Nach Genre filtern
6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก
ในพระไตรปิฏกมีอะไร ทำความเข้าใจไปทีละข้อ, เปิดไปทีละหน้า, ให้จบไปทีละเล่ม, พบกับพระอาจารย์พระมหาไพบูลย์ อภิปุณโณ และ คุณเตือนใจ สินธุวณิก, ล้อมวงกันมาฟัง มั่วสุมกันมาศึกษา จะพบขุมทรัพย์ทางปัญญา ในช่วง "ขุดเพชรในพระไตรปิฏก". New Episode ทุกวันเสาร์ เวลา 05:00, Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการธรรมะรับอรุณ ออกอากาศทุกวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) มีคำถาม/ข้อเสนอแนะ หรือสมัครติดตามฟังทั้ง 7 รายการ ที่ panya.org
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
- 311 - ธรรมที่เป็นเหตุให้ชื่อว่า “นิททสภิกษุ” [6719-6t]
คำว่า “นิททส”แปลว่า มีอายุไม่ถึง 10 ปี (บวชไม่ถึง 10 พรรษา) เป็นคำที่พวกเดียรถีย์ใช้เรียกนิครนถ์ผู้ประพฤติพรหมจรรย์กำหนดครบ 12 ปีแล้วจะสำเร็จเป็นอรหันต์ แต่ถ้าตายลงก่อนที่จะครบกำหนด ก็จะกลับมาเกิดใหม่ในจำนวนปีที่เหลือแล้วได้ความเป็นอรหันต์ในภพนั้น โดยความเป็นอรหันต์จะวัดจากระยะเวลาในการประพฤติพรหมจรรย์ครบ 12 ปี
“นิททสภิกษุ”ตามความหมายที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงให้ไว้คือ พระอรหันต์ ไม่มีการกลับมาเกิดอีก และไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาในการประพฤติธรรม แต่ขึ้นอยู่กับหลักคุณธรรม 7 ประการ ซึ่งได้ทรงแสดงไว้ 2 วาระด้วยกัน คือ วาระของท่านพระสารีบุตรในข้อที่ #42_ปฐมนิททสสูตร และ วาระของท่านพระอานนท์ในข้อที่ #43_ทุติยนิททสสูตร ว่าด้วยนิททสวัตถุ โดยทั้งสูตรที่ 1 และสูตรที่ 2 นี้ ได้แสดงถึงทางปฏิบัติ (เหตุ) คือ อรหัตมรรค ให้ไปสู่ผล คือ อรหัตผล และในทุติยนิททสสูตรนั้นมีหลักธรรมที่เหมือนกันกับสัปปุริสธรรม 7 ประการ ตามนัยยะของเสขปฏิปทาสูตรซึ่งบรรยายโดยพระอานนท์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 10 May 2024 - 51min - 310 - ผู้ทำ “จิต” ให้อยู่ในอำนาจ [6718-6t]
การไม่ให้จิตตกไปตามอำนาจของกิเลสแต่จะให้มาอยู่ในอำนาจของมรรค 8 ได้นั้น ต่างต้องอาศัยเหตุปัจจัย ซึ่งเหตุปัจจัยหลักนั้นก็คือการมี “สติ” คือจะต้องมีสติสัมปชัญญะเห็นเหตุปัจจัยแห่งการเกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไปของสมาธิในขั้นต่าง ๆ กล่าวคือจะต้องเป็นผู้ฉลาดในสมาธิและกระทำสมาธิโดยชำนาญในทุกอริยบถ มีสติปัฏฐาน 4 มีสติรู้ชัดเห็นการเกิด-ดับในทุกสภาวะ จะเป็นผู้ทำจิตให้ตกอยู่ในอำนาจหรือมีอำนาจเหนือจิตได้
ในข้อที่ #40_ปฐมวสสูตร และ ข้อที่ #41_ทุติยวสสูตร ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้จิตตกอยู่ในอำนาจ สูตรที่ ๑ และสูตรที่ ๒ประกอบด้วยธรรม 7 ประการเหมือนกัน แต่ทุติยวสสูตรจะเป็นนัยยะของท่านพระสารีบุตร ธรรม 7 ประการ คือ
1. เป็นผู้ฉลาดในสมาธิ - รู้เหตุปัจจัย คุณลักษณะ และคุณสมบัติของสมาธิ
2. เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ - รู้เหตุที่ทำให้เข้าสมาธิได้โดยง่าย ความเป็นสัปปายะ และความอดทนต่ออายตนะ
3. เป็นผู้ฉลาดในการให้สมาธิตั้งอยู่ได้ - มีสติสัมปชัญญะเต็ม เห็นเหตุเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของสมาธิ
4. เป็นผู้ฉลาดในการออกจากสมาธิ - เห็นข้อเสียในสมาธิในจุดที่ตนเองอยู่ ละข้อเสียนั้น เห็นคุณในสมาธิขั้นต่อไป แล้วเลื่อนขึ้น
5. เป็นผู้ฉลาดในความพร้อมแห่งสมาธิ - ทำสมาธิโดยเอื้อเฟื้อกัน
6. เป็นผู้ฉลาดในอารมณ์แห่งสมาธิ - รู้ความเหมาะสมในการปรับเปลี่ยนสมาธิสมถะและวิปัสสนา
7. เป็นผู้ฉลาดในอภินิหารแห่งสมาธิ - ผลคืออภิญญา 6 ที่เกิดจากสมาธิ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕ [ฉบับมหาจุฬาฯ] อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 03 May 2024 - 43min - 309 - ขึ้นชื่อว่า “มิตร” [6717-6t]
คำว่า “มิตรแท้ หรือ กัลยาณมิตร” มีความสำคัญและมีคุณค่ายิ่ง “มิตร” ที่เรามีอยู่เป็นแบบไหน และเราควรจะปฏิบัติตนหรือเลือกคบมิตรแบบใด
ในข้อที่ #36_ปฐมมิตตสูตร และ#37_ทุติยมิตตสูตร ว่าด้วยองค์แห่งมิตร 7 ประการ คือ บุคคลที่ประกอบด้วยฐานะ 7 ประการนี้ ควรเข้าไปคบหาเป็นมิตรด้วย โดยในปฐมมิตตสูตร หมายถึง กัลยาณมิตรทั่วไป ส่วนในทุติยมิตตสูตร หมายถึง ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์
“มิตร” ที่เรามีอยู่ไม่ว่าจะเป็นมิตรแบบไหน.. จิตของเราจะต้องประกอบไปด้วยกับเมตตา มองกันด้วยสายตาแห่งความรักใคร่เอ็นดู มีจิตไม่คิดปองร้าย ไม่คิดผูกเวรกับใคร ๆ ถ้าเป็นมิตรเทียมก็ให้มีระยะห่างที่จะไม่คบ ไม่ใช่ด้วยการผูกเวร
#38_ปฐมปฏิสัมภิทาสูตร และ #39_ทุติยปฏิสัมภิทาสูตร(นัยยะของท่านพระสารีบุตร) ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้บรรลุปฏิสัมภิทา (มีปัญญาแตกฉาน) ได้แก่ การมีสติเห็นจิตตามความเป็นจริงว่า จิตหดหู่ ท้อแท้ ฟุ้งซ่านหรือไม่ เห็นเวทนา สัญญา ความวิตกแห่งจิตว่า เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และ การรู้อุบายในการเกิดและการดับของสภาวะนั้น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 26 Apr 2024 - 57min - 308 - จุดที่สมาธิเปลี่ยนเป็นปัญญาด้วยองค์ 5 [6716-6t]
ข้อที่ #28_ปัญจังคิกสูตร ว่าด้วยการเจริญสัมมาสมาธิด้วยองค์ 5 ประการ คือ การไล่มาตามลำดับของการได้มาซึ่งฌานทั้ง 4 และปัจจเวกขณนิมิต จะได้ทราบอุปมาอุปไมยของการได้มาซึ่งฌานนั้น ๆ การเห็นอะไรจึงจะเลื่อนขึ้นในฌานที่สูงขึ้นไปละเอียดลงไปได้ ก็ต้องขจัดความหยาบของฌานที่ได้อยู่แล้วจึงจะพัฒนาต่อไปได้ เมื่อได้ฌานทั้ง 4 บวกกับปัจจเวกขณนิมิต คือ ญาณในการรู้ว่าเรามีเราละอะไรได้ จะทำให้ละเอียดขึ้นได้อย่างไร และการเห็นองค์ประกอบต่าง ๆ ในฌานต่าง ๆ ได้ชัดเจน
จิตใจของคนเราถ้ามีสัมมาสมาธิที่ประกอบด้วยองค์ 5 ประการนี้แล้ว จะเกิดประโยชน์ในการกำจัดกิเลสได้ วิชชา 6 จะเกิดขึ้น ทำปัญญาให้เกิดขึ้นได้ นี่คือจุดที่สมาธิจะเปลี่ยนเป็นปัญญา ตลอดกระบวนการต้องมีสติอยู่แล้วจึงจะสามารถรู้เห็นตรงนี้ได้ และปัจจเวกขณนิมิตมีได้ในทุกระดับฌาน เป็นตัวที่จะทำให้ฌานเลื่อนขึ้นได้เร็ว
ข้อที่ #29_จังกมสูตร จังกม แปลว่า การเดิน ทำให้เกิดอานิสงส์ คือ 1) อดทนต่อการเดินทางไกล 2) อดทนต่อการทำความเพียร นี่คืออดทนต่อสิ่งที่อดทนได้ยาก รู้อยู่ว่าทุกข์แต่อยู่กับมันได้ 3) อาหารย่อยได้ง่าย 4) มีอาพาธน้อย นี่คือมีสุขภาพดี มีเวทนาเบาบาง และ 5) สมาธิที่เกิดตั้งอยู่ได้นาน ในอิริยาบถหยาบ ๆ ยังสามารถทำสมาธิให้เกิดขึ้น ยิ่งทุกข์มากยิ่งเห็นธรรมะ มีปัญญาในการแก้ปัญหา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต: ปัญจังคิกวรรคข้อที่ 28 – 29
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 19 Apr 2024 - 54min - 307 - อปริหานิยธรรม-ความเจริญของอุบาสก [6715-6t]
การได้พบหรือได้ไปเยี่ยมเยียนพระสงฆ์นั้น จะเป็นทางมาแห่งกุศลบุญหลายประการ ทำให้มีโอกาสได้กราบไหว้ ถวายทานในพระสงฆ์ ได้ฟังธรรมและสอบถามธรรมะ โดยในข้อที่ #29_ทุติยปริหานิสูตร ข้อที่ #30_วิปัตติสูตร และ ข้อที่ #31_ปราภวสูตร มีนัยยะทิศทางเดียวกัน คือ ธรรมที่เป็นเหตุแห่งความไม่เสื่อมโดยเน้นมาที่อุบาสกและอุบาสิกา ได้แก่ ไม่ละเลยการเยี่ยมเยียนพระสงฆ์ การฟังธรรมโดยไม่คิดเพ่งโทษ ศึกษาในอธิศีล ได้ให้ทานและมีความเลื่อมใส่ในสงฆ์
ข้อที่ 32-33-34-35 มีเนื้อหาธรรมะเหมือนกันในห้าข้อแรกแตกต่างกันในสองข้อท้าย โดยมีเนื้อหาปรารภถึงเทวดาองค์หนื่งมาเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาค กราบทูลถึง “ธรรม 7 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ” โดยประการที่เหมือนกัน ได้แก่ เป็นผู้มีความเคารพในพระศาสดา ในพระธรรม ในพระสงฆ์ ในสิกขา ในสมาธิ และที่แตกต่างกันในแต่ละหัวข้อ ได้แก่ เป็นผู้ไม่ประมาท มีปฏิสันถาร (การต้อนรับ) / มีหิริ โอตตัปปะ / เป็นผู้ว่าง่าย มีกัลยาณมิตร
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต วัชชิสัตตกวรรค เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 12 Apr 2024 - 55min - 306 - อปริหานิยธรรม – สัญญาที่เป็นไปเพื่อลดกิเลส [6714-6t]
เมื่อเราลองพิจารณาดูธรรมทั้งหลาย (สิ่งทั้งหลาย) ที่เรารับรู้ได้นั้น ล้วนต่างอาศัยเหตุปัจจัยในการเกิดขึ้น มีอยู่ และดับไปของสิ่งเหล่านั้น เมื่อธรรมทั้งหลายไม่เที่ยงมีสภาพแปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัยจึงว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน คือตกอยู่ภายใต้กฏของ “ไตรลักษณ์”
“อปริหานิยธรรม และ ปริหานิยธรรม” ก็เช่นเดียวกัน ล้วนต่างมีเหตุที่ทำให้เจริญและเหตุที่ทำให้เสื่อม ว่าให้เข้าใจได้โดยง่ายคือ ต่างอาศัยเหตุปัจจัยในการมีอยู่และดับไปนั่นเอง
ข้อที่ #27_สัญญาสูตร ว่าด้วยสัญญาที่เป็นอปริหานิยธรรม กล่าวคือ สัญญา (การกำหนดหมายรู้) ที่เป็นไปเพื่อลดกิเลส เพิ่มกุศลธรรมให้เกิดเจริญขึ้นมี 7 ประการ ได้แก่ กำหนดหมายความไม่เที่ยงแห่งสังขาร, ความเป็นอนัตตาในธรรมทั้งหลาย, ความไม่งามในกาย, โทษทุกข์ของกายอันมีความเจ็บไข้ต่าง ๆ ละอกุศลวิตก กำหนดหมายวิราคะ (คลายกำหนัด) และนิโรธ (ความดับทุกข์) ว่าเป็นธรรมละเอียดประณีต
ข้อที่ #28_ปฐมปริหานิสูตรว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุแห่งความเสื่อม ในหัวข้อนี้เน้นมาที่พระเสขะ (ผู้ที่ยังต้องศึกษาอยู่) โดยธรรมประการสุดท้ายได้กล่าวไว้น่าสนใจ เมื่อเห็นพระผู้บวชมานานรับภาระกิจในสงฆ์อยู่ พระผู้เป็นเสขะจะปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อไม่ให้ถึงความเสื่อม คือต้องอาศัยการวางจิตและการพิจารณาในกิจนั้นว่าเป็นเหตุทำให้กุศลธรรมเสื่อมหรือเจริญ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต วัชชิสัตตกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 05 Apr 2024 - 50min - 305 - “ผู้นำ” เพื่อประโยชน์สุข [6713-6t]
สิ่งดีงามต่างๆ ถ้าได้ไปอยู่ในมือของผู้ที่มีความเห็นที่ถูกต้อง เป็น “สัมมาทิฏฐิ” สิ่งนั้นจะเป็นไป “เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข เพื่อประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น”
และในสิ่งดีงามที่มีอยู่เช่นเดิม ถ้าไปอยู่ในมือของผู้ที่มีความเห็นผิด เป็น “มิจฉาทิฏฐิ” สิ่งนั้นจะ “เป็นทุกข์ ไม่เกื้อกูล ไม่เป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่น”
ปฏิสัมภิทาปัตตสูตร #ข้อ 86 ผู้ที่ประกอบด้วย ปฏิสัมภิทา 4 (ได้แก่ 1. ปัญญาแตกฉานใน อรรถ, 2.ธรรม, 3. นิรุตติ, 4.ปฏิภาณ) และ มีความขยัน ไม่เกียจคร้าน “ย่อมเป็นที่รัก ที่น่าเคารพยกย่อง”
สีลวันตสูตร #ข้อ 87 ธรรม “ย่อมเป็นที่รัก ที่น่าเคารพยกย่อง” ได้แก่ เป็นผู้มีความงามของศีล, เป็นพหูสูต เวลาบอกสอนมีข้อมูลพร้อม, พูดจาไพเราะ, มีสมาธิ, มีปัญญา
เถรสูตร #ข้อ 88 ธรรมที่ไม่เกื้อกูล ไม่ใช่ประโยชน์แก่คนหมู่มาก คือ เป็นผู้บวชมานาน, มีชื่อเสียง ยศ บริวาร, ร่ำรวยด้วยปัจจัย 4, เป็นพหูสูต, เป็น มิจฉาทิฏฐิ (อกุศลเพิ่ม) และธรรมที่เกื้อกูล เป็นประโยชน์แก่คนหมู่มาก จะเหมือนกันใน 4 ประการแรก แตกต่างกันในประการที่ 5 คือ เป็น สัมมาทิฏฐิ คืออกุศลลด กุศลเพิ่ม วางความยึดถือลงได้
ปฐมเสขสูตร #ข้อ 89 ธรรมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ผู้ที่เป็นเสขะ (ยังต้องศึกษา) คือ ชอบการงาน, พูดคุย, หาความสุขในการนอน, ชอบคลุกคลี, ไม่พัฒนาคุณธรรมให้สูงยิ่ง ๆ ขึ้นไป และธรรมเพื่อความเจริญ คือ ตรงข้ามกับที่กล่าวมา
ทุติยเสขสูตร #ข้อ 90 มีกิจมาก, ปล่อยเวลาล่วงไป, คลุกคลีกับคฤหัสถ์, ออกบิณฑบาตเช้า-กลับสายนัก, ไม่ประกอบด้วยธรรมกถาต่างๆ แล้วละการหลีกเร้น จิตไม่เป็นสมาธิ เป็นธรรมที่เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ผู้ที่เป็นเสขะ และธรรมเพื่อความเจริญ คือ ตรงข้ามกับที่กล่าวมาแล้ว
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต เถรวรรค ข้อที่ 86-90
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 29 Mar 2024 - 56min - 304 - อดทนให้เป็นปัญญา [6712-6t]
ทบทวน #ข้อ 215 - #ข้อ 126 ว่าด้วยความไม่อดทน โดยได้ยกเอา เวปจิตติสูตร มาอธิบายเสริมทำความแจ่มแจ้งในเรื่องของการวางจิตในความอดทนเพื่อให้เป็นปัญญา
“ผู้ใดแล.. เป็นคนมีกำลัง อดกลั้นต่อคนพาลไว้ได้ ความอดกลั้นของผู้นั้น บัณฑิตทั้งหลายกล่าวว่า เป็นขันติอย่างยิ่ง”
ปฐม-ทุติยอปาสาทิกสูตร #ข้อ 217 - 218 โทษของบุคคลผู้ไม่น่าเลื่อมใส(ทำผิดวินัย) สูตร 1-2 คือ แม้ตนก็ติเตียนตนเอง ผู้รู้ติเตียน ชื่อสียงไม่ดีกระฉ่อนไป หลงลืมสติตาย ตายแล้วไปเกิดในอบาย คนที่ยังไม่เลื่อมใสย่อมไม่เลื่อมใส ผู้ที่เลื่อมใสแล้วกลายเป็นอื่น ไม่ปฏิบัติตามคำสอน คนรุ่นหลังเอาแบบอย่างได้
อัคคิสูตร #ข้อ 219โทษของไฟ คือ ทำให้ตาฝ้าฟาง ผิวหยาบกร้าน อ่อนกำลัง เพิ่มการคลุกคลีด้วยหมู่ สนทนาดิรัจฉานกถา
มธุราสูตร #ข้อ 220 นครมธุรา มีโทษคือ พื้นดินไม่เรียบ มีฝุ่นละออง สุนัขดุ มียักษ์ร้าย อาหารหาได้ยาก ถ้าเราอยู่ที่ไหนแล้วมีจิตไม่เป็นสมาธิ ละอาสวกิเลสไม่ได้ ไม่ควรอยู่ที่นั่น
ปฐม-ทุติยทีฆจาริกสูตร #ข้อ221 - 222 ผู้จาริกไปนาน ไม่มีกำหนดมีโทษ คือ จะไม่ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ไม่เข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว ไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เสื่อมจากธรรมที่ได้บรรลุแล้ว ไม่แกล้วกล้าในเรื่องที่ได้ฟัง เป็นโรคร้ายแรง ไม่มีมิตร
อตินิวาสสูตร-มัจฉรีสูตร #ข้อ223 - 224 การอยู่ประจำที่นานมีโทษ คือ มีสิ่งของ และเภสัชสะสมมาก มีกิจมาก คลุกคลีอย่างคฤหัสถ์ ห่วงใยและตระหนี่ในอาวาส ตระหนี่ในตระกูล ในลาภ วรรณะ และในธรรม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อักโกสกวรรค ทีฆจาริกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 22 Mar 2024 - 53min - 303 - สัญญาในสิ่งทั้งสอง [6711-6t]
อวชานาติสูตร #ข้อ141 บุคคล 5 จำพวก (ปุถุชน) มีปรากฏอยู่ คือ 1) บุคคลให้แล้วดูหมิ่นผู้รับ 2) อยู่ร่วมกันแล้วดูหมิ่นในศีล 3) เป็นคนเชื่อง่าย หูเบา 4) เป็นคนโลเล ศรัทธาหัวเต่า และ 5) ผู้เขลา ไม่รู้จักธรรมดำธรรมขาว
อารภติสูตร #ข้อ142 บุคคล 5 จำพวก คือ บุคคลจำพวกที่ 1-4 มี ศีล สมาธิ สมบูรณ์และไม่สมบูรณ์บ้าง และมีปัญญาพอประมาณ เมื่อละอาสวะที่เกิดจากการต้องอาบัติและวิปปฏิสาร และเจริญซึ่งสมถะกับวิปัสสนา ก็จะทัดเทียมจำพวกที่ 5 คือ อรหันต์
สารันททสูตร #ข้อ143 เจ้าลิจฉวี ได้สนทนากันเรื่อง “แก้ว 5 ประการ ที่หาได้ยากในโลก” โดยมีนัยยะมุ่งไปในทางกาม ส่วนนัยยะของพระผู้มีพระภาคนั้น คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อริยบุคคล และผู้กตัญญูกตเวที เป็นสิ่งหาได้ยากในโลก
ติกัณฑกีสูตร #ข้อ144 พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ป่าติกัณฑกีวัน ได้ตรัสเรื่อง การกำหนดหมายรู้ในสิ่งที่เป็นปฎิกูลและไม่ปฏิกูลเพื่อ ละความกำหนัด ความขัดเคือง และความหลง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ติกัณฑกีวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 15 Mar 2024 - 55min - 302 - อปริหานิยธรรม – ธรรมของภิกษุผู้เจริญ [6710-6t]
อปริหานิยธรรม 7 ประการ ของภิกษุ หรือ ภิกขุปริหานิยธรรม 7 (ธรรมอันไม่เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม เป็นไปเพื่อความเจริญฝ่ายเดียวสำหรับภิกษุทั้งหลาย) ซึ่งได้แสดงจำแนกไว้หลายนัยยะ
ข้อที่ 23_ปฐมสัตตกสูตร (สูตรที่ ๑)
- หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ พร้อมเพรียงกันประชุม - เลิกประชุม - ทำกิจที่สงฆ์จะต้องทำ ไม่บัญญัติสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงบัญญัติ ไม่ล้มล้างสิ่งที่บัญญัติไว้ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลายตามที่บัญญัติไว้ เคารพนับถือภิกษุผู้เป็นผู้ใหญ่ เห็นถ้อยคำของท่านว่าเป็นสิ่งอันควรรับฟัง ไม่ลุอำนาจตัณหาคือความอยากที่เกิดขึ้นยินดีในเสนาสนะป่าตั้งสติระลึกไว้ว่า เพื่อนพรหมจารีผู้มีศีลงาม ซึ่งยังไม่มา ขอให้มา ที่มาแล้ว ขอให้อยู่ผาสุก
ข้อที่ 24_ทุติยสัตตกสูตร (สูตรที่ ๒)
- ไม่ยินดีในการงาน เช่น การทำจีวร หรืองานก่อสร้างต่าง ๆไม่ชอบการพูดคุย - ไม่สนทนาเรื่องนอกธรรมวินัย (เรื่องกาม)ไม่ชอบการนอนหลับ – อันเป็นเหตุแห่งความหดหู่และเซื่องซึมไม่คลุกคลีด้วยหมู่ไม่ปรารถนาชั่วไม่มีมิตรชั่วไม่หยุดชงักเสียในระหว่างเพียงเพราะได้บรรลุคุณวิเศษชั้นต่ำ
ข้อที่ 25_ตติยสัตตกสูตร (สูตรที่ ๓) คือ ศรัทธา – ศรัทธาอันมั่นคงในพระรัตนตรัย / หิริ / โอตตัปปะ / พหูสูต - สดับฟังธรรม / ความเพียร / สติ / ปัญญา
ข้อที่ 26_โพชฌังคสูตร ว่าด้วยโพชฌงค์ที่เป็นอปริหานิยธรรม ก็คือยกโพชฌงค์ทั้ง 7 ประการมา (ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต วัชชิสัตตกวรรค
......................................................................................
เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกที่องค์การยูเนสโกให้การยกย่อง (พ.ศ.2566 - พ.ศ.2567) และวาระครบรอบ 124 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ไทย - รัสเซีย คณะศิลปศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกับ มูลนิธิ ดร.ธวัช มกรพงศ์ ร่วมกันจัดสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่องพระไตรปิฎกสากล ฉบับสัชฌายะ อักขระคิริลิซซา สำหรับชนชาติรัสเซีย วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. - 16.30.น. ( 12.30 น. เริ่มลงทะเบียนผู้เข้าร่วมสัมมนา ) ณ ห้องประชุมคึกฤทธิ์ ปราโมช ชั้น 9 ตึกอเนกประสงค์ สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)
หัวข้อสัมมนา
- การออกเสียงปาฬิภาสาในพระไตรปิฎกให้แม่นยำสำคัญต่อการบรรลุธรรมอย่างไร นวัตกรรมและมุมมองจากภูมิปัญญาพระไตรปิฎกสากล โดยวิทยากร พระมหาไพบูลย์ อภิปุณฺโณ ที่ปรึกษามูลนิธิพระไตรปิฎกสากลการถอดเสียงบทสวดปาฬิภาสา ด้วยอักขระคิริลิซซา โดยวิทยากร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ธเนศ ปุรณสุธีมงคล อาจารย์ประจำของสาขาวิชาภาษารัสเซีย คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
(การสัมมนาครั้งนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ)
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 08 Mar 2024 - 57min - 301 - สมัยที่ควรพบผู้เจริญภาวนา [6709-6t]
#25_อนุสสติฏฐานสูตร เมื่อตามระลึกถึงอนุสสติฏฐาน 6 ประการนี้แล้ว จิตย่อมไม่ถูกกิเลสกลุ้มรุม เป็นจิตดำเนินไปตรง ทำจิตบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ อันได้แก่ 1) พุทธานุสสติ 2) ธัมมานุสสติ 3) สังฆานุสสติ 4) สีลานุสสติ 5) จาคานุสสติ 6) เทวตานุสสติ
#26_มหากัจจานสูตร พระมหากัจจานะได้ปรารภการ “บรรลุช่องว่างในที่คับแคบ” ซึ่งหมายถึง อนุสสติฏฐาน 6 ที่ประกอบด้วยจิตอันไพบูลย์เป็นมหัคคตะ คือ ไม่ว่าเราจะถูกบีบคั้นจากอายตนะ 6 อย่างไร ถ้าเราจัดการจิตเราได้อย่างถูกต้องย่อมบรรลุถึงนิพพานได้
#27_#28_ปฐม_ทุติยสมยสูตร พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับภิกษุรูปหนึ่ง (สูตร1) และ ท่านพระมหากัจจานะได้กล่าวกับเหล่าภิกษุเถระ (สูตร 2) ถึงสมัยที่ควรเข้าไปพบภิกษุผู้เจริญภาวนาทางใจ ซึ่งก็ได้แก่ สมัยที่ถูกนิวรณ์ 5 กลุ้มรุม และไม่รู้นิมิต (เครื่องหมาย) ซึ่งเป็นที่สิ้นอาสวะสำหรับผู้อาศัยมนสิการ (ทำไว้ในใจ) อยู่ เพื่อขอให้ท่านได้แสดงอุบายเป็นเครื่องนำออกจากสิ่งนั้นได้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อนุตตริยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 01 Mar 2024 - 53min - 300 - อปริหานิยธรรม – หลักธรรมของกษัตริย์วัชชี [6708-6t]
อปริหานิยธรรม (ราชอปริหานิยธรรม) 7 ประการนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสแสดงแก่เจ้าวัชชีทั้งหลายผู้ปกครองรัฐโดยระบอบสามัคคีธรรม ซึ่งรัฐคู่อริ (แคว้นมคธ) ยอมรับว่า เมื่อชาววัชชียังปฏิบัติตามหลักธรรมนี้ จะเอาชนะด้วยการรบไม่ได้ นอกจากจะใช้การเกลี้ยกล่อมทางการฑูตหรือยุแยกให้แตกสามัคคีกัน
#22_วัสสการสูตร พระเจ้าอชาตศัตรู มีพระประสงค์จะโค่นล้มพวกเจ้าลิจฉวีจึงรับสั่งให้ วัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์ ไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อกราบทูลถาม..ฯ พระผู้มีพระภาคทรงไม่ตรัสตอบแต่ทรงรับสั่งเรียกท่านพระอานนท์มาตรัสถามถึง “อปริหานิยธรรม 7 ประการ” ของชาววัชชี จึงทำให้วัสสการพราหมณ์มีปัญญาเห็นกลอุบายที่จะโค่นล้มพวกเจ้าลิจฉวีนั่นคือ “ทำให้แตกแยกสามัคคี” ... จึงได้คิดวางแผนให้วัสสการพราหมณ์ปลอมเข้าไปเป็นไส้ศึก ซึ่งวิธีการที่ใช้ คือ 1. ทำให้ไม่เชื่อใจกัน (ระแวง) 2. ทำให้ไม่พอใจกัน ซึ่งใช้ระยะเวลาอยู่ 3 ปี ก็โค่นล้มพวกเจ้าลิจฉวีได้สำเร็จ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต วัชชิสัตตกวรรค
.......................................................................................
*อปริหานิยธรรม 7 ประการ
- หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์พร้อมเพรียงกันประชุม - เลิกประชุม – ทำกิจที่พึงทำไม่บัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติไว้ (อันขัดต่อหลักการเดิม) ไม่ล้มล้างสิ่งที่บัญญัติไว้ (ตามหลักการเดิม) ถือปฏิบัติมั่นตามวัชชีธรรม (หลักการ) ตามที่วางไว้เดิมเคารพนับถือผู้ใหญ่ในชนชาววัชชี เห็นถ้อยคำของท่านว่าเป็นสิ่งอันควรรับฟัง บรรดากุลสตรีกุลกุมารีทั้งหลาย ให้อยู่ดีโดยมิถูกข่มเหง หรือฉุดคร่าขืนใจ เคารพสักการะบูชาเจดีย์ ของวัชชีทั้งหลาย ทั้งภายในและภายนอก ไม่ปล่อยให้ธรรมิกพลีที่เคยให้เคยทำแก่เจดีย์เหล่านั้นเสื่อมทรามไป จัดให้ความอารักขา คุ้มครอง ป้องกัน อันชอบธรรม แก่พระอรหันต์ทั้งหลาย โดยตั้งใจว่า “ขอพระอรหันต์ทั้งหลายที่ยังมิได้มา พึงมาสู่แว่นแคว้น ที่มาแล้วพึงอยู่ในแว่นแคว้นโดยผาสุก”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 23 Feb 2024 - 53min - 299 - “ภัย” เป็นชื่อของกาม [6707-6t]
#21_สามกสูตร พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่วิหารโปกขรณีย์ ใกล้หมู่บ้านสามะ ทรงปรารภเทวดาที่มาเข้าเฝ้ากราบทูลถึงธรรมที่เป็นไปเพื่อความเสื่อม 3 ประการ คือ 1) เป็นผู้ชอบการงาน 2) ชอบการพูดคุย 3) ชอบการนอนหลับ และพระองค์ทรงแสดงปริหานิยธรรมเพิ่มอีก 3 ประการ ให้แก่ภิกษุทั้งหลาย คิอ 4) ชอบคลุกคลีด้วยหมู่ 5) เป็นผู้ว่ายาก 6) มีปาปมิตร (มิตรชั่ว)
#22_อปริหานิยสูตร อปริหานิยธรรม (ธรรมที่ไม่เป็นเหตุแห่งความเสื่อม) คือ ยกเอาธรรมในข้อ #21 ทั้ง 6 ประการ มากล่าวถึงในทางตรงข้ามกัน
#23_ภยสูตรคำว่า ‘ภัย (อันตราย) ทุกข์ (ยึดถือ) โรค (อ่อนกำลัง) ฝี (จิตกลัดหนอง) เครื่องข้อง (บีบคั้น) เปือกตม (จมอยู่)’ นี้เป็นชื่อของกาม เพราะกามทำให้ผูกพัน มีฉันทราคะ ลุ่มหลง ก็จะทำให้เกิด ‘ภัย ทุกข์ โรค ฝี เครื่องข้อง เปือกตม’ ขึ้น ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
#24_หิมวันตสูตรธรรม 6 ประการนี้ ย่อมทำลายอวิชชาได้ คือ เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ (สัปปายะ) ในการให้สมาธิตั้งอยู่ได้ ในการออกจากสมาธิ ในความพร้อมแห่งสมาธิ ในอารมณ์แห่งสมาธิ และในอภินิหารแห่งสมาธิ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อนุตตริยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 16 Feb 2024 - 52min - 298 - กิเลส ดุจตะปูตรึงใจ [6706-6t]
จิตที่ไม่นุ่มนวล เพราะถูกกิเลสรัดตรึงไว้ จิตจะไม่ก้าวหน้า ให้เราเอาเครื่องขวางนี้ออก จิตของเราจะมีการพัฒนา บรรลุธรรมได้
กิมพิลสูตร #ข้อ 201 ท่านกิมพิละได้ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเหตุปัจจัยให้พระสัทธรรมดำรงอยู่ได้ไม่นานเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว นั่นก็คือพุทธบริษัท 4 นี้ ไม่เคารพยำเกรงในพระรัตนตรัย ในสิกขา และ ในกันและกัน
ธัมมัสสวนสูตร #ข้อ 202การฟังธรรมจะมีอานิสงส์ 5 ประการ คือ ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง เข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว บรรเทาความสงสัยเสียได้ ทำให้มีความเห็นตรง จิตย่อมเลื่อมใส
อัสสาชานียสูตร #ข้อ 203 อุปมาอุปไมยม้าอาชาไนยกับภิกษุ ในเรื่องความตรง ความมีเชาว์ ความอ่อน ความอดทน และความเสงี่ยม
พลสูตร #ข้อ 204 พละ คือ กำลังคือศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ และปัญญา
เจโตขิลสูตร #ข้อ 205 กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู 5 ประการ คือ มีความเคลือบแคลง ไม่ลงใจในพระรัตนตรัย ในสิกขา และเป็นผู้มีโทสะในเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์
วินิพันธสูตร #ข้อ 206 กิเลสเครื่องผูกใจ 5 ประการ คือ มีความกำหนัดในกามคุณ 5 ในกาย (อัตภาพ) ในรูป (รูปฌาน) กินอิ่มจนเกินไป และปรารถนาความเป็นเทพหมู่ใดหมู่หนึ่ง
ยาคุสูตร #ข้อ 207 อานิสงส์ของยาคู (ข้าวต้ม) คือ บรรเทาความหิว กระหาย ลมเดินคล่อง ดีต่อลำไส้ ย่อยง่าย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต กิมพิลวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 09 Feb 2024 - 54min - 297 - ผู้ให้สิ่งที่น่าพอใจ [6705-6t]
มุณฑราชวรรค หมวดว่าด้วยพระเจ้ามุณฑราช เริ่มด้วยข้อที่ 42 สัปปุริสสูตร เพราะมีความเกี่ยวเนื่องด้วยข้อที่ 40 ไส้ในเหมือนกัน หัวข้อและอุปมาต่างกัน ในข้อที่ 42 นี้คือ คนดีเกิดมาเพื่อประโยชน์แก่คนหมู่มาก คนดีดูได้ที่ ศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา ท่านอุปมาเฆฆฝนที่ตั้งขึ้นย่อมมีคุณต่อชาวนาในการเพาะปลูก
ข้อที่ 41 อาทิยสูตร บุคคลที่มีโภคทรัพย์แล้ว ควรถือประโยชน์จากทรัพย์นั้นให้ครบทั้ง 5 ประการ เพราะแต่ละข้อให้ประโยชน์แตกต่างกัน ควรจะขวนขวายเอาให้หมดจากเงินแม้น้อยหรือมากที่เรามีก็ตาม รู้จักบริหารเป็นสุขอยู่โดยธรรม ด้านบำรุงครอบครัวและมิตรให้พลังมีความเพียร ด้านป้องกันภัยให้มีเงินเก็บรู้จักลงทุน ด้านสละเพื่อสังคมทำให้มีกัลยาณมิตร และด้านที่สละออกแด่เนื้อนาบุญจะทำให้บุญนั้นให้ผล
ข้อที่ 43 อิฏฐสูตร ธรรมะ 5 อย่างที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา คือ อายุ วรรณะ ความสุข ยศ สวรรค์ แต่การได้มานั้นพระพุทธเจ้าไม่ได้ให้อ้อนวอนหรือเพลิดเพลินไปในสิ่งนั้น ให้เห็นถึงความไม่เที่ยง ให้มีปฏิปทาที่ให้เกิดผลนั้นอยู่ ถ้าเราสร้างเหตุเฉยๆ ไม่มีความอยาก มีความแยบคายในการปฏิบัติ อริยสาวกย่อมได้รับธรรมะห้าข้อนี้ ที่น่าสนใจ คือ เรามักสร้างเหตุถูกต้องตามที่พระพุทธเจ้าสอน แต่เงื่อนไขเราทำมันไม่ถูกต้อง เพราะทำตามความอยาก มันกลายเป็นอ้อนวอนทันที มันกลายเป็นที่น่าปรารถนาทันที ทั้งๆ ที่ไม่ได้คุกเข่าอ้อนวอนอย่างเดียวสร้างเหตุไปด้วย นั่นแหละผิด ต้องไม่อ้อนวอน ไม่อยาก อย่าไปเพลิน สร้างเหตุที่ถูกต้อง ได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่มีปัญหา คนอย่างนี้จะรักษาประโยชน์ทั้งในโลกนี้และโลกหน้าได้
ข้อที่ 44 มนาปทายีสูตร ผู้ที่ถวายของที่น่าพอใจ ย่อมได้ของที่น่าพอใจ เหมือนกับคฤหบดีนี้ที่เห็นผลเมื่อไปเกิดในสวรรค์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต มุณฑราชวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 02 Feb 2024 - 54min - 296 - อปริหานิยธรรม – ธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดความเจริญ [6704-6t]
“อปริหานิยธรรม”หมายถึง ธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดความเจริญโดยส่วนเดียวไม่มีความเสื่อมเลย ความเจริญ ในที่นี้หมายถึงความเจริญด้วยคุณธรรมมีศีลเป็นต้น ซึ่งในข้อที่ 21 และข้อที่ 22 ได้แสดงถึงอปริหานิยธรรม 7 ประการที่เหมือนกัน และมีเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน เป็นเรื่องราวของพวกชาววัชชี
โดยในข้อที่ #21_สารันททสูตร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอปริหานิยธรรมแก่พวกเจ้าลิจฉวี และข้อที่ #22_วัสสการสูตร พระเจ้าอชาตศัตรู มีพระประสงค์จะโค่นล้มพวกเจ้าลิจฉวีจึงรับสั่งให้ วัสสการพราหมณ์มหาอำมาตย์ ไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อกราบทูลถาม..ฯ พระผู้มีพระภาคทรงไม่ตรัสตอบแต่ทรงรับสั่งเรียกท่านพระอานนท์มาตรัสถามถึงอปริหานิยธรรม 7 ประการของชาววัชชี จึงทำให้วัสสการพราหมณ์มีปัญญาเห็นกลอุบายที่จะโค่นล้มพวกเจ้าลิจฉวีนั่นคือ “ทำให้แตกแยกสามัคคี”
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต วัชชิสัตตกวรรค
..............................................................................
Q & A: จากงาน “ขุมทรัพย์แห่งใจ”
Q: ปฏิบัติศีล 8 เฉพาะวันพระได้หรือไม่?
A: ศีล คือข้อปฏิบัติที่เป็นผลดีกับผู้ปฏิบัติเอง ควรปฏิบัติให้เป็นปกติในทุกวัน อาจจะเริ่มจาก ศีล 5 ก่อน แล้วค่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ละข้อ เป็นศีล 6 -7 - 8 จนเต็มบริบูรณ์
Q: ตั้งจิตแผ่เมตตาให้กับคนที่หวังร้ายได้อย่างไร?
A: ให้ตั้งจิตนึกถึง “จิตของผู้ที่เป็นแม่” ที่มีความรักให้กับลูกได้อย่างไม่มีเงื่อนไข และไม่มีประมาณ ไม่ว่าลูกจะดีหรือร้ายกับเราอย่างไร จิตของผู้เป็นแม่ก็ยังคงรักและมีเมตตากับลูกเสมอ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 26 Jan 2024 - 54min - 295 - ธรรมะรับอรุณ Live 20 ม.ค. 2567 - “สติ” ยารักษาโรคทุกข์ [6703-6t_Live]
Q: ประสบปัญหาสูญเสียดวงตา เคยคิดฆ่าตัวตายแต่ไม่กล้า / คาถา “อะทาสิ เม อะกาสิ เม” ที่ใช้สวดในงานศพมีความหมายอย่างไร?
A: ผู้ที่ประสบปัญหาแล้วแต่มีความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับปัญหานั้น เราเรียกความกล้าหาญของผู้นี้ว่า "เป็นผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม” / “อะทาสิ เม อะกาสิ เม” แปลได้ว่า “ทานที่ให้แล้ว บุญที่กระทำแล้วมีผล” หมายความว่า ทาน ศีล ภาวนา ที่เราได้กระทำไว้ไม่สูญเปล่าย่อมส่งผลทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
Q: เมื่อประสบความทุกข์อยู่ต่อหน้าอะไรคือทางออก?
A: สติคือทางออกอย่างแรกเลย สติจะมีหน้าที่คอยแยกแยะไม่ให้หลงเพลินไปในความทุกข์นั้น ให้มีความอดทนต่อผัสสะต่างๆ สั่งสมปัญญาด้วยการฟังธรรมอยู่เนืองๆ จิตจะคลายความยึดถือลง เบาลง
Q: มีความฟุ้งซ่านเกิดขึ้นในระหว่างการทำสมาธิ
A: “สมาธิไม่ได้ด้วยการบังคับ” อย่าบังคับความคิด แต่ให้ดึงสติให้มาสังเกตลมหายใจอยู่ที่จมูก
Q: เรื่องภาษาและเชื้อขาติ กับคำสอนของพระพุทธเจ้า
A: คำสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับ “ทุกขอริยสัจ” เป็นความจริงบนโลกซึ่งสามารถทำความเข้าใจได้ในทุกชาติทุกภาษา
Q: มักจะเจอคำตอบของปัญหาในการฟังธรรม
A: ทุกข์บนโลกนี้มีมาก และทุกคนก็ประสบความทุกข์เหมือนกัน กล่าวคือ การเกิดเป็นทุกข์ ตัณหาคือเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ และธรรมของพระพุทธเจ้าคือข้อปฏิบัติทำให้สิ้นทุกข์เพราะฉะนั้น เมื่อได้มีการฟังธรรมแล้วจึงพบคำตอบของกองทุกข์เหล่านั้น
Q: โรคภาวะทางอารมณ์ “ไบโพล่า”
A: ทางกายภาพอาจรักษาด้วยการให้ยาปรับสารเคมีในสมอง แต่ทางด้านจิตใจนั้นปรับรักษาด้วยการ “มีสติ” ดึงสติให้มาระลึกรู้อยู่กับลมหายใจให้ได้อยู่บ่อยๆ เมื่อสติมีกำลังจะไม่เผลอเพลินไปตามความคิด ความแปรปรวนในอารมณ์ก็จะค่อยๆเบาบางและสงบลง
Q: คำว่า “มีสติอยู่กับปัจจุบัน”
A: ไม่หลงลืมลมหายใจแม้จะคิดถึงเรื่องที่เป็นอดีต เรื่องในปัจจุบัน หรือเรื่องที่เป็นอนาคต คือ คิดได้แต่ไม่หลงไม่เพลินไป
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sat, 20 Jan 2024 - 1h 00min - 294 - ผู้เห็นความเป็นสุขในนิพพาน [6702-6t]
การที่เราจะมาพิจารณาเห็นความเป็นสุขในนิพพานได้นั้น ต้องอาศัยการลงมือปฏิบัติตามอริยมรรค เพื่อให้เข้าใจทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ และปัญญาที่จะเห็นแจ้งในการดับทุกข์
ซึ่งในข้อที่ #19_นิพพานสูตร ได้เน้นถึงการมีสัญญาเห็นอยู่บ่อย ๆ ใน “ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา” ในสังขารทั้งหลายและการดับลงแห่งสังขารทั้งหลายของอนาคามีและอรหันต์ 7 จำพวกซึ่งเป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวายฯลฯ.. เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก
*การมีสติตั้งมั่นในสติปัฏฐาน 4 จะทำให้เราเห็นแจ้งตามความเป็นจริงในสังขารทั้งหลาย เข้าถึงนิพพานในปัจจุบันได้
#20_นิททสวัตถุสูตร การบรรลุธรรมเป็นอริยบุคคลขั้นใดขั้นหนึ่งไม่ได้เกี่ยวเนื่องด้วยจำนวนพรรษา แต่อยู่ที่การปฏิบัติในศีล สมาธิ และปัญญา มีการพิจารณาใคร่ครวญธรรม ข่มตัณหา อยู่หลีกเร้น ปรารภความเพียร มีสติปัญญาเป็นเครื่องรักษาตน แทงตลอดด้วยทิฏฐิ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต อนุสยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 12 Jan 2024 - 57min - 293 - ชื่อว่าอริยบุคคล [6701-6t]
ขยายความในข้อที่ 14 ให้เห็นถึงลักษณะของโสดาบันในสไตล์การบรรลุที่ต่างกัน ไล่มาตั้งแต่โสดาปัตติมรรคคือธัมมานุสารีและสัทธานุสารีนี้เป็นมรรคให้เกิดผลในกายสักขี ทิฏฐิปัตตะ สัทธาวิมุตติ ส่วนในสองข้อแรกคืออรหันต์
ต่อมาในข้อที่ 15 เปรียบด้วยบุคคลผู้ตกน้ำ เป็นอุปมาอุปไมยการท่วมทับจากกามจนจมน้ำ จนถึงกายแห้งขึ้นบกคืออรหันต์ โดยมีอินทรีย์ 5 เป็นตัววัดในการพัฒนาของบุคคลทั้ง 7 ประเภทนี้ คือ 1) จมแล้ว จมเลย=ดำมืด ไม่มีกุศลธรรม 2) โผล่แล้ว จมลงอีก=มีอยู่แต่ไม่คงที่ 3) โผล่แล้ว หยุดอยู่=คงที่ 4) โผล่แล้ว เหลียวมองดู=โสดาบัน 5) โผล่แล้ว ข้ามไป=สกทาคามี 6) โผล่แล้ว ได้ที่พึ่ง=อนาคามี และ 7) โผล่แล้ว เข้าถึงฝั่ง=อรหันต์
ข้อที่ 16, 17 และ18 มีความต่างกันตรงเหตุที่ทำให้บรรลุคือการพิจารณาความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา โดยมีพื้นฐานเหมือนข้อที่ 14 โดยในสองข้อแรกหมายถึงอรหันต์ ส่วนข้อที่เหลือหมายถึงอนาคามี 5 ประเภท ที่มีเวลาการบรรลุที่แตกต่างกันตามภพที่ไปเกิด คือ อัตราปรินิพพายี มีอายุไม่ถึงกึ่งก็ปรินิพพาน, อุปหัจจปรินิพพายี อายุเลยกึ่งจึงนิพพาน, อสังขารปรินิพพายี บรรลุโดยไม่ใช้ความเพียรมาก, สสังขารปรินิพพายี ใช้ความเพียรมาก และประเภทสุดท้ายคือ อุทธังโสตอกนิฏฐคามี เลื่อนขั้นไปอกนิฏฐภพจึงปรินิพพาน ใช้เวลานานสุด เหตุปัจจัยที่ทำให้บรรลุธรรมคือหมั่นเห็นความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทำอย่างสม่ำเสมอไม่ขาดระยะ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 05 Jan 2024 - 57min - 292 - อนุสัย - กิเลสความเคยชินของจิต [6652-6t]
อนุสัย หมายถึง ความเคยชิน เป็นกิเลสอย่างละเอียดที่ตกตะกอนนอนแนบนิ่งอยู่ในจิต คือทุกครั้งที่จิตของเราเกิดกิเลสขึ้น มันจะทิ้งคราบคือความเคยชินไว้ให้เสมอ พอมีอะไรมากระทบอารมณ์มันจะแสดงตัวออกมาทันที ยิ่งถ้าเกิดกิเลสขึ้นมาบ่อยๆก็จะยิ่งมีอนุสัยมากขึ้น
ข้อที่ #10_มัจฉริยสูตร สังโยชน์ หมายถึง สิ่งที่ผูกจิตให้ติดอยู่ในภพ ได้แก่ สังโยชน์ คือ ความยินดี, ความยินร้าย, ความเห็นผิด ความลังเลสงสัย, ความถือตัว, ความริษยา (ตนเองไม่มี-แต่คนอื่นมี), ความตระหนี่ (ตนเองมี-แต่ไม่ให้)
ข้อที่ #11-12_ปฐม-ทุติยอนุสยสูตร อนุสัย คือ กิเลสที่นองเนื่องในสันดาน ได้แก่ อนุสัย คือ ความกำหนัดในกาม, ความยินร้าย, ความเห็นผิด, ความลังเลสงสัย, ความถือตัว, ความติดใจในภพ, ความไม่รู้แจ้ง
*กิเลสที่ทำให้เกิดอนุสัย 7 และ สังโยชน์ 7 นี้ สังเกตเห็นได้ว่า เป็นกิเลสอย่างละเอียดชนิดเดียวกัน เมื่อเกิดสะสมอยู่ในจิตแล้วผลคือ ผูกจิตให้ติดอยู่ในภพ สามารถละได้ด้วยศีล สมาธิ ปัญญาอย่างละเอียด
ข้อที่#13_กุลสูตร ตระกูลที่ประด้วยองค์ประกอบต่อไปนี้ ภิกษุควรเข้าไปหา (ไว้ใช้พิจารณาการเข้าสู่ตระกูล) คือ มีการลุกขึ้นต้อนรับ-ไหว้-ให้อาสนะด้วยความเต็มใจ, ไม่ปกปิดของที่มีอยู่, มีของมาก ก็ถวายมาก, มีของประณีต ก็ถวายของประณีต, ถวายโดยเคารพ
ข้อ#14_ปุคคลสูตร บุคคลผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย (อริยบุคคล)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต อนุสยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 29 Dec 2023 - 55min - 291 - สังโยชน์ - กิเลสเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพ [6651-6t]
ข้อที่ #7_อุคคสูตร เป็นเรื่องราวของอุคคมหาอำมาตย์ที่ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงความเป็นผู้มีทรัพย์มากของมิคารเศรษฐีผู้เป็นหลานของโรหณเศรษฐี พระผู้มีพระภาคจึงทรงได้แสดงถึงทรัพย์เหล่านั้นว่า เป็นของสาธารณะทั่วไป แล้วได้ทรงแสดงถึง “อริยทรัพย์ 7 ประการ”ได้แก่ ทรัพย์คือ ศรัทธา, ศีล, หิริ, โอตตัปปะ, สุตะ, จาคะ และปัญญา ที่ไม่ใช่ของสาธารณะกับบุคคลอื่น ยิ่งใช้ยิ่งเพิ่ม และนำติดตัวข้ามภพชาติไปด้วยได้
*อริยทรัพย์นี้เมื่อเจริญให้มากก็ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์อันมากด้วยเช่นกัน นั่นหมายถึงการละสังโยชน์ตัดภพชาติได้
ข้อที่ 8-9-10 ว่าด้วยเรื่องสังโยชน์กิเลสเครื่องผูกใจสัตว์ไว้ในภพ ได้แก่ สังโยชน์คือ
- ความยินดีเพลินในสุข -รักสุข (กามราคะ)ความยินร้ายในทุกข์ -ความหงุดหงิดด้วยอำนาจโทสะ (ปฏิฆะ)ความเห็นผิด -ยึดมั่นในความเห็น (ทิฏฐิ)ความลังเลสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (วิจิกิจฉา)ความถือตัว -เป็นสังโยชน์เบื้องสูง อาศัยความละเอียดในศีล สมาธิ และปัญญาในการละ (มานะ)ความติดใจในภพ -กำหนัดยินดีในภพให้มีอยู่คงอยู่ ยินดีในการเกิด (ภวราคะ) / ความอิจฉาความไม่รู้แจ้ง - ความไม่รู้ในอริยสัจ 4, ปฏิจจสมุปบาท, อดีต, อนาคต, ปัจจุบัน (อวิชชา 8) / ความตระหนี่
*การมาปฏิบัติธรรม ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นคือ การละสังโยชน์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ธนวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 22 Dec 2023 - 56min - 290 - ทรัพย์ของคนประเสริฐ - อริยทรัพย์ [6650-6t]
ข้อธรรมะ 7 ประการในหมวดธนวรรค ที่ว่าด้วยอริยทรัพย์ คือ ทรัพย์อันประเสริฐที่เมื่อมีอยู่ในจิตใจของผู้ใดแล้วจะทำให้ผู้นั้นเป็นบุคคลประเสริฐขึ้นมาได้อย่างแท้จริง ทรัพย์ในที่นี้จึงหมายถึงธรรมะที่ทำให้ผู้นั้นเป็นคนประเสริฐหรืออริยบุคคลได้แก่
ข้อ#1 และ ข้อ#2 ธรรมที่เป็นเหตุให้เป็นที่รักที่พอใจเป็นที่น่าเคารพยกย่อง ได้แก่ 1. เป็นผู้ไม่มุ่งลาภ (สิ่งของ,เงินทอง) 2. ไม่มุ่งสักการะ (ยกย่อง) 3. ไม่มุ่งชื่อเสียง (มีหน้ามีตา) 4. เป็นผู้มีหิริ (ละอายบาป) 5. มีโอตตัปปะ (กลัวบาป) 6. มักน้อย (ไม่โอ้วอวด) / ไม่ริษยา 7. เป็นสัมมาทิฏฐิ / ไม่ตระหนี่
*ถึงแม้จะมีเพียงแค่ข้อใดข้อหนึ่งใน 7 ข้อนี้ก็เป็นเหตุให้เป็นที่รักได้
ข้อ#3 และ ข้อ#4 ว่าด้วยพละคือกำลังของจิตที่จะทำให้ทรงอยู่ในมรรคได้มากหรือน้อยได้แก่ 1. ศรัทธา (เชื่อมั่นในปัญญาการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า) 2. วิริยะ(เพียรในการเจริญกุศล-ละอกุศล) 3. สติ (สติปัฏฐาน 4) 4. หิริ 5. โอตตัปปะ 6. สมาธิ (ฌาน) 7. ปัญญา (เห็นอริยสัจ เห็นการเกิด-ดับ)
ข้อ#5 และ ข้อ#6 ผู้ใดมีทรัพย์ 7 ประการนี้เป็นคนไม่ขัดสน ได้แก่ ทรัพย์คือ ศรัทธา, ศีล, หิริ, โอตตัปปะ, สุตะ, จาคะ และปัญญา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต ธนวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 15 Dec 2023 - 54min - 289 - พละ 5 ธรรมที่ทำให้องอาจ [6649-6t]
มาในพลวรรค ข้อที่ 11 - 14 อธิบายโดยรวมได้ดังนี้ พละ 5 เป็นธรรมที่องอาจ เป็นการบันลือสีหนาทของพระพุทธเจ้า ทำให้เราได้ฟังได้ยินในสิ่งที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน พละ คือ กำลัง มี 5 อย่าง ได้แก่ ศรัทธา คือ ความมั่นใจความเลื่อมใส ความลงใจในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แม้เอ่ยเพียงหนึ่งแต่ให้เข้าใจว่ารวมทั้งหมด “พุทธ ธรรม สงฆ์” เป็นศรัทธาที่ไม่เศร้าหมอง เพราะศรัทธาในสัมมาสัมพุทโธ มีศรัทธาแล้วจะทำให้ไม่ลังเลที่จะทำจริงแน่วแน่จริงมีความกล้าในการเผชิญหน้ากับทุกข์ (วิริยะ) เห็นตามจริง สติเกิดขึ้น สมาธิปัญญาก็ตามมาตามลำดับ ปัญญามีสูงสุดในแต่ละขั้นที่ผ่านไป หิริ โอตตัปปะ และสติ สมาธิสามารถนำมาใช้แทนกันได้สลับไปมาได้ในพละนี้
ข้อที่ 15 จะชี้ให้เห็นว่า สามารถหาคุณธรรมทั้ง 5 ได้จากที่ไหน: ศรัทธาหาได้ในโสตาปัตติยังคะ 4 วิริยะหาได้ในสัมมัปปธาน 4 สติหาได้ในสติปัฏฐาน 4 สมาธิหาได้ในฌาน 4 ปัญญาหาได้ในอริยสัจ 4 ทำไมจึงกล่าวว่าหาปัญญาได้ที่อริยสัจ 4 เพราะอริยสัจ 4 เป็นตัวรวมธรรมะทั้งหมด ปัญญาจะเป็นตัวพาเราไปสู่ดินแดนที่ไม่เคยไป
ข้อที่ 16 เปรียบปัญญาเป็นอันดับสูงสุดของหลังคา ทุกสิ่งต้องอยู่ใต้หลังคานั้น ปัญญาเป็นยอด สมาธิเป็นตัวดัน มีพื้นฐาน คือ ศรัทธา ส่งต่อกันมาด้วยความเพียรด้วยสติ มาตามลำดับแล้วพัฒนาไปด้วยกัน พละ 5 จะทำให้ทรงอยู่ในมรรคได้ อินทรีย์ 5 เป็นตัวที่จะทำให้บรรลุได้เร็วหรือช้า ความหมายเดียวกัน ต่างกันที่บริบทการใช้
ข้อที่ 17 18 19 20 อธิบายรายละเอียดเหมือนกันต่างกันในหัวข้อคุณธรรม 5 อย่างคือ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ ธรรม 5 อย่างนี้เป็นไปเพื่อเกื้อกูลหรือไม่เกื้อกูล ทั้งตนเองและผู้อื่นหรือไม่ และควรพัฒนาไปได้อย่างไร
(พระไตรปิฎกเล่มที่ 22 พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ 14 อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต : พลวรรค ข้อที่ 11 - 20)
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 08 Dec 2023 - 53min - 288 - ธรรมให้แจ้งอมตธรรม [6648-6t]
ข้อที่ #119-139 ได้กล่าวถึงคุณธรรมของอริยบุคคลขั้นผลของคหบดี 20 ท่าน โดยใน 10 ท่านแรกเป็นอุบาสกผู้เลิศ (เอตทัคคะ) ซึ่งคุณธรรมที่จะทำให้เป็นผู้เชื่อมั่นในตถาคต เห็นอมตธรรม ทำให้แจ้งอมตธรรม มีอยู่ 6 ประการ คือ มีความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธ (๑) พระธรรม (๒) พระสงฆ์ (๓) อริยศีล (๔) อริยญาณ (๕) และ อริยวิมุตติ (๖)
*ความเลี่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หมายถึง ความเชื่อมั่นในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เชื่อมั่นในธรรมข้อปฏิบัติ (อริยศีล) ที่เมื่อปฏิบัติตามแล้วจะเป็นผู้ที่มีปัญญา (อริยญาณ) เห็นแจ้งในวิมุตติ เป็นอริยสงฆ์ขึ้นมาได้
ข้อที่ #140-649 ได้กล่าวถึงธรรมที่เป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง ไล่ไปจนถึงธรรมเพื่อความสละคืนในอุปกิเลสทั้ง 16 อย่าง เป็นธรรมที่แสดงเป็นชุด (Set) ในหนึ่งชุดประกอบด้วย
อนุตตริยะ 6 คือ การได้เห็น.. ได้ฟังธรรม.. การได้ศรัทธา.. ได้รับใช้ดูแล และการระลึกถึงใพระพุทธเจ้าและสาวกของพระพุทธเจ้า)
อนุสสติ 6 คือ การมีสติระลึกถึงอยู่เนือง ๆ ในคุณของพระรัตนตรัย ในศีล ในทานการบริจาค และคุณธรรมของผู้ที่มีศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา
สัญญา 6 ได้แก่ อนิจจสัญญา, อนิจเจ ทุกขสัญญา, ทุกเข อนัตตสัญญา, ปหานสัญญา, วิราคสัญญา, นิโรธสัญญา
*ข้อสังเกต ในสัญญา 6 ประการนี้ เมื่อเจริญปัญญาอย่างต่อเนื่องจะเห็นความเชื่อมโยงต่อเนื่องสัมพันธ์กันในความเป็นเหตุเป็นผล (ปฏิจจสมุปบาท) กล่าวคือ สิ่งใดสิ่งหนึ่งอาศัยเหตุปัจจัยในการเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมไม่เที่ยง มีสภาพเป็นทุกข์ (แปรเปลี่ยน) เป็นอนัตตา (อาศัยสิ่งอื่นเกิด) เมื่อเห็นด้วยปัญญาอยู่อย่างนี้ เราจะคลายความยึดถือในสังขารทั้งหลายลงได้
#พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สามัญวรรค ราคเปยยาล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 01 Dec 2023 - 56min - 287 - มนต์เครื่องกลับใจ [6647-6t]
มหาวรรคหมวดว่าด้วยเรื่องใหญ่ พระสูตรที่น่าสนใจ คือ # 193_ภัททิยสูตร: มนต์ใดที่พระพุทธเจ้ากล่าวแล้วทำให้ภัททิยะเปลี่ยนไป ตั้งใจจะมาถามแต่เกรงโดนมนต์เปลี่ยนใจ มนต์นั้นเป็นความจริงหรือ พระพุทธเจ้าได้ตอบให้คิดกลับว่า ในความเชื่อ 10 อย่างที่เขาเชื่อกันอยู่นั้น ให้ละเสีย แล้วให้พิจารณาจากสิ่งใดที่ทำแล้วสามารถละโลภะ โทสะ โมหะ และสารัมภะได้ ควรทำ เพราะจะทำให้เกิดกุศล สิ่งใดที่ทำแล้วก่อให้เกิดโลภะ โทสะ โมหะ หรือสารัมภะ สิ่งนั้นก่อให้เกิดอกุศลธรรมบท 10 อย่าอ้างในนามของความดี ฉันขอทำความชั่ว ไม่ได้
#191_โสตานุคตสูตร: บุคคลใดที่ฟังธรรมแล้ว คล่องปากขึ้นใจแทงตลอด แต่ขณะตายเกิดหลงลืมสติ จะทำให้เกิดอานิสงส์ไปเป็นเทวดาแล้วจะสามารถบรรลุนิพพานในชั้นนั้นโดยสถานะต่างกัน คือ จำได้ด้วยตนเอง จำได้เพราะภิกษุแสดงธรรม (เสียงกลอง) จำได้เพราะเทวดาแสดงธรรม (เสียงสังข์) จำได้เพราะเพื่อนเทวดาเตือน (จำวัยเด็กได้)
#192_ฐานสูตร: รู้บุคคลด้วยสถานะ 4 ประการ คือ ศีลพึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน ความบริสุทธิ์พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ กำลังจิตพึงรู้ได้ในคราวมีภัย ปัญญาพึงรู้ได้ด้วยการสนทนา ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานาน มีมนสิการ และปัญญา การตรวจสอบคนอื่นไม่ใช่หาข้อผิด ให้มนสิการกลับมาพัฒนาตนในข้อที่ยังไม่มี
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 24 Nov 2023 - 58min - 286 - เป็นอยู่อย่างไม่ประมาท [6646-6t]
การมาศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อให้เกิดผลที่ดีงามนั้น ควรจะศึกษาด้วยการปฏิบัติ (สิกขา) คือ ปริยัติและปฏิบัติจะต้องควบคู่กันไป ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติของเรานั้น มีความละเอียดลึกซึ้งขึ้นมาได้
#116_อุทธัจจสูตร ว่าด้วยความฟุ้งซ่าน
•ควรเจริญสมถะ (ความสงบแห่งจิต) เพื่อละ อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน) - ความคิดในหลายๆ เรื่องที่เป็นอกุศล
•ควรเจริญสังวร (ความสำรวม) เพื่อละ อสังวร (ความไม่สำรวม)
•ควรเจริญอัปปมาทะ (ความไม่ประมาท) เพื่อละ ปมาทะ (ความประมาท)
*การที่จะให้เกิดความสงบในจิตขึ้นมาได้นั้น ก็เริ่มมาจากการที่เราไม่ประมาท มีสติสำรวมในอินทรีย์ จิตก็จะรวมเป็นอารมณ์อันเดียวเกิดสมถะขึ้นมาในจิตใจได้
#117_กายานุปัสสีสูตร และ #118_ธัมมานุปัสสีสูตร ว่าด้วยผู้ที่ยังละธรรม 6 ประการนี้ไม่ได้
ก็จะทำให้สติปัฏฐาน 4 ให้เกิดขึ้นไม่ได้ และ ถ้าละได้แล้วก็จะทำให้สติปัฏฐาน 4 เกิดขึ้นได้ ได้แก่
1. เป็นผู้ชอบการงาน
2. เป็นผู้ชอบการพูดคุย
3. เป็นผู้ชอบการนอนหลับ
4. เป็นผู้ชอบการคลุกคลีด้วยหมู่
5. เป็นผู้ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย
6. เป็นผู้ไม่รู้จักประมาณในการบริโภค
*เป็นข้อปฏิบัติ (ศีล) ที่เป็นไปเพื่อให้เกิดสมาธิ
จากคำถามใน “ตาลปุตตสูตร” ว่าด้วยผู้ใหญ่บ้านนักฟ้อนรำ มีความเห็นผิดเป็นมิจฉาทิฏฐิ ตอนหลังจากที่ได้ฟังธรรมแล้วได้ออกบวชมีสัมมาทิฏฐิและได้บรรลุอรหันต์
#119_ตปุสสสูตร และข้อ 120-139 เป็นธรรม 6 ประการที่เหมือนกัน ว่าด้วย เป็นผู้เชื่อมั่นในตถาคต เห็นอมตธรรม ทำให้แจ้งอมตธรรมอยู่ คือ ความเลื่อมใสอันไม่หวั่นไหวในพระพุทธ / พระธรรม / พระสงฆ์ / อริยศีล / อริยญาณ (ปัญญา) / อริยวิมุตติ (ความพ้น)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ติกวรรค สามัญวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 17 Nov 2023 - 56min - 285 - ความสันโดษและการคบมิตร [6645-6t]
ในติกวรรคนี้แบ่งธรรมออกเป็น 2 หมวด หมวดละ 3 ข้อ โดยใน 3 ข้อแรกจะเป็นฝ่าย “อกุศล” และธรรม 3 ข้อหลังจะแสดงเพื่อละธรรมใน 3 ข้อแรกนั้น
#114_สันตุฏฐิตาสูตร ว่าด้วย ความสันโดษ ธรรมในหมวดนี้ คือ อสันตุฏฐิตา (ความไม่สันโดษ) / อสัมปัชชัญญะ (ความไม่มีสัมปชัญญะ) / มหิจฉตา (ความปรารถนามาก)
• ควรเจริญสันตุฏฐิตา (ความสันโดษ) เพื่อละอสันตุฏฐิตา
• ควรเจริญสัมปชัญญะ (มีสติ รู้ตัวทั่วพร้อม) เพื่อละอสัมปัชชัญญะ
• ควรเจริญอัปปิจฉตา (ความปรารถนาน้อย) เพื่อละมหิจฉตา
*สันโดษ มักน้อย มักจะเป็นวลีที่มาคู่กันเสมอ และมีการเข้าใจผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนไป “สันโดษ” ไม่ใช่ ความเกียจคร้าน แต่เป็นความยินดีพอใจยอมรับในสิ่งที่ตนมี จะทำให้เกิดการพัฒนา ส่วน “มักน้อย” คือ ไม่ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้คุณวิเศษในตน ทำดีได้โดยไม่ต้องโอ้อวด ตรงกันข้ามกับ
“มักมาก” อวดคุณวิเศษที่มีหรือไม่มีในตน เพื่อให้คนยกย่อง จะเป็นไปเพื่อพอกพูนกิเลส
#115_โทวจัสสตาสูตร ว่าด้วยความเป็นผู้ว่ายาก ธรรมในหมวดนี้ คือ ความเป็นผู้ว่ายาก (ไม่ทำตามคำสอน) / ความเป็นผู้มีปาปมิตร (มิตรชั่ว) / ความฟุ้งซ่านแห่งจิต
• ควรเจริญความเป็นผู้ว่าง่าย (เอื้อเฟื้อ เชื่อฟังทำตามสอน) เพื่อละความเป็นผู้ว่ายาก
• ควรเจริญความเป็นผู้มีกัลยาณมิตรเพื่อละความเป็นผู้มีปาปมิตร
• ควรเจริญอานาปานสติเพื่อละความฟุ้งซ่านแห่งจิต
*วิธีดูมิตร
• มิตรแท้ ได้แก่ มิตร 4 จำพวก คือ มิตรมีอุปการะ มิตรร่วมสุขร่วมทุกข์ มิตรแนะประโยชน์ และมิตรมีความรักใคร่
• มิตรเทียม ได้แก่ คน 4 จำพวก ซึ่งควรเว้นให้ห่างไกล คือ คนปอกลอก คนดีแต่พูด คนหัวประจบ และคนชักชวนในทางฉิบหาย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ติกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 10 Nov 2023 - 54min - 284 - ความเพลินในสุข – อัสสาททิฏฐิ [6644-6t]
หมวดธรรมติกวรรคนี้ แบ่งธรรมออกเป็นหมวดละ 3 ข้อ โดยยกธรรม 3 ข้อแรกขึ้นมาก่อน แล้วยกธรรม 3 ข้อหลังขึ้นมาเพื่อละธรรม 3 ข้อแรกนั้น
#112_อัสสาทสูตร ว่าด้วยอัสสาททิฏฐิ (อัสสาทะ หมายถึง ความยินดี ความพอใจ รสอร่อยในกามคุณ / ทิฏฐิ หมายถึง ความเห็น *ในที่นี้หมายถึงความเห็นผิด)
1. อัสสาททิฏฐิ - ความเห็นผิดที่เกิดขึ้นเพราะอาศัยความยินดี เพลินพอใจไปในกามคุณ เห็นแต่ข้อดีอย่างเดียว (คือ รสอร่อย) ไม่เห็นโทษอันต่ำทราม คือ ความที่มันเป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา (อาทีนวะ)
- ควรเจริญ “อนิจจสัญญา” (คือ ความหมายรู้โดยความเป็นของไม่เที่ยงของสังขารทั้งหลาย) เพื่อละอัสสาททิฏฐิ
2. อัตตานุทิฏฐิ - ความเห็นผิดว่านี่เป็นเรา เป็นตัวเรา เป็นของเรา (สักกายทิฏฐิ)
- ควรเจริญ “อนัตตสัญญา” (คือ หมายรู้โดยความเป็นของที่ไม่ใช่ตัวตน) เพื่อละอัตตานุทิฏฐิ
3. มิจฉาทิฏฐิ - ความเห็นผิดไปจากคลองธรรม เช่น บาป-บุญ-วิบากแห่งกรรมไม่มี, การให้-การบูชาไม่มีผล.. ฯ
- ควรเจริญ “สัมมาทิฏฐิ” เพื่อละมิจฉาทิฏฐิ
*ข้อสังเกต - ทุกสิ่งมีทั้งคุณและโทษ (อัสสาทะ และ อาทีนวะ) ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน ให้เราเป็น “ผู้ที่ฉลาดในคุณและโทษ” คือ ไม่เพลินไปในสุข และเห็นโทษที่มันเป็นของไม่เที่ยง
#113_อรติสูตร ว่าด้วยอรติ คือ ความไม่ยินดีที่ผู้อื่นได้ดี
1. อรติ (ความไม่ยินดี-อิจฉา) – ควรเจริญมุทิตา(ความยินดี) เพื่อละอรติ
2. วิหิงสา (ความเบียดเบียน) – ควรเจริญอวิหิงสา(ความไม่เบียดเบียน) เพื่อละวิหิงสา
3. อธัมมจริยา (การประพฤติอกุศลกรรมบถ 10) – ควรเจริญธัมมจริยา(ความประพฤติกุศลกรรมบถ 10) เพื่อละอธัมมจริยา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ติกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 03 Nov 2023 - 56min - 283 - เจริญธรรม-เพื่อละธรรม [6643-6t]
หมวดธรรมติกวรรคนี้ แบ่งธรรมออกเป็นหมวดละ 3 ข้อ โดยยกธรรม 3 ข้อแรกขึ้นมาแสดง แล้วตามด้วยธรรม 3 ข้อหลังเพื่อการละธรรม 3 ข้อแรกนั้น
#107_ราคสูตร ว่าด้วย ราคะ โทสะ โมหะ
1. ควรเจริญอสุภะ (ความเป็นของไม่งาม-ปฏิกูล) เพื่อละ ราคะ
2. เจริญเมตตาเพื่อละ โทสะ - ลักษณะของเมตตาที่เป็นไปเพื่อละโทสะ คือ 1. ไม่มีเงื่อนไข 2. ไม่มีประมาณ 3. ไม่มียกเว้นใคร
3. เจริญปัญญาเพื่อละ โมหะ - ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดปัญญา คือ กัลยาณมิตร (มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และเลือกคบคนดี) และการโยนิโสมนสิการ
#108_ทุจจริตสูตร ว่าด้วย กายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ควรเจริญกายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต
*ข้อสังเกตุ -การฝึกให้มีความประพฤติชอบทางกาย วาจา ใจ เป็นกระบวนการที่มีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงเป็นเหตุ-ผลในการละ ราคะ โทสะ และโมหะนี้ด้วย
#109_วิตักกสูตรเน้นมาในจิตใจ-ความคิด ว่าด้วย กามวิตก พยาบาทวิตก วิหิงสาวิตก(คิดเบียดเบียน)
1. ควรเจริญเนกขัมมวิตก เพื่อละกามวิตก
2. เจริญอพยาบาทวิตก เพื่อละพยาบาทวิตก
3. เจริญอวิหิงสาวิตก เพื่อละวิหิงสาวิตก
#110_สัญญาสูตร ว่าด้วยสัญญา และ #111_ธาตุสูตร ว่าด้วยธาตุ มีเนื้อหาแบบเดียวกันกับข้อ#109_วิตักกสูตรเพียงเปลี่ยนจากวิตกมาเป็นสัญญา (กำหนดหมายรู้) และเป็นธาตุแทน
*ข้อสังเกต - เพราะมีธาตุ จึงมีสัญญา และสังขารปรุงแต่ง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ติกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 27 Oct 2023 - 58min - 282 - การเจริญ “มรณสติ” เส้นทางสู่ความไม่ตาย [6642-6t]
#17_โสปปสูตร พระผู้มีพระภาคทรงตรัสกับพวกภิกษุผู้บวชใหม่ โดยทรงชี้ให้เห็นโทษของ “ผู้ที่หาความสุขจากการนอน” โดยได้ยกตัวอย่างบุคคล 6 ประเภทขึ้นมาเปรียบอุปไมยกับภิกษุ แล้วทรงชี้ให้เห็นคุณของ “การสำรวมอินทรีย์ รู้ประมาณในการบริโภค หมั่นประกอบในธรรมอันเป็นเครื่องตื่น ให้เห็นแจ้งในกุศลธรรมทั้งหลาย และเพียรเจริญโพธิปักขิยธรรม” ซึ่งจะทำให้ถึงความสิ้นอาสวะได้
#18_มัจฉพันธสูตร พระผู้มีพระภาคทรงปรารภเรื่อง “การเลี้ยงชีพด้วยการฆ่าเพื่อขาย” ของ คนฆ่าปลา ฆ่าโค ฆ่าแกะ ฆ่าสุกร พรานนก และพรานเนื้อ กระทำด้วยใจที่เป็นบาป (เจตนาทำซ้ำ ๆ) เพราะกรรมนั้นจึงเป็นเหตุให้ไม่มีโภคทรัพย์มาก ยิ่งผู้ที่ฆ่ามนุษย์ด้วยแล้วย่อมมีทุกข์มากตลอดกาล เมื่อตายไปแล้วย่อมไปเกิดในอบาย ฯ
#19_#20_ปฐม_ทุติยมรณัสสติสูตร (สูตร 1-2) พระผู้มีพระภาคทรงปรารภเรื่อง “การเจริญมรณสติ” มีอานิสงส์มาก มีอมตะ (นิพพาน) เป็นที่สุด พึงเจริญมรณสติอย่างแรงกล้า เพราะเหตุแห่งความตายมีมาก เช่น ภัยจากสัตว์ร้าย ลื่นหกล้ม อาหารไม่ย่อย ดี-เสมหะ-ลมพิษกำเริบ จึงพึงตั้งสติมั่นในการละอกุศล เจริญแต่กุศลให้มาก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สารณียวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 20 Oct 2023 - 57min - 281 - ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา [6641-6t]
การมาเห็นสังขารทั้งหลาย (ขันธ์ 5) เป็นของไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา แล้วเห็นอย่างไม่จำกัดขอบเขต จะเกิดอานิสงส์อย่างมาก จิตน้อมไปสู่กระแสนิพพาน “อนุโลมิกขันติ” จะหยั่งลงสู่ระบบความเห็นที่ถูกต้อง คือ “สัมมัตตนิยาม” และจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ข้อที่ 102-104ว่าด้วย เรื่องอานิสงส์ 6 ประการ ที่เกิดขึ้นจากเห็น “อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” ในสังขารทั้งหลาย เป็นการเห็นอย่างไม่มีขอบเขต
#102_อนวัฏฐิตสูตร เห็นโดยความเป็นของไม่เที่ยง “อนิจจสัญญา” อานิสงส์ คือ เมื่อเห็นความไม่เที่ยงแล้ว จิตจะไม่ยินดี จะถอยออก จะน้อมไปในนิพพาน ก็จะละความยึดถือเครื่องร้อยรัด (สังโยชน์) ทำให้เกิดผลยอดเยี่ยม (สามัญญผล)
#103_อุกขิตตาสิกสูตร เห็นโดยความเป็นทุกข์ “ทุกขสัญญา” อานิสงส์ คือ จะเกิดความเบื่อหน่าย “นิพพิทาสัญญา” จิตก็จะถอยออก จะน้อมไปในนิพพาน ก็จะถอนอนุสัยได้ (กิเลส ความเคยชิน) จะทำตามหน้าที่ มีจิตเมตตาบำรุงพระศาสดา (ปฏิบัติบูชา)
#104_อตัมมยสูตร เห็นโดยความเป็นอนัตตา “อนัตตสัญญา” อานิสงส์ คือ จะไม่มีตัณหาและทิฏฐิ (อตัมมยะ) ก็จะดับอหังการ มมังการได้ (ทิฏฐิและตัณหาว่าเป็นเราของเรา) จะมี “อสาธารณญาณ” เข้าใจในเหตุ-ผล ถอนความยึดถือได้
#105_ภวสูตร ควรละ ภพ 3 (คือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ) และควรศึกษาใน สิกขา 3 (คือ ศีลอันยิ่ง จิตอันยิ่ง ปัญญาอันยิ่ง)
#106_ตัณหาสูตร ควรละ ตัณหา 3 (คือ ความอยากในกาม รูป อรูป) และมานะ 3 (คือ ถือตัวว่า ดีกว่าเขา เสมอเขา ด้อยกว่าเขา)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อานิสังสวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 13 Oct 2023 - 54min - 280 - อานิสงส์แห่งโสดาปัตติผล - อนุโลมิกขันติ [6640-6t]
“อนุโลมิกขันติ” คือ กระแสแห่งธรรมที่เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน ผู้ที่เข้าถึงกระแสนี้แล้ว ย่อมเห็นความกฏไตรลักษณ์ในสังขารทั้งหลาย เป็นผู้ที่มีนิพพานเป็นเบื้องหน้า
#96_ปาตุภาวสูตรการปรากฏขึ้นของเหตุ 6 ประการนี้ หาได้ยากในโลก ได้แก่
1. การปรากฏขึ้นของพระพุทธเจ้า
2. บุคคลผู้แสดงธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้
3. ผู้เกิดในถิ่นที่มีคำสอนของพระพุทธเจ้า
4. ความมีอินทรีย์ไม่บกพร่อง คือ มีความปกติทางกายและจิตใจ (อินทรีย์ 5)
5. ไม่โง่เขลา
6. พอใจในกุศลธรรม
#97_อานิสังสสูตรอานิสงส์ของผู้ที่ได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้ว คือ มีความเที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน / มีความไม่เสื่อม(ไม่อาจทำเหตุให้ไปตกอบาย) / ทำความดับทุกข์ได้ / มีอสาธารณญาณ (ปัญญาญาณ) / เห็นเหตุ / เห็นผลในธรรมที่เกิดขึ้น
ข้อที่ 98-99-100-101 เป็นธรรมที่ประกอบด้วย “อนุโลมิกขันติ” แต่ละข้อจะว่าด้วย ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา และ นิพพาน โดยในแต่ละหัวข้อ แบ่งออกได้เป็น 3 คู่ ซึ่งเป็นธรรมที่ตรงข้ามกัน
#98_อนิจจสูตรผู้ที่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นสังขารว่าเป็นของไม่เที่ยง หยั่งลงสู่ระบบความเห็นที่ถูกต้องได้ คือ สัมมัตตนิยาม และ จักทำให้แจ้งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล หรืออรหัตตผลได้ และในธรรมตรงข้าม ผู้ที่ไม่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นสังขารว่าเป็นของเที่ยง...ฯ
#99_ทุกขสูตรผู้ที่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นสังขารว่าเป็นทุกข์... ฯ ผู้ที่ไม่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นสังขารว่าเป็นสุข...ฯ
#100_อนัตตสูตรผู้ที่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นว่าธรรมเป็นอนัตตา... ฯ และในธรรมตรงข้าม ผู้ที่ไม่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นว่าธรรมเป็นอัตตา...ฯ
#101_นิพพานสูตรผู้ที่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นนิพพานเป็นสุข... ฯ และในธรรมตรงข้าม ผู้ที่ไม่ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ จะเห็นว่านิพพานเป็นทุกข์...ฯ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อานิสังสวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 06 Oct 2023 - 51min - 279 - ฐานะที่ไม่อาจเป็นได้-โสดาบัน [6639-6t]
อริยบุคคล คือ บุคคลผู้ประเสริฐ ผู้เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพาน มี 8 จำพวก แบ่งได้เป็น 4 คู่ ซึ่งในแต่ละคู่นั้น แบ่งออกเป็นขั้นอริยมรรค และขั้นอริยผล
โสดาบันคือ อริยบุคคลพวกแรกที่เข้าถึงกระแสแห่งพระนิพพาน
ประเภทของโสดาบัน แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ เอกพีชี, โกลังโกละ, สัตตักขัตตุงปรมะ
คุณสมบัติที่ทำให้เป็นโสดาบันทั้งในขั้นมรรคและขั้นผลนั้น ก็จะประกอบไปด้วย โสตาปัตติยังคะ 4 (ผู้มีศรัทธาหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวในพระรัตนตรัย และมีศีลบริบูรณ์) และในขั้นผลก็จะละสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ประการแรกได้ (สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส) กล่าวโดยย่อ คือ “เป็นผู้มีศรัทธา และมีศีลเต็มบริบูรณ์ มีสมาธิ และปัญญาพอประมาณ”
ฐานะที่ไม่อาจเป็นไปได้ของโสดาบัน (ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยทิฏฐิ เห็นตามความเป็นจริง) ได้แก่
#94_ตติยอภัพพัฏฐานสูตร(สูตรที่ 3) ไม่อาจจะทำอนันตริยกรรม 5 ได้ และไม่อาจนับถือศาสนาอื่น หรือศาสดาอื่นได้ คือ ไม่เอามาเป็นสรณะ (ที่พึ่ง)
#95_จตุตถอภัพพัฏฐานสูตร(สูตรที่ 4) โดย 3 ข้อแรก คือ ไม่อาจจะยึดถือสุขและทุกข์ที่เกิดจากตนเองทำไว้ / ผู้อื่นทำไว้ / ทั้งตนเองและผู้อื่นทำไว้ และ 3 ข้อหลัง คือ ไม่อาจยึดถือสุขและทุกข์ที่เกิดขึ้นเอง (เกิดขึ้นเองลอย ๆ) ที่ตนเองไม่ได้ทำไว้ / ผู้อื่นไม่ได้ทำไว้ / ทั้งตนเองและผู้อื่นไม่ได้ทำไว้
โสดาปัตติผล จะละสักกายทิฏฐิได้ คือ จะละความเห็นว่าเป็นตัวตนได้ จะเห็นตามความเป็นจริงว่า “ ความสุข หรือ ความทุกข์นั้น เกิดจากเหตุ คือ ผัสสะ และเพราะมีผัสสะ จึงมีเวทนา (ความรู้สึกสุข ทุกข์ มิใช่สุข-มิใช่ทุกข์) เมื่อมีเหตุจึงเกิด - หมดเหตุจึงดับ”
*สิ่งที่จะใช้ละสักกายทิฏฐิได้ คือ ปัญญาเห็นตามความเป็นจริง (สัมมาทิฏฐิ)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สีติวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 29 Sep 2023 - 54min - 278 - ผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยทิฏฐิ-โสดาบัน [6638-6t]
ในอริยบุคคลนั้น จะประกอบด้วยขั้นมรรคและขั้นผล ผู้ที่ได้อริยบุคคลขั้นผลแล้ว ก็ต้องผ่านการทำเหตุมาก่อน คือ ผ่านขั้นมรรคมาก่อน “มรรค”จึงเป็นทางดำเนิน (แนวทางการปฏิบัติ) ให้ไปสู่ความเป็นอริยบุคคลขั้นผลในระดับต่างๆ
ข้อ 89-91 เป็นธรรมที่มีไส้ในทั้ง 6 ประการที่เหมือนกัน แต่มีนัยยะหัวข้อที่เกี่ยวเนื่องด้วยเรื่องของโสดาบันที่แตกต่างกันออกไป โดยธรรม 6 ประการนี้ คือ
1. สักกายทิฏฐิ(ความเห็นว่าเป็นอัตตา) คือ เห็นขันธ์ 5 เป็นตัวตน เที่ยงแท้ ยังยืน จีรัง ถาวร *ตรงข้ามกับ “สัมมาทิฏฐิ”
2. วิจิกิจฉา คือ ความลังเล สงสัยในคุณของพระรัตยตรัย เกิดเคลือบแคลง เห็นแย้ง ไม่ลงใจ ซึ่งจะเกิดถามลักษณะจับผิด หาเรื่องตามมา *ตรงข้ามกับ “มีศรัทธา”
3. สีลัพพตปรามาส คือ ความถือมั่นศีลพรตนอกพระพุทธศาสนา ความเชื่องมงายที่ผิดไปจากคำสอน *ตรงข้ามกับ “มีศีล”
4.-5. ราคะ โทสะ โมหะ ที่เป็นเหตุไปสู่อบาย คือ เป็นเหตุให้เราทำผิดศีลแล้วไปสู่อบายได้ *กำจัดได้ด้วย ศีล สมาธิและ ปัญญา
*ขัอ 1-3 เป็นสังโยชน์เบื้องต่ำ 3 ข้อแรก ถ้าละได้ จะทำให้ถึงซึ่งความเป็นโสดาปัตติผล
ธรรมทั้ง 6 มาในหัวข้อ #89_อัปปหายสูตรบุคคลที่ยังละธรรมเหล่านี้ไม่ได้ ไม่อาจทำให้แจ้งในโสดาบัน / #90_ปหีนสูตรบุคคลผู้ถึงพร้อมแล้ว จะละธรรมเหล่านี้ได้ / #91_อภัพพสูตร ผู้ที่ถึงพร้อมแล้ว มิอาจทำธรรมเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้
#92_ปฐมอภัพพพัฏฐานสูตรผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิแล้ว (โสดาบัน) เป็นไปไม่ได้ที่จะ
1.-3. ไม่มีความเคารพ ยำเกรงใน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
4. ไม่มีความเคารพ ยำเกรงในสิกขา (ศีล สมาธิ ปัญญา)
5. ไม่อาจกลับมาสู่เหตุที่ไม่ควรเข้าถึง (ไม่ไปในอบาย 4 / ทำผิดศีล / มิจฉาทิฏฐิ)
6. ไม่มีการเกิดในชาติที่ 8 เกิดขึ้นได้
#93_ทุติยอภัพพัฏฐานสูตรผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิแล้ว (โสดาบัน) เป็นไปไม่ได้ที่จะ
1.-3. ยึดถือสังขารว่าเป็นของเที่ยง เป็นสุข เป็นอัตตา
4. ทำอนันตริยกรรมได้
5. เชื่อมงคลตื่นข่าว – ความเชื่องมงาย (superstition)
6. แสวงหาเขตบุญนอกศาสนา – ปฏิบัติในสิ่งที่ไม่ใช่คำสอน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สีติวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 22 Sep 2023 - 57min - 277 - ระบบความเห็นที่ถูกต้อง-สัมมัตตนิยาม [6637-6t]
“สัมมัตตนิยาม” หมายถึง ระบบความเห็นที่ถูกต้อง คือ อริยมรรคมีองค์ 8 หรือ ความเป็นโสดาบันขั้นมรรคหรือผล ชึ่งในพระสูตรข้อที่ 86–88 นี้ เป็นธรรมที่มีหัวข้อเหมือนกัน เปรียบเทียบคู่ตรงข้ามของธรรม 6 ประการ ที่เมื่อบุคคลแม้ฟังธรรมอยู่ จะก้าวลงสู่ระบบความเห็นที่ถูกต้อง คือ สัมมัตตนิยามจะได้หรือไม่ได้นั้น มีธรรมอะไรบ้าง
#86_อาวรณตาสูตร
1.เป็นผู้ไม่มีกรรมเป็นเครื่องกั้น - ไม่ได้ทำอนันตริยกรรม 5 (ฆ่ามารดา บิดา พระอรหันต์ ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด ทำสงฆ์ให้แตกกัน)
2. เป็นผู้ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องกั้น - มีสัมมาทิฎฐิ
3. เป็นผู้ไม่มีวิบากเป็นเครื่องกั้น (ผลที่ได้รับจากการกระทำ) – เกิดในภพที่พอจะบรรลุธรรมได้ เช่น โลกมนุษย์ สวรรค์ถึงชั้นพรหม ยกเว้น อรูปพรหม เพราะด้วยเหตุปัจจัยที่เกิดของสภาวะภพนั้น
4. เป็นผู้มีศรัทธา- มีความลงใจ มั่นใจ
5. เป็นผู้มีฉันทะ -เกิดความพอใจทำให้มีการพัฒนา
6. เป็นผู้มีปัญญา - โยนิโสมนสิการ (ใคร่ครวญธรรม)
#87_โวโรปิตสูตรคือ การไม่ทำอนันตริยกรรม 5 และเป็นผู้มีปัญญา
#88_สุสสูสติสูตร
1. ตั้งใจฟังด้วยดี 2. เงี่ยโสตสดับ 3. ตั้งใจใฝ่รู้ (ข้อ 1-3 เปรียบกับช้าง และม้าอาชาไนย) 4. ถือเอาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ 5. ทิ้งสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ 6. ประกอบด้วยอนุโลมิกขันติ (การพิจารณาที่เกื้อกูลแก่การบรรลุอริยสัจ 4)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สีติวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 15 Sep 2023 - 57min - 276 - สภาวะดับเย็น-นิพพาน [6636-6t]
#83_ อัคคธัมมสูตร (เป็นธรรมคู่ตรงข้าม-ทำให้แจ้งหรือไม่แจ้งอรหัตผล) ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้ เป็นผู้อาจทำให้แจ้งอรหัตผล คือ
1. เป็นผู้มีศรัทธา-ศรัทธาในพระรัตนตรัย (ระดับของศรัทธา คือ “อมูลิกาศรัทธา” เชื่อแบบงมงาย ไม่มีมูลเหตุผล, “อาการวตีศรัทธา” ประกอบด้วยปัญญา เข้าใจเหตุผล-เหตุปัจจัย, “อจลศรัทธา” โสดาบัน ไม่หวั่นไหว)
2. เป็นผู้มีหิริ (ละอาย) 3. โอตตัปปะ (เกรงกลัวต่อบาป)
4. เป็นผู้ปรารภความเพียร-ทำจริงแน่วแน่จริง อกุศลลดลง-กุศลเพิ่มขึ้น
5. เป็นผู้มีปัญญา-3 ระดับ (สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา ภาวนามยปัญญา)
6. เป็นผู้ไม่ห่วงใยกาย และชีวิต-ปล่อยวางตัวตนด้วยปัญญา
#84_รัตติทิวสสูตร (เป็นธรรมคู่ตรงข้าม-เจริญหรือเสื่อมในกุศลธรรม) ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้ จะเจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย ไม่เสื่อมเลย คือ 1. เป็นผู้ไม่มักมาก (สันโดษ)-ยินดีตามมีตามได้ ไม่คับแค้นใจ 2. มีศรัทธา 3. มีศีล 4. ปรารภความเพียร 5. มีสติ 6. มีปัญญา
*เมื่อมีเครื่องทดสอบมากระทบแล้ว ยังนิ่งเฉยอยู่ได้ การรักษาและทำให้เจริญในกุศลธรรมทั้งหลาย จะทำให้อินทรีย์แก่กล้าขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการพัฒนาปัญญาให้คมขึ้นไปสู่การหลุดพ้นได้
#85_สีติภาวสูตร(เป็นธรรมคู่ตรงข้าม-ทำนิพพานให้แจ้งได้หรือไม่ได้) ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้ จะทำนิพพานให้แจ้งได้ คือ
1. ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม-ให้เข้าสมาธิ
2. ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง-ปรารภความเพียร
3. ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรให้ร่าเริง-ทำให้สม่ำเสมอ
4. วางจิตในสมัยที่ควรวาง-อุเบกขา
5. น้อมไปในธรรมที่ประณีต-ทำให้ละเอียดยิ่งๆ ขึ้นไป
6. ยินดียิ่งในนิพพาน-ยินดีในธรรมระงับกิเลส
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อรหัตตวรรค สีติวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 08 Sep 2023 - 57min - 275 - เหตุแห่งการพัฒนา-ความไพบูลย์ในธรรม [6635-6t]
ทบทวนข้อ#79_อธิคมสูตรเป็นธรรมคู่ตรงข้าม หลักธรรมข้อนี้เป็นการสร้างนิสัยที่ดี และกำจัดนิสัยที่ไม่ดีในชีวิตประจำวัน
1. เป็นผู้ฉลาดในความเจริญ (เหตุทำให้เกิดกุศลธรรม)
2. เป็นผู้ฉลาดในความเสื่อม (เหตุทำให้เกิดอกุศลธรรม)
3. เป็นผู้ฉลาดในอุบาย (วิธีการ / ทางแก้)
4. สร้างฉันทะเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ (ความพอใจในการทำกุศลธรรม)
5. รักษากุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้ว
6. ทำกุศลธรรมให้ถึงพร้อมด้วยการทำติดต่อ (ทำให้ติดต่อต่อเนื่องกันไป)
#80_มหัตตสูตรผู้ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้ ไม่นานนัก ย่อมบรรลุความเป็นใหญ่ ความไพบูลย์ในธรรมทั้งหลาย (เกิดความก้าวหน้าและละเอียดยิ่งขึ้นไป) ได้แก่
1. เป็นผู้มากด้วยแสงสว่าง (ญาณ / ความรู้) – ทำในสิ่งที่เรามีอยู่แล้วให้เกิดความชำนาญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
2. เป็นผู้มากด้วยความเพียร (วิริยะ / ความกล้า) – ปรับเพิ่มความเพียร
3. เป็นผู้มากด้วยความปลาบปลื้ม (ปีติและปราโมทย์) - ทำให้เกิดกำลังใจในการทำความเพียร
4. เป็นผู้มากด้วยความไม่สันโดษ (ทำความเพียรยิ่งขึ้นในกุศลธรรมทั้งหลาย) – ขวนขวายมากไม่อิ่มไม่พอในกุศลธรรม
5. เป็นผู้ไม่ทอดธุระ (รับเป็นภาระให้)
6. ทำความเพียรให้ยิ่งขึ้นในกุศลธรรมทั้งหลาย (ทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป)
#81_ปฐมนิรยสูตรและ#82_ทุติยนิรยสูตรเป็นธรรมคู่ตรงข้าม มีหัวข้อแหมือนกันแต่มีไส้ในที่แตกต่างกัน ว่าด้วยผู้ที่ประกอบด้วยธรรมเหล่านี้ย่อมไปสู่นรกหรือสวรรค์ ได้แก่ เป็นผู้ทุศีล (ผิดศีล 5 ข้อ 1-4), มีความปรารถนาชั่ว (อกุศลธรรม), เป็นมิจฉาทิฏฐิ, พูดเท็จ, พูดส่อเสียด (ยุยง), พูดคำหยาบ, พูดเพ้อเจ้อ, มักโลภ, มีความคะนอง (ประมาท)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อรหัตตวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 01 Sep 2023 - 57min - 274 - ธรรมที่เป็นเหตุให้มีสุขโสมนัส [6634-6t]
#78_สุขโสมนัสสสูตรผู้ประกอบด้วยธรรม 6 การนี้ จะเป็นเหตุให้มีสุขโสมนัส (เนกขัมมะสุข คือ สุขที่เกิดจากการออกจากกาม) และถึงความสิ้นอาสวะ ได้แก่
1. เป็นผู้ยินดีในธรรม
2. เป็นผู้ยินดีในภาวนา(ทำให้เจริญ / พัฒนา)
3. เป็นผู้ยินดีในการละ(ละสิ่งที่เป็นอกุศลธรรมทั้งหลาย)
4. เป็นผู้ยินดีในปวิเวก(สงัดจากเสียงและการคลุกคลีด้วยหมู่)
5. เป็นผู้ยินดีในความไม่พยาบาท(คิดปองร้ายเพ่งไปที่ภายนอก) เริ่มจากความไม่เพลินไปในปฏิฆะ (ความขัดเคือง) -> โกรธ (คิดอยู่ภายใน) -> พยาบาท (เพ่งไปที่ภายนอก)
6. เป็นผู้ยินดีในธรรมที่ไม่เป็นเครื่องเนิ่นช้า (นิพพาน) พัฒนากุศลธรรมให้เจริญยิ่งขึ้น
#79_อธิคมสูตรเป็นธรรมคู่เปรียบเทียบ คือ ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 6 การนี้ (ธรรมที่เป็นเหตุปรารภความเพียร) จะบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุหรือทำกุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้วให้เจริญได้หรือไม่ได้
1. เป็นผู้ฉลาดในความเจริญ (เหตุทำให้เกิดกุศลธรรม)
2. เป็นผู้ฉลาดในความเสื่อม (เหตุทำให้เกิดอกุศลธรรม)
3. เป็นผู้ฉลาดในอุบาย (วิธีการ / ทางแก้)
4. สร้างฉันทะเพื่อบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ (ความพอใจในการทำกุศลธรรม)
5. รักษากุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้ว
6. ทำกุศลธรรมให้ถึงพร้อมด้วยการทำติดต่อ (ทำติดต่อต่อเนื่อง)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อรหัตตวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 25 Aug 2023 - 58min - 273 - ธรรมของผู้ที่จะบรรลุอรหัตผล [6633-6t]
#75_ทุกขสูตร ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้ ย่อมอยู่เป็นทุกข์ เร่าร้อน หลังจากตายแล้ว พึงหวังได้ทุคติ คือ คิดตริตรึกหมายรู้ไปในกาม พยาบาท และเบียดเบียน (วิหิงสา)
และธรรมคู่ต่างกันที่เมื่อประกอบแล้วย่อมอยู่เป็นสุข คือ คิดตริตรึกหมายรู้ออกจากกาม พยาบาท และเบียดเบียน
*วิหิงสา นอกจะมีความหมายว่าเบียดเบียนแล้ว อาจจะมีความหมายได้อีกว่า เป็นการกระทำที่ไร้ผล เปล่าประโยชน์
#76_อรหัตตสูตร ผู้ที่ละธรรม 6 ประการนี้ได้ หรือ ไม่ได้ ย่อมทำให้แจ้ง หรือมิอาจแจ้งซึ่งอรหัตผลได้ คือ
- มานะ (ความถือตัวว่ามีตัวตน “อัตตา”)โอมานะ (สำคัญว่าด้อยกว่าเขา หรือ แกล้งลดตัว)อติมานะ (ยกตัวขึ้นมาดูหมิ่นเขา)อธิมานะ (ความเข้าใจผิด ถือตัวจัด “มานะ 9”)ถัมภะ (ความหัวดื้อ)อตินิปาตะ (สำคัญตนว่าเลว)
พระอรหันต์กำจัดแล้วซึ่งกิเลสและอวิชชา และเพราะรู้แล้วเพราะเห็นแล้ว จึงไม่สำคัญความเป็นตัวตนขึ้นมา
#77_อุตตริมนุสสธัมมสูตร ผู้ที่ละธรรม 6 ประการนี้ได้ หรือ ไม่ได้ อาจทำให้แจ้ง หรือ มิอาจแจ้งซึ่งญาณทัสสนะที่ยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ได้แก่ ความหลงลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ไม่รู้จักประมาณในการบริโภค การหลอกลวง การพูดป้อยอ หรือจะสรุปกล่าวได้ว่าคือ ความมั่นคง แน่วแน่ ไม่หวั่นไหวในไตรสิกขานั่นเอง (ศีล สมาธิ ปัญญา)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อรหัตตวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 18 Aug 2023 - 56min - 272 - การบรรลุปฐมฌาน [6632-6t]
อุปสรรคที่จะมาเป็นเครื่องกั้นเครื่องขวางทำให้เราเข้าฌานสมาธิไม่ค่อยได้ นอกจากข้อใดข้อหนึ่งในนิวรณ์ 5 แล้ว ยังมีเหตุอะไรอีกบ้าง ที่เป็นเหตุทำให้ได้บรรลุหรือมิอาจบรรลุปฐมฌานได้
ปฐม-ทุติยตัชฌานสูตร เป็นธรรมคู่ตรงข้าม ที่เมื่อละธรรม 6 ประการนี้ได้ หรือยังละไม่ได้ จะเป็นเหตุให้บรรลุ หรือมิอาจบรรลุปฐมฌาน
#73_ปฐมตัชฌานสูตร
1. กามฉันทะ คือ ความพอใจ กำหนัด ยินดีในวัตถุกามที่ทำให้เกิดกามสัญญา และกามวิตกตามมา
2. พยาบาทคือ ความคิดร้าย เริ่มจากความขัดเคืองเล็กน้อยกลายเป็น -> ความโกรธ (ร้อนลุ่มอยู่ภายใน) แรงขึ้นเป็น -> โทสะ (เพ่งไปที่บุคคลข้างนอก) -> พยาบาท -> ผูกเวร
3. ถีนมิทธะ คือ ความขี้เกียจ ท้อแท้ อ่อนแอ หมดอาลัย ไร้กำลังทั้งกายใจ ไม่ฮึกเหิม
4. อุทธัจจกุกกุจจะ คือ ความฟุ้งซ่านและร้อนใจ คิดมาในทางกาม
5. วิจิกิจฉา คือ ความไม่ลงใจ
6. ไม่เห็นโทษในกามทั้งหลายด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง
#74_ทุติยตัชฌานสูตรคือ
กามวิตก - กามสัญญา(คิดตริตรึกหมายรู้มาในทางกาม)
พยาบาทวิตก - พยาบาทสัญญา(คิดตริตรึกหมายรู้มาในพยาบาท)
วิหิงสาวิตก - วิหิงสาสัญญา(คิดตริตรึกหมายรู้มาในทางเบียดเบียน)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 11 Aug 2023 - 50min - 271 - ธรรมเพื่อความไม่เสื่อม [6631-6t]
#69_เทวตาสูตรพระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับภิกษุทั้งหลาย ทรงปรารภถึงเทวดาตนหนึ่งที่เข้ามากราบทูลเรื่องธรรม 6 ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม คือ ความเป็นผู้เคารพในพระพุทธ, พระธรรม, พระสงฆ์, สิกขา, เป็นผู้ว่าง่าย, ความเป็นผู้มีมิตรดี เมื่อท่านพระสารีบุตรได้ฟังจบแล้วก็ได้ทำความละเอียดในธรรมอีก 4 อย่างแต่ละหัวข้อ คือ ตัวเองเป็นเอง / สรรเสริญคนที่เป็น / ชักชวนผู้อื่นให้มาเป็น / ประกาศคุณของผู้ที่ทำได้ขึ้นมา
#70_ สมาธิสูตร ว่าด้วยสมาธิที่มีความสงบ ปราณีต ระงับ เป็นหนึ่ง เป็นผลให้ได้วิชชา 6 คือ มีฤทธิ์, หูทิพย์, รู้ใจผู้อื่น, ระลึกชาติได้, ตาทิพย์, ทำอาสวะให้หมดสิ้นไป
#71_สักขิภัพพสูตรเหตุที่จะทำให้เกิดปัญญา คือ เห็นธรรมฝ่ายเสื่อม (นิวรณ์), ธรรมฝ่ายคงที่ (มิจฉาสติ), ธรรมฝ่ายคุณวิเศษ (สมาธิที่คล่องแคล่ว), ธรรมฝ่ายชำแรกกิเลส (วิปัสสนาญาณ), เอื้อเฟื้อเอาใจใส่, ทำสิ่งที่เป็นสัปปายะ (สบายแก่มาธิ)
#72_พลสูตร ความมีกำลังในสมาธิ 6 ประการ คือ เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ (อดทนต่อผัสสะ), ผู้ฉลาดในการดำรงอยู่ในสมาธิ (สมาธิตั้งอยู่ได้นาน), ฉลาดในการออกจากสมาธิ (เลื่อนสมาธิสู่ขั้นที่สูงขึ้น), ทำสมาธิโดยเอื้อเฟื้อ (สมถะ วิปัสสนา อุเบกขา), ทำโดยติดต่อ (ทุกอิริยาบถ), ทำสิ่งที่เป็นสัปปายะ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 04 Aug 2023 - 56min - 270 - ตถาคตพละ-อนาคามี-อรหันต์ [6630-6t]
#64_สีหนาทสูตร กำลังของตถาคต 6 ประการ เป็นเหตุให้บรรลือสีหนาทประกาศพรหมจักรในบริษัท คือ
1. รู้ชัดฐานะ (สิ่งที่มีได้ เป็นได้) และอฐานะ (เป็นไปไม่ได้ มีขึ้นไม่ได้) ในโลกนี้ตามความเป็นจริง
2. รู้เรื่องกรรมและผลของกรรม
3. สามารถเข้า-ออกฌานวิโมกข์ สมาธิ สมาบัติได้อย่างคล่องแคล่ว
4. ระลึกชาติได้หลายชาติ (ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ)
5. เห็นการเวียนว่ายตายเกิดของสัตว์ทั้งหลาย (จุตูปปาตญาณ)
6. ญาณหยั่งรู้ที่ทำให้สิ้นอาสวะ (อาสวักขยญาณ)
และมีความรู้แจ้งในเรื่องทั้งหมดอย่างแท้จริง เมื่อถูกถามก็ตอบได้หมดและที่ทำแบบนี้ได้ก็เพราะจิตเป็นสมาธิ
#65_อนาคามิผลสูตร เมื่อละธรรมเหล่านี้ได้แล้ว จะเป็นเหตุทำให้บรรลุอนาคามิผล คือ ความไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ เกียจคร้าน หลงลืมสติ มีปัญญาทราม
#66_อรหัตตสูตร เมื่อละธรรมเหล่านี้ได้แล้ว จะเป็นเหตุทำให้บรรลุอรหัตผล คือ ความหดหู่ เซื่องซึม ฟุ้งซ่าน ร้อนใจ ไม่มีศรัทธา ความประมาท
#67_มิตตสูตร เมื่อมีมิตรดี เสพคบเพื่อนดี ประพฤติตามเพื่อนดี จะบำเพ็ญอภิสมาจาริกธรรม (มารยาทความประพฤติอันดี) เสขะธรรม และศีล ให้บริบูรณ์ได้ เมื่อบริบูรณ์แล้วจะละกามราคะ รูปราคะ และอรูปราคะได้
#68_สังคณิการามสูตร เมื่อไม่คลุกคลีด้วยหมู่แล้ว กายจะสงัดเป็นสมาธิ เกิดสัมมาทิฏฐิ สัมมาสมาธิ จะละสังโยชน์ทำนิพพานให้แจ้งได้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 28 Jul 2023 - 56min - 269 - ธรรมที่เป็นเหตุชำแรกกิเลส [6629-6t]
พระไตรปิฎกสากลอักษรโรมัน – ปาฬิภาสาที่จัดทำขึ้นโดยมูลนิธิพระไตรปิฎกสากลได้ทำการตรวจทานเทียบเคียงกับพระไตรปิฎกถึง 13 ฉบับด้วยกัน มีการแบ่งพยางค์และการใช้โน้ตเสียงเข้ามาเพื่อการออกเสียงที่ถูกต้อง ถือได้ว่าเป็นฉบับที่สมบูรณ์ที่สุดชุดแรกของโลก
............
#63_นิพเพธิกสูตรว่าด้วยธรรมบรรยายที่เป็นเหตุชำแรกกิเลส พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแก่ภิกษุทั้งหลายโดยให้ทำความรอบรู้-รู้แจ้งในธรรม 6 ประการ ได้แก่ กาม / เวทนา / สัญญา / อาสวะ / กรรม / ทุกข์ และในแต่ละประการก็มีรายละเอียดอีก 6 อย่าง ได้แก่ ลักษณะ / เหตุเกิด / ความต่างกัน / วิบาก / ความดับ / ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับ คือ มรรค 8
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 21 Jul 2023 - 53min - 268 - ญาณเป็นเครื่องรู้อินทรีย์ของบุคคล [6628-6t]
สิ่งดี ๆ ที่บุคคลนั้น มีอยู่ เป็นอยู่ หรือที่เราเห็นอยู่ว่าดี เขาอาจจะเปลี่ยนแปลงไปเป็นไม่ดีหรืออาจจะดีกว่าเดิมยิ่ง ๆ ขึ้นไปก็ได้ และสิ่งไม่ดีที่บุคคลนั้น มีอยู่ เป็นอยู่ ก็อาจจะพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปเป็นดีได้เช่นกัน จึงไม่อาจดูรู้ได้เพียงผิวเผินว่า “ข้างในจิตใจ เขาเป็นอย่างไร” นอกเสียจากเรามีญาณเครื่องรู้เห็นในจิตใจของเขาว่า จิตใจของเขามันจะเจริญขึ้น หรือเสื่อมลงจากสิ่งทึ่เราเห็นอยู่ภายนอก
#62_ปุริสินทริยญาณสูตรพระผู้มีพระภาคทรงแสดงแก่ท่านพระอานนท์ ทรงปรารภเรื่องการพยากรณ์พระเทวทัตว่า จะต้องเกิดในอบาย ตกนรก ดำรงอยู่ตลอดกัป แก้ไขไม่ได้ โดยทรงได้แสดงญาณเป็นเครื่องรู้อินทรีย์ของบุคคล 6 ประการ โดย 3 ประการแรก อุปมากับเมล็ดพันธุ์ไม้ และ 3 ประการหลัง อุปมากับถ่านไฟ ซึ่งจะพอสรุปได้ว่า บุคคลจะถึงความเจริญ หรือ ความเสื่อมได้ ต่างอาศัยสิ่งอื่นเป็นปัจจัยและอินทรีย์ คือ กำลังทางจิต ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ว่ามีกำลังแก่กล้าหรืออ่อน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีการเปลี่ยนแปลงได้พัฒนาได้ และไม่ควรประมาทในคุณธรรมที่ทีอยู่แล้วให้เจริญพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 14 Jul 2023 - 56min - 267 - ดับผัสสะ-ดับตัณหา [6627-6t]
#60_หัตถิสารีปุตตสูตร ท่านพระจิตตหัตถิสารีบุตรได้พูดสอดขึ้นในระหว่างการสนทนาธรรม จนเป็นเหตุให้ท่านพระมหาโกฏฐิกะได้กล่าวถึงผู้ที่มีคุณสมบัติ 6 ประการแต่หากยังคลุกคลีด้วยหมู่จะเป็นเหตุให้เสื่อมจากธรรมนั้น
#61_มัชเฌสูตร หมู่ภิกษุผู้เป็นเถระได้นั่งประชุมสนทนาธรรมเรื่อง “ติสสเมตเตยยปัญหานิทเทส” โดยแต่ละท่านก็ได้แสดงตามความคิดของตนได้ 6 นัยยะ ได้พากันไปเข้าเฝ้าเพื่อกราบทูลถามพระผู้มีพระภาค พระองค์ทรงตรัสตอบว่า “ผัสสะเป็นส่วนสุดด้านหนึ่ง เหตุเกิดผัสสะเป็นส่วนสุดอีกด้านหนึ่ง ความดับผัสสะอยู่ท่ามกลาง ตัณหาจัดเป็นเครื่องร้อยรัด” กล่าวคือ ความดับผัสสะ ก็คือ การดับตัณหาเข้าสู่นิพพานในปัจจุบันนั่นเอง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 07 Jul 2023 - 55min - 266 - อาสวะที่พึงละได้ [6626-6t]
#58_อาสวสูตร ผู้ประกอบด้วยธรรม 6 ประการนี้ เป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย ควรแก่ของต้อนรับ ควรแก่ทักษิณา ควรแก่การทำอัญชลี เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก ธรรม 6 ประการ คือ อาสวะที่พึงละได้ด้วยการสังวร (การสำรวมอินทรีย์) ด้วยการใช้สอย (พิจารณาปัจจัย 4) ด้วยความอดกลั้น (อดทนด้วยความเข้าใจ) ด้วยการเว้น (หลีกเลี่ยงที่ “อโคจร”) การบรรเทา (ละอกุศลธรรม) และการเจริญ(ทำให้มากซึ่งโพชฌงค์ 7)
#59_ทารุกัมมิกสูตร พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมแก่ทารุกัมมิกะคหบดี ทรงปรารภเรื่องการทำทานในเนื้อนาบุญ ยากที่คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามจะพึงรู้ได้ โดยยกถึง ภิกษุ 6 จำพวก แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ภิกษุพึงถูกติเตียน และภิกษุพึงได้รับการสรรเสริญ พระผู้มีพระภาคทรงได้แนะนำให้ทำทานในหมู่ภิกษุ (สังฆทาน)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 30 Jun 2023 - 57min - 265 - พระไตรปิฎกเสียงสากล-ชาติกำเนิด [6625-6t]
พระไตรปิฏกสากล ฉบับสัชฌายะถือเป็นพระไตรปิฎก(เสียง)สากลฉบับแรกของโลก โดยมีต้นฉบับจากพระไตรปิฎก จ.ป.ร. อักษรสยาม พ.ศ. 2436 โดยตระหนักถึงการออกเสียงปาฬิอย่างถูกต้องก็เพื่อจะรักษาคำสอนเอาไว้ให้สมบูรณ์ที่สุด ซี่งมี 2 ชุด ได้แก่
ชุด ภ.ป.ร.(ต้นฉบับปาฬิภาสา) พ.ศ. 2559 พิมพ์ด้วยอักขระเสียงปาฬิ ซึ่งเป็นนวัตกรรมสัททะอักขะระ-ปาฬิเป็นการเขียนเสียงที่ละเอียดแม่นตรง
ชุด ส.ก. (โน้ตเสียงปาฬิ) พ.ศ. 2560 พิมพ์ด้วยโน้ตเสียงปาฬิ ซึ่งเป็นชุดสัททสัญลักษณ์ที่เป็นสากลที่สามารถกำหนดจังหวะการแบ่งพยางค์ และระดับเสียงที่ไม่มีวรรณยุกต์สูงต่ำได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น และนวัตกรรมการบันทึกเสียงปาฬิรูปแบบนี้ว่า “เสียงสัชฌายะดิจิทัล”
............
#57_ฉฬภิชาติสูตรพระผู้มีพระภาคทรงปรารภคำถามของท่านพระอานนท์เรื่องการบัญญัติชาติกำเนิด 6 ประเภทของปูรณะ กัสสปะ โดยทรงได้บัญญัติทับลงไปถึงบุคคลที่เกิดมาในตระกูลต่ำและในตระกูลสูง ที่มีความประพฤติทางกาย วาจา ใจ ทุจริต จะมีที่ไปคือนรก และถ้าประพฤติสุจริตจะมีที่ไปคือสวรรค์ และบุคคลที่ได้ออกบวช ละนิวรณ์ 5ได้ มีจิตตั้งมั่นดีในสติปัฏฐาน 4 เจริญโพชฌงค์ 7 ตามความเป็นจริงแล้วได้บรรลุนิพพาน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 23 Jun 2023 - 55min - 264 - อานิสงส์การฟังธรรม [6624-6t]
พระไตรปิฏกสากล พ.ศ. 2548 “ปาฬิภาสา อักษรโรมัน” (ฉบับมหาสังคีติ) เป็นพระไตรปิฏกฉบับที่จัดทำขึ้นให้มีเนื้อหาที่ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด โดยนำเอาต้นฉบับมาจากการสังคายนาพระไตรปิฎกนานาชาติ พ.ศ. 2500 (ฉบับฉัฏฐสังคีติ) ในประเทศพม่า ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร ทรงเป็นหนึ่งในผู้แทนคณะสงฆ์ไทยที่ได้ร่วมทำการสังคายนาในครั้งนั้นด้วย มาขยายผลตรวจทานแก้ไขจุดบกพร่อง โดยมีการคิดค้นระบบอ้างอิง เพื่อที่จะอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มาได้ถูกต้อง
และการที่เราถอดอักษร (Transliteration) จากอักษรพม่ามาเป็นอักษรโรมัน ก็เพื่อความเป็นสากล (นานาชาติ) ที่สามารถใช้แปลกันได้ทั่วโลก แต่เพราะการออกเสียงที่แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น จึงทำให้ต้องมีระบบการถอดเสียง (Transcription) หรือที่เรียกว่า “สัททะอักขระ” ซึ่งเป็นการเขียนเสียงด้วยอักษรเสียง มาพิมพ์เป็นดัชนีเก็บไว้ข้างหลังพระไตรปิฏกอักษรโรมัน เพื่อให้มีการออกเสียงให้ชัดเจนถูกต้อง
#56_ผัคคุณสูตรว่าด้วยพระผัคคุณะผู้อาพาธ มีเวทนาอย่างแรงกล้า แต่เมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า ก็มีอาการสงบ และได้ดับขันธ์ลงด้วยมีอินทรีย์ผ่องใส เพราะอานิสงส์ในการฟังธรรม ในการใคร่ครวญเนื้อความแห่งธรรมโดยกาลอันควร พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสถึงธรรม 6 ประการที่เป็นเหตุปัจจัยแห่งการบรรลุธรรม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 16 Jun 2023 - 54min - 263 - ความสมดุลแห่งอินทรีย์สู่การบรรลุธรรม [6623-6t]
พระไตรปิฎก เดิมเรียกว่า “พระธรรมวินัย” (คือ พระธรรม กับพระวินัย) และสาเหตุของการสังคายนาพระไตรปิฎกเนื่องจากมีอธิกรณ์เกิดมากขึ้น จึงจัดให้มีการประชุมของพระสงฆ์เพื่อทำการจัดระเบียบหมวดหมู่หลักคำสอน
ประวัติการทำสังคายนาพระไตรปิฎกเกิดขึ้นหลายครั้ง นับตั้งแต่พุทธปรินิพพานจนถึงปัจจุบัน การนับจำนวนก็ยังไม่มีข้อยุติ
การทำสังคายนาในประเทศศรีลังกา เมื่อปี พ.ศ. 433 ได้มีการจารึกเป็นลายลักษณ์อักษรลงบนใบลานแทนการท่องจำหรือ “มุขปาฐะ”
ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2020 ที่วัดโพธาราม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระเจ้าติโลกราชเป็นองค์ราชูปถัมภ์ การสังคายนาครั้งนี้ได้จารึกพระไตรปิฎกโดยใช้อักษรไทยล้านนา
............
#55_โสณสูตร ท่านพระโสณะปรารภความเพียรหนักเกินไปโดยเดินจงกรมจนฝ่าเท้าแตก จึงมีจิตฟุ้งซ่านท้อแท้จะบอกลาคืนสิกขา พระผู้มีพระภาคทรงทราบและได้ตรัสสอนท่านพระโสณะให้ตั้งความเพียรแต่พอดี ให้ปรับอินทรีย์ให้เสมอกัน หลังจากนั้นไม่นานท่านพระโสณะก็บรรลุอรหันต์ แล้วได้พยากรณ์อรหัตตผลในฐานะ 6 ประการ คือ น้อมไปในเนกขัมมะ / ปวิเวก / ความไม่เบียดเบียน / สิ้นตัณหา / สิ้นอุปาทาน / ไม่ลุ่มหลง เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ โทสะ และโมหะ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต มหาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 09 Jun 2023 - 58min - 262 - การบริภาษเพื่อนพรหมจารี [6622-6t]
วันวิสาขบูชา เป็นวันที่บังเกิดเหตุการณ์สำคัญที่สุดในศาสนาพุทธ 3 เหตุการณ์ด้วยกัน คือ การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระโคตมพุทธเจ้า ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติ และปีนี้เป็นปีอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปทำในวันเพ็ญเดือน 7 แทน
............
การทำสังคายนาครั้งที่ 1 ได้จัดขึ้นที่ถ้ำสัตบรรณคูหา เมืองราชคฤห์ ตามคำปรารภของพระมหากัสสปเถระ โดยมีพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นองค์อุปถัมภ์ ใช้เวลาในการสังคายนารวบรวมพระธรรมวินัยอยู่ 7 เดือนจึงแล้วเสร็จ
การทำสังคายนาครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 100 ข้อปรารภในการทำสังคายนาครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อ พระยสกากัณฑกบุตร พบเห็นข้อปฏิบัติย่อหย่อน 10 ประการ
............
#54_ธัมมิกสูตร พระผู้มีพระภาคทรงปรารภเรื่อง “สมณธรรม” ได้ตรัสกับท่านพระธัมมิกะ โดยยกครู 6 ท่านกับเหล่าสาวกที่มีจิตเลื่อมใสและใม่เลื่อมใส จะมีภพที่ไปในเบื้องหน้าแตกต่างกัน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 02 Jun 2023 - 57min - 261 - ความไม่ประมาท [6621-6t]
จุดเริ่มของการสังคายนาพระไตรปิฎก :
“สังคายนา” หรือ “สังคีติ” คือ การจัดระเบียบหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นหมวดหมู่ สะดวกแก่การจดจำ (ใช้ระบบท่องจำ)
"สังคายนา" หมายถึง สวดพร้อมกัน มีมาตั้งแต่สมัยที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่แล้ว โดยท่านพระสารีบุตรมีการรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาแสดงตามลำดับหมวด ตั้งแต่หมวดหนึ่ง ไปจนถึงหมวดสิบตามหลักฐานที่ปรากฏในปาสาทิกสูตรและสังคีติสูตร
ความแตกต่างของเถรวาท และ อาจริยวาท :
เถรวาท คือ คำสอนที่วางไว้เป็นหลักการพระเถระผู้ประชุมทำสังคายนาครั้งแรก
อาจริยวาท คือ ถือตามคำสอนของอาจารย์ของตน (นิกายมหายาน)
............
#53_อัปปมาทสูตร พราหมณ์คนหนึ่งได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงธรรมอย่างหนึ่งที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมยึดถือไว้ได้ซึ่งประโยชน์ทั้งสอง (ในภพนี้ และ ภพหน้า) มีอยู่หรือไม่? โดยพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสตอบธรรมข้อนั้นคือ “ความไม่ประมาท” และได้ยกอุปมา-อุปไมยใน 6 อย่าง
#54_ ธัมมิกสูตร ว่าด้วยท่านพระธัมมิกะเป็นเจ้าอาวาสชอบด่า บริภาษ เบียดเบียน ทิ่มแทง เสียดสีพวกภิกษุ อาคันตุกะด้วยวาจา ซึ่งเป็นเหตุให้พวกอุบาสกและอุบาสิกาขอท่านพระธัมมิกะหลีกไปจากอาวาสถึง 7 แห่ง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 26 May 2023 - 55min - 260 - ผู้ฉลาดในภาษา รู้เขา และรู้เรา [6620-6t]
สมเด็จฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ทรงเป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์การเผยแผ่พระไตรปิฎกสากล ตามรอยประวัติศาสตร์พระไตรปิฎก จ.ป.ร. อักษรสยาม พ.ศ. 2436 ซึ่งโครงการพระไตรปิฎกสากลได้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่ พ.ศ. 2548 - ปัจจุบัน
6 พฤศภาคม พ.ศ. 2566 นีั รัฐบาลไทยจะเริ่มเฉลิมพระเกียรติ 100 ปี วันประสูติ และในต่างประเทศ องค์กร UNESCO ณ กรุงปารีส จะประกาศยกย่อง ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก 2023
............
#51_อานันทสูตรท่านพระอานนท์ได้เรียนถามท่านพระสารีบุตรถึงความไม่เลอะเลือนแห่งธรรมมีด้วยเหตุเท่าไร? ท่านพระสารีบุตรยกให้ท่านพระอานนท์ซึ่งเป็นพหูสูต เป็นผู้แสดงธรรมในข้อนี้แทน ซึ่งได้แก่ การเรียนธรรม แสดงธรรม บอกธรรม สาธยายธรรม ตรึกตรองตาม อยู่ในอาวาสที่มีภิกษุเถระผู้เป็นพหูสูต
#52_ขัตติยสูตรได้กล่าวถึง ความประสงค์ ความต้องการในบุคคลแต่ละประเภทได้แก่ กษัตริย์ พราหมณ์ คหบดี สตรี โจร สมณะ ว่ามีความประสงค์อะไร นิยมอะไร มั่นใจอะไร ต้องการอะไร มีอะไรเป็นที่สุด
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 19 May 2023 - 52min - 259 - การพยากรณ์ที่ไม่น้อมเข้าสู่ตน [6619-6t]
พระไตรปิฎกสากล ฉบับสัชฌายะ พ.ศ. 2559 เป็นนวัตกรรมการพิมพ์ด้วย อักษรเสียงอ่าน ที่เรียกว่า สัญลักษณ์ทางเสียง หรือ "สัททสัญลักษณ์" (Phonetic Symbol) โดยคำว่า สัชฌายะ หมายถึง การท่องจำออกเสียงพระไตรปิฎกให้ขึ้นใจ โดยสร้างขึ้นต่อเนื่องจากการจัดพิมพ์พระไตรปิฎกฉบับสากล อักษรโรมัน พ.ศ. 2548
พระไตรปิฎกสากล ฉบับสัชฌายะ แบ่งเป็น 2 ชุด ได้แก่ 1. ชุด ภ.ป.ร. (ต้นฉบับปาฬิภาสา) 2. ชุด ส.ก. (โน้ตเสียงปาฬิ)
…………..
#49_เขมสูตรท่านพระเขมะ และท่านพระสุมนะ ได้เข้าไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคกล่าวการพยากรณ์อรหัตผลโดยมีลักษณะที่กล่าวแต่ธรรมโดยไม่น้อมเข้ามาหาตน
#50_อินทริยสังวรสูตรอุปมาอุปมัยในธรรม 6 ประการ โดยเริ่มจากต่ำ-สูง คือ อินทรียสังวร -> ศีล -> สัมมาสมาธิ -> ยถาภูตญาณทัสสนะ -> นิพพิทา -> วิราคะ -> วิมุตติญาณทัสสนะ อุปมัยลงในต้นไม้ที่มีกิ่ง และใบวิบัติแล้ว สะเก็ด เปลือก กระพี้ แม้แก่นของต้นไม้นั้น ย่อมไม่ถึงความบริบูรณ์ ฉันนั้น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 12 May 2023 - 54min - 258 - ธรรมที่พึงเห็นชัดด้วยตนเอง [6618-6t]
ความเป็นมาของพระไตรปิฎกสากล
ปี พ.ศ. 2436 รัชกาลที่ 5 ได้ทรงโปรดให้เปลี่ยนจากการบันทึก ปาฬิภาสา-อักษรขอมที่จารด้วยมือบนใบลาน เป็นการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยของยุคนั้น ตีพิมพ์ชุดหนังสือพระไตรปิฏกปาฬิ-อักขะระสยามชุดแรกของโลก (ฉบับ จ.ป.ร. อักษรสยาม) และในปี พ.ศ. 2548 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ เป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์การเผยแผ่พระไตรปิฎกสากล (อักษรโรมัน) ตามรอยประวัติศาสตร์พระไตรปิฎฉบับ จ.ป.ร. อักษรสยาม พ.ศ. 2436
#46_มหาจุนทสูตรได้กล่าวถึงภิกษุ 2 ประเภท คือ ฝ่ายสมถะ หรือ ฝ่ายวิปัสสนา ไม่ควรว่ากล่าวรุกรานกัน แต่ควรจะกล่าวสรรเสริญกัน
#47_ปฐมสันทิฏฐิกสูตรโมฬิยสีวกปริพาชกได้ถามพระผู้มีพระภาคถึงธรรมที่ผู้ปฏิบัติพึงเห็นชัดด้วยตนเองมีด้วยเหตุอย่างไร? พระผู้มีพระภาคได้ตอบคำถามแบบถามกลับว่า “เห็นธรรมที่เกิดขึ้นและดับไปหรือไม่”
#48_ทุติยสันทิฏฐิกสูตรมีนัยยะเหมือนกันกับข้อ 47 และเพิ่มเหตุแห่งการประทุษร้ายทางกาย วาจา ใจ เข้ามา
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 05 May 2023 - 55min - 257 - ความเป็นหนี้ [6617-6t]
ปาฬิ คือ เสียงใช้ถ่ายทอดคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัจจุบันบันทึกเสียงเป็นลายลักษณ์อักษรในพระไตรปิฏกพระพุทธศาสนาเถรวาท (พระไตรปิฎกสากล) โดยอ้างอิงกฎไวยากรณ์กัจจายะนะ-ปาฬิ
..............
#45_อิณสูตร ว่าด้วยความเป็นหนี้ เป็นธรรมที่ยกอุปมาคนจนเข็ญใจ ยากไร้ ย่อมกู้หนี้ เมื่อกู้หนี้แล้ว ย่อมใช้ดอกเบี้ย ถูกทวง ถูกติดตาม ถูกจับคุม ซึ่งเป็นความทุกข์ของคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน อุปไมยลงในบุคคลที่ไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มีโอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม บุคคลนี้เราเรียกว่า เป็นคนจนเข็ญใจยากไร้ในอริยวินัยนี้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 28 Apr 2023 - 55min - 256 - ความเป็นมาของพระไตรปิฎกสากล และมิคสาลาอุบาสิกา [6616-6t]
รายการธรรมะรับอรุณ โดยมูลนิธิปัญญาภาวนาได้จัดขึ้นมาเพื่อให้ผู้ฟังได้สะดวก และง่ายต่อการเข้าถึงสื่อธรรมะในรูปแบบต่างๆ ของมูลนิธิ จึงได้วางรูปแบบ และระบบไว้เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน และให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
พระไตรปิฎกสากลภาษาที่ใช้ในการสืบทอดคำสอน (บอก) เป็นภาษา “ปาฬิ” เท่านั้น ส่วนคำอธิบายใช้ภาษาอื่นในปัจจุบันได้ เพื่อป้องกันเหตุแห่งความอันตรธานของคำสอน
#44_มิคสาลาสูตรมิคสาลาอุบาสิกาได้เข้าไปหาท่านพระอานนท์แล้วได้เรียนถามธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า “คน 2 คน คือ คนหนึ่งประพฤติพรหมจรรย์ อีกคนหนึ่งไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เป็นผู้มีคติเสมอเหมือนกันในสัมปรายภพ” จะพึงรู้ได้อย่างไร? พระอานนท์ได้นำความนี้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาค แล้วพระองค์ได้ตอบถึงญาณเป็นเครื่องกำหนดรู้อินทรีย์แก่กล้าของบุคคลในพระองค์ และได้ยกธรรม 6 ข้อ ที่เป็นคู่เหมือนและคู่ต่างที่ทำให้บุคคลหลังจากตายแล้วไปในที่ต่างกัน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต ธัมมิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 21 Apr 2023 - 53min - 255 - อุบาสิกาผู้อุปัฏฐาก และผู้เพ่งด้วยฌาน [6615-6t]
นางอุตตรานันทมารดา เอตทัคคะในฝ่ายผู้เพ่งด้วยฌาน
ด้วยเหตุที่นางอุตตราเป็นโสดาบัน เมื่อถึงวันเข้าพรรษานางจึงขออนุญาตสามีรักษาอุโบสถศีล แต่สามีไม่อนุญาต บิดาของนางจึงส่งเงินมาให้นางจ้าง นางสิริมา หญิงโสเภณีให้มาทําหน้าที่บำรุงบำเรอสามีแทน ส่วนตนและหญิงบริวารก็จัดหาอาหารเพื่อถวายพระพุทธเจ้า และพระสาวก ฝ่ายนางสิริมาเมื่อเห็นสามียืนมองดูนางอุตตราจัดแจงอาหารอยู่พร้อมรอยยิ้ม จึงเกิดความไม่พอใจ ได้ตักน้ำมันร้อนๆ เทราดไปบนศีรษะของนางอุตตรา แต่ด้วยนางอุตตราได้เข้าฌานเจริญเมตตาจิตเป็นอารมณ์ น้ำมันร้อนๆ นั้น ไม่อาจทำอันตรายใดๆ ได้เลย นางสิริมาเห็นเช่นก็ตกใจ กลับได้สติ จึงวิงวอนขอให้นางอุตตรยกโทษให้ ต่อมานางสิริมาได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า และได้ดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล
พระนางสุปปวาสา เอตทัคคะในฝ่ายผู้ถวายของมีรสอันประณีต
พระนางได้ตั้งครรภ์ถึง 7 ปี 7 วัน จึงประสูติพระสีวลี และในขณะคลอดได้เกิดทุกขเวทนาเป็นอันมาก แต่พระนางอดกลั้นได้ด้วยการตรึกในพระรัตนตรัย
นางสุปปิยา เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้
นางได้พบภิกษุไข้รูปหนึ่งทราบว่าท่านควรได้อาหารที่มีรส (เนื้อ) จึงจะจัดมาถวาย แต่ไม่สามารถหาซื้อปวัตตมังสะ (เนื้อที่ขายกันในตลาด) ได้เลย นางจึงสละเนื้อขาของตนปรุงเป็นอาหารถวายแทน ทำให้เป็นเหตุแห่งต้นบัญญัติสิกขาบทห้ามภิกษุฉันเนื้อมนุษย์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 14 Apr 2023 - 52min - 254 - อุบาสิกาแสดงธรรม และผู้อยู่ด้วยเมตตา [6614-6t]
นางขุชชุตตราเป็นหญิงรับใช้คนหลังค่อมของพระนางสามาวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอุเทน เป็นเอตทัคคะผู้เป็นเลิศกว่าอุบาสิกาทั้งปวงในด้านการแสดงธรรม นางได้ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าแสดงแล้วบรรลุโสดาปัตติผล พระนางสามาวดีจึงให้นางเป็นผู้สอนธรรมที่ได้ฟังมานั้นแสดงแก่ตนและหญิงบริวาร 500 คน นางขุชชุตตราเป็นผู้มีปัญญามาก เป็นพหูสูต จึงมีหน้าที่ฟังธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วมาแสดงธรรมต่อ
พระนางสามาวดี อัครมเหสีของพระเจ้าอุเทน ด้วยความที่เป็นผู้มีความเสื่อมใสศรัทธาในพระพุทธเจ้าเป็นอย่างมาก จึงถูกพระนางมาคันทิยา อัครมเหสีอีกคนของพระเจ้าอุเทน ผู้ซึ่งผูกอาฆาตต่อพระพุทธเจ้า กลั่นแกล้งสาระพัด แต่พระนางก็รอดพ้นมาได้ด้วยอานุภาพแห่งเมตตา สุดท้ายพระนางก็ต้องชดใช้กรรมเก่าที่เคยได้ทำมา ถูกเผาทั้งเป็นพร้อมด้วยหญิงบริวาร
ถึงกระนั้น พระนางก็มีสติมั่นคงไม่หวั่นไหว ให้โอวาทแก่หญิงบริวาร ให้เจริญเมตตาไปยังบุคคลทั่วๆ ไป แม้ในพระนางคันทิยา ก่อนที่จะถูกไฟเผาถึงแก่กรรม ทำให้บางคนก็บรรลุอนาคามิผล บางคนก็ไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 07 Apr 2023 - 54min - 253 - จิตตคฤหบดี ผู้เลิศในฝ่ายธรรมกถึก [6613-6t]
จิตตคฤหบดีเป็นชาวเมืองมัจฉิกาสัณฑะ เมื่อวันที่ท่านเกิดมีดอกไม้หลากสีตกลงทั่วเมือง ซึ่งเป็นนิมิตหมายแห่งความวิจิตรสวยงาม จึงได้ชื่อว่า จิตตกุมาร
จิตตคฤหบดี ได้มีโอกาสพบพระมหานามะ (หนึ่งในปัญจวัคคีย์) เห็นท่านสงบสำรวมน่าเลื่อมใสมาก จึงมีความศรัทธานิมนต์ท่านไปฉันภัตตาหารที่คฤหาสน์ของตน และได้สร้างที่พำนักแก่ท่านในสวนชื่อ “อัมพาฏการาม” นิมนต์ให้ท่านอยู่เป็นประจำ พระมหานามะได้แสดงธรรมให้จิตตคหบดีฟังอยู่เสมอ จนได้บรรลุอนาคามิผล ด้วยความที่เป็นผู้เอาใจใส่พิจารณาธรรมอยู่เนืองๆ จนแตกฉาน มีความสามารถในการอธิบายธรรมได้ดี จนได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าให้เป็นเอตทัคคะในฝ่ายผู้เป็นธรรมกถึก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 31 Mar 2023 - 54min - 252 - อนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้เลิศในฝ่ายทายก [6612-6t]
อนาถบิณฑิกเศรษฐี เมื่อได้ยินชื่อของพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกจากเศรษฐีน้องเขย ก็รีบไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อฟังธรรม แล้วตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ได้ถวายมหาทานแล้วกราบอาราธนาพระพุทธเจ้าไปกรุงสาวัตถี ระหว่างการเดินทางกลับนั้นก็สละทรัพย์จำนวนมากพร้อมทั้งชักชวนชาวบ้านสร้างวิหารระหว่างทางทุกหนึ่งโยชน์ ได้ซื้อที่ดินจากเจ้าเชตกุมารราคาเท่าทรัพย์ที่ปูลงในแผ่นดินนั้นสร้างเป็นวัดพระเชตวันถวายพระสงฆ์ซึ่งมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พระพุทธเจ้าประทับจำพรรษาอยู่วัดนี้ถึง 19 พรรษา
เมื่อจะไปสำนักของพระพุทธเจ้าก็ไม่เคยไปมือเปล่า จะมีอาหารของขบฉันตามกาลไปด้วยเสมอ ระหว่างที่เข้าเฝ้าก็ไม่เคยถามปัญหากับพระพุทธเจ้าด้วยเกรงพระองค์จะเหน็ดเหนื่อย ท่านมีจิตคิดให้ทาน ทำแต่บุญไว้ตลอด
เมื่อครั้งที่เศรษฐีป่วยหนัก พระสารีบุตรและพระอานนท์ได้ไปเยี่ยม แสดงธรรม เกิดปิติเป็นอันมาก หลังการตายได้ไปเกิดบนสวรรค์เป็นเทพบุตรที่มีรัศมีกายอันงดงาม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 24 Mar 2023 - 54min - 251 - พระปฏาจาราเถรี ผู้ทรงพระวินัย [6611-6t]
นางปฏาจารา เป็นธิดาของเศรษฐีชาวเมืองสาวัตถี ได้หนีตามชายรับใช้ออกจากเรือนไป เรื่องเกิดขึ้นเมื่อนางก็ตั้งครรภ์บุตรคนที่ 2 ในเวลาใกล้คลอดจึงหนีสามีกลับบ้าน แต่ในระหว่างทางนั้นเองนางได้สูญเสียสามี และบุตรทั้งสองคนไป พอยั้งสติได้เดินร้องไห้เข้าสู่เมืองสาวัตถี ทราบข่าวจากชาวเมืองคนหนึ่งว่า ลมฝนได้พัดเรือนบิดามารดาของนางพังทลายและเจ้าของเรือนก็ตายไปด้วย
นางปฏาจาราสูญเสียทุกอย่างในเวลาใกล้กันไม่อาจตั้งสติได้ นางไม่รู้สึกถึงผ้าที่นุ่งซึ่งได้หลุดลง แล้ววิ่งบ่นเพ้อเข้าไปยังพระวิหารเชตวันในขณะที่พระพุทธเจ้ากำลังทรงแสดงธรรมอยู่ท่ามกลางบริษัท ผู้คนต่างเห็นนางแล้วร้องห้ามอย่าให้คนบ้านั้นเข้ามา แต่พระพุทธเจ้ารับสั่งปล่อยให้นางเข้ามาเถิด แล้วตรัส อนมตัคคปริยายสูตร เตือนสติ จนนางคลายความโศกเศร้า กลับได้สติดังเดิม และได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า มีกำลังใจขึ้นมา บรรลุโสดาปัตติผล จากนั้นได้ทูลขอบวชเป็นพระภิกษุณี
วันหนึ่ง นางกำลังเอาหม้อตักน้ำล้างเท้า เทน้ำลง นางถือเอาน้ำนั้นเป็นอารมณ์ พิจารณาเห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจขันธ์ ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 17 Mar 2023 - 55min - 250 - ภิกษุณี ผู้เลิศ [6610-6t]
เอตทัคคะในฝ่ายผู้รัตตัญญู
พระมหาปชาบดีโคตมีเถรีเป็นพระนางน้าและเป็นพระมารดาเลี้ยงของพระพุทธเจ้า หลังจากพระเจ้าสุทโธทนะเสด็จสวรรคต และเหล่าเจ้าศากยะทั้งหลายออกบวชแล้ว พระนางได้ปลงผมแล้วครองผ้ากาสาวพัสตร์ นำพาศากิยนารีเป็นบริวารประมาณ 500 เพื่อกราบทูลอ้อนวอนขอบวชแต่พระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาต
พระอานนท์จึงช่วยทูลขออนุญาตให้ โดยตรัสถามพระพุทธองค์ว่า “สตรีสามารถบรรลุธรรมได้เช่นเดียวกับผู้ชายหรือไม่?” จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงทรงอนุญาต แต่ต้องรับปฏิบัติด้วยครุธรรม 8 ประการอันเป็นเงื่อนไขให้สตรีอุปสมบทได้
เอตทัคคะในฝ่ายผู้มีปัญญามาก
พระเขมาเถรีเป็นพระอัครมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร เป็นสตรีที่มีรูปงามมาก หลงเมามัวในรูปสมบัติของตน พระเจ้าพิมพิสารจึงคิดอุบายให้พระนางได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ได้ทำให้พระนางเห็นภาพนิมิตซึ่งแสดงความไม่เที่ยงของสังขาร และได้ฟังพระธรรมเทศนาเรื่องราคะ และการกำจัดราคะ พระนางก็บรรลุอรหัตตผล ณ ที่นั้น เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงทราบความ ทรงอนุญาตให้พระนางออกบวชเป็นภิกษุณีได้
เอตทัคคะในฝ่ายผู้มีฤทธิ์มาก
พระอุบลวรรณาเถรี เนื่องจากนางมีความงามมากเป็นที่หมายปองของพระราชาและมหาเศรษฐี เศรษฐีผู้บิดารู้สึกลำบากใจที่จะรักษาน้ำใจของคนทั้งหมดไว้ จึงคิดอุบายให้ธิดาบวช พอบวชได้ไม่นาน ได้เพ่งดูเปลวประทีปแล้วถือเอาเป็นนิมิต ได้บรรลุพระอรหัตผลในเวลานั้น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 10 Mar 2023 - 54min - 249 - พระกุมารกัสสปะ ผู้เลิศในจิตรกถา [6609-6t]
มารดาของท่านพระกุมารกัสสปะ เกิดตั้งครรภ์ขึ้นมิรู้ตัวก่อนออกบวช พระบรมศาสดาก็ทรงทราบความจริงในเรื่องนี้ แต่เพื่อจะเปลื้องความสงสัย จึงรับสั่งให้ไปเชิญตระกูลใหญ่ๆ ให้มาพร้อมกันแล้วพิสูจน์ จึงได้รู้ชัดว่า นางมีครรภ์ตั้งแต่ยังไม่ได้บวช ยังมีศีลบริสุทธิ์อยู่
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทราบเรื่องและทรงรับเอาท่านพระกุมารกัสสปะไปเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม เมื่อเติบโตเจริญวัยขึ้น พอได้ทราบในชาติกำเนิดที่แท้จริงของตน เกิดความสลดใจ จึงขอพระบรมราชานุญาตออกบวช
ครั้นเมื่อมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้ฟังปัญหาพยากรณ์ 15 ข้อจากพระบรมศาสดาแล้ว ก็ได้บรรลุพระอรหัตตผลพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา
ท่านมีความสามารถเสดงธรรมได้อย่างวิจิตรพิสดาร สมบูรณ์ด้วยข้ออุปมาอุปไมยพร้อมทั้งเหตุผล ให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย ฉลาดในวิธีการสั่งสอน จึงได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศในจิตรกถา คือ แสดงธรรมเทศนาได้อย่างวิจิตร
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 03 Mar 2023 - 56min - 248 - พระอนุรุทธเถระ ผู้เลิศในทิพยจักษุญาณ [6608-6t_6212]
ครั้งสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตร ท่านพระอนุรุทธะได้ตั้งความปรารถนาไว้ในความเป็นยอดของภิกษุผู้มีทิพยจักษุ ได้ทำการบูชาด้วยประทีปอันโอฬารด้วยอธิษฐานว่า จงเป็นอุปนิสัย แก่ทิพยจักษุญาณ
ในสมัยของพระพุทธเจ้าโคดมของเรานี้ ท่านพระอนุรุทธะเกิดในศากยราชสกุล เป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ผู้สุขุมาลชาติ แม้แต่คำว่า “ไม่มี” ก็ไม่เคยรู้จักไม่เคยได้ยินนับตั้งแต่ประสูติมา เมื่อเจริญวัยแล้ว ได้ออกบวชพร้อมกับพระเจ้าภัททิยศากยะ ภัคคุ อานนท์ กิมพิละ เทวทัต และอุบาลีซึ่งเป็นภูษามาลา
เมื่อบวชแล้ว ภายในพรรษาแรก พระอนุรุทธะได้สำเร็จทิพยจักษุญาณ ได้ตาทิพย์ หลังจากนั้นท่านได้เรียนกรรมฐานกับท่านพระสารีบุตร ต่อมาท่านได้ไปเจริญสมณธรรมในป่าปาจีนวังสทายวัน โดยตรึกมหาปุริสวิตก และได้บรรลุพระอรหัตผล
ท่านพระอนุรุทธะ ได้รับการยกย่องจากพระผู้มีพระภาค ให้เป็นเอตทัคคะในด้านเป็นผู้มีทิพยจักษุญาณ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 24 Feb 2023 - 50min - 247 - พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ผู้มีปัญญามาก [6607-6t]
ในสมัยพระพุทธเจ้าอโนมทัสสี ท่านพระสารีบุตรเกิดในตระกูลพราหมณ์ มีชื่อว่า “สรทมาณพ” ได้บวชเป็นฤาษี ครั้งเมื่อได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าอโนมทัสสี และพระนิสภเถระอัครสาวกแล้ว เกิดตั้งความปรารถนาเป็นพระอัครสาวกของพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
ต่อมาในสมัยพระผู้มีพระภาคเจ้าของเรานี้เอง ท่านพระสารีบุตร และท่านพระโมคคัลลานะได้เที่ยวชมงานมหรสพ แต่เกิดความเบื่อหน่ายจึงออกบวชแสวงหาโมกขธรรมไปในสำนักของสัญชัยปริพาชก และศึกษาจนจบภายในเวลา 2-3 วัน แล้วได้เที่ยวไปยังนิคมอื่นเพื่อแสวงหาโมกขธรรมต่อ
ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรได้พบท่านพระอัสสชิเถระซึ่งมีกิริยาข้อวัตรที่งดงาม เมื่อมีโอกาสจึงได้สอบถามว่า “ท่านบวชจำเพาะใคร หรือใครเป็นศาสดาของท่าน และศาสดาของท่านมีวาทะอย่างไร” เมื่อท่านพระสารีบุตรได้ทราบความจากท่านพระอัสสชิเถระแล้ว ก็บรรลุเป็นโสดาบัน จึงได้ไปชวนท่านพระโมคคัลลานะไปในสำนักของพระพุทธเจ้าด้วยกัน
ท่านพระสารีบุตรหลังจากบวชในสำนักของพระพุทธเจ้าแล้วครึ่งเดือน ได้ฟังพระศาสดาทรงแสดงเวทนาปริคคหสูตรแก่ทีฆนขปริพาชก ผู้เป็นหลานของตนแล้ว ก็ได้บรรลุอรหัตผลที่ถ้ำสุกรขาตา แล้วได้สถาปนาพระสารีบุตรเป็นยอดของภิกษุสาวกผู้มีปัญญามาก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกกนิบาต เอตทัคควรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 17 Feb 2023 - 52min - 246 - สุขที่ไม่สะอาด [6606-6t]
#กิมมิลสูตร_40 ท่านพระกิมมิละ ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า “เหตุปัจจัยอะไร ที่ทำให้พระสัทธรรมตั้งอยู่ได้นาน และไม่ได้นาน เมื่อพระตถาคตปรินิพพานแล้ว” คำตอบคือ การมี และไม่มีคารวธรรม 6 นั่นเอง
#ทารุกขันธสูตร_41 ท่านพระสารีบุตร ได้เห็นกองฟืนจึงได้กล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่า “ภิกษุผู้มีฤทธิ์ บรรลุความชำนาญทางใจ ถ้าต้องการจะน้อมจิตบอกว่า กองฟืนนี้ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ว่างาม และไม่งาม ย่อมทำได้” เพื่อเน้นความไม่เที่ยงนั่นเอง
#นาคิตสูตร_42 ชาวบ้านอิจฉานังคละได้ทราบว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ราวป่าใกล้หมู่บ้าน จึงจะไปเข้าเฝ้าพร้อมได้ส่งเสียงอื้ออึง ทำให้พระผู้มีพระภาคตรัสกับท่านพระนาคิตะถึง “สุขที่ไม่สะอาด” ซึ่งพระตถาคตไม่ติดในสิ่งนั้น เพราะได้สุขจากความสงบภายใน และได้ยกความต่างของเสนาสนะใกล้หมู่บ้าน และการอยู่ป่าเป็นวัตร
#นาคสูตร_43 พระผู้มีพระภาคตรัสกับท่านพระอุทายีว่า “คนทั้งหลายเห็นช้าง ม้า โค งู ต้นไม้และมนุษย์ร่างใหญ่เท่านั้น จึงกล่าวว่า นาค แต่เราเรียกบุคคลผู้ไม่ทำความชั่วทางกาย ทางวาจา ทางใจ ผู้ไม่ถึงอคติ และละกิเลสได้แล้ว ว่า นาค”
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 10 Feb 2023 - 57min - 245 - องค์แห่งทักษิณาทาน [6605-6t]
#ทานสูตร_37พระผู้มีพระภาคตรัสถึงการถวายทานของนางนันทมาตาในหมู่ภิกษุมีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะเป็นประธาน ซึ่งเป็นบุญมากไม่มีประมาณที่จะวัดได้ คือ ผู้ให้มีศรัทธาน้อมไป เลื่อมใส ปลื้มใจทั้งก่อนให้ ระหว่างให้ หลังให้ และในผู้รับเป็นผู้ปราศจากราคะ โทสะ โมหะ หรือปฏิบัติเพื่อกำจัดราคะ โทสะ โมหะ
#อัตตการีสูตร_38พราหมณ์คนหนึ่งได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคถึงความเชื่อของตนว่า “ไม่มีอัตตการ (ไม่มีตนเป็นตัวการ) ไม่มีปรการ (ไม่มีสิ่งอื่นเป็นตัวการ)” พระผู้มีพระภาคได้ยกธาตุความเพียร 6 ประการ มาอธิบายประกอบความเป็นอนัตตา ทำพราหมณ์เกิดเลื่อมใสเป็นโสดาบัน
#นิทานสูตร_39เหตุให้เกิดกรรม โดยยกเหตุในส่วนของกรรมไม่ดี คือ โลภะ โทสะ โมหะ ผลคือไปนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน แดนเปรต หรือทุคติ และในส่วนของกรรมดี คือ อโลภะ อโทสะ อโมหะ ผลคือไปเทวดา มนุษย์ หรือสุคติ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 03 Feb 2023 - 57min - 244 - ธรรมะรับอรุณ Live 28 ม.ค. 2566 [6604-6t_Live]
Q:ควรจะพิจารณาเรื่องราวในอดีตอย่างไร ให้อยู่กับปัจจุบัน?
A:มีสติอยู่กับปัจจุบัน คือ จะคิดไปในอดีตหรืออนาคตให้มีสติไม่หลงไม่เพลินไปแต่ให้เป็นวิมังสา มีสติไตร่ตรองใคร่ครวญในเรื่องราวนั้นๆ จะช่วยลับปัญญาให้ไวขึ้น
Q:อยู่คนเดียวไม่มีครอบครัว จะปฏิบัติตัวอย่างไรให้มีความสุข?
A:เราจะหาสาระจากสิ่งที่ไม่มีสาระมันจะไม่ได้ แต่ให้เรามาหาสาระ (ความสุข) จาก ศีล สมาธิ และปัญญา
Q:การฟังธรรมะอยู่เรื่อยๆ เป็นเหตุให้เจริญในธรรม?
A:การฟังให้มากซึ่งธรรมะเป็นเหตุให้ปัญญาเราเจริญ เป็นทางไปสู่อมตะ คือ นิพพาน
Q:เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่กลัว
A:หิริโอตตัปปะ ความละอายกลัวต่อบาปเป็นความกลัวชนิดที่เป็นกุศลเป็นสิ่งที่ควรมี
Q:การบูชาพระปัจเจกพุทโธควรสวดบทบูชาใด?
A:พระปัจเจกพุทโธกำลังบำเพ็ญบารมีเพื่อที่จะตรัสรู้ในกาลข้างหน้า จะใช้บทสวดสรรเสริญคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ก็ได้เหมือนกัน
Q: ในสมัยพุทธกาล คนบรรลุธรรมได้ไวและมีมาก แล้วในปัจจุบันนี้จะบรรลุธรรมได้ไหม?
A: ในปัจจุบันคำสอนยังมีอยู่ ให้เรามั่นใจที่จะปฎิบัติตามก็จะบรรลุธรรมได้เช่นเดียวกัน
Q:กราบขอพรวันเกิดจากพระอาจารย์
A:ให้ระลึกถึงคุณของพ่อแม่ ให้ตั้งใจทำความดีเพื่อให้มีกุศลสืบเนื่องต่อไปได้
Q:เป็นอุบาสกยังไม่บวชจะเจริญในธรรมได้ไหม?
A: พุทธบริษัท 4 ให้มีธรรม คือ คารวะ6
Q:เจอมรสุมชีวิตหรือความเจ็บป่วยจะวางจิตอย่างไร?
A:ให้มองเห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นเทวฑูตที่มาเตือนให้เราเร่งทำความดี
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sat, 28 Jan 2023 - 1h 03min - 243 - บ่มสัญญาให้เป็นวิชชา [6603-6t]
#35_วิชชาภาคิยสูตรสัญญา 6 ประการนี้ เป็นส่วนแห่งวิชชา (ความหมายรู้ให้เกิดปัญญา) คือ 1. อนิจจสัญญา-เห็นความไม่เที่ยง 2. อนิจเจ ทุกขสัญญา-สิ่งไม่เที่ยงนั้นเป็นทุกข์ 3. ทุกเข อนัตตสัญญา-สิ่งที่เป็นทุกข์นั้นเป็นอนัตตา 4. ปหานสัญญา–ละกิเลส 5. วิราคสัญญา-คลายกำหนัด 6. นิโรธสัญญา-ดับกิเลส
#36_วิวาทมูลสูตรมูลเหตุแห่งวิวาท 6 ประการ คือ บุคคลใดเป็นผู้มักโกรธ ผูกโกรธไว้, ลบหลู่ ตีเสมอ, ริษยา มีความตระหนี่, โอ้อวด มีมายา, ปรารถนาชั่วเป็นมิจฉาทิฏฐิ, ยึดมั่นทิฏฐิของตน บุคคลนั้นไม่มีความเคารพยำเกรงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ทำสิกขาให้บริบูรณ์ ย่อมก่อวิวาทให้เกิดขึ้นในสงฆ์ ซึ่งเป็นไป ไม่ใช่สุข ใช่ประโยชน์แก่คนหมู่มาก ให้พึงพยายามละมูลเหตุแห่งวิวาทที่เป็นบาปนั้น และพึงกระทำไม่ให้ยืดเยื้อต่อไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 20 Jan 2023 - 57min - 242 - ปัญญารู้ สู่นิพพาน [6602-6t]
#31_เสขสูตรธรรมคู่ตรงข้ามที่เป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ผู้เป็นเสขะ (ผู้ยังต้องศึกษา) ธรรม 6 ประการ คือ เป็นผู้ชอบการงาน การพูดคุย การนอนหลับ การคลุกคลีด้วยหมู่ ไม่คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย และไม่รู้ประมาณในการบริโภค
#32_33_ปฐม_ทุติยอปริหานสูตร สูตร 1-2พระศาสดาทรงปรารภกับเหล่าภิกษุถึงเทวดาตนหนึ่งมีวรรณะงดงามได้มากราบทูลพระผู้มีพระภาคถึงธรรมที่ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อม (คารวะ 6) คือ เป็นผู้มีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในสิกขา ในความไม่ประมาท และในปฏิสันถาร และ สูตรที่ 2 ต่างกัน 2 ข้อท้าย คือ ความเป็นผู้มีความเคารพในหิริ (อายบาป) และโอตตัปปะ (กลัวบาป)
#34_มหาโมคคัลลานสูตรท่านพระมหาโมคคัลลานะได้ขึ้นไปในพรหมโลกเพื่อปรารภกับติสสพรหมถึงเทวดาที่มีญาณหยั่งรู้ว่าใครเป็นโสดาบันเข้าสู่กระแสพระนิพพาน ติสสพรหมได้ตอบว่า เทวดาทั้ง 6 ชั้น ที่มีคุณธรรมโสตาปัตติยังคะ 4 ย่อมมีญาณรู้ว่าตนเป็นโสดาบันเป็นผู้เข้าสู่กระแสนิพพานในวันข้างหน้าแน่นอน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต เทวตาวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 13 Jan 2023 - 56min - 241 - ภาวะอันยอดเยี่ยมสู่อมตธรรม [6601-6t]
#29_อุทายีสูตรพระผู้มีพระภาคทรงปรารภเรื่อง “อนุสสติฏฐาน” กับท่านพระอุทายี และท่านพระอานนท์ ซึ่งคำตอบของท่านพระอุทายีเป็นปัญญาการระลึกชาติได้ซึ่งยังเป็นโมฆะอยู่ ส่วนท่านพระอานนท์ได้กล่าวทูลในเรื่องของฌาน 1-2-3 เพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน และฌาน 4 ย่อมรู้แจ้งธาตุ มนสิการอาโลกสัญญา(ความสว่าง) เพื่อญาณทัสสนะ พิจารณากายนี้โดยความเป็นของปฏิกูล และเป็นซากศพที่ถูกทิ้งไว้ในป่าช้าเพื่อละกามราคะ และถอนอัสมิมานะ และพระผู้มีพระภาคทรงกล่าวเสริมข้อที่ 6 คือ อิริยาบถรู้ตัวทั่วพร้อมเพื่อสติสัมปชัญญะ
#30_อนุตตริยสูตรภาวะบุคคลใดมีศรัทธาตั้งมั่น บรรลุที่สุด มีความเลื่อมใสอย่างยิ่งแล้วไปเพื่อได้เห็น..ได้ฟังธรรม..ได้ศรัทธา..ได้บำรุง..ได้ระลึกถึงตถาคต หรือสาวกของตถาคตแล้วได้ศึกษาในไตรสิกขา ซึ่งเป็นภาวะอันยอดเยี่ยมกว่าภาวะทั้งหลาย เพราะเป็นไปเพื่อทำให้แจ้งในนิพพาน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อนุตตริยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 06 Jan 2023 - 54min - 240 - สมัยที่ควรพบผู้เจริญภาวนา [6552-6t]
#25_อนุสสติฏฐานสูตรเมื่อตามระลึกถึงอนุสสติฏฐาน 6 ประการนี้แล้ว จิตย่อมไม่ถูกกิเลสกลุ้มรุม เป็นจิตดำเนินไปตรง ทำจิตบริสุทธิ์ขึ้นมาได้ อันได้แก่ 1. พุทธานุสสติ 2. ธัมมานุสสติ 3. สังฆานุสสติ 4. สีลานุสสติ 5. จาคานุสสติ 6. เทวตานุสสติ
#26_มหากัจจานสูตรพระมหากัจจานะได้ปรารภการ “บรรลุช่องว่างในที่คับแคบ” ซึ่งหมายถึง อนุสสติฏฐาน 6 ที่ประกอบด้วยจิตอันไพบูลย์เป็นมหัคคตะ คือ ไม่ว่าเราจะถูกบีบคั้นจากอายตนะ 6 อย่างไร ถ้าเราจัดการจิตเราได้อย่างถูกต้องย่อมบรรลุถึงนิพพานได้
#27_#28_ปฐม_ทุติยสมยสูตรพระผู้มีพระภาคได้ตรัสกับภิกษุรูปหนึ่ง (สูตร 1) และท่านพระมหากัจจานะได้กล่าวกับเหล่าภิกษุเถระ (สูตร 2) ถึงสมัยที่ควรเข้าไปพบภิกษุผู้เจริญภาวนาทางใจ ซึ่งก็ได้แก่สมัยที่ถูกนิวรณ์ 5 กลุ้มรุม และไม่รู้นิมิตซึ่งเป็นที่สิ้นอาสวะสำหรับผู้อาศัยมนสิการอยู่ เพื่อขอให้ท่านได้แสดงอุบายเป็นเครื่องนำออกจากสิ่งนั้นได้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อนุตตริยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 30 Dec 2022 - 56min - 239 - “ ภัย ” เป็นชื่อของกาม [6551-6t]
#21_สามกสูตรพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่วิหารโปกขรณีย์ ใกล้หมู่บ้านสามะ ทรงปรารภเทวดาที่มาเข้าเฝ้ากราบทูลถึงธรรมที่เป็นไปเพื่อความเสื่อม 3 ประการ คือ 1. เป็นผู้ชอบการงาน 2. ชอบการพูดคุย 3. ชอบการนอนหลับ และพระองค์ทรงแสดงปริหานิยธรรมเพิ่มอีก 3 ประการ ให้แก่ภิกษุทั้งหลาย คิอ 4. ชอบคลุกคลีด้วยหมู่ 5. เป็นผู้ว่ายาก 6. มีปาปมิตร (มิตรชั่ว)
#22_อปริหานิยสูตร อปริหานิยธรรม (ธรรมที่ไม่เป็นเหตุแห่งความเสื่อม) คือ ยกเอาธรรมในข้อ #21 ทั้ง 6 ประการ มากล่าวถึงในทางตรงข้ามกัน
#23_ภยสูตรคำว่า ‘ภัย (อันตราย) ทุกข์ (ยึดถือ) โรค (อ่อนกำลัง) ฝี (จิตกลัดหนอง) เครื่องข้อง (บีบคั้น) เปือกตม (จมอยู่)’ นี้เป็นชื่อของกาม เพราะกามทำให้ผูกพันธ์ มีฉันทะราคะ ลุ่มหลง ก็จะทำให้เกิด ‘ภัย ทุกข์ โรค ฝี เครื่องข้อง เปือกตม’ ขึ้นทั้งในโลกนี้ และโลกหน้า
#24_หิมวันตสูตรธรรม 6 ประการนี้ ย่อมทำลายอวิชชาได้ คือ เป็นผู้ฉลาดในการเข้าสมาธิ (สัปปายะ) ในการให้สมาธิตั้งอยู่ได้ ในการออกจากสมาธิ ในความพร้อมแห่งสมาธิ ในอารมณ์แห่งสมาธิ และในอภินิหารแห่งสมาธิ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต อนุตตริยวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 23 Dec 2022 - 55min - 238 - มรณสติ มีอมตะเป็นที่หยั่งลง [6550-6t]
#17_โสปปสูตรพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน ทรงปรารภพวกภิกษุใหม่ โดยชี้คุณ และโทษของผู้ที่หาความสุขในการนอน แล้วให้ภิกษุตามประกอบใน อปัณณกปฏิปทา เห็นแจ้งในกุศลธรรม เจริญโพธิปักขิยธรรม จะทำให้ถึงความสิ้นอาสวะได้
#18_มัจฉพันธสูตรพระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศลทรงปรารภชาวประมง แล้วทรงตรัสเรื่อง คนฆ่าปลา ฆ่าโค ฆ่าแกะ ฆ่าสุกร พรานนก และพรานเนื้อ กระทำด้วยใจที่เป็นบาป เพราะกรรมนั้นจึงไม่มีโภคทรัพย์มาก ยิ่งผู้ที่ฆ่ามนุษย์ ย่อมมีทุกข์มากตลอดกาล ตายแล้วย่อมไปเกิดในอบาย ฯ
#19_#20_ปฐม_ทุติยมรณัสสติสูตร (สูตร 1-2)พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ คิญชกาวสถาราม ทรงปรารภการเจริญมรณสติ มีอานิสงส์มาก มีอมตะ (นิพพาน) เป็นที่สุด พึงเจริญมรณสติอย่างแรงกล้า เพราะเหตุแห่งความตายมีมาก เช่น ภัยจากสัตว์ร้าย ลื่นหกล้ม อาหารไม่ย่อย ดี-เสมหะ-ลมพิษกำเริบ จึงพึ่งตั้งสติมั่นในการละอกุศล เจริญแต่กุศลให้มาก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สารณียวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 16 Dec 2022 - 58min - 237 - การอยู่อย่างมีความตายที่เจริญ [6549-6t]
ทบทวนเพิ่มเติม ข้อ#13_นิสสารณียสูตรต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวถึง ธาตุที่สลัด 6 ประการ คือ 1. เมตตาเจโตวิมุตติสลัดพยาบาท 2. กรุณาเจโตวิมุตติสลัดวิหิงสา (เบียดเบียน) 3. มุทิตาเจโตวิมุตติสลัดอรติ (อิจฉาริษยา) 4. อุเบกขาเจโตวิมุตติสลัดราคะ 5. อนิมิตตาเจโตวิมุตติ (อรหัตผล) สลัดนิมิต (เครื่องหมาย) ทั้งปวง 6. ที่ถอนอัสมิมานะ (อรหัตมรรค) นี้เป็นธาตุที่สลัดความเคลือบแคลงสงสัย
ข้อ#14_ภัททกสูตร และข้อ#15_อนุตัปปิยสูตรเป็นธรรมคู่ตรงข้าม ว่าด้วย การอยู่อย่างมีความตายที่ไม่เจริญ (มีความหวาดกลัว) และมีกาลกิริยาที่เดือดร้อน (เกิดในอบายภูมิ) คือ เป็นผู้ชอบการงาน ชอบการพูดคุย การนอน การคลุกคลีด้วยหมู่ คลุกคลีกับคฤหัสถ์ ยินดีธรรมที่เป็นเหตุให้เนิ่นช้า
ข้อ#16_นกุลปิตุสูตร นางนกุลมาตา ได้คลายความกังวลใจให้กับสามีผู้ป่วยเป็นไข้หนัก ว่าไม่ให้กังวลหรือห่วงใยในตัวนาง เพราะการตายของผู้ที่ยังมี ความห่วงใย เป็นทุกข์ และพระผู้มีพระภาคก็ทรงติเตียน เมื่อนกุลปิตาผู้เป็นสามีได้ฟังธรรม (การครองเรือน) นั้นแล้ว ก็หายจากความเจ็บไข้นั้น
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สารณียวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 09 Dec 2022 - 58min - 236 - สารณียธรรม ธรรมเป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน [6548-6t]
สิ่งที่จะทำให้เราระลึกถึงกันได้ ไม่ใช่จิตที่เต็มไปด้วยพยาบาท เบียดเบียน แต่เป็นจิตที่เต็มไปด้วยความเมตตาอันไม่มีประมาณ ซึ่งก่อให้เกิดความรัก ความเอื้อเฟื้อ ความสามัคคีปองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ข้อ#11_ปฐมสารณียสูตรธรรมเป็นเหตุให้ระลึกถึงกัน คือ ตั้งมั่นเมตตากายกรรม วจีกรรม มโนกรรม บริโภคไม่แบ่งแยก(แบ่งปันสิ่งของให้) มีศีลบริบูรณ์ และ มีอริยทิฐิ(สัมมาทิฐิ)ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
ข้อ#12_ทุติยสารณียสูตรสารณียธรรม 6 ประการที่กล่าวมาแล้วนี้ (ข้อ#11) ย่อมเป็นเหตุทำให้เป็นที่รัก ที่เคารพ เป็นไปเพื่อสงเคราะห์กัน เพื่อความไม่วิวาท เพื่อความสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ข้อ#13_นิสสารณียสูตรธาตุ(สภาวะว่างจากอัตตา)ที่สลัด เมื่อทำให้มากเจริญให้มาก ฯลฯ ใน 1.เมตตาเจโตวิมุตตินี้เป็นธาตุที่สลัดพยาบาท 2.กรุณาเจโตวิมุตตินี้เป็นธาตุที่สลัดวิหิงสา(เบียดเบียน) 3.มุทิตาเจโตวิมุตตินี้เป็นธาตุที่สลัดอรติ(อิจฉาริษยา) 4.อุเบกขาเจโตวิมุตตินี้เป็นธาตุที่สลัดราคะ 5.อนิมิตตาเจโตวิมุตติ(อรหัตผล)นี้เป็นธาตุที่สลัดนิมิตทั้งปวง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ฉักกนิบาต สารณียวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 02 Dec 2022 - 57min - 233 - ความสิ้นไปแห่งกิเลส [6545-6t]
การภาวนาเจริญให้มากในสัญญาทั้งหลาย เป็นทางดำเนิน (มรรค) เพื่อความรู้ยิ่ง..เพื่อความจางคลาย..เพื่อดับอวิชชา
ข้อ#286-#292 ภิกษุ ภิกษุณี สิกขมานา (สามเณรีอายุ 18 ปีขึ้นไป) สามเณร สามเณรี อุบาสก และอุบาสิกา ที่มีความประพฤติทุศีล (ศีล 5) ย่อมดำรงอยู่ในนรก และผู้ที่ประพฤติถูกศีลย่อมดำรงอยู่ในสวรรค์
ข้อ#293-#302 นักบวชนอกศาสนาที่มีความประพฤติทุศีลย่อมดำรงอยู่ในนรก
ข้อ#303-#1151 ธรรมที่เมื่อเจริญแล้วจะเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความสละคืน เพื่อความสิ้นไปแห่งอุปกิเลส (17 อย่าง) อันมี ราคะ โทสะ โมหะ โกธะ ฯลฯ เป็นต้น ได้แก่ สัญญา 7 ประการ และอาทีนวสัญญา อนัตตสัญญา ปหานสัญญา วิราคสัญญา อินทรีย์ 5 และพละ 5
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต สิกขาปทเปยยาล ราคเปยยาล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 11 Nov 2022 - 58min - 232 - ตระหนี่ธรรม [6544-6t]
ความตระหนี่นี้ มีไปตลอดสายของการปฏิบัติ ซึ่งจะมีความละเอียดลงไปตามลำดับขั้น การมาปฏิบัติก็เพื่อจะละความยึดถือ ก็คือละความตระหนี่เหล่านี้นั่นเอง
ข้อ#251-#253 ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม ในกลุ่มของศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะชนิดที่เป็นอเสขะ (อรหันต์) เป็นผู้ที่ควรแก่การเป็นพระอุปัชฌาย์ ผู้ให้นิสสัย ผู้ให้สามเณรอุปัฏฐากได้
ข้อ#254-#263 ความตระหนี่ 5 ประการคือ 1.ตระหนี่อาวาส 2.ตระหนี่ตระกูล 3.ตระหนี่ลาภ 4.ตระหนี่วรรณะ 5.ตระหนี่ธรรม ซึ่งความตระหนี่ธรรมจัดว่าน่าเกลียดสุด และผู้ที่ยังละความตระหนี่ไม่ได้ย่อมไม่บรรลุ และผู้ที่ละได้ย่อมบรรลุไล่ตั้งแต่ฌาณ1-4 ไปจนถึงทำให้แจ้งในอริยผลทั้ง 4 ขั้น
ข้อ#264-#271 ความตระหนี่อีกนัยหนึ่ง ที่มีความหมายและไส้ในเหมือนกันกับข้อ 254-263 แต่ต่างกันตรงข้อสุดท้ายคือ 5.อกตัญญู อกตเวที
ข้อ#272-#285 คุณสมบัติของภิกษุที่จะมาทำหน้าที่ต่าง ๆ ในอาวาส คือ ไม่ลำเอียงเพราะชอบ เพราะชัง เพราะหลง เพราะกลัว และรู้ระบบของงานนั้นๆเป็นอย่างดี เป็นบัณฑิต บริหารตนไม่ให้ถูกกำจัดทำลาย ย่อมดำรงอยู่ในสวรรค์ และคู่ตรงข้ามคือลำเอียง ฯลฯ ย่อมดำรงอยู่ในนรก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อุปสัมปทาวรรค สัมมุติเปยยาล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 04 Nov 2022 - 55min - 231 - ศรัทธา(ไม่)เฉพาะบุคคล [6543-6t]
ความเลื่อมใสที่เรามีอย่างถูกต้องในคุณของพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ แม้จะมีเหตุปัจจัยเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม เราก็ย่อมทำการปฏิบัติของเราให้เจริญ และงดงามได้ เพราะด้วยศรัทธาที่เราตั้งไว้อย่างถูกต้องแล้ว
#ข้อ241-#244 (สูตร 1) เป็นธรรมคู่ตรงข้าม ว่าด้วย โทษของทุจริต ทางกาย วาจา และใจ (อกุศลกรรมบถ 10) มีโทษ คือ 1. แม้ตนก็ติเตียนตนเองได้ 2. ผู้รู้ย่อมติเตียน 3. กิตติศัพท์อันชั่วย่อมกระฉ่อนไป 4. หลงลืมสติตาย 5. ตายแล้วไปเกิดในอบาย นรก
#ข้อ245-#248 (สูตร 2) จะมีไส้ในเหมือน(สูตร1) มีความแตกต่างในตอนท้าย คือ 4. เสื่อมจากสัทธรรม 5. ตั้งอยู่ในอสัทธรรม
#ข้อ249 เป็นธรรมที่อุปมาอุปไมยป่าช้ากับคน คือ บุคคลที่ประกอบด้วยอกุศลกรรมบถ 10 ย่อมไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น (ชื่อเสีย) มีภัย (ไม่อยากอยู่ด้วย) เป็นที่อยู่ของอมนุษย์ (คนไม่ดีมาอยู่รวมกัน) เป็นที่คร่ำครวญของคนหมู่มาก (หมดอาลัย)
#ข้อ250 เมื่อความเลื่อมใสเกิดขึ้นกับเฉพาะบุคคลย่อมมีโทษ คือ เมื่อบุคลที่เราเลื่อมใสถูกยกวัตร ถูกสั่งให้นั่งท้าย ย้ายไปที่อื่น ลาสิกขา หรือทำกาละ จึงไม่เลื่อมใส ไม่คบภิกษุเหล่าอื่น จึงไม่ได้ฟังธรรมเป็นเหตุให้เสื่อมจากพระสัทธรรม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ทุจจริตวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 28 Oct 2022 - 55min - 230 - ธรรมอาวาสให้งดงาม [6542-6t]
หมวดว่าด้วยคุณธรรมของผู้ดูแลอาวาสนี้ ไม่ใช่เฉพาะกับเจ้าอาวาสหรือภิกษุสงฆ์เท่านั้น แต่หมายถึงเราทุกคน ถ้ามีคุณธรรมเหล่านี้ย่อมยังอาวาสหรือองค์กรนั้นให้เจริญรุ่งเรือง และงดงามได้
#ข้อ231-#234 เจ้าอาวาสที่มีคุณธรรมดังนี้ ย่อมเป็นที่รัก ที่เคารพยกย่อง มีอุปการะ ยังอาวาสให้งดงาม มาในหัวข้อที่ต่างกัน สรุปรวมลงไส้ในได้ดังนี้ คือ เป็นผู้มีมรรยาทและวัตรงาม มีศีล เป็นพหูสูต ทรงสุตะ มีความประพฤติขัดเกลาดี ยินดีการหลีกเร้น วาจางาม ยังคนให้อาจหาญ ดูแลปฏิสังขรณ์เสนาสนะและอุปการะภิกษุผู้มาจากต่างแคว้นได้ เป็นผู้ได้ฌาน 4 มีปัญญา ทำให้แจ้งซึ่งเจโตและปัญญาวิมุตติ
#ข้อ235 เจ้าอาวาสที่ประกอบด้วยธรรมต่อไปนี้ ย่อมอนุเคราะห์คฤหัสถ์ คือ ให้สมาทานอธิศีลและให้เห็นธรรมได้ สามารถอนุเคราะห์คฤหัสถ์ป่วยไข้และเชิญชวนให้ทำบุญตามกาลสมัยได้ บริโภคของที่เขานำมาถวาย ไม่ทำศรัทธาไทยให้ตกไป
#ข้อ236-#240 เป็นธรรมคู่ตรงข้าม มีหัวข้อที่เหมือนกันว่าด้วย เจ้าอาวาสที่เหมือนดำรงอยู่ในนรก คือ ไม่พิจารณาไตร่ตรองสรรเสริญคนที่ควรติเตียนหรือติเตียนคนที่ควรสรรเสริญ ไม่พิจารณาไตร่ตรองปลูกความเลื่อมใสในฐานะที่ไม่ควรเลื่อมใสหรือไม่ปลูกความเลื่อมใสในฐานะที่ควรเลื่อมใส มีความตระหนี่ในอาวาส ตระกูล ในลาภ วรรณะ และทำศรัทธาไทยให้ตกไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อาวาสิกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 21 Oct 2022 - 1h 01min - 229 - เศร้าหมองเพราะความคุ้นเคย [6541-6t]
การทำความคุ้นเคยอยู่คลุกคลีไปมาหาสู่กันเป็นประจำ ถ้าไม่สำรวมระมัดระวังเผลอยินดีไปในกาม อาจทำให้ต้องอาบัติเศร้าหมองได้
ปฐม-ทุติยกุลุปกสูตร #225_#226 โทษของการเข้าไปสู่เรือนตระกูล และอยู่นานเกินเวลา อาจทำให้ต้องอาบัติเพราะหลีกไปโดยไม่ได้บอกลา ทำให้ได้เห็นหน้ากันเป็นประจำ ได้คลุกคลี นั่งในที่ลับในที่กำบังสองต่อสองกับมาตุคาม และได้บอกสอนพระบาลีเกิน 5-6 คำ เกิดความคุ้นเคยกัน ย่อมมีจิตจดจ่อทำให้ดำริไปในทางกามมาก ไม่ยินดีในการในการประพฤติพรหมจรรย์
โภคสูตร#227 โทษของโภคทรัพย์ คือเป็นสาธารณะทั่วไป ถูกทำลายสูญหายได้ด้วย ไฟ น้ำ พระราชา โจร และทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก ส่วนอานิสงส์ ทำให้ได้บำรุงเลี้ยงดูตนเอง บิดา-มารดา บุตร ภรรยา ทาส กรรมกร คนใช้ มิตรอำมาตย์ และบำเพ็ญทักษิณา
อุสสูรภัตตสูตร#228การหุ้งต้มอาหารในเวลาสายมีโทษ คือ ไม่ได้ต้อนรับแขก ไม่ได้ทำพลีกรรม ไม่ได้ถวายอาหารแก่สมณะ ทาสกรรมกรและคนใช้หลบหน้าทำงานสาย อาหารมีรสไม่อร่อย
ปฐม-ทุติยกัณหสัปปสูตร#229_#230 อุปมาอุปไมยงูเห่ากับมาตุคาม ว่า ไม่สะอาด มีกลิ่นเหม็น มักโกรธและผูกโกรธ มีพิษร้าย (ราคะจัด) น่ากลัว ลิ้นสองแฉก (พูดส่อเสียด) และมักทำร้ายมิตร (นอกใจ)
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ทีฆจาริกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 14 Oct 2022 - 57min - 228 - อดทนให้เป็นปัญญา [6540-6t]
ความอดทน ไม่ใช่กำลังของคนพาล แต่เป็นกำลังของบัณฑิตที่เห็นโทษอกุศลนั้นด้วยปัญญา
ทบทวน #ข้อ215-#ข้อ126 ว่าด้วยความไม่อดทน โดยได้ยกเอา เวปจิตติสูตร มาอธิบายเสริมทำความแจ่มแจ้งในเรื่องของการวางจิตในความอดทนเพื่อให้เป็นปัญญา
ปฐม-ทุติยอปาสาทิกสูตร #ข้อ217-218โทษของบุคคลผู้ไม่น่าเลื่อมใส (ทำผิดวินัย) สูตร 1-2 คือ แม้ตนก็ติเตียนตนเอง ผู้รู้ติเตียน ชื่อสียงไม่ดีกระฉ่อนไป หลงลืมสติตาย ตายแล้วไปเกิดในอบาย คนที่ยังไม่เลื่อมใส ย่อมไม่เลื่อมใส ผู้ที่เลื่อมใสแล้วกลายเป็นอื่น ไม่ปฏิบัติตามคำสอน คนรุ่นหลังเอาแบบอย่างได้
อัคคิสูตร #ข้อ219โทษของไฟ คือ ทำให้ตาฝ้าฟาง ผิวหยาบกร้าน อ่อนกำลัง เพิ่มการคลุกคลีด้วยหมู่ สนทนาดิรัจฉานกถา
มธุราสูตร #ข้อ220นครมธุรา มีโทษ คือ พื้นดินไม่เรียบ มีฝุ่นละออง สุนัขดุ มียักษ์ร้าย อาหารหาได้ยาก ถ้าเราอยู่ที่ไหนแล้วมีจิตไม่เป็นสมาธิ ละอาสวกิเลสไม่ได้ ไม่ควรอยู่ที่นั่น
ปฐม-ทุติยทีฆจาริกสูตร #ข้อ221-222ผู้จาริกไปนาน ไม่มีกำหนดมีโทษ คือ จะไม่ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง ไม่เข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว ไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เสื่อมจากธรรมที่ได้บรรลุแล้ว ไม่แกล้วกล้าในเรื่องที่ได้ฟัง เป็นโรคร้ายแรง ไม่มีมิตร
อตินิวาสสูตร-มัจฉรีสูตร #ข้อ223-224การอยู่ประจำที่นานมีโทษ คือ มีสิ่งของ และเภสัชสะสมมาก มีกิจมาก คลุกคลีอย่างคฤหัสถ์ ห่วงใยและตระหนี่ในอาวาส ตระหนี่ในตระกูล ในลาภ วรรณะ และในธรรม
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อักโกสกวรรค ทีฆจาริกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 07 Oct 2022 - 55min - 227 - บาปทางวาจา [6539-6t]
การจะพูดอะไรนั้น ให้เรามีสติระลึกให้ดี ว่าคำพูดนั้นมีประโยชน์อย่างไร…ให้พูดแต่พอดี อย่ากล่าววาจาอันเป็นโทษ มีความอดทน แล้วเห็นโทษนั้นด้วย “ปัญญา”
ทันตกัฏฐสูตร #ข้อ208 โทษของการไม่แปรงฟัน คือ ตาฝ้าฟาง ปากเหม็น รับรู้รสได้ไม่ดี อาหารย่อยยาก มีรสไม่อร่อย
คีตัสสรสูตร #ข้อ209 โทษของการแสดงธรรมด้วยเสียงขับร้อง คือ แม้ตนเอง และผู้อื่นก็กำหนัดในเสียงนั้น พวกคฤหัสตำหนิ สมาธิเสื่อม คนรุ่นหลังเอาแบบอย่าง
มุฏฐัสสติสูตร #ข้อ210 หลงลืมสติก่อนนอนมีโทษทำให้หลับ-ตื่นเป็นทุกข์ ฝันร้าย เทวดาไม่รัก และน้ำอสุจิเคลื่อน
อักโกสกสูตร #ข้อ211 การด่าเพื่อนพรหมจารี ว่าร้ายพระอริยะมีโทษคือ ต้องอาบัติร้ายแรง จิตเศร้าหมอง เป็นโรคร้าย หลงลืมสติตาย ตายแล้วไปเกิดในนรก
ภัณฑนการกสูตร #ข้อ212 ทำความบาดหมางให้แตกกัน มีโทษ คือ จะไม่บรรลุธรรมที่ยังไม่ได้บรรลุ เลื่อมจากธรรม กิตติศัพท์อันชั่วขจรไป หลงลืมสติตาย ตายแล้วไปเกิดในนรก
สีลสูตร #ข้อ213 ผู้มีศีลวิบัติมีโทษคือ จะเสื่อมจากโภคทรัพย์ เสื่อมเสียชื่อเสียง กังวลใจ หลงลืมสติตาย ตายแล้วไปเกิดในนรก
พหุภาณิสูตร #ข้อ214 ผู้พูดมากจะมีโทษเป็นเหตุให้พูดเท็จ ส่อเสียด พูดหยาบ เพ้อเจ้อ ตายแล้วไปเกิดในนรก
ปฐม-ทุติยอักขันติสูตร #ข้อ215-#ข้อ216 หัวข้อเหมือนกัน มีไส้ในสรุปรวมลงได้ 7 ข้อ ว่าด้วยโทษของความไม่อดทน คือ ไม่เป็นที่รัก มากด้วยเวร เพ่งโทษ ดุร้าย มีความร้อนใจ หลงลืมสติตาย ตายแล้วไปเกิดในนรก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต กิมพิลวรรค อักโกสกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 30 Sep 2022 - 58min - 226 - กิเลส ดุจตะปูตรึงใจ [6538-6t]
จิตที่ไม่นุ่มนวล เพราะถูกกิเลสรัดตรึงไว้ จิตจะไม่ก้าวหน้า ให้เราเอาเครื่องขวางนี้ออก จิตของเราจะมีการพัฒนา บรรลุธรรมได้
กิมพิลสูตร #ข้อ201 ท่านกิมพิละได้ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเหตุปัจจัยให้พระสัทธรรมดำรงอยู่ได้ไม่นานเมื่อพระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว นั่นก็คือ พุทธบริษัท 4 นี้ ไม่เคารพยำเกรงในพระรัตนตรัย ในสิกขา และในกันและกัน
ธัมมัสสวนสูตร #ข้อ202 การฟังธรรมจะมีอานิสงส์ 5 ประการ คือ ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง เข้าใจชัดสิ่งที่ได้ฟังแล้ว บรรเทาความสงสัยเสียได้ ทำให้มีความเห็นตรง จิตย่อมเลื่อมใส
อัสสาชานียสูตร #ข้อ203 อุปมาอุปไมยม้าอาชาไนยกับภิกษุ ในเรื่อง ความตรง มีเชาว์ ความอ่อน อดทน และความเสงี่ยม
พลสูตร #ข้อ204 พละ คือ กำลังคือศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ และปัญญา
เจโตขิลสูตร #ข้อ205 กิเลสเครื่องตรึงจิตดุจตะปู 5 ประการ คือ มีความเคลือบแคลง ไม่ลงใจในพระรัตนตรัย ในสิกขา และเป็นผู้มีโทสะในเพื่อนผู้ประพฤติพรหมจรรย์
วินิพันธสูตร #ข้อ206 กิเลสเครื่องผูกใจ 5 ประการ คือ มีความกำหนัดในกามคุณ 5 ในกาย (อัตภาพ) ในรูป (ฌาน) กินอิ่มจนเกินไป และปรารถนาความเป็นเทพหมู่ใดหมู่หนึ่ง
ยาคุสูตร #ข้อ207 อานิสงส์ของยาคู (ข้าวต้ม) คือ บรรเทาความหิว กระหาย ลมเดินคล่อง ดีต่อลำไส้ ย่อยง่าย
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต กิมพิลวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 23 Sep 2022 - 56min - 225 - ลางบอกเหตุ [6537-6t]
ความฝันใดๆ ถ้าเรามีสติแยกแยะ จะสามารถบอกได้ว่า ฝันนั้นจะเป็นจริงหรือเป็นเพียง “แค่ฝัน”
ปิงคิยานีสูตร #ข้อ195 พระพุทธเจ้าได้ตรัสกับเจ้าลิจฉวีและปิงคิยานีพราหมณ์ ถึงความปรากฎแห่งแก้ว 5 ประการที่หาได้ยากในโลก คือ การมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้น มีผู้แสดงธรรมของพระพุทธเจ้า แล้วเข้าใจนำไปปฏิบัติให้เกิดผล รู้คุณ กระทำตอบ
มหาสุปินสูตร #ข้อ196 พระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ ได้ปุพนิมิตว่า แผ่นดินนี้เป็นที่นอนใหญ่ มีหญ้าแพรกงอกขึ้นจากสะดือจรดฟ้า แล้วมีหนอนขาวหัวดำไต่ขี้นจากเท้า นกมีสีต่างๆกัน บินมาตกลงแทบเท้ากลายเป็นสีขาว เดินไปมาบนภูเขาคูถลูกใหญ่แต่ไม่เปื้อนอุจจาระ
วัสสสูตร #ข้อ197 อันตรายที่จะทำให้ฝนไม่มี ขาดช่วง หายไป คือ ธาตุไฟ ธาตุลมกำเริบในอากาศ เทพราหูรับเอาน้ำไปทิ้งในมหาสมุทร เทพแห่งฝนลืมทำหน้าที่ พวกมนุษย์ไม่ตั้งอยู่ในธรรม
วาจาสูตร #ข้อ198 วาจาสุภาษิต ท่านผู้รู้ไม่ติเตียน คือ พูดถูกกาล พูดคำจริง อ่อนหวาน เป็นประโยชน์ และพูดด้วยเมตตาจิต
กุลสูตร #ข้อ199 นักบวชผู้มีศีลไปสู่ตระกูลใด ตระกูลนั้นจะประสพสิ่งที่เป็นบุญ คือเมื่อได้เห็นแล้วเกิดจิตเลื่อมใส(เป็นไปเพื่อไปเกิดในสวรรค์) ยกมือไหว้ ถวายอาสนะ(เกิดในตระกูลสูง) มีจิตอยากกำจัดความตระหนี่(มีศักดิ์ใหญ่) ได้จัดของถวาย(มีโภคทรัพย์มาก) ได้พูดคุยสอบถามธรรมะ(มีปัญญา)
นิสสารณียสูตร #ข้อ200 ธาตุที่สลัดกาม พยาบาท เบียดเบียน รูปทั้งหลาย และสักกายะ คือถ้าเรามนสิการใน 5 สิ่งนี้ แล้วไม่มีจิตน้อมไป แสดงว่าเรามีธาตุที่สลัดออกในสิ่งนั้นๆ
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต พราหมณวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 16 Sep 2022 - 58min - 224 - ธรรมของพราหมณ์ [6536-6t]
โสณสูตร #ข้อ191 ว่าด้วยธรรมของพราหมณ์ ที่เปรียบเทียบกับสุนัขมาในเรื่อง การมีคู่ครองที่เหมาะสม ไม่ซื้อขายพราหมณี ไม่ทำการสะสมทรัพย์ แสวงหาอาหารเป็นเวลา
โทณพราหมณสูตร #ข้อ192พระพุทธเจ้าได้ตรัสถามท่านโทณพราหมณ์ ว่า ท่านโทณะเป็นพราหมณ์แบบไหน ใน 5 จำพวกนี้ คือ 1.พราหมณ์ผู้เสมอด้วยพรหม 2.ผู้เสมอด้วยเทวดา 3.ผู้ประพฤติดี 4.ผู้ประพฤติทั้งดีและชั่ว 5.ผู้เป็นจัณฑาล ซึ่งท่านโทณะได้กราบทูลว่า “แม้แต่พราหมณ์ ผู้เป็นจัณฑาล ข้าพระองค์ยังให้บริบูรณ์ไม่ได้เลย”
สังคารวสูตร #ข้อ193 สังคารวพราหมณ์ ได้ทูลถามพระพุทธเจ้าถึงเหตุที่ทำให้การสาธยายมนต์ไม่แจ่มแจ้ง ซึ่งก็คือ เมื่อใจถูกกามราคะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ และวิจิกิจฉากลุ้มรุม
การณปาลีบุตร #ข้อ194 ท่านปิงคิยานีพราหมณ์ได้ตอบถึงเหตุที่เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าแก่ท่านการณปาลีพราหมณ์ ว่า เมื่อบุคคลได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว ย่อมไม่ปรารถนาธรรมเหล่าอื่น ย่อมได้ความพอใจ โสมนัส ความทุกข์กาย ทุกข์ใจย่อมหมดไป ความเหน็ดเหนื่อย เร่าร้อนย่อมระงับไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต พราหมณวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 09 Sep 2022 - 57min - 223 - ข้อปฏิบัติของผู้ประเสริฐ [6535-6t]
ผู้ที่หมั่นคอยขัดเกลาตนเอง และประพฤติปฏิบัติให้ยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยข้อปฏิบัติอันงาม จัดเป็นผู้เลิศ ผู้ประเสริฐสุด
ภเวสีสูตร #ข้อ180 ภเวสีอุบาสก มีความคิดที่จะรักษาศีลให้สมบูรณ์ และปฏิบัติให้ยิ่งๆขึ้นไปใน การประพฤติพรหมจรรย์ บริโภคมื้อเดียว ไปจนถึงออกบวช และได้อรหัตผล แล้วได้ชักชวนบริวารอีก 500 คน ปฏิบัติตามจนได้อรหัตผลด้วยเช่นกัน
#ข้อ181-#ข้อ190 หัวข้อจะเหมือนธุดงควัตร 10 ข้อแรก คือ ผู้อยู่ป่าเป็นวัตร, ผู้ถือผ้าบังสกุล, อยู่โคนไม้, ป่าช้า, กลางแจ้ง, ถืออิริยาบถ 3, อยู่เสนาสนะตามที่จัดไว้, บริโภคมื้อเดียว, ห้ามภัตที่นำมาถวายภายหลัง, บริโภคในภาชนะเดียว มีลักษณะธรรมที่เป็นไส้ในเหมือนกัน แต่เปลี่ยนไปตามหัวข้อนั้นๆ คือประพฤติข้อวัตรเพราะโง่เขลา, ถูกความปรารถนาชั่วครอบงำ, มีจิตฟุ้งซ่าน, หวังคำสรรเสริญ, มีความมักน้อย สันโดษ ต้องการด้วยข้อปฏิบัติอันงาม จัดเป็นพวกที่เลิศประเสริฐสุด
โสณสูตร #ข้อ191 ธรรมของพราหมณ์ ที่ปรากฏในพวกสุนัข แต่ไม่ปรากฏในพวกพราหมณ์ คือ ว่าในเรื่องการสมสู่ระหว่างพราหมณ์กับพราหมณี และในหญิงวัยเจริญพันธุ์ การซื้อขายพราหมณี การสะสมทรัพย์ และการแสวงหาอาหาร
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อุปาสกวรรค อรัญญวรรค พราหมณวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 02 Sep 2022 - 1h 00min - 222 - เครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน [6534-6t]
ผู้ที่มีศีลบริบูรณ์ และได้สุขที่เกิดจากโสตาปัตติยังคะ 4 ย่อมประพฤติปฏิบัติให้สมบูรณ์ รู้จบธรรมะ เป็นทางไปสู่พระนิพพานได้
ปีติสูตร #ข้อ176 เมื่อมีสุขที่ได้จากสมาธิ ย่อมไม่มีทุกข์หรือสุขที่ปรารภด้วยกาม ไม่มีทุกข์หรือสุขประกอบด้วยอกุศล และไม่มีทุกข์จากสิ่งที่เป็นกุศล
วณิชชาสูตร #ข้อ177 การค้าขาย 5 ประเภท ที่ตัวเองไม่ควรทำ และไม่ควรชักชวนผู้อื่นทำ คือ 1. ค้าขายอาวุธ 2. ค้าขายสัตว์เป็น 3. ค้าขายเนื้อสัตว์ 4. ค้าขายของมึนเมา และ 5. ค้าขายยาพิษ
ราชสูตร #ข้อ178 ยกเอาศีล 5 ขึ้นมาเปรียบเทียบกับการลงโทษของพระราชาว่า ไม่เคยเห็นพระราชาลงโทษผู้มีศีล แต่ด้วยบาปกรรมของผู้นั้นมีอยู่ ถึงไม่ได้กระทำผิดศีลก็จริง ก็อาจเป็นไปได้ว่า ที่จะถูกลงโทษ
คิหิสูตร #ข้อ179 พระพุทธเจ้าตรัสกับท่านพระสารีบุตร โดยปรารภท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี และคฤหัส 500 คน ว่า ถ้าใครมีศีล5 แล้วประกอบด้วยสุขที่เกิดจากโสตาปัตติยังคะ 4 ให้ฟันธงได้เลยว่า มีนรกสิ้นแล้ว ฯลฯ คือ เป็นโสดาบัน
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อุปาสกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 26 Aug 2022 - 56min - 221 - สิ่งที่เลิศ และอุบาสกแก้ว [6533-6t]
ในบรรดาการได้เห็น การได้ยิน ความสุข สัญญา และความเป็นอยู่ของผู้ที่เห็นตามความเป็นจริงแล้วทำให้อาสวะสิ้น จัดว่าเป็นเลิศที่สุด
สีลสูตร #ข้อ168 การทุศีล และการมีศีล เปรียบเหมือนต้นไม้ที่มีกิ่งใบ (ศีล) วิบัติหรือสมบูรณ์ สะเก็ด (สัมมาสมาธิ) เปลือก (ยถาภูตญาณทัสสนะ) กระพี้ (นิพพิทา-วิราคะ) แก่น (วิมุตติญาณทัสสนะ) ย่อมวิบัติ หรือสมบูรณ์ตามด้วย
ขิปปนิสันติสูตร #ข้อ169 เหตุเป็นผู้ให้ใคร่ครวญได้เร็ว เรียนได้มาก แล้วสิ่งที่เรียนไม่เลือนหายไป ได้แก่ เป็นผู้ฉลาดในอรรถในธรรม พยัญชนะ นิรุตติ เบื้องต้น และเบื้องปลาย (นำไปใช้)
ภัททชิสูตร #ข้อ170 ท่านพระอานนท์ได้กล่าวเพื่อที่จะทำคำตอบให้ชัดเจนกับท่านพระภัททชิ ถึงการเห็น ได้ยิน สุข สัญญา และภพ ของผู้ที่เห็นตามความเป็นจริงแล้วอาสวะสิ้นไป การเห็น ฯลฯ นั้นๆ ว่าเป็นเลิศที่สุด
#ข้อ171-#ข้อ174 เป็นธรรมคู่ตรงข้าม มีไส้ในเหมือนกัน ว่าด้วยผู้ไม่มีศีล 5 และมีศีล 5 มาในหัวข้อที่แตกต่างกัน คือ #ข้อ171 และ#ข้อ172 ธรรมที่เป็นเหตุให้ครั่นคร้าม และแกล้วกล้า #ข้อ173 ธรรมเป็นเหตุให้ไปอยู่ในนรกหรือสวรรค์ และ #ข้อ174 ภัยเวร คือ ความสะดุ้ง ร้อนใจ
จัณฑาลสูตร #ข้อ175 อุบาสกจัณฑาล (ชั้นเลว) คือ ผู้ที่ไม่มีศรัทธา ทุศีล ถือมงคลตื่นข่าว แสวงหาผู้รับทักษิณานอกศาสนานี้ ทำอุปการะนอกศาสนาก่อน และอุบาสกแก้ว (ชั้นเลิศ) คือ กล่าวถึงธรรมที่ตรงข้ามกับที่กล่าวมาแล้ว
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อาฆาตวรรค อุปาสกวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 19 Aug 2022 - 59min - 220 - เหตุของคำถาม และการกล่าวโจทก์ [6532-6t]
ถ้าเราทราบเหตุของคำถาม เราจะมีวิธีที่จะตอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ และเมื่อถูกกล่าวโจทก์เราควรตั้งอยู่ในความจริงและไม่โกรธ
ปัญหาปุจฉาสูตร #ข้อ165 การถามปัญหาด้วยเหตุ 5 ประการ คือ 1. เพราะโง่เขลา 2. ถูกความปรารถนาชั่วครอบงำ 3. ดูหมิ่น 4. ประสงค์จะรู้ จึงถาม 5. ถามเพื่อที่จะทำคำตอบให้ชัดเจน ให้เราเลือกใช้วิธีตอบปัญหาพยากรณ์ 4 อย่างของพระพุทธเจ้า
นิโรธสูตร #ข้อ166 ท่านพระสารีบุตรได้กล่าวถึง ผู้ที่ถึงพร้อมด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา และฌาน 9 ถ้าไม่ได้อรหัตผลในปัจจุบัน ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นผู้อยู่ร่วมกับเทวดาชั้นกามภพ แต่ถูกท่านพระอุทายีคัดค้านถึง 2 วาระ (6 ครั้ง) พระพุทธเจ้าท่านทรงมารับรองคำของท่านพระสารีบุตร แล้วกล่าวกับพระอานนท์ว่า “ทำไมถึงปล่อยให้พระเถระถูกเบียดเบียน” เป็นเหตุให้ได้กล่าวถามธรรมกับท่านอุปวานะ ถึงธรรมที่เป็นที่รักเคารพ คือ เป็นผู้มีศีล เป็นพหูสูต มีวาจางาม ได้ฌาน 4 มีเจโตและปัญญาวิมุตติ
โจทนาสูตร #ข้อ167 ผู้ประสงค์จะโจทก์ผู้อื่น ควรกล่าวในกาลอันควร กล่าวถ้อยคำจริง อ่อนหวาน ประกอบด้วยประโยชน์ มีเมตตาจิตไม่เพ่งโทษกล่าว
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อาฆาตวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 12 Aug 2022 - 58min - 219 - อุบายกำจัดความอาฆาต [6531-6t]
เรา...ผู้รักสุข เกลียดทุกข์ คงไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บความอาฆาต โกรธเคืองไว้ในจิตใจ และผู้ที่มีปัญญา...จะเพ่งแต่ส่วนที่ดี ที่มีประโยชน์ของบุคคลอื่น แม้ว่าผู้นั้นจะไม่มีส่วนดีเลยก็ตาม...ก็จะเมตตา สงสาร ในทุกข์ที่เขาเป็น
อุทายีสูตร #ข้อ159 พึงตั้งธรรมไว้ 5 ประการ เมื่อจะแสดงธรรม คือ 1. แสดงธรรมไปตามลำดับ 2. แสดงอ้างเหตุ 3. อาศัยความเอ็นดู 4. ผู้ไม่เพ่งอามิส 5. ไม่แสดงธรรมกระทบตนและผู้อื่น
ปฐมอาฆาตปฏิวินยสูตร #ข้อ161 และทุติยอาฆาตปฏิวินยสูตร #ข้อ162 ว่าด้วยอุบายกำจัดอาฆาต คือ ให้มีเมตตา กรุณา และอุเบกขา ไม่พึงระลึกในเรื่องไม่ดี และให้เข้าใจในเรื่องกรรม แม้ว่าผู้นั้นจะบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ทางกาย วาจา ใจ ก็ตาม ให้มองแต่ข้อดีให้เกิดประโยชน์แก่จิตใจตนเอง
สากัจฉสูตร #ข้อ163 ผู้ที่ควรสนทนาด้วย และอาชีวสูตร #ข้อ164 ผู้ควรแก่การถาม-ตอบ มีไส้ในเหมือนกัน คือ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ และตอบปัญหาที่มาในเรื่องศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะสัมปทาได้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อาฆาตวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 05 Aug 2022 - 55min - 218 - ธรรมะกระจกเงา [6530-6t]
การพูดเรื่องดีๆ กับคนบางคนก็อาจจะเป็นเรื่องที่ขัดเคืองใจ หรือ กับคนบางคนก็ไม่ขัดเคืองใจ อยู่ที่เราตั้งจิตเพ่งไว้ตรงไหน ให้ตั้งจิตให้ถูก ให้เพ่งระลึกถึงกุศลที่เรามี จะเจริญกุศลให้งอกงามได้
ทบทวน #ข้อ154-156 การที่เรานำเอาธรรมที่เราได้เล่าเรียน (ปริยัติ) มาแสดง-อธิบาย บอกธรรม-บอกบาลี ใคร่ครวญ (ปฏิบัติ) จนให้ถึงมรรคผล (ปฏิเวธ) จะเป็นเหตุให้พระสัทธรรมดำรงมั่น ไม่เสื่อมสูญ
ทุกกถาสูตร #ข้อ157 การพูดเรื่อง ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ และปัญญากับผู้ที่ไม่มีในตน (ไม่พิจารณาเห็นในตน) ก็จะเป็นที่ขัดเคือง จึงเป็นเรื่องไม่ดี แต่ถ้าพูดกับผู้ที่มีความถึงพร้อมธรรมขัอนั้นๆ ในตน ก็จะได้ปิติปราโมทย์ เรื่องที่พูดนั้นจึงดี
สารัชชสูตร #ข้อ158 ความครั่นคร้าม และความแกล้วกล้า เป็นธรรมคู่ตรงข้าม ประกอบด้วย มีหรือไม่มีศรัทธา มีศีลหรือทุศีล สุตะน้อยหรือทรงสุตะ เกียจคร้านหรือมีความเพียร ปัญญาทรามหรือมีปัญญา
ทุปปฏิวิโนทยสูตร #ข้อ160 ธรรมที่เกิดขึ้นแล้วบรรเทาได้ยาก ได้แก่ ราคะ โทสะ โมหะ ปฏิภาณ (มุ่งหวังที่จะพูด) และจิตคิดจะไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต สัทธัมมวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 29 Jul 2022 - 57min - 217 - เหตุเสื่อมและเจริญแห่งพระสัทธรรม [6529-6t]
เหตุที่จะทำให้พระสัทธรรม ไม่เสื่อมสูญ คือ การที่เรานำเอาธรรมที่เราได้ยิน ได้ศึกษาเล่าเรียน ท่องจำ นำมาใคร่ครวญ ปฏิบัติจนให้ถึงผล
#ข้อ151-#ข้อ153 หัวข้อเหมือนกัน คือ ผู้ที่ประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้ จะเป็นผู้เมื่อฟังธรรมอยู่ ก็สามารถที่จะหยั่งลงสู่ความเห็นที่ถูกต้องได้ ซึ่งเป็นธรรมคู่ตรงข้ามมีส่วนเหมือนและส่วนต่าง สรุปรวมแล้วได้ 10 ประการ ไม่มัวสนใจแต่คำพูด, ไม่สนใจแต่ผู้พูด, ไม่สนใจแต่ตัวเอง, ไม่เป็นคนโง่, ไม่สำคัญว่ารู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้, ไม่ลบลู่ฟังธรรม, ไม่แข่งดี ฟังธรรม, ไม่จ้องจับผิดในผู้แสดงธรรม, มีจิตเป็นเอกัคคตา และทำในใจโดยแยบคาย
#ข้อ154-#ข้อ156 ห้วข้อเหมือนกัน ว่าด้วยความเสื่อม และความตั้งอยู่ได้แห่งพระสัทธรรมเป็นธรรมคู่ตรงข้าม
#ข้อ154 คือ ฟังธรรม เรียนธรรม ทรงจำธรรม ใคร่ครวญอรรถแห่งธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมโดยเคารพหรือไม่เคารพ
#ข้อ155 คือ เรียนธรรม (นวังคสัตถุสาสน์) แสดงธรรม (อธิบาย) บอกธรรม (จดจำ) สาธยาย ตรึกตรองตามหรือไม่
#ข้อ156 คือ เล่าเรียนพระสูตรที่สืบทอดกันมาดี เป็นผู้ว่าง่าย เป็นพหูสูต เป็นเถระ ไม่มักมาก สงฆ์พร้อมเพรียงกันหรือไม่
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต สัทธัมมวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 22 Jul 2022 - 57min - 216 - วิมุตติตามสมัย [6528-6t]
“สมยวิมุต” เป็นความพ้นชั่วคราว ถ้าสร้างเหตุดีมีวิมุตติเกิดขึ้นได้ ถ้าสร้างเหตุเงื่อนไขปัจจัยไม่ดี วิมุตติก็เสื่อมไปได้
ทบทวน #ข้อ144 เมื่อพิจารณาเห็นสิ่งปฏิกูลและไม่ปฏิกูล และอาศัยอุเบกขาเห็นความไม่เที่ยง จะละราคะ โทสะ และโมหะได้
นิรยสูตร #ข้อ145 ผู้ที่ผิดศีล 5 เป็นเหตุให้ไปตกนรก และผู้ที่รักษาศีล 5 ได้ เหมือนได้รับเชิญให้ไปอยู่บนสวรรค์
มิตตสูตร #ข้อ146 ผู้ที่ไม่ควรคบและควรคบด้วย คือ ชอบใช้หรือไม่ใช้ให้ผู้อื่นทำงาน ชอบก่ออธิกรณ์ทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเถระหรือไม่ ชอบหรือไม่ชอบไปสถานที่ไม่ควรไปอยู่เรื่อย และสามารถพูดให้เกิดกำลังใจในการปฏิบัติได้หรือไม่
อสัปปุริสทานสูตร #ข้อ147 เปรียบเทียบการให้ทานของคนดีและคนไม่ดี ซึ่งคนดีจะให้โดยเคารพ อ่อนน้อม ให้ด้วยมือตนเอง ให้ของดีๆ และเห็นอานิสงส์ของการให้
สัปปุริสทานสูตร #ข้อ148 การให้ทานของผู้ที่ให้ด้วยศรัทธา โดยเคารพ ให้ตามกาลอันควร มีจิตอนุเคราะห์ และให้โดยไม่กระทบตนและผู้อื่น ซึ่งมีอานิสงส์ของการให้ที่เหมือนกัน และต่างกันไป
ปฐมสมยวิมุตตสูตร #ข้อ149 เปรียบเทียบธรรมของผู้มีจิตหลุดพ้นชั่วคราวกับพระอรหันต์ คือ ความชอบหรือไม่ชอบในการงาน การพูดคุย การนอน คลุกคลีด้วยหมู่ พิจารณาหรือไม่พิจารณาเห็นกิเลสที่หลุดออก
ทุติยสมยวิมุตตสูตร #ข้อ150 เหมือน #ข้อ149 แตกต่างกันประการที่ 4 คือ สำรวมหรือไม่สำรวมอินทรีย์ และประการที่ 5 คือ รู้จักหรือไม่รู้จักประมาณในการบริโภค
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ติกัณฑกีวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 15 Jul 2022 - 57min - 215 - สัญญาในสิ่งทั้งสอง [6527-6t]
พึงพิจารณา กำหนดหมายรู้ในสิ่งที่ เป็นปฏิกูล และ ไม่เป็นปฏิกูล เพื่อละ ราคะ โทสะ และโมหะ นั่นเอง
อวชานาติสูตร #ข้อ141 บุคคล 5 จำพวก (ปุถุชน) มีปรากฏอยู่ คือ 1. บุคคลให้แล้วดูหมิ่นผู้รับ 2. อยู่ร่วมกันแล้วดูหมิ่นในศีล 3. เป็นคนเชื่อง่าย หูเบา 4. เป็นคนโลเล ศรัทธาหัวเต่า 5. ผู้เขลา
อารภติสูตร #ข้อ142 บุคคล 5 จำพวก คือ บุคคลจำพวกที่ 1-4 มี ศีล สมาธิ สมบูรณ์และไม่สมบูรณ์บ้าง และมีปัญญาพอประมาณ เมื่อละอาสวะที่เกิดจากการต้องอาบัติและวิปปฏิสาร และเจริญซึ่งสมถะกับวิปัสสนา ก็จะทัดเทียมจำพวกที่ 5 คือ อรหันต์
สารันททสูตร #ข้อ143 เจ้าลิจฉวี ได้สนทนากันเรื่อง “แก้ว 5 ประการ ที่หาได้ยากในโลก” โดยมุ่งไปในทางกาม ส่วนนัยยะของพระพุทธเจ้า คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อริยบุคคล และผู้กตัญญูกตเวที หาได้ยากในโลก
ติกัณฑกีสูตร #ข้อ144 พระพุทธเจ้าประทับอยู่ที่ป่าติกัณฑกีวัน ได้ตรัสเรื่อง การกำหนดหมายรู้ในสิ่งที่เป็นปฎิกูลและไม่ปฏิกูลเพื่อละความกำหนัด ความขัดเคือง และความหลง
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ติกัณฑกีวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 08 Jul 2022 - 56min - 214 - ธรรมของผู้ปรารถนา [6526-6t]
ธัมมราชาสูตร #ข้อ133 เปรียบเทียบการปกครองโดยธรรมของพระเจ้าจักรพรรดิกับพระศาสดา ใน กาย วาจา ใจ อาชีพ บ้านและนิคม แบบไหนควรและไม่ควรประพฤติ
ยัสสังทิสังสูตร #ข้อ134 เปรียบเทียบทิศที่ใช้ประทับของกษัตริย์กับภิกษุผู้มีศีล เป็นพหูสูต ปรารภความเพียร มีปัญญา และวิมุตติที่มีธรรม 4 ประการ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ทิศใดๆ ก็เป็นผู้มีจิตหลุดพ้น
ปฐมปัตถนาสูตร #ข้อ135 โอรสผู้สืบทอดบัลลังก์ ที่มีคุณสมบัติที่ดี ย่อมปรารถนาราชสมบัติได้ เปรียบมาในภิกษุผู้มีศรัทธา อาพาธน้อย ไม่โอ้อวด ปรารภความเพียร มีปัญญา ย่อมปรารถนาความสิ้นอาสวะได้ฉันนั้นเหมือนกัน
ทุติยปัตถนาสูตร #ข้อ136 เหมือน #ข้อ135 มีไส้ในที่ต่างออกมา คือ เป็นที่รักของกองทัพ เป็นบัณฑิต ในส่วนของภิกษุ คือ เป็นผู้มีศีล เป็นพหูสูต มีสติปัฏฐาน 4
อัปปังสุปติสูตร #ข้อ137 บุคคล 5 ประเภท ที่นอนน้อย ตื่นมาก คือ สตรี บุรุษ โจร (เพราะกาม) พระราชา (ทรงงาน) และภิกษุ ทำความเพียรเพื่อสิ้นอาสวะ
#ข้อ138-#ข้อ140 ว่าด้วยช้างต้นที่ยังฝึกไม่สำเร็จและสำเร็จแล้ว เปรียบมาในภิกษุที่เป็นเนื้อนาบุญ ใน ภัตตาทกสูตร #ข้อ138 คือ ไม่อดทน ต่อ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ อักขมสูตร #ข้อ139 เหมือน #ข้อ138 เพิ่มเติมมาคืออดทนได้ และ โสตสูตร #ข้อ140 เปรียบช้างต้นกับภิกษุ รู้ฟัง รู้ประหาร รู้รักษา รู้อดทน รู้ไป
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต คิลานวรรค ราชวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 01 Jul 2022 - 56min - 213 - จักรอันยอดเยี่ยม [6525-6t]
เปรียบจักร คือ กิจการงานที่เราต้องทำ และดำเนินไปนั้น ถ้าประกอบไปด้วยธรรมที่ดีงาม จะเป็นจักรที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ หาโทษมิได้
ปฐมอนายุสสาสูตร #ข้อ125 และทุติยอนายุสสาสูตร #ข้อ126 ธรรมที่เป็นเหตุให้อายุสั้นและอายุยืน มีไส้ในเหมือนกันอยู่ 3 ประการ เหตุให้อายุสั้น คือ ไม่รู้ประมาณ และไม่ทำในสิ่งที่เป็นสัปปายะ บริโภคสิ่งที่ย่อยยาก และที่ต่างกันใน #ข้อ125 คือ เที่ยวในเวลาไม่สมควร ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ (ขั้นต่ำศีล8) และ #ข้อ126 คือ ทุศีล มีปาปมิตร (มิตรชั่ว) ส่วนธรรมที่เป็นเหตุให้อายุยืน คือ กล่าวตรงกันข้ามกันกับที่กล่าวมาแล้ว
วปกาสสูตร #ข้อ127 ไม่ควรหลีกออกไปอยู่ผู้เดียว คือ ผู้ไม่สันโดษด้วยปัจจัย 4 และมากด้วยความคิดไปในทางกาม และผู้ควรหลีกออกจากหมู่ คือ กล่าวตรงกันข้ามกันกับที่กล่าวมาแล้ว
สมณสุขสูตร #ข้อ128 ทุกข์ของสมณะ คือ ผู้ไม่สันโดษด้วยปัจจัย 4 ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ และสุขของสมณะ คือ กล่าวตรงกันข้ามกันกับที่กล่าวมาแล้ว
ปริกุปปสูตร #ข้อ129 กล่าวถึง ผู้ทำอนันตริยกรรม5 (กรรมหนัก) คือ ผู้ที่ต้องไปอบาย ไปนรก เป็นผู้เดือดร้อน เป็นผู้แก้ไขไม่ได้
พยสนสูตร #ข้อ130 ความวิบัติแห่งญาติ โภคะและโรค ยังไม่ร้ายแรงเท่า ความวิบัติแห่งศีล และทิฐิ (มิจฉา) ที่เป็นเหตุให้ไปเกิดอบาย นรกได้ และว่าด้วยสมบัติแห่งญาติ โภคะและโรค ก็ไม่เท่าสมบัติแห่งศีล และทิฐิ (สัมมา) ให้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์
ปฐมจักกานุวัตตนสูตร #ข้อ131 เปรียบเทียบคุณธรรมของพระเจ้าจักรพรรดิกับพระพุทธเจ้า และทุติยจักกานุวัตตนสูตร #ข้อ132 เปรียบเทียบคุณธรรมของผู้ที่จะมาสืบทอดบัลลังก์พระเจ้าจักรพรรดิกับพระสารีบุตร ซึ่งมีบทพยัญชนะที่เหมือนกันแต่มีความหมายนัยยะต่างกัน คือ เป็นผู้รู้ประโยชน์ รู้ธรรม รู้ประมาณ รู้กาล รู้บริษัท
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต คิลานวรรค ราชวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 24 Jun 2022 - 58min - 212 - “บรรลุสุข ได้ด้วยสุข” [6524-6t]
ความสุขที่ไม่ควรกลัว คือ จากฌานสมาธิ เพื่อให้ถึงบรมสุข คือ นิพพาน
จากคำถามใน ปปติตสูตร #ข้อ 2 ได้อธิบายเพิ่มเติม “บรรลุสุขด้วยสุข” โดย “บรรลุสุข” หมายถึง นิพพาน “ด้วยสุข” หมายถึง ฌานทั้ง 4 ขั้น
#ข้อ 116-#ข้อ 120 เปรียบเทียบธรรมในส่วนไม่ดีเหมือนอยู่ในนรก และส่วนดีเหมือนตำรงอยู่บนสวรรค์ มีไส้ในเหมือนกันอยู่ 3 ประการ คือ การพิจารณาและไม่พิจารณาไตร่ตรอง คนที่ควรสรรเสริญ คนที่ควรติเตียน ทำศรัทธาไทยให้ตกไป และในความต่างอีก 2 ประการ ของ
วัณณนาสูตร #ข้อ 116 คือ แสดงความเลื่อมใส และไม่เลื่อมใสในสิ่งที่ควรและไม่ควรเลื่อมใส
อิสสุกินีสูตร#ข้อ 117 คือ มีและไม่มีความริษยา กับความตระหนี่
มิจฉาทิฏฐิกสูตร #ข้อ 118 เรื่องปัญญา คือ ทิฐิ และสังกัปปะ
มิจฉาวาจาสูตร #ข้อ 119 เรื่องศีล คือ วาจา และกัมมันตะ
มิจฉาวายามสูตร #ข้อ 120 เรื่องสมาธิ คือ วิริยะ และสติ
คิลานสูตร #ข้อ 121 ภิกษุป่วยไข้ รักษาจิตของตนเองด้วยธรรม 5 ประการนี้ คิอ พิจารณาความไม่งามในกาย ปฏิกูลในอาหาร ความไม่เที่ยงในสังขาร มรณสัญญา ไม่เพลินในโลกทั้งปวง จะหวังอรหัตผลได้
สติสุปัฏฐิตสูตร #ข้อ 122 ไส้ในเหมือนกันกับ #ข้อ 121 ต่างกันแค่ประการแรก คือ ตั้งสติไว้ในภายใน จะเป็นอนาคามี หรือหวังอรหัตผลได้
ปฐมอุปัฏฐากสูตร #ข้อ 123 ผู้ป่วยไข้ที่พยาบาลได้ยากและง่าย คือ ทำสิ่งที่เป็นสัปปายะ (สบายเหมาะสมกับโรคนั้นๆ) รู้ประมาณในสิ่งที่เป็นสัปปายะ ฉันยา บอกอาการตามความเป็นจริง และอดกลั้นต่อเวทนาได้
ทุติยอุปัฏฐากสูตร #ข้อ 124 คุณสมบัติของผู้ที่จะมาดูแลผู้ป่วยไข้ คือ รู้ที่จะจัดยา รู้สิ่งที่เป็นสัปปายะ ไม่รังเกียจอุจจาระ ปัสสาวะ และชักชวนให้คนไข้มีกำลังใจขึ้นมาได้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อันธกวินทวรรค คิลานวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 17 Jun 2022 - 58min - 211 - รู้อดทน รู้ละตระหนี่ [6523-6t]
“อดทน” ไม่ใช่ “เก็บกด” ที่เก็บอกุศลธรรมเอาไว้ แต่อดทนเป็นการใช้ปัญญาไม่ให้อกุศลธรรมเกิดขึ้น
ผู้ตระหนี่ เปรียบเสมือนอยู่ในนรก ผู้ที่ละได้แล้ว ย่อมเบาสบายเหมือนดำรงบนสรวงสวรรค์
กุลูปกสูตร #ข้อ111 ภิกษุผู้เข้าไปสู่ตระกูล มีคุณสมบัติ 5 ประเภทนี้ จะยังความศรัทธาให้เกิดขึ้น คิอ ไม่แสดงอาการคุ้นเคยกับผู้ที่ยังไม่คุ้นเคย ไม่แทรกแซงอำนาจ ไม่คบตระกูลที่แตกแยกกัน ไม่พูดกระซิบที่หู ไม่ขอมากเกินไป และในทางตรงข้ามกันกับกล่าวมาแล้วนี้ จะทำให้ไม่เป็นที่พอใจ ที่เคารพ
ปัจฉาสมณสูตร #ข้อ112 คุณสมบัติของภิกษุผู้เป็นปัจฉาสมณะ (พระผู้ติดตาม) คือ เดินไม่ห่างนัก ไม่ใกล้นัก รับบาตรหรือของในบาตร (คอยอำนวยความสะดวก) เมื่อพูดเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีต้องคอยห้ามกัน ไม่ควรพูดแทรกขึ้น มีปัญญา รู้ความเหมาะสม เป็นผู้ควรพาไปด้วย
สัมมาสมาธิสูตร #ข้อ113 ธรรมผู้เข้าสู่สัมมาสมาธิ คือ อดทนต่อ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ จะทำให้เข้าสู่สมาธิได้ง่าย และทางตรงข้ามกัน ถ้าไม่อดทน จิตใจจะถูกดึงไปกระทบตามอายตนะต่างๆ เข้าสมาธิได้ลำบาก
อันธกวินทสูตร #ข้อ114 คุณธรรมสำหรับพระใหม่ ให้ตั้งมั่นอยู่ในธรรมได้ คือ มีศีลเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ และอภิสมาจาร (มรรยาทที่ดีงาม) สำรวมอินทรีย์ พูดให้น้อย ให้มีที่จบ อาศัยเสนาสนะอันสงัด (กายวิเวก) มีสัมมาทัสสนะ (ความเห็นชอบ)
มัจฉรินีสูตร #ข้อ115 ถ้ามีความตระหนี่ 3 นัยยะนี้ คือ ตนเองมีแต่ไม่ให้ ไม่มีและไม่อยากให้ผู้อื่นมี ตนเองมีดีแต่ไม่อยากให้ผู้อื่นมีดีกว่า ในที่อยู่ ตระกูล (ญาติโยม) ลาภ (ปัจจัย 4) วรรณะ (ศีล) ธรรม ย่อมอยู่ไม่เป็นสุข แต่ถ้าไม่มีความตระหนี่ย่อมอยู่ผาสุก
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต อันธกวินทวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 10 Jun 2022 - 56min - 210 - ปรับทิฐิ ด้วยปัญญา [6522-6t]
เมื่อเราเห็นข้อปฏิบัติหรือสิ่งไม่ดีของผู้อื่นแล้ว เราเลือกที่จะใช้ความดีปฏิบัติตอบ ให้เขาได้แก้ไข เปลี่ยนแปลง เป็นคนดีขึ้นมาได้ เป็นการรักษากันและกัน “ด้วยความดี”
จากคำถามใน #ข้อ100 กกุธเถรสูตร “ศาสดาท่านนี้จักทำกรรมใด เขาเองก็จักปรากฏด้วยกรรมนั้น” เป็นอุบายการรักษาจิตของสาวก (ลูกศิษย์) ที่เมื่อเห็นอาจารย์ของตนปฏิบัติไม่ดีแล้ว เลือกที่จะรักษาจิตให้มีความดี ให้มีเมตตา
สีลสูตร #ข้อ107 ภิกษุถึงพร้อม (จนสุดถึงขั้นผล) ด้วย ศีล สมาธิ ปํญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะความหมายเหมือนกันกับ อเสขสูตร #ข้อ108 ภิกษุประกอบด้วย อริยศีลขันธ์ (ขันธ์ คือ กอง กลุ่มก้อน) สมาธิขันธ์ ปัญญาขันธ์ วิมุตติขันธ์ วิมุตติญาณทัสสนขันธ์ เป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวาย ฯลฯ เป็นนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก
จาตุททิสสูตร #ข้อ109 ภิกษุผู้เที่ยวไปในทิศทั้ง 4 (พระอรหันต์) เป็นผู้มีศีล พหูสูต สันโดษด้วยปัจจัย 4 ได้ฌาน 4 ทำให้แจ้งเจโตวิมุตติ และปัญญาวิมุตติ ไส้ในเหมือนกันกับ อรัญญสูตร#ข้อ110 ภิกษุผู้ควรอยู่ในป่า (พระอรหันต์) ต่างกันประการที่ 3 คือ ปรารภความเพียร มีอาสวะสิ้นแล้ว จะอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้ จะไปที่ไหน ก็ไปได้
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ผาสุวิหารวรรค
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Fri, 03 Jun 2022 - 55min
Podcasts ähnlich wie 6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก
- นิทานชาดก 072
- พี่อ้อยพี่ฉอด พอดแคสต์ CHANGE2561
- หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม dhamma.com
- เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี karunabuakamsri
- ลงทุนแมน longtunman
- Mission To The Moon Mission To The Moon Media
- ไหนๆ ก็เล่าแล้ว Nai Nai Kor Lao Laew
- พระเจอผี Podcast Prajerpee
- เคาะข่าวค่ำ radio tonews
- SONDHI TALK sondhitalk
- คุยให้คิด Thai PBS Podcast
- พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) Thammapedia.com
- The Secret Sauce THE STANDARD
- THE STANDARD PODCAST THE STANDARD
- คำนี้ดี THE STANDARD
- ข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ ภาคภาษาไทย 6:30 – 7:00 น. - วอย VOA
- Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล) watpasukato
- 1 สมการชีวิต ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 3 ใต้ร่มโพธิบท ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 4 คลังพระสูตร ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 5 นิทานพรรณนา ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 7 ตามใจท่าน (ธรรมะสากัจฉา) ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- พุทธวจน พุทธวจน
- หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
Andere Religion und Spiritualität Podcasts
- Noche de Misterio Caracol Pódcast
- DOSIS DIARIA ROKA Roka Stereo
- Dante Gebel Live Dante Gebel
- Santo Rosario RadioSeminario
- ROKA STEREO Podcast Roka Stereo
- El Santo Rosario Guadalupe Radio
- Abierta Mente: Conversaciones con Yoga al Alma Ana Isabel Santa María
- Código Misterio Código Misterio
- EBC Yeshu'a EBC Yeshu'a
- Dr. Armando Alducin Podcast Dr. Armando Alducin
- Radio María Colombia Radio María Colombia
- Musica cristiana Glorificar a Dios Todopoderoso
- Podcast El Lugar de Su Presencia El Lugar de Su Presencia
- Reggae Revival Dread Lightning HiFi
- Vida Cristiana Gilbert Ortiz Hurtado
- Santo Rosario - Misioneros Digitales Católicos Misioneros Digitales Catolicos
- Sonidos de la Naturaleza Relajación y meditación
- Reflexiones Cristianas Reflexiones Cristianas
- Búsqueda interior MARTHA DEBAYLE PODCAST
- Reflexiones cristianas Radio Luz a las Naciones