ดขาดและไม่ยึดติดอยู่กับทิฏฐิใดๆ จึงเป็นผู้ข้ามพ้นโลกามิสได้ จึงพ้นจากเงื้อมมือมาร และทรงตรัสแสดงข้อปฏิบัติ คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ ที่มาร และบริษัทของมารมองไม่เห็น ข้ามพ้นตัณหาได้
สูตร#2 เทวาสุรสังคามสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยสงครามระหว่างเทวดากับอสูร ที่รบกันถึง 3 ครั้ง และพวกอสูรชนะทุกครั้ง พวกเทวดาที่พ่ายแพ้จึงหนีไปยังเทพบุรี พวกอสูรทำอะไรพวกเทวดาไม่ได้ ต่อมาเทวดากับอสูรรบกันอีก พวกอสูรพ่ายแพ้หนีไปยังอสูรบุรี พวกเทวดาทำอะไรพวกอสูรไม่ได้ ทำให้ต่างได้เครื่องป้องกันภัย ทรงเปรียบเทียบกับภิกษุได้บรรลุธรรมแต่ละอย่าง คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1 ทำให้ตนได้เครื่องป้องกันภัย มารทำอะไรภิกษุไม่ได้ ทำให้มารสิ้นสุดปิดตามารจนมองไม่เห็น ข้ามพ้นตัณหาได้
สูตร#3 มาคัณฑิยสูตร(บางส่วน) ทรงแสดงแก่มาคัณฑิยปริพาชก ทรงเปล่งอุทานว่า “ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง บรรดาทางทั้งหลายอันให้ถึงอมตธรรม ทางมีองค์ 8 เป็นทางอันเกษม"
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 02 Nov 2022 - 1h 00min - 283 - ที่นอนอันเป็นทิพย์-เวนาคปุรสูตร และเวขณสสูตร [6543-4s]
สูตร#1 เวนาคปุรสูตร ทรงแสดงแก่พราหมณ์ และคหบดีชาวเวนาคปุระ แคว้นโกศล ทรงปรารภคำกราบทูลของพราหมณ์วัจฉโคตร ที่กล่าวสรรเสริญถึงอินทรีย์ที่ผ่องใส พระฉวีวรรณที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของพระองค์เช่นนั้น การจะได้ที่นอนสูงใหญ่ คือ เตียงมีเท้าเกินประมาณ ฯลฯ เครื่องลาดมีหมอนข้าง ตามความปรารถนาได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบากแน่นอน ตรัสว่า ที่นอนสูงใหญ่ฯลฯบรรพชิตหาได้ยาก และถ้าได้มาก็ไม่สมควร แต่มีที่นอนสูง ที่นอนใหญ่ 3 อย่าง ที่ทรงได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก คือ ที่นอนฯลฯที่เป็นทิพย์ จากการได้ฌาณทั้ง 4 ที่นอน ฯลฯ ที่เป็นของพรหม จากการเจริญพรหมวิหาร ที่นอน ฯลฯ ที่เป็นของพระอริยะ จากการที่ละกิเลสได้เด็ดขาด เมื่อจบธรรมเทศนา พราหมณ์วัจฉโคตรทูลสรรเสริญและแสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
สูตร#2 เวขณสสูตร ทรงแสดงแก่ปริพาชกชื่อเวขณสะ ขณะประทับอยู่เชตวนาราม ได้เข้าไปเฝ้า ทูลเรื่อง “ วรรณะอันยอดเยี่ยม ” แต่ชี้ชัดลงไปไม่ได้ว่าวรรณะไหน เปรียบเหมือนชายคนหนึ่งปรารภถึงหญิงสาวอย่างนี้ว่า ‘เราปรารถนารักใคร่หญิงงามแห่งชนบทนี้’ แต่เมื่อถูกถามในรายละเอียดของหญิงนั้น กลับตอบว่า ไม่รู้จัก และได้ทรงเปรียบเทียบวรรณะเป็นคู่ให้เห็นว่ามีสิ่งที่เลิศกว่ากันเป็นชั้นๆ และตรัสอธิบายเรื่องของกาม ในสุขที่ลึกซึ้งขึ้นไป คือ สมาธิ และความงดงามลึกซึ้งถึงขั้นไม่มีอวิชชา เมื่อจบธรรมเทศนา เวขณสปริพพาชกทูลสรรเสริญ แสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
สูตร #3 เอสุการีสูตร ว่าด้วยเรื่องของวรรณะ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 26 Oct 2022 - 58min - 282 - ความประพฤติที่ผู้รู้ติเตียน-พาหิติกสูตร กรรณกัตถลสูตร ฐานสูตร และปิยชาติกสูตร [6542-4s]
สูตร#1 พาหิติกสูตร ว่าด้วยการถวายผ้าพาหิติกา (ผ้าที่ทอจากต่างแคว้น) ท่านพระอานนท์แสดงแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์ผู้ครองแคว้นโกศล ที่ได้ตรัสถามท่านพระอานนท์ว่า พระพุทธเจ้าทรงประพฤติ ทางกาย วาจา ใจ ที่ผู้รู้ติเตียนหรือไม่ พระอานนท์ตอบว่าไม่ทรงประพฤติ และตรัสถามว่า ความประพฤติที่ผู้รู้ติเตียนและผู้รู้ไม่ติเตียนเป็นอย่างไร ท่านพระอานนท์ได้ตอบว่า ความประพฤติที่ผู้รู้ติเตียน คือ ความประพฤติที่เป็นไปเพื่อเบียดเบียนตนเอง ผู้อื่น หรือทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทำให้อกุศลธรรมเจริญ กุศลธรรมเสื่อม ทรงละอกุศลธรรมทุกอย่าง ทรงประกอบด้วยกุศลธรรมส่วนความประพฤติที่ผู้รู้ไม่ติเตียนมีนัยตรงข้ามกัน เมื่อท่านพระอานนท์แสดงจบ พระเจ้าปเสนทิโกศลเกิดความเลื่อมใสทรงถวายผ้าพาหิติกาเพื่อบูชาธรรมแก่พระอานนท์ ซึ่งท่านได้นำไปถวายพระพุทธเจ้า
สูตร #2 กรรณกัตถลสูตร ทรงแสดงแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล ขณะประทับอยู่ ณ กัณณกัตถละ อุทัญญานคร แคว้นโกศล เพื่อทรงสนทนาธรรม เรื่องสัพพัญญู เรื่องวรรณะ 4 เรื่องเทวดาและพรหม โดยได้ทรงพยากรณ์ความเป็นสัพพัญญู ทรงตรัสถึงวรรณะ 4 จำพวกในสัมปรายภพไม่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับมีหรือไม่มีธรรม 5 ประการ และความเพียร เปรียบเหมือนสัตว์ที่ฝึกกับสัตว์ที่ไม่ได้ฝึก ตรัสตอบเรื่องเทวดาและพรหมที่มีความเบียดเบียน มีทุกข์จึงจะมาเกิดในมนุษยโลก
สูตร#3 ฐานสูตร (เพิ่มเติม) พระพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยฐานะที่ใครๆ ไม่พึงได้ มี 5 ประการ คือ อย่าแก่ อย่าเจ็บไข้ อย่าตาย อย่าสิ้นไป และอย่าฉิบหาย
สูตร#4 ปิยชาติกสูตร (เพิ่มเติม) ตอน ลูกชายคนเดียวของคหบดีตาย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 19 Oct 2022 - 57min - 281 - คนฝึกยาก สัตว์ฝึกง่าย-กันทรกสูตร และชีวกสูตร [6541-4s]
สูตร#1 กันทรกสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับอยู่ใกล้สระโบกขรณีชื่อคัคครา ทรงสนทนากับกันทรกปริพาชก และนายเปสสะ ปริพพาชกชื่อกันทรกะ กราบสรรเสริญว่า พระพุทธเจ้าทรงสามารถแนะนำภิกษุให้ปฏิบัติชอบได้ ทรงตรัสว่าเหตุที่ทำให้ภิกษุสงบ คือ พวกหนึ่งสงบเพราะเป็นอรหันตขีณาสพ พวกหนึ่งยังเป็นเสขบุคคลแต่สงบได้ เพราะเจริญสติปัฏฐาน 4 ประการ ซึ่งนายเปสสะก็เจริญสติปัฏฐานเช่นกัน ทรงตรัสถึงบุคคล 4 ประเภท ตรัสถามว่าชอบประเภทไหน นายเปสสะกราบทูลว่าชอบใจบุคคลประเภทที่ 4ให้เหตุผลแล้วทูลลากลับ จากนั้นได้ตรัสเรียกภิกษุมาแล้วทรงอธิบายบุคคล 4 ประเภทโดยละเอียด
สูตร#2 ชีวกสูตร ทรงแสดงแก่หมอชีวกโกมารภัจ ขณะประทับอยู่สวนมะม่วง กรุงราชคฤห์ หมอชีวกเข้าไปเฝ้ากราบทูลถามว่า ตนได้ฟังมาว่า พระสมณโคดมทรงทราบอยู่ ก็เสวยเนื้อสัตว์ที่เขาฆ่าเจาะจงถวายนั้นเป็นความจริงหรือไม่ ตรัสตอบว่า ไม่ตรงกับความจริง ทรงแสดงหลักการพิจารณาเนื้อที่ควรฉันและไม่ควรฉัน ทรงตรัสว่า ผู้ฆ่าสัตว์อุทิศพระตถาคตหรือสาวกของพระตถาคต ย่อมประสบสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมากโดยฐานะ 5 ประการ เมื่อจบพระธรรมเทศนา หมอชีวกแสดงตนเป็นอุบาสกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 12 Oct 2022 - 1h 01min - 280 - สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง-มหาสุทัสสนสูตร ตอนที่ 2 [6540-4s]
มหาสุทัสสนสูตร #2 ทรงแสดงว่า พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงเห็นว่า ผลดีต่างๆ เหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะผลแห่งกรรมดี คือ ทาน การให้ การฝึกจิต และการสำรวมจิต จึงทรงบำเพ็ญฌาน ได้บรรลุฌานที่ 1 ถึงฌานที่ 4 ทรงเจริญพรหมวิหาร 4 และทรงสั่งลดการเข้าเฝ้าให้น้อยลง เพื่อทรงมีเวลาอบรมทางจิตใจได้มากขึ้น เวลาล่วงไปหลายพันปี พระนางสุภัททา พระราชเทวีเป็นนางแก้ว ได้เสด็จมาเฝ้า ทรงเห็นว่าพระสวามีจะทรงสวรรคต จึงทรงขอร้องให้อยู่ต่อเพื่อเห็นแก่สมบัติ เห็นแก่ชีวิต แต่กลับตรัสตอบขอให้พระราชเทวีทรงขอร้องใหม่ในทางตรงกันข้าม เพราะการพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นของธรรมดา การตายของผู้มีความกังวล ห่วงใย เป็นทุกข์ และถูกติเตียน พระราชเทวีก็ทรงกรรเเสง แต่ทรงฝืนพระหฤทัย ขอร้องใหม่ ตามที่พระเจ้ามหาสุทัสสนะทรงแนะนำนั้น และต่อมาไม่นาน พระเจ้ามหาสุทัสสนะก็สวรรคต และเข้าถึงพรหมโลก
พระพุทธเจ้าทรงสรุปว่าพระเจ้ามหาสุทัสสนะสมัยนั้น คือ พระองค์เอง และทรงชี้ให้เห็นสัจธรรมว่า แม้ทรงพรั่งพร้อมสมบูรณ์ด้วยสมบัตินานาประการ แต่ก็ทรงใช้สอยเพียงบางส่วนเท่านั้น และทรงตรัสว่า สังขารเหล่านั้นทั้งปวงล่วงลับดับไป ผันแปรไปแล้ว สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สังขารทั้งหลายไม่ยั่งยืน สังขารทั้งหลาย ไม่น่ายินดี ข้อนี้จึงควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรจะหลุดพ้นไปจากสังขารทั้งปวงโดยแท้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 05 Oct 2022 - 58min - 279 - พระเจ้าจักรพรรดิ-มหาสุทัสสนสูตร (ตอนที่ 1) [6539-4s]
ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ขณะประทับใต้ควงไม้สาละคู่ในวันปรินิพพาน เพื่อทรงอธิบายให้เข้าใจ เหตุที่พระองค์เสด็จมาปรินิพพานที่กรุงกุสินารา ทรงปรารภคำกราบทูลพระอานนท์ว่า อย่าได้ปรินิพพานที่กุสินารา ซึ่งเป็นเมืองเล็กนี้ ขอเสด็จไปในเมืองใหญ่ ทรงตรัสห้ามไม่ให้พูดอย่างนั้น แล้วทรงเล่าเรื่องในอดีตของกรุงกุสินารา เคยเป็นราชธานีของพระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่า มหาสุทัสสนะ ผู้ครอบครองมหาอาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาล และมีกรุงกุสาวดี คือกรุงกุสินาราในบัดนี้เป็นเมืองหลวง มีประชากรหนาแน่น เจริญรุ่งเรืองมาก พระเจ้ามหาสุทัสสนะ ทรงมีรัตนะหรือแก้ว 7 ประการ และทรงสมบูรณ์ด้วยพระฤทธิ์ (ความสำเร็จ 4 ประการ) นอกจากนี้ยังมีปราสาท ราชมนเทียร สระโบกขรณี และราชทรัพย์อื่นๆ อีกมาก ทรงเพียบพร้อมบริบูรณ์ด้วยคุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติเหล่านี้ เพราะกรรมดีของพระองค์ คือ ทาน การข่มใจ และการสำรวม ทรงเจริญฌานสมาบัติ และพรหมวิหาร
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 28 Sep 2022 - 58min - 278 - การปฏิบัติธรรม-มหาธัมมสมาทานสูตร และจูฬธัมมสมาทานสูตร [6538-4s]
สูตร#1 จูฬธัมมสมาทานสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน เพื่อให้ภิกษุทราบว่าการสมาทานธรรมมี 4 แบบ ซึ่งการสมาทานธรรม หมายถึง การนำธรรมมาปฏิบัติ โดยทรงอธิบายแต่ละแบบโดยละเอียด และยกอุปมาโวหารประกอบ ทรงถือเอาความทุกข์และความสุขในขณะปฏิบัติ กับความทุกข์และความสุขที่เป็นผลแห่งการปฏิบัติเป็นเกณฑ์ เกณฑ์สูงสุด คือ ความสุขในสุคติโลกสวรรค์
สูตร#2 มหาธัมมสมาทานสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน ทรงยกการสมาทานธรรม 4 แบบ ดังที่แสดงไว้ในจูฬธัมมสมาทานสูตร แต่ทรงแยกอธิบาย คือ บุคคลผู้ไม่รู้จักการสมาทานธรรมทั้ง 4 แบบตามความเป็นจริง ชื่อว่าตกอยู่ในอวิชชา ทำให้ไม่รู้ว่าสิ่งไหนควรเสพ สิ่งไหนไม่ควรเสพ ธรรมที่ไม่น่าปรารถนา เป็นต้น เจริญขึ้น ธรรมที่น่าปรารถนา เป็นต้น เสื่อมไป แต่ถ้ารู้การสมาทานธรรมทั้ง 4 แบบตามเป็นจริง ชื่อว่ามีวิชชา ก็จะเป็นเหตุให้รู้ว่าสิ่งไหนควรเสพ สิ่งไหนไม่ควรเสพ ทำให้ธรรมที่ไม่น่าปรารถนา เป็นต้น เสื่อมไป ธรรมที่น่าปรารถนา เป็นต้น เจริญขึ้น และทรงอธิบายการสมาทานธรรมทั้ง 4 แบบโดยการปฏิบัติธรรมที่เป็นอกุศลกรรมบท 10 และกุศลกรรมบท 10 หลังจากตายจะได้รับผลเป็นทุคติและสุคติ และทรงยกอุปมาของการสมาทานธรรม 4 ประการ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 21 Sep 2022 - 57min - 277 - เนื้อนาบุญ-มหาโคปาลสูตร จูฬโคปาลสูตร และนาคสูตร [6537-4s]
สูตร#1 มหาโคปาลสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ เชตวัน ทรงปรารภความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนาของภิกษุทั้งหลาย ทรงเปรียบเทียบ คนเลี้ยงโคผู้ไม่ฉลาดเปรียบกับภิกษุผู้ไม่ฉลาดเพราะขาดองค์คุณ 11 ประการ จะไม่เจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนานี้ และคนเลี้ยงโคผู้ฉลาดเปรียบกับภิกษุผู้ฉลาดเพราะมีองค์คุณ 11 ประการ จะเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระศาสนานี้
สูตร#2 จูฬโคปาลสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ริมฝั่งแม่น้ำคงคา เขตเมืองอุกกเจลา แคว้นวัชชี ปรารภเหตุการณ์ในอดีตเรื่องของคนเลี้ยงโคที่พาฝูงโคลงน้ำว่ายตัดกระแสน้ำ ตรัสเล่าเปรียบเทียบให้ฟัง 2 กรณี 1.คนเลี้ยงโคไม่ฉลาด ไม่พิจารณาฝั่งนี้ฝั่งโน้นให้ดีก่อน ตรงที่ต้อนฝูงโคลงแม่น้ำนั้นไม่ใช่ท่าข้าม ว่ายเข้าไปในวังวนของกระแสน้ำกลางแม่น้ำ ถึงแก่ความตายหมดทั้งฝูง 2. คนเลี้ยงโคผู้ฉลาด ต้อนฝูงโคไปสู่ที่หมาย ว่ายตัดกระแสน้ำถึงฝั่งโน้นโดยสวัสดิภาพ เพราะตรงที่ข้ามเป็นท่าน้ำ ซึ่งพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว จึงปล่อยโคข้ามไปตามลำดับ เปรียบเหมือนสมณะหรือพราหมณ์ผู้ฉลาดเรื่องโลกนี้และโลกหน้า รู้ทั่วถึงธรรมทั้งปวง สามารถชักนำผู้อื่นให้ได้รับความสุขพ้นทุกข์ทั้งปวงได้
สูตร#3 นาคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยองค์ของช้างต้น ซึ่งเป็นช้างควรแก่พระราชา จะต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการ จึงนับว่าเป็นพระราชพาหนะโดยแท้ เปรียบเทียบกับภิกษุในธรรมวินัยนี้ ผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการ ย่อมเป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ทักษิณา ควรแก่การทำอัญชลี เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก ธรรม 4 ประการ คือ เป็นผู้เชื่อฟัง เป็นผู้ฆ่าได้ เป็นผู้อดทน และ เป็นผู้ไปได้
สูตร#4 ภัททาลิสูตร (บางส่วน) ทรงอุปมาอุปไมยสอนท่านพระภัททาลิเรื่องม้าอาชาไนยที่มีคุณสมบัติ 10 ประการ เปรียบกับภิกษุผู้เป็นเนื้อนาบุญจะประกอบด้วยธรรม 10 ประการ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 14 Sep 2022 - 58min - 276 - ภัย คือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย-ปัพพโตปมสูตร ภยสูตร ฐานสูตร และจุนทสูตร [6536-4s]
สูตร#1 ปัพพโตปมสูตรพระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ตรัสถามถึงกิจที่พระราชาพึงขวนขวาย พระผู้มีพระภาคตรัสถามพระเจ้าปเสนทิโกศลว่า เมื่อมหาภัยอันร้ายกาจที่ทำให้มนุษย์พินาศบังเกิดขึ้น อะไรที่พระองค์จะพึงทรงกระทำในภาวะแห่งมนุษย์ที่ได้แสนยาก พระเจ้าปเสนทิโกศลตอบว่า สิ่งที่ควรทำคือการประพฤติธรรม การประพฤติสม่ำเสมอ การสร้างกุศล การทำบุญ
สูตร#2 ภยสูตรว่าด้วยเรื่องภัยใหญ่ คือ ภัยที่ปุถุชนเรียกว่า อมาตาปุตติกภัย ได้แก่ ภัยจากไฟไหม้ใหญ่ ภัยจากน้ำท่วมใหญ่ และภัยจากโจรปล้นใหญ่ ซึ่งเป็นเหตุให้บุตรพลัดพรากจากมารดา แต่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภัยใหญ่ดังกล่าวยังเป็น สมาตาปุตติกภัย คือ ภัยที่ยังพอมีโอกาสให้บุตรพบกับมารดาได้บ้าง แต่ภัยใหญ่ต่อไปนี้ มารดา และบุตรไม่สามารถจะห้ามมิให้เกิดขึ้นแก่กันและกันได้เลย คือ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย จึงตรัสเรียกว่า อมาตาปุตติกภัย หนทางที่จะให้ล่วงพ้นภัย 2 อย่างนี้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8
สูตร#3 ฐานสูตร พระพุทธเจ้าตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ว่าด้วยฐานะที่ใครๆ ไม่พึงได้ มี 5 ประการ คือ อย่าแก่ อย่าเจ็บไข้ อย่าตาย อย่าสิ้นไป และอย่าฉิบหาย ทรงแสดงว่า ฐานะแต่ละอย่างเกิดขึ้นทั้งแก่ปุถุชนและอริยสาวก แต่ปุถุชนไม่มีปัญญาพิจารณาเห็นสิ่งเหล่านี้ตามความเป็นจริงตรงกันข้ามกลับถูกสิ่งเหล่านี้ครอบงำจนเกิดทุกข์กาย และทุกข์ใจ ส่วนอริยสาวกมีนัยตรงกันข้ามกับปุถุชน
สูตร#4 จุนทสูตร ท่านจุนทะ สมณุทเทสผู้เป็นน้องชายคนเล็กของท่านพระสารีบุตร เข้าไปบอกข่าวการปรินิพพานของท่านพระสารีบุตรแก่ท่านพระอานนท์ ท่านจึงนำเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลข่าวการปรินิพพานนั้นพร้อมกับแสดงความรู้สึกของตน พระองค์จึงตรัสสอนให้มีตนเป็นที่พึ่งมีธรรมเป็นที่พึ่ง ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 4 ประการ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 07 Sep 2022 - 1h 07min - 275 - กายภาวนาและจิตภาวนา-มหาสัจจกสูตร [6535-4s]
มหาสัจจกสูตร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแก่สัจจกะ นิครนถบุตร เป็นการสนทนาแบบถาม-ตอบ ในเรื่องของกายภาวนา และจิตตภาวนา ซึ่งนิครนถ์มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า กายภาวนานั้น หมายถึง การทำทุกรกิริยา และไม่เข้าใจเรื่องจิตตภาวนา จึงทรงอธิบายการเจริญภาวนาทั้ง 2 อย่าง ที่ถ้าเราทำได้แล้ว จะอยู่เหนือสุขและทุกข์ได้ แต่สัจจกนิครนถ์ ที่มีความสงสัยไม่ลงใจ พยายามที่จะคิดโต้แย้ง และกล่าวกระทบกระเทียบพระองค์ จึงทรงเล่าพุทธประวัติตอนบำเพ็ญสมาบัติ ในสำนักอาฬารดาบส และอุทกดาบส แม้ได้สุขของสมาธิขั้นลึกซึ้ง แต่ก็ไม่เผลอเพลินไปตามสุขเวทนานั้น และเมื่อทำทุกรกิริยา ได้รับทุกขเวทนาอันหนักหน่วง ทุกขเวทนานั้นก็ไม่อาจครอบงำจิตของพระองค์ได้ ทำให้สัจจกนิครนถ์มีความศรัทธา กล่าวสรรเสริญพระองค์ ชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้พระภาค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 31 Aug 2022 - 1h 04min - 274 - สุขที่ยิ่งกว่าสุขเวทนา-อนุปุพพวิหารสูตร, อนุปุพพวิหารสมาปัตติสูตร, นิพพานสูตร และอนุปทสูตร [6534-4s]
สูตร#1 อนุปุพพวิหารสูตร ว่าด้วยอนุปุพพวิหารธรรม คำว่า "อนุปุพพวิหารธรรม"แปลว่า ธรรมเครื่องอยู่ที่ต้องเข้าสมาบัติตามลำดับ มี 9 ประการ คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1
สูตร#2 อนุปุพพวิหารสมาปัตติสูตร ว่าด้วยอนุปุพพวิหารสมาบัติ มี 9 ประการ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 และสัญญาเวทยิตนิโรธ 1 คือ ทรงแสดงธรรมที่ดับไปในอนุปุพพวิหารสมาบัติแต่ละอย่าง และยกย่องบุคคลผู้ดับธรรมแต่ละอย่างได้ด้วยฌานนั้นๆ ว่า "เป็นผู้ควรนมัสการ ควรไหว้ และควรเข้าไปนั่งใกลั"
สูตร#3 นิพพานสุขสูตร ว่าด้วยนิพพานเป็นสุข ซึ่งเป็นคำที่ท่านพระสารีบุตรกล่าว แต่ท่านพระอุทายีแย้งว่า "นิพพานไม่มีเวทนา จะเป็นสุขได้อย่างไร" ท่านพระสารีบุตรย้ำว่าเป็นได้ แล้วแสดงกามคุณ 5 และสุขโสมนัสที่อาศัยกามคุณ 5 เกิดขึ้นเรียกว่า กามสุข และแสดงว่า ในฌานสมาบัติ 8 คือ รูปฌาน 4 อรูปฌาน 4 แต่ละอย่างยังมีสิ่งกดดัน (อาพาธ) หมายถึง ความบีบคั้น เช่น ในปฐมฌานมีสัญญามนสิการที่ประกอบด้วยกามเป็นสิ่งกดดัน แต่ในองค์ธรรมประการที่ 9 คือ สัญญาเวทยิตนิโรธ ไม่มีสิ่งกดดันเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นว่า นิพพานเป็นสุขได้อย่างไร
สูตร#4 อนุปทสูตร ว่าด้วยธรรมตามลำดับบท ทรงแสดงแก่ภิกษุ ทรงตรัสสรรเสริญท่านพระสารีบุตรให้ภิกษุทั้งหลายฟังว่า ท่านพระสารีบุตรมีความฉลาดล้ำ มีปัญญาเลิศ มากกว่าภิกษุอื่น สามารถเห็นแจ้งธรรมตามลำดับบทได้เพียงกึ่งเดือน เห็นแจ้งตามลำดับบท คือ บรรลุรูปฌาณ 4, อรูปฌาณ 4, สัญญาเวทยิตนิโรธ และความสิ้นอาสวะ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 24 Aug 2022 - 54min - 273 - ฌานขั้นสูง-คาวีอุปมาสูตร และตปุสสสูตร [6533-4s]
สูตร#1 คาวีอุปมาสูตร อุปมาด้วยแม่โค ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ทรงเปรียบเทียบภิกษุผู้โง่เขลากับแม่โคที่โง่เขลาและภิกษุผู้ฉลาดกับแม่โคที่ฉลาดว่า ภิกษุผู้โง่เขลาที่ไม่สามารถบรรลุปฐมฌานได้ ก็จะบรรลุทุติยฌานไม่ได้ เหมือนแม่โคโง่เขลาที่ไม่สามารถหากินบนภูเขาขรุขระในถิ่นตนได้ ก็จะไปหากินในที่ต่างถิ่นไม่ได้ ส่วนภิกษุผู้ฉลาดที่สามารถบรรลุปฐมฌานได้ ก็สามารถบรรลุณานขั้นสูงขึ้นไปจนถึงสัญญาเวทยิตนิโรธได้ เหมือนแม่โคฉลาดที่สามารถหากินบนภูเขาขรุขระในถิ่นตนได้ ก็สามารถไปหากินในที่ต่างถิ่นได้ องค์ธรรมในสูตรนี้ คือ อนุปุพพวิหาร 9 ประการ นอกจากนี้ยังทรงแสดงธรรมอื่น คือ อิทธิวิธญาณ ทิพพโสตะ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ จุตูปปาตญาณ เจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ ไว้โดยละเอียด
สูตร#2 ตปุสสสูตร ว่าด้วยตปุสสคหบดี ท่านพระอานนท์พาตปุสสคหบดีไปเฝ้าพระพุทธเจ้ากราบทูลเรื่องที่คหบดีนั้นเล่าให้ฟังว่า พวกเขาเป็นคฤหัสถ์มีความยินดีรื่นรมย์บันเทิงในกาม เนกขัมมะ (การออกบวช) ปรากฎแก่พวกเขาเหมือนเหวใหญ่ จิตของภิกษุหนุ่มๆ ยินดีในเนกขัมมะ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเนกขัมมะเป็นธรรมสงบ ภิกษุมีธรรมที่ต่างกับคฤหัสถ์ คือ เนกขัมมะ พระองค์ตรัสว่าข้อนั้นเป็นความจริง แม้พระองค์เองก่อนตรัสรู้ก็มีความดำริว่า เนกขัมมะเป็นความดี ความสุขเป็นความดี แต่จิตของพระองค์ก็ไม่น้อมไปในเนกขัมมะ เมื่อพิจารณาเห็นว่าเนกขัมมะเป็นธรรมสงบ จึงดำริว่า อะไรเป็นเหตุให้เป็นเช่นนั้น รู้ว่า เพราะยังไม่เห็นโทษในกาม และยังไม่ได้รับอานิสงส์ในเนกขัมมะ ถ้าได้เห็นโทษในกาม และได้รับอานิสงส์ในเนกขัมมะ จิตก็จะน้อมไปในเนกขัมมะ แล้วทรงแสดงว่า พระองค์ทรงบรรลุอนุปุพพวิหาร 4 ทรงสรุปว่า เมื่อใด พระองค์เข้าหรือออกจากอนุปุพพวิหารสมาบัติ 4 ประการนี้ได้ตามปรารถนา ทั้งโดยอนุโลม และปฏิโลม เมื่อนั้นพระองค์จึงกล้ายืนยันว่าได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณอันยอดเยี่ยมในโลกทั้งปวง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 17 Aug 2022 - 1h 02min - 272 - มารผู้ใจบาป-พรหมนิมันตนิกสูตร และมารตัชชนียสูตร [6532-4s]
สูตร#1 พรหมนิมันตนิกสูตร ทรงตรัสเล่าให้ภิกษุทั้งหลายฟัง ณ พระเชตวัน ทรงปรารภทิฏฐิชั่วของท้าวพกพรหม ทรงทราบด้วยพระทัยว่า ท้าวพกพรหมมีทิฏฐิชั่ว กล่าวสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง สิ่งที่ไม่ยั่งยืนว่ายั่งยืน เป็นต้น จึงทรงเสด็จขึ้นไปยังพรหมโลก และได้โต้วาทะกัน ขณะนั้น มารใจบาปได้เข้าสิงในพรหมปาริสัชชะองค์หนึ่งให้กล่าวห้ามมิให้พระองค์ว่ากล่าวท้าวพกพรหม พร้อมทั้งขู่สำทับ แต่ทรงรู้ทันว่าเป็นมาร พรหมและพรหมบริษัททั้งปวงตกอยู่ในอำนาจของมารแต่พระองค์มิได้อยู่ในอำนาจนั้น ได้ทรงสำแดงพุทธานุภาพไม่ให้พกพรหมหายตัวได้ แต่ทรงแสดงหายตัวให้ดู และมารได้เข้าสิงพรหมอีกองค์หนึ่งเพื่อห้ามไม่ให้พระองค์ทรงสอนธรรมแก่สาวก และขู่สำทับแต่ทรงตรัสว่า ทรงรู้จักมารดี พระองค์จะสอนหรือไม่สอนก็ไม่ทำให้พระองค์ดีขึ้นหรือเลวลงเพราะทรงตัดอาสวะได้ขาดแล้ว ตัดรากถอนโคนเหมือนต้นตาลที่ถูกตัดรากถอนโคนไปแล้วเหลือแต่พื้นที่ ทำให้ไม่มี เกิดขึ้นต่อไปไม่ได้
สูตร#2 มารตัชชนียสูตร พระมหาโมคคัลลานะแสดงแก่มารที่เข้าสิงในท้องท่าน ขณะเดินจงกรม ณ เภสกฬาวัน สมัยนั้นพระมหาโมคคัลลานะจงกรมอยู่ ถูกมารเข้าไปในท้องในไส้ รู้สึกเหมือนมีของหนักอยู่ในท้อง จึงหยุดจงกรม กลับไปยังวิหาร นั่งพิจารณาแล้ว ทราบว่า มารใจบาปเข้าไปสิงอยู่ จึงเรียกให้มารออกมา เมื่อมารนั้นออกมาท่านจึงเทศน์สอน ได้ลำดับญาติระหว่างท่านกับมารตนนี้ให้ฟังว่า มารนี้เป็นลูกของน้องสาวและเล่าอดีตของท่านที่เคยเกิดเป็นทูสีมารได้เคยทำร้ายพระอริยสาวกต้องไปตกนรกถูกหลาวแทงหลายพันปี หลายหมื่นปี ท่านขอให้มารนั้นอย่าทำร้ายพระอริยสาวกเพราะจะส่งผลให้ไปตกนรกเหมือนที่ท่านได้รับมาแล้ว มารนั้นรู้สึกเสียใจ แล้วหายตัวไป
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 10 Aug 2022 - 58min - 271 - พุทธปฏิภาณ-พหุเวทนิยสูตร วีมังสกสูตร และอภัยราชกุมารสูตร [6531-4s]
สูตร#1 พหุเวทนิยสูตร ว่าด้วยเวทนาหลายประการ ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภการสนทนาธรรมเรื่องเวทนา ระหว่างท่านพระอุทายี และช่างไม้ปัญจกังคะ ซึ่งตกลงกันไม่ได้ว่า เวทนามีเท่าไร ท่านพระอานนท์ได้ยินจึงไปทูลถาม ทรงตรัสว่า ทรงแสดงเวทนาไว้หลายประการ ขึ้นอยู่กับเหตุ ทรงยกสุขเวทนาขึ้นอธิบาย เริ่มด้วย กามสุขที่อาศัยกามคุณ 5 และสุขในรูปฌาน และอรูปฌาน
สูตร#2 วีมังสกสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ณ พระเชตวัน เพื่อให้ภิกษุผู้ไม่ได้เจโตปริยญาณ ทดลองตรวจสอบข้อปฏิบัติของพระองค์ เพื่อให้รู้ว่าพระองค์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงหรือไม่ ต่อไปก็สามารถตรวจสอบตนเอง และผู้อื่นได้ ทรงอธิบายขยายความ และทรงเปิดโอกาสให้ภิกษุผู้ตรวจสอบทูลถามพระองค์ตามแนวทางการพิจารณาตรวจสอบนั้น ด้วยวิธีการดังกล่าวผู้นั้นก็จะมีศรัทธามั่นคงไม่หวั่นไหวในพระพุทธเจ้า
สูตร#3 อภัยราชกุมารสูตร ทรงแสดงแก่อภัยราชกุมาร ซึ่งรับอาสานิครนถ์มาโต้วาทะกับพระองค์ ณ เวฬุวัน ปรารภคำถามว่า มีบ้างไหมที่พระองค์ตรัสวาจาอันไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของคนอื่น ทรงตรัสว่าจะตอบส่วนเดียวไม่ได้ ทรงแสดงหลักเกณฑ์การตรัสวาจาของพระองค์ 6 ข้อ เมื่อทรงแสดงจบ อภัยราชกุมารแสดงตนเป็นอุบาสกตลอดชีวิต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 03 Aug 2022 - 58min - 270 - เครื่องป้องกันนคร-นคโรปมสูตร และสัจจวิภังคสูตร [6530-4s]
สูตร#1 นคโรปมสูตร ทรงแสดงคุณสมบัติของพระอริยสาวก 7 ประการ ที่ทำให้ละอกุศล เจริญกุศลได้ เปรียบเทียบกับเครื่องป้องกันนคร 7 อย่าง ที่ทำให้นครที่ตั้งอยู่ชายแดนปราศจากภัยอันตรายได้ และทรงแสดงฌาน 4 ประการ ที่เป็นคุณสมบัติภายในของอริยสาวกซึ่งทำให้บรรลุคุณพิเศษชั้นสูงได้ เปรียบเทียบกับคุณสมบัติภายในของนครชายแดน 4 ประการ ที่ทำให้ชาวเมืองอยู่ผาสุกสูตร
#2 สัจจวิภังคสูตร ทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลาย ขณะประทับ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงปรารภพระธรรมจักรที่ทรงแสดง ให้แก่ภิกษุเหล่านั้นฟังโดยย่อ ทรงแนะนำให้ภิกษุทั้งหลายคบหาท่านพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ และทรงสรรเสริญท่านทั้งสองไว้ด้วย เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสดังนี้แล้ว ก็เสด็จเข้าสู่ที่ประทับ ท่านพระสารีบุตรจึงอธิบายขยายความให้ภิกษุทั้งหลายฟังต่อไป โดยอธิบายเรื่องอริยสัจ 4 โดยพิสดาร
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 27 Jul 2022 - 44min - 269 - มุนีผู้สงบ - ธาตุวิภังคสูตร และชาณุสโสณิพราหมณสูตร [6529-4s]
สูตร#1 ธาตุวิภังคสูตร ว่าด้วยการจำแนกธาตุ ทรงแสดงแก่ท่านปุกกุสาติผู้บวชอุทิศต่อพระองค์แต่ไม่เคยรู้จักและไม่เคยเห็นพระองค์ เพื่อโปรดท่านให้เข้าถึงธรรม ขณะท่านพักอยู่ที่ศาลาของช่างหม้อชื่อ ภัคควะ เขตกรุงราชคฤห์ ทรงแสดงว่า บุรุษผู้มีธาตุ 6 มีผัสสายตนะ 6 มีมโนปวิจาร 18 มีอธิษฐานธรรม 4 บัณฑิตเรียกว่า มุนีผู้สงบ และทรงแสดงในรายละเอียด ผลจากการแสดงธรรมครั้งนี้ทำให้ท่านปุกกุสาติ ได้ทราบว่า ผู้ที่แสดงธรรมนั้น คือพระพุทธเจ้าจึงกราบลงแทบพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคแล้วกราบทูลขออภัยโทษที่เรียกพระองค์ด้วยวาทะว่า "ผู้มีอายุ" เมื่อพระองค์ทรงยกโทษให้ จึงขออุปสมบทในพระพุทธศาสนา แต่ไม่มีบาตรและจีวรพระผู้มีพระภาคไม่ทรงอุปสมบทให้ ท่านจึงไปเที่ยวแสวงหาบาตรและจีวร แต่ถูกแม่โคขวิดตายเสียก่อน เมื่อภิกษุทั้งหลายเข้าไปทูลถามถึงคติภพของท่าน พระองค์ตรัสว่าท่านปุกกุสาติเป็นพระอนาคามี ไปเกิดในพรหมโลกและจะนิพพานในโลกนั้น
สูตร#2 ชาณุสโสณิพราหมณสูตร (สังยุตตนิกาย #19) ท่านพระอานนท์เห็นชาณุสโสณิพราหมณ์ขึ้นรถเทียมม้าขาวและตกแต่งส่วนต่างๆของรถด้วยสีขาว ออกจากกรุงสาวัตถีและมีคนชมว่ายานประเสริฐ จึงเข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ในธรรมวินัยนี้สามารถบัญญัติยานอันประเสริฐได้หรือไม่ พระองค์ตรัสตอบว่า ได้ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งเรียกว่า พรหมยานบ้าง ธรรมยานบ้าง รถพิชัยสงครามบ้าง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 20 Jul 2022 - 57min - 268 - รอยพระตถาคต-จูฬหัตถิปโทปมสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6528-4s]
สูตร #1 จูฬหัตถิปโทปมสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ เชตวัน เรื่องรอยของพระตถาคต 4 รอย ที่ปิโลติกปริพาชกใช้เป็นเครื่องพิสูจน์เหตุที่ตนเลื่อมใสอย่างยิ่งในพระพุทธเจ้า ทรงตรัสแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ว่า อุปมาด้วยรอยเท้าช้างของปิโลติกปริพาชกยังไม่สมบูรณ์ จึงทรงยกอุปมาขึ้นเพื่อไม่ให้ด่วนตัดสินว่า ช้างตัวนี้ใหญ่เพียงเพราะเห็นรอยเท้า แต่ทรงเน้นให้เห็นตัวจริง รอยของพระพุทธเจ้าก็ฉันนั้น แม้ภิกษุจะได้เห็นรอยทั้ง 4 รอยนี้ ก็ไม่ด่วนตัดสินว่า “พระผู้มีพระภาคเป็นอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ดีแล้ว พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดี จนกว่าจะได้บรรลุอาสวักขยญาณด้วยตนเอง ฯลฯ จึงตัดสินใจดังกล่าว ตรัสจบ ชาณุสโสณิประกาศตนเป็นอุบาสก
สูตร#2 ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตตรนิกาย #24) พราหมณ์ทูลถามเรื่องทานว่า พวกตนได้ให้ทานอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว พวกเขาจะได้รับหรือไม่ พระองค์จึงตรัสเรื่องฐานะและอัฏฐานะของผู้จะได้รับส่วนกุศล คือผู้ไปเกิดในภูมิที่เป็นฐานะเท่านั้นจึงควรได้รับส่วนกุศล ซึ่งได้แก่ ปรทัตตูปชีวีเปรต (เปรตผู้ต้องอาศัยส่วนกุศลของผู้อื่นเป็นอยู่) ส่วนภูมิอื่นมีมนุสสภูมิ เป็นต้น เป็นภูมิที่ไม่ได้ส่วนกุศล เพราะต่างก็มีอาหารของตน ชื่อว่า อัฏฐานะ และทรงตรัสว่า อกุศลกรรมบถ 10 ประการ และกุศลกรรมบถ 10 ประการ เป็นเหตุจำแนกสัตว์ให้ไปเกิดในภูมิต่าง ๆ และทรงย้ำว่า การให้ทาน ย่อมไม่เสียผล เป็นความดีความเจริญของทายกผู้ให้แน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 13 Jul 2022 - 1h 02min - 267 - เหตุไม่สะดุ้งกลัว-ภยเภรวสูตร และชาณุสโสณิสูตร [6527-4s]
สูตร#1 ภยเภรวสูตร ทรงแสดงแก่ชาณุสโสณิพราหมณ์ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภคำถามของพราหมณ์ว่า การอยู่เสนาสนะอยู่ลำบาก ทำให้สงบได้ยาก การอยู่โดดเดี่ยวก็หาความรื่นรมย์ได้ยาก ป่าทั้งหลายมักจะชักนำจิตของภิกษุผู้ไม่ได้สมาธิให้เกิดความหวาดหวั่นได้ ทรงอธิบายเหตุสะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่า 16 ประการของสมณพราหมณ์พวกอื่น เปรียบเทียบกับเหตุไม่สะดุ้งกลัวการอยู่ในเสนาสนะป่าของพระองค์ และพระอริยะทั้งหลายซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน และทรงอธิบายว่าขณะที่ยังไม่ได้ตรัสรู้ ทรงเลือกการอยู่เสนาสนะป่า และเมื่อความขลาดกลัวเกิดขึ้นในขณะที่ทรงอยู่ในอิริยาบถใดก็ทรงพิจารณาความขลาดกลัวให้หมดไปในอิริยาบถนั้น จะไม่ทรงเปลี่ยนอิริยาบถจนกว่าจะทรงกำจัดได้ แล้วทรงบำเพ็ญเพียรต่อไปจนได้ฌาณ 4 และวิชชา 3 แม้หลังจากตรัสรู้แล้ว ก็ยังทรงอยู่เสนาสนะป่าเป็นประจำ เพราะทรงเห็นอำนาจประโยชน์ 2 ประการ 1) เพื่อการอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน 2) เพื่อการอนุเคราะห์คนรุ่นหลังให้ถือปฏิบัติตาม เมื่อทรงอธิบายจบลง ซาณุสโสณิพราหมณ์เกิดความเลื่อมใส ประกาศตนเป็นอุบาสก
สูตร#2 ชาณุสโสณิสูตร (อังคุตรนิกาย#20) พราหมณ์เข้าเฝ้า และได้สนทนากันเรื่อง วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์ ทรงตรัสว่า ผู้ได้วิชชา 3 ของพวกพราหมณ์เป็นอย่างหนึ่ง ผู้ได้วิชชา 3 ในอริยวินัยเป็นอย่างหนึ่ง แล้วทรงแสดงในรายละเอียด
สูตร #3 ชาณุสโสณิสูตร (สังยุตตนิกาย #16) พราหมณ์เข้าไปเฝ้าแล้วทูลถามว่า สิ่งทั้งปวงมี หรือว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี ทรงตรัสตอบว่า ความเห็นอย่างนั้นเป็นความเห็นสุดโต่ง แล้วทรงแสดงปฏิจจสมุปบาทอันเป็นทางสายกลางแก่พราหมณ์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 06 Jul 2022 - 57min - 266 - ภิกษุผู้เลิศกว่าบรรดาผู้บวชด้วยศรัทธา-รัฏฐปาลสูตร [6526-4s]
สมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมแก่ชาวถุลลโกฏฐิตนิคม แคว้นกุรุ ซึ่งรัฏฐปาลกุลบุตร เป็นบุตรของตระกูลชั้นสูงในนิคมนั้น ได้นั่งฟังอยู่ด้วย เกิดความศรัทธาขอบวช แต่ไม่ทรงอนุญาต จะต้องไปขออนุญาตบิดามารดาก่อน เมื่อไปขอถึง 3 ครั้ง บิดามารดาไม่อนุญาต แม้ท่านจะอดอาหารประท้วง และยอมสละชีวิตก็ยังไม่อนุญาต เพื่อนได้มาช่วยอ้อนวอนขออนุญาตให้บวช บิดามารดาจึงอนุญาตให้บวชได้ เมื่อบวชแล้วไม่นานได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ต่อมาได้กลับไปเยี่ยมบิดามารดา แต่บิดาของท่านจำท่านไม่ได้จึงไม่ได้รับภัตตาหารที่บ้าน ขณะนั้นทาสหญิงกำลังจะทิ้งขนมบูด ท่านได้ขอบิณฑบาตขนมนั้น และฉันขนมบูดนั้น ทาสหญิงนั้นจำท่านได้ จึงไปบอกมารดาของท่าน บิดาจึงมานิมนต์ท่านฉันภัตตาหารในวันรุ่งขึ้น จัดเตรียมอาหารอย่างปราณีต และกองเงินกองทองเอาไว้เพื่อถวายพระรัฐปาละ พร้อมให้ภรรยาเก่าของท่านแต่งตัวให้สวยงาม แต่ท่านปฏิเสธที่จะรับและให้นำไปทิ้ง ให้บิดาถวายอาหารและท่านได้แสดงธรรม จากนั้น ได้นั่งพักกลางวันที่พระราชอุทยานมิคจีระของพระเจ้าโกรัพยะ เมื่อทรงทราบว่าท่านพระรัฎฐปาละอยู่ที่นี้จึงเสด็จมาเพื่อทรงเยี่ยม และสนทนาธรรม ได้ตรัสถามถึงเรื่องความเสื่อม 4 ประการ ที่คนบางพวกประสบแล้ว จะออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ซึ่งพระรัฎฐปาละนั้นไม่มีความเสื่อมเหล่านั้นเลย อะไรจึงเป็นเหตุให้ท่านออกบวช ท่านได้ตอบว่า เพราะท่านได้ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องธัมมุทเทส 4 ประการ เกิดศรัทธาแล้วจึงออกบวช และได้แสดงธัมมุทเทส 4 แก่พระเจ้าโกรัพยะ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 29 Jun 2022 - 1h 05min - 265 - ลัทธิที่ไม่ใช่การประพฤติพรหมจรรย์-สันทกสูตร [6525-4s]สันทกสูตร พระอานนท์แสดงแก่สันทกปริพาชกพร้อมกับปริพาชกประมาณ 500 คน ณ ถ้ำปิลักขะ เขตกรุงโกสัมพี เกี่ยวกับการประพฤติพรหมจรรย์ ท่านพระอานนท์ได้อ้างพระดำรัสที่ทรงแสดงลัทธิที่ไม่ใช่การประพฤติพรหมจรรย์ 4 ลัทธิ และพรหมจรรย์ที่ไม่น่าไว้วางใจ 4 ประการ ซึ่งท่านผู้รู้ไม่ควรอยู่ประพฤติ เพราะจะไม่ได้รับกุศลธรรมที่ถูกต้อง และได้กล่าวถึงพรหมจรรย์ที่ควรประพฤติและมีผล คือ ฌาณ 4 วิชชา 3 และได้ตอบคำถามต่างๆของสันทกปริพาชก เมื่อแสดงธรรมจบสันทกะได้กล่าวสรรเสริญในธรรมวินัยนี้ ไม่มีการยกย่องธรรมของตน ไม่มีการติเตียนธรรมของผู้อื่น แสดงธรรมมีเหตุผล แต่มีผู้กำจัดกิเลสและกองทุกข์ได้มาก ส่วนพวกอาชีวกยกย่องแต่ตนและติเตียนคนอื่นกลับบัญญัติว่ามีผู้กำจัดกิเลสและกองทุกข์ได้เพียง 3 คน จากนั้นได้อนุญาตให้บริษัทของตนประพฤติพรหมจรรย์ตามพระผู้มีพระภาค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 22 Jun 2022 - 54min - 264 - การทำจิตให้ว่าง-มหาสุญญตสูตร และจูฬสุญญตสูตร [6524-4s]
สูตร#1 จูฬสุญญตสูตร ทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ณ บุพพาราม ทรงปรารภคำทูลถามของท่านพระอานนท์ เรื่องที่พระองค์ทรงอยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมโดยมาก และได้ทรงอธิบายวิธีปฏิบัติสุญญตาวิหารธรรมไว้ถึง 7 ขั้น จากต่ำไปสูง และทรงสรุปว่า ในอดีต อนาคต และปัจจุบัน สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใดเข้าสุญญตาผลสมาบัติก็จะเข้าสุญญตาอันบริสุทธิ์ยอดเยี่ยมนี้เท่านั้น
สูตร#2 มหาสุญญตสูตรทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์และภิกษุทั้งหลาย ณ นิโครธาราม ทรงปรารภการอยู่คลุกคลีกันด้วยหมู่คณะของภิกษุหลายรูปในที่นั้น ซึ่งเป็นช่วงจีวรกาล ที่ภิกษุมาร่วมกันทำจีวร ทรงทอดพระเนตรเห็นเสนาสนะจำนวนมาก ทรงตำหนิว่าการที่ภิกษุพอใจในการคลุกคลีด้วยหมู่คณะไม่ดีเลย ภิกษุผู้หลีกออกจากหมู่คณะไปอยู่ผู้เดียวเท่านั้น จึงจะได้รับความสุขจากความสงัด จากความสงบ จากการตรัสรู้ และจะบรรลุเจโตวิมุตติได้ และพระองค์ก็อยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรมนั้น ได้ทรงอธิบายเหตุผลโดยละเอียด วิธีฝึก และวิธีอยู่ด้วยสุญญตาวิหารธรรม ซึ่งในการมีสัมปชัญญะ และน้อมจิตไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นขั้นตอนแรกในการทำจิตให้ถึงความว่างได้ และทรงเน้นเรื่องการปฏิบัติกับพระองค์เหมือนกับมิตร อย่าปฏิบัติกับพระองค์เหมือนศัตรู
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Wed, 15 Jun 2022 - 58min
Podcasts similaires à 4 คลังพระสูตร
- นิทานชาดก 072
- พี่อ้อยพี่ฉอด พอดแคสต์ CHANGE2561
- หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม dhamma.com
- เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี karunabuakamsri
- ลงทุนแมน longtunman
- Mission To The Moon Mission To The Moon Media
- ไหนๆ ก็เล่าแล้ว Nai Nai Kor Lao Laew
- พระเจอผี Podcast Prajerpee
- เคาะข่าวค่ำ radio tonews
- SONDHI TALK sondhitalk
- คุยให้คิด Thai PBS Podcast
- พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) Thammapedia.com
- The Secret Sauce THE STANDARD
- THE STANDARD PODCAST THE STANDARD
- คำนี้ดี THE STANDARD
- ข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ ภาคภาษาไทย 6:30 – 7:00 น. - วอย VOA
- Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล) watpasukato
- 1 สมการชีวิต ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 3 ใต้ร่มโพธิบท ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 5 นิทานพรรณนา ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 7 ตามใจท่าน (ธรรมะสากัจฉา) ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- พุทธวจน พุทธวจน
- หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
Autres podcasts de Religion et Spiritualité
- Noche de Misterio Caracol Pódcast
- DOSIS DIARIA ROKA Roka Stereo
- Dante Gebel Live Dante Gebel
- Santo Rosario RadioSeminario
- ROKA STEREO Podcast Roka Stereo
- El Santo Rosario Guadalupe Radio
- Abierta Mente: Conversaciones con Yoga al Alma Ana Isabel Santa María
- Código Misterio Código Misterio
- EBC Yeshu'a EBC Yeshu'a
- Dr. Armando Alducin Podcast Dr. Armando Alducin
- Radio María Colombia Radio María Colombia
- Podcast El Lugar de Su Presencia El Lugar de Su Presencia
- Musica cristiana Glorificar a Dios Todopoderoso
- Reggae Revival Dread Lightning HiFi
- Vida Cristiana Gilbert Ortiz Hurtado
- Santo Rosario - Misioneros Digitales Católicos Misioneros Digitales Catolicos
- Reflexiones Cristianas Reflexiones Cristianas
- Sonidos de la Naturaleza Relajación y meditación
- Búsqueda interior MARTHA DEBAYLE PODCAST
- Reflexiones cristianas Radio Luz a las Naciones