ธรรมอารี Dhamma Aree

"...แต่เราก็ต้องไม่ลืมนะว่า “กิจที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร ?” กิจที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือการดับทุกข์นะ อะไรถ้าไม่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์ ก็ไม่ใช่กิจที่แท้จริงนะ อันนี้เราก็ต้องมีหลักตรงนี้ไว้ หลักใจไว้ กิจที่แท้จริงก็คือการดับทุกข์ในใจ เพราะไม่งั้นนะ เวลาอยู่กับโลกมาก ๆ ไอ้นั่นก็ดี ไอ้นี่ก็ใช่ คนนั้นก็ว่าดี คนนี้ก็ชวนไปที่นั่นที่นี่ บางทีก็ชวนไปอะไรต่าง ๆ บ้าง ถ้าหลักตรงนี้ไม่ดี บางทีก็ไหลตามกระแสโลกนะ เขาว่าอย่างนั้นดี อย่างนี้ใช่ อันนี่ก็น่าทำนะ แต่ถ้าเป็นไปเพื่อก่อสมุทัย เราก็ต้องเลี่ยงนะ แต่ถ้าเราชัดเจนกับตัวเองว่าแก่นแท้ของการมีชีวิตก็การดับทุกข์ในใจ ชีวิตเราต้องการสิ่งใด ? ..บ้านเราก็มีแล้วเนาะ โยมมีบ้านกันทุกคนเนาะ หลังใหญ่บ้าง หลังเล็กบ้าง แต่ก็มีที่พักกันทุกคน ..รถก็มีแล้ว ..คู่ครอง คนที่รักก็มีแล้ว ..ลูกที่น่ารักก็มีแล้ว ..ทรัพย์สินเงินทองก็มีกันแล้ว ..ความสุขจากรูป รส กลิ่น เสียง ก็มีกันแล้ว ..แต่ความดับทุกข์ในใจ มีแล้วหรือยัง ? ถ้าบางท่านมีอยู่แล้วก็ดีนะ ก็ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ชีวิตที่ทุกข์หายไปเรื่อย ๆ เป็นชีวิตที่ประเสริฐที่สุดแล้ว แต่ถ้าบางท่านทุกข์ยังเยอะอยู่ ก็ต้องทบทวนนะว่า ชีวิตต้องการอะไรกันแน่นะ เพราะสิ่งที่ได้มาทั้งหมดอีกไม่นานจะหายไปหมดเนาะ จะหายไปหมดเลย..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 05 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

" #จิตใจนี้เกิดดับอยู่ตลอดเวลา .. พระพุทธองค์ท่านก็เปรียบเหมือนลิงไว้ จิตนี้ก็เหมือนลิง ก็คอยที่จะจับกิ่งโน้นบ้าง จะไปจับอีกกิ่งหนึ่งก็ต้องปล่อยกิ่งเก่าก่อน ค่อยแวะไปจับกิ่งใหม่ ก็ธรรมชาติจิตก็เป็นแบบนั้น แต่ถ้าเราอยู่กับอะไรที่เราคุ้นเคยกันมา สมมติว่าอยู่กับอารมณ์ที่ลบ ๆ แล้วกันนะ จิตนี้ก็ออกมาไม่ได้ เพราะว่ามันคุ้น มันจับอยู่เรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องออกด้วยแม้ว่าจะรู้สึกอยากออกขนาดไหนก็ตาม .. การที่ฝึกฝน แค่มารู้ลมหายใจแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งมันก็มีผลมาก อานิสงส์ก็มาก มันก็เหมือนลิงตัวนั้นเนี่ยมันปล่อยกิ่งเดิม แล้วมาจับกิ่งใหม่ต่อ จับอยู่ที่ลมหายใจบ้าง ก็รู้ลมไป หายใจยาว-หายใจสั้น ก็รู้สึกไป แค่นี้นะ มันปล่อยออกมาแล้ว ไม่ต้องบอกให้ลิงตัวนั้นเลยว่ามันอยากให้ปล่อยกิ่งเก่าออกมาหรือเปล่า พอหากิ่งใหม่ให้มันอยู่มันวิ่งมาเอง ธรรมชาติก็เป็นแบบนั้นนะ .. ธรรมชาติของจิต ถ้าเราเข้าใจกระบวนการทำงานแล้วเนี่ย การฝึกฝนก็จะรู้สึกว่ามันก็จะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปนะ ไม่ได้ต้องมีความอยากเข้ามาเลย มีอารมณ์ลบ ๆ ที่เป็นความเครียดก็ดี ความโกรธก็ดี ไม่ต้องอยากให้ดับ แค่กลับมารู้ลม เดี๋ยวเขาดับของเขาเอง ในทางตรงกันข้ามเราจะอยากให้อารมณ์นั้นดีบโดยการรู้ลม สิ่งที่มันจะตามมาด้วยนะ ก็คือมันจะรู้ลมด้วยเหมือนกัน แต่ว่าที่ตามมาเนี่ยมันตามมาด้วยตัณหา มันจะมีตัณหาที่เป็นส่วนเกินที่ตามมาด้วย.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 05 พฤษภาคม 2567 #จิตเกิดดับ #ลิงจับกิ่งไม้ #ธรรมชาติของจิต #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ใจก็ต้องเข้มแข็งแบบนี้แหละเนาะ ก็ถูกแล้วล่ะนะโยม.. ความไม่สบายใจ โยมก็กำลังได้รับธรรมะโอสถนะ ความทุกข์นี่แหละของดี ยิ่งทุกข์เท่าไหร่ ผู้มีปัญญาจะเรียนรู้จากทุกข์นั้น และจะไม่กลับไปทุกข์เรื่องเดิมอีก ยิ่งมีมากเท่าไหร่คือความทุกข์ที่หายไป ถ้าคนส่วนใหญ่ ยิ่งทุกข์เท่าไหร่จะยิ่งก่อทุกข์ แต่ผู้มีปัญญา ยิ่งทุกข์เท่าไหร่นี่คือความดับทุกข์ เมื่อทุกข์แล้ว จะไม่มีวันกลับไปทุกข์เรื่องเดิมอีก ..แบบนี้ จะเดินสู่เส้นทางการดับภพ ทุกข์จะหนักขนาดไหนก็ตาม ใจต้องแกร่ง ๆ จะไม่มีวันยอมกลับไปทุกข์เรื่องเดิมอีก จิตจะเรียนรู้แล้วปล่อย ปล่อย ปล่อย..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 04 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

ธรรมะ 3 คำ : รู้สึกตัวสบาย ๆ - สรรพสิ่งเคลื่อนไหว ใจสงบ - ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง "...วันนี้ก็นเป็นธรรมะ 3 คำ บางทีก็นำธรรมะที่พูดบ่อย ๆ มาเล่าสู่กันฟัง เผื่อจะได้เป็นแง่มุมนะ วันนี้ก็เป็นธรรมะ 3 คำ [1] คำแรกก็คือ 'รู้สึกตัวสบาย ๆ อยู่' ทุกวันนี้คนเครียดเยอะนะ ก็ต้องรู้จักที่จะรู้สึกตัวไว้ก่อน สบาย ๆ อยู่ ก็อย่ามองว่าธรรมะเป็นของที่ไกลตัว เป็นของยากอะไร ยากแค่ความคิดเรานั่นแหละเนาะ แต่ลองดูก่อน แค่รู้สึกตัวขึ้นมา สร้างความเคยคุ้นที่จะตื่นจากอารมณ์ รู้สึกถึงกายที่นั่งอยู่ รู้สึกถึงลมหายใจก็ได้ รู้สึกถึงแขนที่ขยับอยู่ก็ได้ ค่อย ๆ รู้สึกตัว ค่อย ๆ ฝึกไปทีละส่วนก็ได้ รู้สึกตัวสบาย ๆ นะ ต้องสบาย ๆ ไว้ก่อน ใจจะได้คลายจากความเครียดนะ [2] ธรรมะข้อที่ 2 'สรรพสิ่งเคลื่อนไหว ใจสงบอยู่' อันนี้เป็นระดับที่เกิดสมาธิ แล้วเห็นธรรมในชีวิตประจำวัน..แบบนี้นะ เรารู้สึกตัวไป รู้สึกตัวด้วยใจที่ผ่อนคลายสบาย ๆ อยู่ นั่งสบาย หายใจสบาย ๆ รู้เนื้อรู้ตัวไป เหม่อเผลอคิดไปก็ไม่ว่าอะไร ไม่ไปรู้สึกว่าเหม่อเผลอคิดเป็นเรื่องร้ายนะ มีสติระลึกก็กลับมาใหม่..แค่นี้เอง วางใจเป็นปกติ ถ้าใจผ่อนคลาย จิตจะค่อยตั้งมั่น ทุกครั้งที่เหม่อเผลอคิดไป มีสติระลึกกลับมารู้สึกตัว จิตจะตั้งมั่นขึ้นมาเป็นขณะ และอาศัยความต่อเนื่อง แต่ไม่ไปแบบจดจ่อจนเครียดนะ ก็รู้สึกตัวขึ้นมาต่อเนื่อง แค่ขณะหนึ่งก็จิตก็คุ้นกับอุเบกขาขณะหนึ่ง ต่อเนื่องไป จิตตั้งมันขึ้นมาเป็นขณะ ขณะ จะเริ่มคุ้นกับอุเบกขา เป็นขณะ ๆ ใจจะสงบ [3] ธรรมะข้อที่ 3 'สรรพสิ่งคือธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง' จิตตั้งมั่น สรรพสิ่งเคลื่อนไหว ใจสงบ เมื่อเหตุปัจจัยกระทบ ใจเปลี่ยนแปลง จะเริ่มเห็นว่า 'สรรพสิ่งคือธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง' จะเริ่มเห็นแล้วว่าธรรมชาติภายนอกเปลี่ยนแปลง ธรรมชาติภายในก็เปลี่ยนแปลงเหมือนกัน จากที่ใจสงบอยู่ มีการกระทบ ใจหวั่นไหว ใจสงบนี้ก็ไม่เที่ยงหนอ มีแต่ธรรมชาติที่เปลี่ยนไป สรรพสิ่งภายนอก ผู้คน ธรรมชาติ อุณหภูมิสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม ทุกจุดที่สัมผัส ทุกย่างก้าวที่ก้าวเดินไป มีแต่ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลง เป็นธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ในกายก็เปลี่ยนแปลง หายใจเข้าก็ต้องหายใจออก อริยาบถก็เปลี่ยนแปลง เดี๋ยวก็ต้องยืน เดิน นั่ง นอน ไม่มีใครนั่งเล่นตลอด เดี๋ยวโยมนั่งไม่นานก็ต้องลุกแล้ว มีเราลุกไหม ? มีแต่อริยาบถที่เปลี่ยนไป เริ่มสลายเราและนะ มีเรานั่งไหม ? ไม่มีนะ มีแต่อริยาบถนั่ง เดี๋ยวก็ยืน เดี๋ยวก็มานั่ง ..นี่มีแต่อริยาบถที่เปลี่ยนไป..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 04 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ปัญญาจะเกิดได้ก็เพราะการลงมือประกอบเหตุ ในอีกแง่มุมหนึ่งละกันนะ ถ้าตัวท่านเนี่ยไม่ลงมือประกอบเหตุก็เป็นทางสิ้นสุด เป็นทางเสื่อมของปัญญา ถ้าบุคคลผู้เป็นบัณฑิตพึงรู้แล้วนะว่าปัญญาจะเกิดด้วยทางไหน #ก็พึงทำเหตุที่ปัญญานั้นจะเจริญ ปัญญา เราก็ได้ยินได้ฟังกันอยู่นะ .. ปัญญาที่เกิดจากเหตุได้ยินได้ฟังเนี่ยเป็นสุตมยปัญญา .. ปัญญาที่เกิดจากการพินิจพิจารณาเป็นจินตามยปัญญา .. ไปจนถึงภาวนามยปัญญาปัญญาที่เกิดจากการเห็นแจ้งการรู้เข้าไปในใจเลยเนี่ย เพียงประกอบเหตุเท่านี้นะปัญญาก็เจริญขึ้นมาได้ ถ้าเราไม่กระทำเหตุให้เกิดขึ้น ปัญญาก็จะเสื่อมถอยจนสิ้นสุดกันไปนะ เพียงเท่านี้ แต่ถ้าเราเป็นบัณฑิต เป็นผู้รู้ที่อยู่ในพระพุทธศาสนาแล้ว แค่ได้ยินได้ฟังดังนี้ ก็พึงประกอบเหตุให้ปัญญาเกิดขึ้นมา แต่ก็ให้ระลึกรู้ไว้อยู่นะว่าปัญญา ก็เป็นธรรมชาติอันหนึ่งที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย เกิดจากการเพาะบ่มในการได้ยินได้ฟังมากในการนำมาเจริญภาวนา ตั้งสติไว้อยู่ในกายในใจ ระลึกรู้ไว้ จิตนี้เกิดความสงบตั้งมั่นขึ้นมาก็จะเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง เมื่อเห็นได้ ปัญญาก็เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นมาได้ ก็เกิดความเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ไม่ไปยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งที่เราเคยยึดมั่นถือมั่นไว้ ทุกข์ก็จะหายไปจากจิตใจเรานะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 04 พฤษภาคม 2567 #ทางเกิดของปัญญา #พระโปฐิละ #พระใบลานเปล่า #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ในทางพุทธศาสนา ท่านจะพูดถึงไตรวัฏจักร “กิเลส - กรรม - วิบาก” ถ้ายกตัวอย่างเรื่องของเปรตนะ เปรตอย่างวันนี้ สมมุติมีคนหนึ่งเขาผิดศีลข้อ 3 ผิดบ่อย ๆ เวลาทำกรรมครั้งหนึ่งมันก็จะเหมือนแบบ เหมือนเราโพสต์เฟสไปเรื่อย ๆ โพสต์รูปไป โพสต์รูปไป มันก็ค้างข้อมูล ก็ค้างอยู่ แล้วพอเหตุปัจจัยให้ผลนะ ตอนสุดท้ายที่จะเสียชีวิต บางทีกรรมนิมิตให้ผล จิตเข้าไปยึดถือ วางไม่ลง มันก็ไปก่อขันธ์ใหม่ ก่อขันธ์ที่หยาบมา อย่างนี้ ถ้าผิดศีลข้อ 3 ไป ตอนสุดท้าย กรรมนิมิตให้ผล ทำอะไรไปบ่อย ๆ ไว้ มันก็ถูกบันทึกไว้หมด เหมือนโพสต์เฟสไปทุกวัน โพสต์เฟสไปทุกวัน มันก็ค้างอยู่ในข้อมูลใช่ไหม ? ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 03 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"พระเจ้าปเสนทิโกศลปราถนาหญิงงามที่มีสามีแล้ว คิดหาอุบายลงโทษตายสามีหญิงดังกล่าว เพื่อจะได้ครอบครองหญิงงามคนนั้น ในคืนหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิโกศลนอนไม่ค่อยหลับ สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงร้องโหยหวนดัง "ทุ สะ นะ โส" พระนางมัลลิกาเสนอให้นำความทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงได้บอกเล่าเรื่องราวของเปรตทั้ง 4 ตน ที่พยายามกล่าวเตือนได้เพียงตนละ 1 พยางค์ ก่อนจมลมลงไปในนรก..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 03 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถึงแม้ว่าปัจจุบัน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงเสด็จดับขันปรินิพพานไปแล้ว แต่พระสัทธรรมก็ยังดำรงอยู่ พระองค์ทรงทิ้งมรดกธรรมอันล้ำค่าไว้ให้แก่ชาวโลก หนทางที่จะปลดเปลื้องตนจากกองทุกข์ทั้งปวง พบกับความสงบสุขที่แท้จริงคือพระนิพพานได้ เพราะฉะนั้นก็ให้ญาติโยมได้เห็นคุณค่า การที่เราได้มีโอกาสเกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนานั้น ถึงแม้ว่าการใช้ชีวิตในโลกมันจะมีความทุกข์มากมายเพียงใดก็ตาม …ก็ให้เห็นคุณค่าของสิ่งนี้ว่าการเกิดมาเป็นมนุษย์นี่มันยาก โดยเฉพาะในยุคที่พบพระพุทธศาสนานี้ยากยิ่งนัก ให้เห็นคุณค่าของแต่ละวันที่ผ่านเลยไป ในยุคสมัยนี้ โลกก็มีสิ่งที่ดึงเราให้หลงไปมากมาย ก็คอยที่จะเตือนตัวเอง พิจารณาตนเองอยู่เนือง ๆ ชีวิตมนุษย์นี่มันสั้นนัก มันไม่ได้ยืนยาวนานอะไรเลย เมื่อใดที่เราต้องจากโลกนี้ไป เราก็หมดโอกาสแล้ว เราจะได้กลับมามีโอกาสอีกหรือเปล่า ..ก็ไม่รู้ แต่ถ้าเราสร้างเหตุปัจจัยที่ถูกต้อง เพียรศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นำพาชีวิตตนเองก้าวเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง นี่แหละคือโอกาสที่ล้ำค่าที่สุดของการมีชีวิต จะทำให้เรามีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุขในช่วงชีวิตปัจจุบัน ทำให้เรามีจิตใจที่ผ่องใสเบิกบาน.." ………………………….............................................................. ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...#วิชาของพระพุทธศาสนา ทำให้ญาติโยมเมื่อน้อมนำไปฝึกหัดปฏิบัติ เป็นหลักในการดำเนินชีวิต จะทำให้จิตใจคลี่คลาย จากความเร่าร้อนต่างๆ #โลกทุกวันนี้ร้อน ..ร้อนอกร้อนใจ หนักอกหนักใจ ทุกข์อกทุกข์ใจ มีแต่เรื่องราวที่บีบเค้นจิตใจ ทำให้เจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่ร่ำไป เหมือนไฟเนี่ยมันคอยเผาให้เร่าร้อนกระวนกระวาย #ธรรมะเปรียบเหมือนน้ำเป็นความชุ่มเย็น ..ดับไฟในใจ ดับความเจ็บปวด ดับความทุกข์ทรมานทั้งปวงได้ เพราะฉะนั้นก็เป็น #อาหารใจ เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจให้ญาติโยมมี #ชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ญาติโยมสามารถเข้าถึงได้ ดังที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า “ผู้ประพฤติธรรม ย่อมอยู่เป็นสุข ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า" "ธรรมย่อมรักษาผู้ที่ประพฤติธรรม" "จิตที่ฝึกดีแล้วนำความสุขมาให้” วิถีของพระพุทธศาสนาจะทำให้มีความสุขในทิฏฐธรรม เรียกว่า ชีวิตที่อยู่เย็นเป็นสุข เกิดความสุขในสัมปรายภพ เมื่อใดที่ต้องจากโลกนี้ไป ก็ท่องเที่ยวไปในสุคติภูมิ เสวยความสุขความสบายพบเจอแต่สิ่งดีๆมีความสุข แล้วก็เป็นไปเพื่อประโยชน์อันสูงสุด คือ การหลุดพ้น จากกองทุกข์ทั้งปวง พบกับความสงบสุข ที่แท้จริง คือ พระนิพพานได้ เรียกว่า ครบบริบูรณ์ทั้งประโยชน์สุขในช่วงชีวิตปัจจุบัน ทั้งประโยชน์สุขในภายภาคหน้าหลังความตายไปแล้วก็ดี แล้วก็มีโอกาสที่จะลุถึงประโยชน์อันสูงสุด คือ การหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวง #ทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 9 กันยายน 2566 #วิชาพระพุทธศาสนา #ธรรมะ #ธรรมะเปรียบเหมือนน้ำเป็นความชุ่มเย็น #อาหารใจ #ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข #ธรรมย่อมรักษาผู้ที่ประพฤติธรรม #จิตที่ฝึกดีแล้วนำความสุขมาให้ ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ตราบใดที่ยังไม่พบพระสัทธรรม ไม่แทงตลอดความจริงของธรรมชาติ เราท่านทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะพ้นจากสภาพต่างๆเหล่านี้ไปได้ ปัจจุบัน จึงนับว่าเป็นโอกาสอันดียิ่งของชีวิต ที่ท่านทั้งหลายได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว แต่พระองค์ ก็ทรงมอบ.. #มรดกธรรมอันล้ำค่า ไว้ให้แก่ชาวโลก #หนทางที่จะปลดเปลื้องตนจากความเจ็บปวดจากความทุกข์ทรมานทั้งปวง #นำพาชีวิตตนเองก้าวเดินอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้อง จนหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงได้ ก็ให้ท่านทั้งหลายได้ #เห็นคุณค่าของโอกาสที่เราได้เกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา #วันคืนล่วงไปๆบัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ได้ทำสิ่งที่เป็นที่พึ่ง เป็นสาระที่แท้จริงของการมีชีวิตให้แก่ตนเองหรือยัง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี ค่ำ 8 กันยายน 2566 #เกิดแก่เจ็บตาย #สัจธรรม #ความจริงธรรมชาติ #โอกาสเกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา #มรดกธรรม #หนทางปลดเปลื้องตนจากทุกข์ #สาระที่แท้จริงของการมีชีวิต #วันคืนล่วงไปๆบัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่ ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..พวกเราทุกคน ก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ธรรมชาตินั้นก็มีกฎของธรรมชาติอยู่ ที่เรียกว่า กฎแห่งกรรม กฎแห่งกรรม ก็คือ กฎแห่งการกระทำ ทำสิ่งใดไว้ย่อมได้รับผลจากการกระทำนั้นๆ #ทำดีก็ได้ดีทำชั่วก็ได้ชั่ว #หว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น เป็นกฎแห่งการกระทำ หรือ กฎการสะท้อนกลับ เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากจะมีชีวิตที่ดีมีความสุข ก็ด้วยการที่เราสร้างเหตุปัจจัยที่ดีงาม เหตุปัจจัยที่ถูกต้องนั่นเอง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 8 กันยายน 2566 #dhamma #ธรรมอารี #พระมหาวรพรตกิตติวโร #DhammaAree #ทำดีก็ได้ดีทำชั่วก็ได้ชั่ว #หว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น #กฎแห่งกรรม #บุญกุศล ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

".. อานาปานสติเป็นกรรมฐานที่สงบระงับ .. เป็นกรรมฐานที่ประณีต .. เป็นกรรมฐานที่ชุ่มเย็น เหมาะในการชำระล้างสะสางมากเลย สิ่งที่คั่งค้างในจิตใจ ความรกชัฏต่างๆ .. แล้วก็เป็นกรรมฐานที่ ทุกคนก็สามารถเรียนรู้ฝึกฝนได้ จะเด็กเล็ก จะวัยรุ่น จะผู้ใหญ่ จะผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะลมหายใจก็มีอยู่กับตัวเราอยู่แล้วนะ .. เป็นกรรมฐานที่ทำให้เกิดความสุข เป็นสุขวิหาร .. เป็นกรรมฐานที่พระองค์ทรงแนะนำมากที่สุดเลย ในพระไตรปิฎก เกือบทุกเล่ม เราจะพบที่พระองค์ทรงสอนเกี่ยวกับอานาปานสติ .. แล้วเป็นกรรมฐานที่สมบูรณ์แบบ จบในตัว ตั้งแต่ระดับเบื้องต้น ท่ามกลาง แล้วก็ที่สุด ส่งทั้งในเรื่องของสมถะ สมาธิ แล้วก็วิปัสสนาญาณ .. เป็นวิหารธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า พระองค์ทรงอยู่มากเป็นที่สุดแล้ว เป็นกรรมฐานที่พระองค์ตรัสรู้ พระผู้มีพระภาคเจ้าก็เจริญอานาปานสติ จนตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ก่อนที่พระองค์ตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์อยู่ พระองค์ก็ตรัสว่า พระองค์ก็มากด้วยอานาปานสติ เป็นเครื่องอยู่ ทำให้มีความสุข กายก็ไม่ลำบาก ใจก็ไม่ลำบาก แล้วก็ทำให้พระองค์ตรัสรู้ หลังจากนั้นพระองค์ก็อยู่ด้วยอานาปานสติเป็นวิหารธรรม เครื่องอยู่อันผาสุก ก็จึงเรียกว่าเป็น "มงกุฎกรรมฐาน" เป็นกรรมฐานใหญ่ เป็นกรรมฐานหลักในพระพุทธศาสนา เป็นกรรมฐานที่ทำให้เราเข้าถึงสติปัฏฐาน 4 ที่บริบูรณ์ได้ ที่พระองค์ตรัสว่า "อานาปานสติ ที่บุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมทำให้สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์ สติปัฏฐาน 4 บริบูรณ์ ย่อมทำให้โพชฌงค์ 7 องค์แห่งการตรัสรู้บริบูรณ์ โพชฌงค์ 7 องค์แห่งการตรัสรู้บริบูรณ์ ย่อมทำให้เกิดวิชชาและวิมุต จิตหลุดพ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงได้" นำไปสู่ที่สุดแห่งทุกข์ได้ .. เรียกว่าเป็นกรรมฐานที่จบในตัว .. เป็นกรรมฐานที่เด่นในเรื่องของการให้ความสุข .. เป็นกรรมฐานที่เจริญแล้ว แม้กระทั่งในระดับเบื้องต้นเนี่ย ก็บรรเทาความทุกข์ จากการใช้ชีวิตได้มากเลย.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 7 กันยายน 2566 #อานาปานสติ #ตถาคตวิหาร #อริยวิหาร #มงกุฎกรรมฐาน #วิหารธรรม #สติปัฏฐาน4 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..เมื่อบาปและอกุศลกรรมเบาบางลง ความหนักความร้อนในจิตใจก็เบาบางลงไป บุญกุศลก็เกิดขึ้นใจ ก็มีความสุข มีความเบาสบาย มีความสงบ มีความตั้งมั่นของจิตใจ อะไรๆจะดีขึ้น เมื่อจิตใจเราดีเสียแล้ว ชีวิตก็ร่มเย็นเป็นสุข ความรู้สึกต่างๆมันก็ดีขึ้น ความเครียดก็ลดลง ความทุกข์ในการใช้ชีวิตก็เบาบางลงไป ใจเยือกเย็นขึ้นมีความสุขขึ้น เรียกว่า เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขตลอดกาลนานได้ #ความสุขไม่ต้องไปหวังอนาคตหรอก #ถ้าเราฝึกปฏิบัติ..ก็ปัจจุบันนี่แหละ #ถ้าปัจจุบันใจมีความสุขสร้างเหตุแห่งความสุขไป #อนาคตมันก็ต้องมีความสุขมันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่ถ้าปัจจุบันยังไม่มีความสุขเลย ก็ต้องเพียรฝึกหัดขัดเกลาตนพัฒนาจิตใจขึ้นมาก่อน #สุขภาพจิตที่ดีก็เป็นจิตที่เบาสบายมีความสุข นั่นคือ #จิตที่ประกอบด้วยบุญกุศล" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 6 กันยายน 2566 #ความสุข #ความสุขตลอดกาลนาน #ความสุขในปัจจุบัน #สร้างเหตุแห่งความสุข #สุขภาพจิตที่ดี #จิตที่เบาสบายมีความสุข #จิตที่ประกอบด้วยบุญกุศล #บุญกุศล ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..#ชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ญาติโยมก็สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเรียนรู้ศึกษาปฏิบัติธรรม นำหลักธรรม คำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปประพฤติปฏิบัติ ซึ่งก็จะประกอบด้วย .. • ในส่วนของการวางใจที่ถูกต้อง • ในส่วนของการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ก็เรียกว่ามี กายที่สะอาด วาจาที่สะอาด ใจที่สะอาด ดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ตรงหลักธรรม สอดรับกับความเป็นธรรมชาติ • แล้วก็การพัฒนาทางด้านสภาวธรรมภายใน เข้าถึงความลึกซึ้งภายในจิตใจ เรียนรู้ศึกษาไปโดยลำดับลำดับ เปรียบเหมือนความ ลาด ลุ่ม ลึก ประดุจห้วงน้ำในมหาสมุทร มหาสุทรจะมีความค่อยๆปูลาดไป ถ้าเราไปที่ชายฝั่งทะเล หาดทรายก็จะค่อยๆลาดลงไป เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ลุ่มแล้วก็ลึกลงไปโดยลำดับ การศึกษาปฏิบัติธรรมก็เช่นกัน ตั้งแต่เบื้องต้น รู้จักการวางใจที่ถูกต้อง การสละละวางจากสิ่งต่างๆ ..รู้จักที่จะวางของหนักของร้อนลง ..รู้จักที่จะสละละวางจากสิ่งต่างๆ ..เห็นคุณค่าของการให้ ของการสละออก ..สละซึ่งควาตระหนี่ ซึ่งความหวงแผน ซึ่งมลทินในจิตใจ ..สละความโลภ สละความโกรธ สละความหลง ของหนักของร้อนทั้งหลายทั้งปวง รู้จักที่จะสละออก..” ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 5 กันยายน 2566 #ฟังธรรม #ธรรมะ #ชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข #การวางใจที่ถูกต้อง #การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง #การให้ #สละละวาง #เพาะบ่มคุณธรรม #ภาวนา #สติปัฏฐาน4 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

“..ให้เป็นหลักไปในการฝึกปฏิบัติ เรื่องของ #ความอ่อนโยน #การอ่อนโยนต่อตัวเอง #การอ่อนโยนต่อผู้อื่น ก็นำไปกล่อมเกลาจิตใจอยู่เสมอ ถ้าจิตใจมันยังแข็งมันกระด้างมากก็ต้องค่อยกล่อมเกลาไป น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อนได้เลย จิตใจเรามันไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนหินหรอก มันก็กล่อมเกลาจิตใจได้เช่นกัน • อ่อนโยนตัวเอง วางของหนักของร้อนลง สอนให้ปล่อยให้วาง ละวางจากเรื่องราวต่างๆ • อ่อนโยนต่อผู้อื่น มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีเมตตา ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ประคับประคองกัน ให้อภัยต่อกัน ให้โอกาสกัน ให้กำลังใจต่อกัน…” ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 4 กันยายน 2566 #ความอ่อนโยน #อ่อนโยนต่อตนเอง #วางของหนักของร้อน #อ่อนโยนต่อผู้อื่น #ความเป็นมิตร #เป็นมิตรต่อเพื่อนร่วมโลก #กล่อมเกลาจิตใจ ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

".. #การอ่อนโยนต่อตนเอง ก็ด้วยการที่จะ #วางของหนักวางของร้อนลง #สิ่งทั้งหลายทั้งปวงล้วนเป็นของหนัก เมื่อหลงยึดมั่นถือมั่น ย่อมพบกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่ร่ำไป เหมือนเราถือของที่มันหนักอยู่ ถือไว้นานๆเมื่อยไหมล่ะ ..มันก็หนัก แล้วทำไงจะหายเมื่อย ..ก็ต้องวางมันลง พระพุทธศาสนาสอนเรื่อง #การปล่อยวาง เพราะว่าเป็นเรื่องของจิตใจนั่นเอง การที่เราใช้ชีวิตแล้วก็ประสบความทุกข์ต่างๆมากมายจากการใช้ชีวิต ก็มาจากการที่ใจเราหลงยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งต่างๆ แต่มันไม่ง่ายเหมือนการวางของ อยากจะวางแต่มันก็วางไม่ลง มีเรื่องให้ทุกข์ใจ รู้แล้วล่ะว่ามันทุกข์ มันเจ็บปวด มันทรมาน อยากจะวางลง อยากจะปล่อยวาง แต่มันวางไม่ลง บางทียิ่งอยากจะวางมันกลับยิ่งยึดแน่นเลย อย่างเช่นบุคคลที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ยิ่งเรารักเรามีเยื่อใยมาก เวลาพลัดพรากจากกันไปทุกข์มากเลย ญาติโยมเคยสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไหม บางท่านนี้แม้เสียไปนานเป็นปีแล้ว แต่ว่าใจก็ยังทุกข์มากอยู่เลย ยึดมาก มันอยากจะวางมันก็ไม่ออก มันจมไปกับความยึดตรงนั้น แต่มันก็เป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ ให้เราเริ่มต้นจากทำความเข้าใจก่อนแล้วก็ค่อยๆฝึกฝนไป สิ่งต่างๆในโลกนี้ล้วนเป็นของหนักทั้งหมดเลย เมื่อเราเข้าไปยึดมันแล้ว มันก็พบกับความเจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่ร่ำไป ความทุกข์ที่เราประสบในชีวิตในให้รู้เลยมันมาจากการยึดมั่นถือมั่นทั้งนั้น.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 3 กันยายน 2566 #อ่อนโยน #อ่อนโยนต่อตนเอง #วางของหนักของร้อน #ปล่อยวาง #ทุกข์มากเพราะหลงยึดมั่นมาก #ทุกข์เพราะยึด ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ในด้านของการภาวนานั้น ท่านก็แสดงไว้อยู่ 3 แนวทางด้วยกันให้ญาติโยมเลือกศึกษาในการปฏิบัติ • แนวทางแรกก็คือ #เจริญวิปัสสนาไปเลย การเริ่มต้นด้วยการเจริญสติ ระลึกรู้กายทำความรู้สึกตัวขึ้นมาอยู่เสมอ ระลึกรู้สภาวธรรมที่ปรากฏ รู้สึกกายรู้สึกใจ ทำความรู้สึกตัวให้ต่อเนื่องกันไป จนหลุดจากสมมติบัญญัติเข้าถึงสิ่งที่เป็นสภาวธรรมล้วนๆ เป็นปรมัตถธรรม เห็นสภาวธรรมตามความเป็นจริง รูปนามที่เสื่อมสลายไป ก็เรียกว่าเจริญวิปัสสนาไปเลย แล้วสมาธิก็จะบวกขึ้นมาในภายหลัง อันนี้ก็ ถ้าญาติโยม ก็เหมาะดีเจริญสติในชีวิตประจำวัน • วิธีที่ 2 #ก็สำหรับที่จะเลือกฝึกสมาธิก่อน ฝึกสมถะ ก็มีกรรมฐานต่างๆให้เลือก 40 กองด้วยกัน ฝึกสมาธิก่อน หรือเราจะใช้คำบริกรรม อย่างในยุคนี้ก็เช่นบริกรรมพุทโธไป รู้ลมหายใจไปฝึกสมาธิก่อน จนจิตสงบเข้าถึงสมาธิฌานที่ 1 ฌานที่ 2 ฌานที่ 3 ฌานที่ 4 จิตมีความสงบตั้งมั่น ฝึกเข้าฝึกออกสมาธิให้ชำนาญ จากนั้นก็ เจริญปัญญาต่อ พลิกเป็นวิปัสสนาญาณ ต้องต่อด้วยปัญญา เพราะว่าปัญญานี่แหละเป็นเครื่องชำระจิตให้บริสุทธิ์ แต่เราจะเจริญวิปัสสนาไปเลยล้วนๆก็ได้ หรือว่าเราจะฝึกสมาธิก่อนให้สมาธิมันเต็มก่อน แล้วก็ฝึกพิจารณาเดินปัญญาต่อ อันนี้ก็เรียกว่า #สมถะนำและวิปัสสนาก็ตามมา พระพุทธศาสนาเราก็ต้องไปจบด้วยปัญญาถึงจะมีกำลังในการชำระกิเลส ชำระจิตให้หมดจด • แบบที่ 3 จะไปวิปัสสนาล้วนเลยก็ยังไม่ไป ไปไม่ได้ ยังไปไม่เป็น รู้สภาวะตรงๆเลยยังทำไม่เป็น #ก็ฝึกควบคู่กันไป ฝึกสมาธิด้วย สมถะด้วยแล้วก็วิปัสสนาด้วย อย่างที่เราฝึกๆกัน ก็การเจริญสติระลึกรู้กายทำความรู้สึกตัวขึ้นมาอีก เสมอ จะนั่งจะยืนจะเดินจะนอน คู้เหยียดเคลื่อนไหวกก็ระลึกรู้สึกตัวฝึกสติสัมปชัญญะ แล้วของเราก็จะมีการฝึกปฏิบัติในรูปแบบด้วย ฝึกรูปแบบก็ประกอบด้วยการยืนก่อน แล้วก็เดินเพื่อเจริญสติสัมปชัญญะ จากนั้นก็นั่งภาวนาเพื่อฝึกสมาธิ แรกๆก็ยังไม่เป็นสมาธิหรอก เราก็ฝึกสตินำไป เช่นเจริญอานาปานสติระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกไป…” ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 2 กันยายน 2566 #สมถะ #สมาธิ #วิปัสสนา #ปรมัตถธรรม #ความรู้สึก #รู้สึกตัว #ภาวนา ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..การที่เราท่านทั้งหลายได้มีโอกาสเกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา มีศรัทธาที่จะฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ทำตามคำสอน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เรียกว่า #เป็นโอกาสอันดียิ่งของชีวิต ..การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่เกิด เป็นได้โดยยากในโลก ..โอกาสที่พระสัทธรรมจะแพร่หลายไปก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยยากในโลก ..โอกาสที่ เราท่านทั้งหลาย จะได้มาเกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยยากในโลก ..เมื่อมีโอกาสเกิดขึ้นมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนาแล้ว เกิดศรัทธาความเชื่อความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย มีศรัทธาที่จะฟังธรรมปฏิบัติธรรม ตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้โดยยากในโลก แต่ท่านทั้งหลายก็มีโอกาสเช่นนั้น ก็แสดงว่าเป็นผู้ที่สร้างเหตุปัจจัย ทำให้เราได้รับโอกาสเช่นนี้ #ก็ให้เห็นคุณค่าของโอกาสที่เกิดขึ้น #วันคืนก็ล่วงเลยไป ชีวิตที่เราท่านทั้งหลาย จะอยู่บนโลกใบนี้มันก็ไม่ได้นานอะไรหรอก .. ก่อนที่เราจะจากโลกนี้ไป เราได้เตรียมพร้อมพัฒนาจิตใจของเราได้เตรียมพร้อมพัฒนาจิตใจได้พร้อมหรือยัง ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า เมื่อจิตเศร้าหมอง สุคติเป็นอันหวังได้ เมื่อจิตผ่องใส สุคติเป็นอันหวังได้ .." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 1 กันยายน 2566 #โอกาสเกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา #สุคติ #ทุคติ #จิตเศร้าหมอง #จิตผ่องใส ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

".. #บุญกุศลเกิดตั้งแต่จิตที่คิดที่ดีแล้ว คิดที่จะทำความดี #จิตของผู้ให้จึงเบาเสมอ #เป็นวิถีที่ลอยขึ้น จิตที่คิดจะเอาดึงเข้าตัวจะหนักจะจมลง ตั้งแต่คิดดีบุญก็เกิดขึ้นแล้ว อย่างในสมัยพุทธกาล ก็มีลูกสาวชาวบ้านคนหนึ่ง ก็คิดว่าพรุ่งนี้ ก็จะไปวัดนะตัวเองก็ยากจนไม่มีอะไร พอเช้าเดินทางก็ผ่านสระบัวธรรมชาติสาธารณะ ก็เลยเก็บดอกบัวขึ้นมาว่าเราจะไปถวายบูชาพระ นึกอย่างนี้แล้วก็เดินไปว่าดอกบัวนี้เราจะนำไปบูชาพระ นึกแล้วก็ปลาบปลื้มใจ ปรากฏว่ากรรมมาตัดรอนเสียก่อนก็มีวัวแม่ลูกอ่อนวิ่งมาแล้วก็ขวิดจนนางก็เสียชีวิตลง ก็เป็นกรรมเก่ามาตัดรอน แต่จิตที่เป็นกุศลขนาดนั้น คิดว่าเรานำดอกบัวจะไปถวายพระ คิดแล้วจิตก็ปลาบปลื้มใจ จิตดวงสุดท้ายตอนนั้นขณะตายก็เหมือนหลับแล้วก็ตื่นขึ้น ไปถือปฏิสนธิในสุคติภูมิในโลกสวรรค์เป็นนางฟ้าเสวยความสุขอยู่บนโลกสวรรค์ ยังไม่ทันได้ไปถวายแท้ๆเลย แค่จิตคิดว่าเราจะนำไปถวายก็เป็นบุญมากมีอานิสงส์มากแแล้ว #สำคัญที่ใจตรงนี้แหละ ครั้งหนึ่ง ก็มีพราหมณ์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า พราหมณ์เขาก็เชื่อถือเรื่องฤกษ์เรื่องยามกันอยากมีมงคลชีวิตฤกษ์ดียามดีต่างๆ เหมือนที่เราจะแต่งงานจะค้าขายเราก็ดูฤกษ์ดูยาม พราหมณ์เขาก็มาถามขอฤกษ์ยามมงคลจากพระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสว่า เมื่อใดบุคคลคิดดีพูดดีทำดีนั่นแหละ เมื่อนั้นแหละฤกษ์ดียามดีเป็น #มงคลอันสูงสุด #เพราะว่าทุกอย่างมันเกิดจากเหตุปัจจัย #เราอยากได้รับผลที่ดีเราก็ต้องสร้างเหตุปัจจัยที่ดี อย่างที่ญาติโยมมา เข้าวัดถวายทานรักษาศีลประพฤติพรหมจรรย์ฟังธรรม จิตก็เป็นบุญเป็นกุศลขึ้นมา แล้วก็จะได้เรียนรู้การฝึกหัดปฏิบัติธรรมการภาวนาพัฒนาจิตใจอันนี้ยิ่งเป็น #บุญชั้นสูง เลย เรียกว่า #บุญที่เกิดจากการภาวนา การพัฒนาจิตใจ ที่เรียกว่า ..งดเว้นจากความชั่วทั้งปวง ทำแต่ความดี แล้วก็หมั่นชำระจิตให้หมดจดจากเครื่องเศร้าหมองต่างๆ .." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 31 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ในภาคของการปฏิบัติแล้ว ท่านก็ถือว่า การให้ทาน การให้การสละออก ก็เป็นบริขารของจิต เรียกว่า เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตให้เป็นบุญเป็นกุศลขึ้นมา ..เป็นจิตที่ประกอบด้วยเมตตา ความรักความปรารถนาดี ..ประกอบด้วยศรัทธา ความเชื่อความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ..ประกอบด้วยหิริและโอตัปปะความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ..ประกอบด้วยสติ ถวายทานนี้ก็ต้องมีสติทำอะไรก็ต้องมีสติ การระลึกได้ ..ประกอบด้วยปัญญา ถ้าเราถวายทานด้วยปัญญานี้ก็ปัญญาก็เกิดขึ้น ก็เรียกว่าพัฒนาองค์ธรรมหลายๆอย่างทีเดียว การสร้างบารมี ทั้งในการขัดเกลา มลทินในจิตใจ ขัดเกลาความตระหนี่หวงแหน ขัดเกลาความเห็นแก่ตัว ก็เป็นการฝึกฝนขัดเกลาตน เพาะบ่มคุณธรรมขึ้นมาในจิตใจ เพราะฉะนั้น กว่าจะถวายทานครั้งหนึ่งนี้ก็เพาะบ่มอะไรหลายๆอย่างเหมือนกันนะ แล้วก็เป็นการขัดเกลาหลายๆอย่างในจิตใจเราเช่นกัน ในแต่ละวัน โลกก็มีเรื่องราวที่จะดึงเราไปมากเลย แต่เราก็เลือกที่จะมาเส้นทางนี้ ได้ใส่บาตร ได้ฟังธรรม ได้เห็นคุณค่าของการรักษาศีล การงดเว้นจากการเบียดเบียน การสละของหนักของร้อนออกไปจากใจ มลทินเครื่องเศร้าหมองต่างๆ ได้เริ่มรู้จักการภาวนา การเจริญสติ การระลึกรู้สึกตัวขึ้นมาอยู่เสมอ ก็เป็นการประกอบความเพียร แล้วก็เป็นการรู้จักพิจารณาโดยแยบคาย เมื่อเห็นคุณค่าของการฝึกหัดปฏิบัติธรรม ก็เพาะบ่มจิตที่เป็นกุศลในด้านต่างๆขึ้นมา องค์ธรรมต่างๆขึ้นมาในจิตใจ การสำรวมกาย การสำรวมวาจา การสำรวมใจ การพัฒนาสติปัญญาขึ้นมาอยู่เนืองๆ สิ่งเหล่านี้ก็เรียกว่า #เป็นการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ทั้งการฝึกฝน ขัดกลาในเรื่องกายภาพพื้นฐานการใช้ชีวิตที่ถูกต้องต่างๆ รวมความว่าก็..งดเว้นจากความชั่วจากบาปอกุศลธรรมทั้งปวง ทำแต่ความดี หมั่นทำบุญทำกุศลทั้งเรื่องกายภาพก็ดี เรื่องสภาวธรรมก็ดี แล้วก็หมั่นชำระจิตให้หมดจดจากเครื่องเศร้าหมองต่างๆ การชำระจิตก็ผ่านไปโดยลำดับ ด้วย #ศีล ด้วย #สมาธิ แล้วก็ด้วย #ปัญญา ปัญญานี้ก็ เป็นเครื่องชำระกิเลสทำให้จิตบริสุทธิ์ได้.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 30 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..โลกเกิด โลกมี ก็เพราะว่ามีอายตนะ มีการเห็น การได้ยิน การได้กลิ่น การลิ้มรส การสัมผัสรับรู้ความรู้สึกนึกคิด โลกจึงมี แต่เมื่อ จิตไม่ได้เกิดมาตามอายตนะเหล่านี้ โลกก็ดับไป เหมือนตอนที่เรานอนหลับ หลับไป ในขณะที่จิตไม่ได้เกิดตามอายตนะทั้ง 6 จิตก็ยังเกิดขึ้นอยู่ แต่ว่าเกิดขึ้นแค่รักษาการสืบต่อของจิตไว้ ที่เรียกว่า ภวังคจิต หรือ องค์แห่งภพ ตรงภวังคจิตนี้แหละที่จิตไม่ได้ผุดขึ้นมารับรู้โลกใบนี้ผ่านอายตนะทั้ง 6 ที่เรียกว่าอยู่ในขันธสันดาน หรือเป็นจิตใต้สำนึกที่ลึกลงไป ตรงนี้เราจะพอรู้สึกได้บ้าง อย่างเวลาเรานอน มันก็ฝันไปเลย ถ้าเราไม่มีสติแล้วก็แค่ฝันไปไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรตื่นมาก็ลืม แต่ถ้าเราเริ่มมีสติ เราก็เริ่มรู้ รู้เรื่องราวในความฝัน หรือเวลาเราตื่นขึ้นมาใหม่ๆเราจะสังเกตจะพบว่า มันมีจิตที่คิดปรุงแต่งอยู่ รู้สึกกันได้ไหม มันปรุงแต่งตอนที่เรานอนหลับนั่นแหละ จิตที่ปรุงแต่งตอนหลับมันมีความคิดอยู่ความปรุงแต่งอยู่ อันนี้จิตใต้สำนึก ความปรุงแต่งที่เราไม่ได้มีเจตนาไปทำ เรียกว่า จิตที่เป็นภวังคจิต ..เพราะฉะนั้น สติจึงเป็นหัวใจสำคัญเลยในการฝึกปฏิบัติตั้งแต่ระดับรู้จิตสำนึกปกติผ่านอายตนะ แล้วก็เริ่มหยั่งรากลงไปลงไปจิตใต้สำนึก ก็จะเริ่มรู้แม้กระทั่งภวังคจิตต่างๆ จิตที่อยู่รักษาภพ เราจะพบเลยเวลานอนที่นี่มันปั่นเยอะมาก ...เพราะฉะนั้น ชีวิตคนเรานี่สะสมอะไรไว้มากเหลือเกินนะ ที่นอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน แค่ลำพังชีวิตในรอบนี้ก็มากมายมหาศาลแล้ว การที่ได้มีโอกาสพบพระพุทธศาสนาจึงเป็นโอกาสที่สำคัญ ที่เราจะเคลียร์ชำระสะสางเรื่องราวต่างๆเหล่านี้ ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเราจะไปทำตอนไหน มันไม่ได้ง่ายเหมือนการทำความสะอาดบ้านนะ ทำแป๊บๆก็หมดแล้ว สบายแล้ว มันผ่านการหมักหมมมามาก มันไม่ใช่แค่รู้เท่าทันจิตปัจจุบันเท่านั้นนะ มันยังมีสิ่งที่หมักหมมอยู่ในขันธสันดาน เพราะฉะนั้น การที่เรามีศรัทธาในการปฏิบัติ มีโอกาสในการปฏิบัติ ก็ให้เห็นความสำคัญ ฝึกฝนเสียแต่วันนี้ อบรมกาย วาจา แล้วก็ใจ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 29 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..แต่ถ้าเราฝึกปฏิบัติ อากาศร้อน ก็รับรู้สภาวะที่เกิดขึ้น มีสติมีปัญญาพิจารณาเห็นว่า มันก็เป็นทุกข์แบบนี้แหละ มันก็ไม่เที่ยงมันก็แปรเปลี่ยนไป มันก็บังคับบัญชาอะไรไม่ได้ ถ้าอย่างนี้วิบากเกิดขึ้น แต่เราพิจารณาโดยแยบคาย มีสติปัญญา ก็เป็นกุศลเกิดขึ้นต่อไป หรือว่า..กุศลวิบากเกิดขึ้นอยู่ในห้องแอร์สบายๆ แต่เราก็พิจารณาเห็นว่า มันก็ไม่เที่ยง เดี๋ยวมันก็แปรเปลี่ยนไป เดี๋ยวมันก็เสื่อมสลายไป มันก็ไม่ได้มีตัวมีตนอะไร มันก็เป็นแค่ความรู้สึกสุขเวทนาที่เกิดความสบาย เดี๋ยวมันก็ดับไป ก็มีสติสัมปชัญญะ วิบากส่งมาแต่ว่าแทนที่จะเป็นกิเลสก็ #พลิกมาเป็นสติปัญญาได้ เรียกว่า #เป็นสายดับ ..ถ้าไม่มีสติปัญญาก็ #เป็นสายเกิดต่อไป เกิดกิเลสต่อไป เกิดกิเลสแล้วก็ทำให้หลงทำกรรมต่อไป หลงทำกรรมก็เกิดวิบากต่อไป เกิดวิบากก็ทำให้เกิดกิเลสต่อไป ถ้าเราไม่ฝึกปฏิบัติแล้วก็จะติดอยู่ในวังวนตรงนี้ ยังไม่ต้องไปคิดถึงวิบากข้ามภพข้ามชาติหรอก #วิบากในปัจจุบันธรรม ในแต่ละทุกๆขณะจิต การที่เราเกิดการเห็นการได้ยินการได้กลิ่นการลิ้มรสมันเป็นเรื่องของวิบากที่เราต้องรับผล แต่จากนั้นเราจะไปไงต่อ ถ้าเราไม่ฝึกปฏิบัติมันก็จะเกิดจิตเป็นอกุศลสามารถเสียมาก พอได้รับสิ่งดีๆก็เกิดโลภะความพอใจความโลภความอยากได้ความกำหนัดต่างๆ ได้รับรูปสวยๆก็เกิดความกำหนัด จิตใจก็เร่าร้อนต่อ ทั้งๆที่จริงๆกำลังเสวยกุศลวิบากแต่ว่าผลจากการไม่ได้ฝึกปฏิบัติก็ติดใจ ได้รับอาหารดีๆก็ติดใจในรสชาติ ได้ฟังเสียงอันไพเราะก็ติดใจ ก็เป็นกิเลสก็ทำให้หลงทำกรรมต่อไป เพราะว่า #แค่มโนกรรมนี้ก็เป็นกรรมแล้ว ความคิดปรุงแต่งต่อไปนั่นแหละ พอรู้สึกดีก็อยากได้ต่อ เกิดความโลภก็อยากได้คิดปรุงแต่งต่อไปก็หลงทำกรรม บางครั้งก็ออกมาทางการกระทำทางกายทางวาจา แล้วก็เกิดวิบากต่อไป มันก็เกิดเป็นวังวน กิเลสทำให้หลงทำกรรม กรรมทำให้เกิดวิบาก วิบากก็ทำให้เกิดกิเลส กิเลสก็ทำให้หลงทำ เรียกว่าเป็น #กระแสปฏิจจสมุปบาทสายเกิด จะพลิกเป็นสายดับได้ก็ต้องอาศัยการฝึกปฏิบัติ แล้วมันไม่ได้วนเวียนอยู่แค่นี้เท่านั้นนะ มันสะสมเป็นอนุสัยนอนเนื่องอยู่ในขันธสันดาน.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 28 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..การศึกษาปฏิบัติธรรมนั้น ก็คือการกลับคืนสู่ความเป็นปกติ คืนสู่ความเป็นธรรมดา คืนสู่ความเป็นธรรมชาติ พบกับความสงบสุข ที่แท้จริง ของชีวิตได้ การที่เราจะสามารถคืนสู่ความเป็นปกติ คืนสู่ความเป็นธรรมดา คืนสู่ความเป็นธรรมชาตินั้น #ทิศทางของการคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ นั้น ก็คือ #การสละออก ในการที่เราใช้ชีวิตอยู่ในโลก เราก็จะคุ้นเคยกับการดึงสิ่งต่างๆเข้าตัว ท่านเรียกว่าแสวงหาสิ่งต่างๆเพื่อตัวเอง แสวงหาเงินทอง ลาภยศ ชื่อเสียง เกียรติยศ ทรัพย์สมบัติต่างๆ เรียกว่า..แสวงหาความมีความเป็น ให้เรามีให้เราเป็นขึ้นมา นั่นก็คือ #วิถีของทางโลก #ความมีความเป็น ที่เราเข้าใจว่า เราจะมีความสุข เราก็ต้องมีเราก็ต้องเป็น เพราะว่ามันมีตัวเราขึ้นมา ก็เลยต้องแสวงหาความมีความเป็นขึ้นมา ..แต่แท้ที่จริงแล้วในทางพระพุทธศาสนา พระองค์ก็ทรงชี้ให้เห็นว่า เรื่องของ #ตัวตนตัวเราของเรา นี่แหละ คือ #ตัวแห่งความทุกข์ มันไม่ใช่ตัวที่เป็นความสุขที่แท้จริง เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า "อุปาทาน" ความหลงยึดมั่นถือมั่น ยิ่งยึดมั่นเท่าไหร่มันก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น เพราะว่าเมื่อสิ่งต่างๆมันแปรเปลี่ยนไป เราก็ยิ่งทุกข์เสียใจ ขุ่นเคืองใจ คับแค้นใจต่างๆ เหมือนเราใช้ชีวิตในโลกทุกวันนี้ ผู้คนก็ทุกข์กันมากเลย ปัญหาการใช้ชีวิตต่างๆ จากการแสวงหาความมีความเป็น จิตใจก็เร่าร้อน มีความเครียดมีความวุ่นวายใจ มีความเร่าร้อนก็วนกระวาย แท้ที่จริงแล้ว #วิถีของความสุข #วิถีของการหลุดพ้นจากความทุกข์ นั้น กลับเป็นเรื่องของ #การสละออก หลุกออกจากสิ่งต่างๆ ..ก็รู้จักที่จะสละ ความโกรธ ความหลง ความโลภต่างๆ ในจิตใจ ค่อยๆฝึกฝนไป เริ่มจากเห็นโทษของความหนักความร้อนที่ดึงดูดเข้าสู่ใจ เห็นคุณค่าของการสละออก จิตใจญาติโยมจะค่อยๆคลาย ..เรื่องของทานการให้ การสละออก ..เรื่องของศีล การให้อภัยต่อกัน การงดเว้นจากการเบียดเบียน ไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน ..แล้วก็รู้จักการภาวนา การเจริญสติ สติมาปัญญาเกิดเราจะเริ่มเกิดความเข้าใจ เกิดการตระหนักรู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้จักของหนักของร้อนที่ซึมซาบเข้าสู่ใจ #รู้จักในการสละละวางต่อสิ่งต่างๆ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 27 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ในการศึกษาปฏิบัติธรรม ต้องเริ่มที่โยนิโสมนสิการ หรือจากการขบคิดพิจารณาโดยแยบคายต่างๆ เรียกว่า #รู้จักการวางใจที่ถูกต้อง #การวางใจที่ถูกต้อง จะทำให้เราเกิด..สัมมาทิฏฐิ-ความเห็นที่ถูกต้อง ..จะทำให้เราเกิดสัมมาสังกัปปะ-การดำริที่ถูกต้อง ..จะทำให้เราเกิดสัมมาวาจา-การพูดที่ถูกต้อง ..จะทำให้เกิดสัมมากัมมันตะ-การกระทำที่ถูกต้อง ..จะทำให้เกิดสัมมาอาชีวะ-การประกอบอาชีพที่ถูกต้อง ..จะทำให้เกิดสัมมาวายามะ-ความเพียรที่ถูกต้อง ..จะทำให้เกิดสัมมาสติ-การระลึกรู้ที่ถูกต้อง ..จนนำไปสู่สัมมาสมาธิ-ความตั้งมั่นที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ญาติโยมพึงศึกษาปฏิบัติธรรม ก็เริ่มจากวิธีการวางใจที่ถูกต้อง ก็ค่อยๆศึกษาไปได้ เช่นพิจารณาให้รู้ว่า.. #รู้จักทางแห่งความเสื่อม บาปและอกุศลกรรมให้ผลเป็นความเสื่อม นำมาซึ่งความทุกข์ เราก็จะรู้จักที่ละเรื่องของบาปและอกุศลกรรมต่างๆ #รู้จักทางแห่งความเจริญ บุญกุศลเป็นชื่อของความสุขความเบาสบาย อยากมีความสุขก็ต้องสร้างเหตุแห่งความสุขก็คือบุญกุศลนั่นเอง กุศล คือความฉลาดรู้จักคิดรู้จักพิจารณาคิดถูกพูดถูกทำถูกต่างๆเป็นทางแห่งความเจริญ เมื่อเราพิจารณาไปเราก็เริ่มพิจารณา #เห็นโทษของกามคุณอารมณ์ต่างๆ #เห็นคุณค่าของเนกขัมมะ สภาวะที่ปราศจากเรื่องกามและอกุศลธรรมต่างๆ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 26 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

".. มนุษย์เราเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ เพราะว่าสามารถที่จะฝึกฝนอบรมตนเองขึ้นมาได้ นั่นคือสิ่งที่มนุษย์เราแตกต่างจากสัตว์เดรัจฉานทั่วไป #มนุษย์ผู้ที่ฝึกฝนตนดีแล้วเป็นผู้ประเสริฐในโลก อย่างสัตว์เดรัจฉานก็จะใช้ชีวิตไปตามสัญชาตญาณของตน มนุษย์เรานี่แตกต่าง จริงหรือเปล่า ถ้าปกติเราไม่ได้ฝึกเราก็ทำตามสัญชาตญาณเช่นกัน เรื่องกิน เรื่องกาม เรื่องเกียรติ ก็จะมุ่งจะเอาเพื่อตัวเอง ความมีความเป็นต่างๆ ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานทั่วไป แต่เราอาจจะก่อความเสียหายได้มากกว่าด้วย สัตว์เดรัจฉานมันก็ใช้ชีวิตตามพื้นๆของมันตามชีวิตของมัน เอาตัวรอดอยู่รอด แต่ว่ามนุษย์เรานี่ ทำอะไรได้มากกว่านั้นมาก ถ้าเราทำตามสัญชาตญาณความอยากได้อยากมีอยากเป็น ก็จะเบียดเบียนผู้อื่น มนุษย์ก็สามารถเบียดเบียนผู้อื่นได้มากทีเดียว ก่อความเสียหายทำให้เกิดกิเลสเครื่องเศร้าหมอง แล้วก็เกิดโทษภัย เกิดวิบากกรรมต่างๆได้มากมาย ถ้าเราใช้ชีวิตตามใจ ตามสัญชาตญาณ เขาเรียกว่าอย่างนี้ไม่ใช่มนุษย์ที่ประเสริฐแล้ว เราก็จะเกิดเรียกว่า #เกิดมาก็ขาดทุน แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะฝึกฝนอบรมตนเอง พัฒนาตนเอง อันนี้แหละคือสิ่งที่เรียกว่าแตกต่าง ที่ว่า.. #มนุษย์เป็นสัตว์ที่ประเสริฐเพราะสามารถฝึกฝนอบรมตนเองได้ ก็เริ่มต้นจากการให้ทาน การให้การสละออก แทนที่เราจะดึงอะไรเข้าตัวทำอะไรก็เพื่อตัวเองจะเอาอย่างเดียวเราก็ฝึกเป็นผู้ให้บ้าง ความมีจิตใจที่อบอารีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความมีน้ำใจและความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 25 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถ้าเราจมอยู่กับความทุกข์อยู่ร่ำไปใจก็ยิ่งเศร้า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า บุคคลไม่ควรคิดถึงบาปและอกุศลกรรมที่ผ่านมาแล้ว สิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งปวงที่เคยทำมาแล้ว #อย่าไปกักเก็บไว้ในใจ ถ้าเราจะกักเก็บไว้ในใจมันก็ดึงเรื่องนั้นมา เหมือนเครื่องกรอเทป มันกรอแล้วกรอเล่า..กรอแล้วกรอเล่า..ไม่มีที่สิ้นสุด #ไม่มีใครทำร้ายเรามากเท่าตัวของเราเองหรอก ความรู้สึกผิดต่างๆ สิ่งที่ติดค้างในจิตใจ สิ่งที่แบกเรื่องราวต่างๆไว้ บางทีมันหนักยิ่งกว่าภูเขาเลากาอีกนะที่แบกเรื่องราวต่างๆ ก็ต้อง #รู้จักการให้อภัย #การสละละวางต่างๆ #ศีล พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงจัดว่าเป็น #มหาทาน เลย #เป็นการให้ทานอันยิ่งใหญ่ ..ให้ความไม่มีเวร ..ให้ความไม่เบียดเบียน ..ให้ความไม่มีภัย ..ให้ความปลอดภัยแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ..รวมทั้งตัวเราเองด้วย ..เราก็ให้อภัยตัวเราเองด้วย ..ให้อภัยผู้อื่นด้วย อะไรที่ทำผิดพลาดก็เรียนรู้ เราไปก้าวล่วงผู้อื่นก็ขอโทษขอโพยกัน ให้อภัยต่อกัน มันจะได้เบาลงบ้าง ความหนักความร้อนในจิตใจ ศีล 8 ก็ยิ่งฝึกขัดเกลาได้มากเลย การลดการสัมผัสสิ่งต่างๆในโลกลง เป็นอยู่ที่เรียบง่าย แล้วก็รู้จักการฝึกหัดปฏิบัติธรรม การอบรมตนเองด้วยสติปัฏฐาน 4 อยู่เนืองๆ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 24 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ตราบใดที่เรายังมีกาย เรายังมีโอกาสที่จะฝึกปฏิบัติ แล้วถ้าเราไม่เริ่มตอนนี้ เราจะไปเริ่มตอนไหนล่ะ เพราะนับวันถ้าเราปล่อยให้จิตอันเป็นอกุศลมากขึ้น มันก็ส่งต่อความอกุศลมากขึ้นมากขึ้น กิเลสก็พอกหนาขึ้นทุกทีๆ อย่างญาติโยมฝึกปฏิบัติจะรู้เลยว่ามันไม่ง่ายเลยยิ่งถ้าเราพื้นฐานเป็นจิตที่เป็นอกุศลอยู่มันไม่ง่ายเลยในการ #พลิกวิถีจิตขึ้น แต่ถ้าเราไม่ทำตอนนี้แล้วเราจะทำกันตอนไหน เพราะฉะนั้น ก็เริ่มต้น เรายังมีโอกาสในการฝึกฝนตนเอง ทางโลกก็เอาเท่าที่จำเป็น เราก็อยู่กับโลกแค่ชั่วคราวไม่นานมันก็ต้องจากกันไป คนที่เขาอายุน้อยกว่าเราที่จากโลกนี้ไปก่อน ก็เป็นตัวอย่างมากต่อมากทีเดียว แล้วตัวเราเองล่ะจะตายวันตายพรุ่งยังไม่รู้เลย ในปัจจุบันจิตใจสภาพจิตใจเราเป็นอย่างไร #เราสามารถทำที่พึ่งให้แก่ตนเองได้หรือยัง เพราะฉะนั้น การฝึกปฏิบัติจึงเป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากเลย การที่เราได้มีโอกาสเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา มันคือ #โอกาสอันล้ำค่าที่สุดของชีวิตทีเดียว ที่ผ่านมาเราไปใจให้ไหลปยังไงไม่รู้ล่ะ แต่บัดนี้เราได้พบทางสว่างแล้ว ก็ควรเห็นคุณค่าของการฝึกฝน ถึงมันจะยากลำบากแต่ว่าก็ทางนี้แหละที่มันจะพลิก เปลี่ยนวิถีต่างๆให้ดีขึ้นมาได้นั่นเอง เพราะฉะนั้น ในการใช้ชีวิตในโลกเราก็รู้จักลาลานซ์ทางโลกทางธรรม ชีวิตในโลกมันก็ยังคงต้องดำเนินต่อไปนั่นแหละ แต่ #ให้คุณค่ากับการพัฒนาจิตใจ ด้วย เตือนตนเอง ตราบใดที่เรายังมีชีวิตเราก็ไม่ควรจะปล่อยใจให้มันจมลงไปกับโลก ควรยกระดับพัฒนาจิตใจขึ้นมา เรียกว่า งดเว้นจากบาปและอกุศลทั้งปวง ทำแต่ความดี หมั่นชำระจิตให้หมดจดจากเครื่องเศร้าหมองต่างๆ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 23 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ปรกติแล้วในการฝึกปฏิบัติก็จะ งดเว้นจากการคลุกคลีด้วยหมูคณะต่างๆ เพราะว่าก็จะทำให้เราต้องพูดคุยเกิดความฟุ้งซ่าน แล้วก็ไหลไปกับสิ่งต่างๆในโลก ซึมซับของหนักของร้อนเข้าสู่ใจ แต่ก็มีการพูดคุย ที่เป็นอุบายเป็นเครื่องเปิดจิตให้โล่งอยู่เช่นกัน ท่านเรียกว่า #กถาวัตถุ10 ถ้าโยมจะพูดคุยกันก็พูดคุยในเรื่องราวเหล่านี้ได้ #เป็นอุบายเครื่องเปิดจิตให้เปิดโล่ง จิตที่เบา จิตที่เป็นอิสระ จิตที่กว้างขวางออกไป .. เรื่องแรก ก็คือถ้าจะพูดคุย #พูดคุยด้วยถ้อยคำที่ทำให้เกิดความมักน้อย ชวนให้เห็นคุณค่าของความมักน้อย ความมักน้อย ก็คือกินใช้แต่น้อยเท่าที่จำเป็น ลดการสัมผัส ลดการเสพสิ่งต่างๆในโลกลง ความมักน้อยนอกจากกินใช้แต่น้อยสัมผัสเท่าที่จำเป็นแล้วเนี่ย ในด้านจิตใจก็เป็นคนที่ #ไม่มีมายาไม่โอ้อวด ก็เรียกว่า ก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะให้ผู้อื่นรู้คุณธรรมของตัวเอง เรามักน้อยก็ไม่ได้ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นคนมักน้อยมีความสันโดษก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นคนสันโดษ เรียกว่าไม่แสดงตัวนั่นเอง ตรงนี้มันจะลึกซึ้งลงไปในด้านจิตใจ ถ้าเราชอบเผยตัวแสดงตัว เรียกว่า มีมายา มีโอ้อวด เหมือนชาวโลกชาวโลกก็บางคนก็อวดมั่งอวดมีแต่งเนื้อแต่งตัว ทีนี้พอเรามาศึกษาธรรมเราก็อวดเรื่องของคุณธรรม การอวดมันเป็นเรื่องของกิเลส มันก็มาจากใจเราที่ยังพร่องอยู่ อยากได้รับการยอมรับ อยากได้รับการชื่นชม อยากได้รับการยกย่องสรรเสริญ อยากได้รับสักการะต่างๆ มันก็เป็นเรื่องของการพอกอีกแล้ว พอกของหนักของร้อนเข้าสู่ใจ เรียกว่า เผยเพื่อให้ดึงสิ่งต่างๆเข้าสู่ใจอีกแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสไว้ว่า ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายอย่างเผ็ดร้อนเสียบแทงต่อมรรคผลนิพพาน .. #พูดคุยในเรื่องของความสันโดษ ความสันโดษก็คือตามมี ตามได้ พึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมี อันนี้ก็จะทำให้ชีวิตเราเรียบง่ายขึ้น จริงๆแล้ว #ความรู้จักพอนี่แหละคือความรวยที่แท้จริง ต่อให้เรามั่งมีมากแต่ถ้าใจเราไม่พอมันก็ยังร้อนอยู่ร่ำไป แสวงหาความทุกข์ให้กับตนเองอยู่ร่ำไป แต่ถ้ารู้จักคำว่าพอ โดยเฉพาะถ้าเราเข้าถึงจิตที่มีคุณภาพ #เห็นคุณค่าของเนกขัมมะ ภาวะที่ปราศจากกามสิ่งต่างๆการติดข้องต่อสิ่งต่างๆเพียงแค่เกิดปราโมทย์ขึ้นมา เกิดความบันเทิงใจเราก็มีความสุขแล้วนั่งอยู่ก็เกิดปราโมทย์เกิดความบันเทิงใจขึ้นมาเกิดปีติเกิดความอิ่มเอิบใจขึ้นมาเนี่ย นั่งอยู่คนเดียวไม่มีอะไรก็ยิ้มได้แล้ว มีความสุข เนี่ย ใจที่มีคุณภาพ ใจที่เบาสบาย ความสุขเกิดง่าย ใจที่รู้จักสละของหนักของร้อนออกไปจากใจ #ความสุขเกิดง่าย อยู่เฉยๆก็ยิ้มแย้มแจ่มใส.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 22 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..จึงเป็นที่มาถึงเราต้องศึกษาปฏิบัติธรรม ความจริงอันประเสริฐของธรรมชาติว่าจริงๆแล้วเนี่ย เราจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุขที่แท้จริงได้อย่างไร ระหว่างวิถีของโลก กับ วิถีของธรรม อันไหนคือความสุขที่แท้จริง มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะต้องทิ้งโลก แต่เราสามารถศึกษาปฏิบัติธรรม ให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง ที่เรียกว่า ดำเนินชีวิตที่สอดรับไปกับความเป็นธรรมชาตินั่นเอง ..การที่เราจะมีชีวิตที่ดีมีความสุข ก็คือ การกลับคืนสู่ความเป็นธรรมชาติ กลับมาเรียนรู้กายเรียนรู้ใจ เรียนรู้การดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง ที่สอดรับกับความเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่เรื่องของการวางใจ การปฏิสัมพันธ์ต่อสิ่งต่างๆ เรื่องของพื้นฐานการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง การงดเว้นจากการเบียดเบียน การไม่ทำให้ตนเองและผู้อื่นเดือดร้อน การทำแต่สิ่งที่ดีงาม คิดดี พูดดี ทำดี การกล่อมเกลาจิตใจ ให้เป็นจิตที่เป็นบุญเป็นกุศลขึ้นมา ถ้าเราได้เรียนรู้ศึกษา เราก็ปฏิบัติได้ถูกต้อง มันก็ไม่ใช่ว่าเราต้องปฏิเสธโลกนะ แต่เราสามารถอยู่กับโลกได้อย่างมีความสุข เพราะว่า ปฏิบัติถูกต้อง ได้สอดรับกับความเป็นธรรมชาติ ในการศึกษาปฏิบัติธรรม จึงมีทั้งเรื่องของการฝึกฝนขัดเกลาในส่วนของกายภาพ พื้นฐานการใช้ชีวิต เรื่องศีลธรรม เรื่องคุณธรรม อย่างพื้นๆก็เบญจศีลเบญจธรรมควรเป็นพื้นฐานของการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร สวนธรรมอารี เช้า 21 สิงหาคม 2566 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ทำไมเราถึงต้องเรียนรู้ศึกษาปฏิบัติธรรมด้วย ..ธรรมะให้คุณค่าอะไรกับเรา ทุกคนเกิดมาก็ปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ดี มีความสุขด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครหรอกที่อยากจะพบกับความเจ็บปวด ทุกข์ทรมานอยู่ร่ำไป ใครๆก็อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับสิ่งที่ดีมีความสุข มันเป็นธรรมชาติของทุกคนอยู่แล้ว แต่เพราะความไม่รู้ ไม่เข้าใจ สัจธรรมความจริงของธรรมชาติ เราจึงแสวงหาไขว่คว้า หาความสุข จากสิ่งต่างๆภายนอก ผลที่เกิดขึ้น ก็คือ แทนที่จะพบเจอความสุข จะพบความทุกข์กันเสียมากกว่า ผลจากการใช้ชีวิต หลายคนก็เผชิญกับความทุกข์ความเจ็บปวดความทรมานความขมขื่นกันมากทีเดียว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสรู้สัจธรรมความจริงของธรรมชาติ หนทางที่จะมีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ดำเนินชีวิตที่ประเสริฐที่ดีงาม วิถีชีวิตที่จะเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง พบกับความสงบสุขที่แท้จริงได้ เพราะฉะนั้น การศึกษาปฏิบัติธรรม ก็เพื่อเราจะได้เกิดการเรียนรู้ฝึกหัดที่ถูกต้อง เรียกว่า ดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง ชีวิตที่ถูกต้องก็จะเป็นชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข ญาติโยมสามารถเข้าถึงได้นะ ไม่ได้ผ่านการที่เราไปสวดมนต์อ้อนวอนบนบานศาลกล่าวที่ไหนหรอก แต่เกิดจากการที่เราประพฤติปฏิบัติธรรมได้ถูกต้อง ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ว่า ผู้ประพฤติธรรมย่อมอยู่เป็นสุข ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ถ้าเราพบกับความทุกข์ให้รู้ว่านั่นแหละมันเป็นผลจากการที่เราไม่ได้ปฏิบัติธรรม ถ้าปฏิบัติธรรมแล้วชีวิตจะร่มเย็นเป็นสุข ถึงความทุกข์เกิดขึ้นใจก็ไม่ทุกข์ด้วย เข้าใจยอมรับได้ เพราะฉะนั้น ในการศึกษาปฏิบัติธรรมมาจึงเป็นอีกด้านหนึ่งที่สำคัญของชีวิต ที่จะตอบโจทย์การใช้ชีวิตสำหรับทุกคนทีเดียว ว่าเราจะมีชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีความสุข มีความเป็นอิสระได้อย่างไร.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ไม่มีใครหรอกที่ทำร้ายเรา มากยิ่งกว่าตัวเราเอง การตอกย้ำซ้ำเติมตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า..ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ยอมปล่อยให้มันผ่าน เราต่างหากที่ไม่ยอมจบ แล้วคนที่รับผลคือใครล่ะ ก็ตัวของเรานี่เอง ในยุคนี้เราก็ประสบกันมาก เราก็พิจารณาให้เห็นโทษของความพยาบาท ความมุ่งร้าย ความอาฆาตต่างๆ มันเป็นไฟที่เผาไหม้ทั้งตัวเราเองและผู้อื่น ไม่มีใครได้ประโยชน์จากความพยาบาทหรอก มันมีแต่โทษภัย เหมือนไฟที่เผาไหม้ เผาตัวเรา เผาคนรอบข้างเรา แล้วก็ลามออกไป มีแต่ความเดือดเนื้อร้อนใจ เราก็เห็นคุณค่าของความไม่พยาบาท การให้อภัยต่อกัน บางทีที่เขามาพูดจาทิ่มแทงเรา ก็เข้าใจเขา พวกเราทุกคนก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกันทั้งนั้นแหละ ถูกกิเลสบีบเค้นด้วยกันทั้งนั้นโดยเฉพาะในยุคสมัยนี้ก็มีด้วยความเครียดความกดดันต่างๆมากมาย ทำให้ผู้คนเกิดความคิดที่ไม่ดี เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี เกิดคำพูดที่ไม่ดี เกิดการกระทำที่ไม่ดีขึ้นมา พอเขามาพูดจาไม่ดีกับเรา ทิ่มแทงกับเรา เราก็เข้าใจเขา เราทั้งหลายก็เพื่อนร่วมทุกข์แบบนี้แหละ กิเลสบีบคั้นเหมือนกันทั้งหมดทั้งสิ้น #ให้อภัยต่อกัน #เข้าใจกัน พอเราให้อภัยเขาได้ เราให้อภัยตัวเราเองได้ อะไรที่เราเคยทำผิดพลาดไปนึกแล้วมันก็เสียใจมันเจ็บปวดมันทรมานความรู้สึกผิดต่างๆ แต่เราก็ไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะไรได้ เราก็ทำสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนชีวิตของเรา แก้ไขได้เราก็แก้ไข ถ้ามันแก้ไขไม่ได้ก็เตือนตัวเองเป็นบทเรียนชีวิตตั้งใจว่าจะไม่ทำอีก #ให้อภัยต่อตัวเอง #ยอมที่จะปล่อยเรื่องราวต่างๆให้มันผ่านไป #รู้จักการวางใจที่ถูกต้อง #การสละของหนักของร้อนออกไปจากใจ #เห็นโทษภัยของความพยาบาทต่างๆ #เห็นโทษภัยของการเบียดเบียนทั้งต่อตนเองและผู้อื่น มันมีแต่ความเดือดเนื้อร้อนใจ มันมีแต่ความทุกข์ทั้งนั้นแหละ เหมือนเราถือของหนักและของร้อน มันก็ต้องหนักมันก็ต้องร้อน เพราะเราถือไว้ เราก็รู้จักพี่จะวางมันลง ใจเราก็เช่นกัน เมื่อเราเห็นโทษเห็นภัยรู้ว่ามันเป็นของหนักของร้อนใจเราจะคลายลง เห็นคุณค่าของความไม่พยาบาท ความปลอดโปร่งโล่งใจเห็นคุณค่าของการให้อภัยต่อกัน ให้อภัยได้มันก็สบายใจ อะไรที่มันหนักที่มันร้อนมันก็จางหายไป ความทุกข์ความเดือดเนื้อร้อนใจต่างๆมันก็จางหายไป #เห็นคุณค่าของความมีเมตตา ความรักความปรารถนาดีต่อกัน พอเรามีความรักความปรารถนาดีต่อกันมีความรู้สึกที่ดีต่อกันในใจเราก็ชุ่มเย็นมีความสุข.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

".. #ความมักน้อยที่ใจ #ความไม่มักมาก #ไม่มีมายาโอ้อวดต่างๆ ที่เรียกว่า ..ตัวเองมักน้อย ก็ไม่ได้ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเรามักน้อย ..เป็นผู้สันโดษ ก็ไม่ได้ปารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นผู้สันโดษ ..เป็นผู้มีความเพียร ก็ไม่ได้ปารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นผู้มีความเพียร ..เป็นผู้ชอบความสงบสงัด ก็ไม่ได้ปารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นผู้ชอบความสงบสงัด ..เป็นผู้มีสติตั้งมั่น ก็ไม่ได้ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นผู้มีสติตั้งมั่น ..เป็นผู้มีจิตมั่นคง ก็ไม่ได้ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นผู้มีจิตมั่นคง ..เป็นผู้มีปัญญา ก็ไม่ได้ปรารถนาให้ผู้อื่นรู้ว่าเป็นผู้มีปัญญา ก็เรียกว่า มีคุณธรรมมีคุณวิเศษใดๆในก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะไปโอ้อวด เพราะเราโอ้อวดเพื่ออะไรล่ะ ก็อยากเรื่องในกามนี่แหละ ชื่อเสียง การยอมรับต่างๆ คำชม มันก็คือของหนักของร้อนทั้งนั้นแหละ แต่ถ้าเราพิจารณาเห็นโทษปุ๊บ มันน้อมไปเพื่อการสละออกเลย ต้องรู้จักพิจารณาก่อน ไม่งั้นทำไปมันไม่ลงใจ ทำทำไม ถูกบังคับให้ทำ ถูกบังคับให้รักษาศีล ถูกบังคับให้มักน้อย แต่ใจมันไม่ลง เพราะว่าเราไม่ได้พิจารณาก่อน เห็นโทษเห็นภัยเห็นคุณค่าของสิ่งต่างๆ แต่เราพิจารณาอยู่เนืองๆ ใหม่ๆจิ9ก็ยังไม่ลงหรอก ประสบความทุกข์บ่อยๆมันก็เริ่มตระหนักรู้ ถึงยังละไม่ได้แต่ก็เริ่มมองเห็นบ้างเริ่มชำเลืองมองบ้าง ว่านี่คือ ของหนักของร้อนมันเผาจิตใจอยู่.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ตอนนี้เราก็ได้เรียนรู้แล้วว่า เราจะมีความสุข ชีวิตที่ดี มันไม่ได้หมายความว่าเราต้องมีสิ่งต่างๆภายนอกมากมาย มันก็ #ของหนักของร้อน ทั้งนั้นแหละ ก็เอาเท่าที่จำเป็นตามสมควรแก่กำลังและสติปัญญา #แต่เราให้คุณค่ากับเรื่องของจิตใจมากขึ้น ถ้าเราพิจารณาเนืองๆจิตมันจะน้อมไปเนกขัมมะ น้อมไปการสละออก เห็นคุณค่าของการสละออกสละของหนักของร้อนสละความตระหนี่สละมลทินในจิตใจสละความโลภสละความโกรธต่างๆ ใจมันจะเบาได้มันก็ต้องสละความหนักความร้อนออกไปจากใจ เห็นคุณค่าของการให้ การสละออก อุเบกขา ภาวะของเนกขัมมะ อุเบกขาความเป็นกลางความสงบระงับความตั้งมั่น ดีต่อใจ เรียกว่า ดีต่อใจ สุขภาพจิตดีมาก ชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ ถ้าเราจิตเราน้อมไปในเนกขัมมะ ความที่ต้องดิ้นรนพุ่งไปตามกระแสของโลกนี้มันจะน้อยไปมาก มันก็จะลดการเติมพิษภัยเข้าสู่ใจได้มากนะ ก็จะรู้สึกดีกับการใช้ชีวิตมาก ชีวิตที่มันเป็นอิสระ ความปลอดโปร่งโล่งใจต่างๆ มันก็เริ่มจากความคิดเรา เราก็เริ่มตรึกของสิ่งเหล่านี้ก่อน เห็นโทษของกาม กามวิตก การตรึกในกามคุณเดี๋ยวมันก็มาอีกแล้วก็พิจารณาเห็นว่ามันร้อน เพราะมันมานี่มันหนักมันร้อน สิ่งเหล่านี้ของหนักของร้อนทั้งนั้นแหละ ถ้าพิษมันมีกำลังมากมันก็เหมือนคนติดยาโหยหาเลยต้องคอยหาเสพ เราก็จะต้องพิจารณาก่อนเห็นโทษมันก่อนมันบีบใจเราขนาดนี้ เราก็รู้จักพิจารณาสิ่งต่างๆ ใจมันจะได้ค่อยๆคลายออก เห็นโทษรื่องกามมันไม่พอ มันต้องเห็นคุณของเนกขัมมะด้วย มันต้องมีสิ่งที่หล่อเลี้ยงใจเรา เรียกว่าด้านของความเป็นบุญกุศลที่มันหล่อเลี้ยงใจเรา โดยเฉพาะถ้าเราฝึกปฏิบัติจนปิติสุขหล่อเลี้ยงจิตใจในมันจะมีกำลังใจมากสภาพจิตใจแล้วก็จะแข็งแรงมาก เพราะฉะนั้น ก็ต้องอาศัยการฝึกปฏิบัติ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

".. #โยนิโสมนสิการ #การพิจารณาโดยแยบคาย #การกระทำไว้ในใจโดยแยบคาย #เป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกหัดปฏิบัติ เรียกว่า #การวางใจที่ถูกต้อง #คิดถูกคิดเป็น คิดเป็นชีวิตก็เปลี่ยนเลย ถ้าคิดไม่เป็นนี่ ทุกข์ การใช้ชีวิต ทุกอย่างมันก็ออกมาจากใจเราก่อน เราก็ปรับใจให้ดีก่อนวางใจให้ถูกต้อง พอวางใจถูกคำพูดก็ถูกต้องการกระทำก็ถูกต้อง ทิศทางการดำเนินไปมันก็ถูกต้องไปหมด การปฏิบัติต่างๆก็ถูก ในภาคการฝึกปฏิบัติก็เดินจงกรม ฝึกสติสัมปชัญญะขึ้นมา แล้วก็นั่งภาวนามีสติรู้ลมเข้าลมออก พอฝึกๆไปสติมีกำลังเกิดความรู้สึกตัวทั่วพร้อมขึ้นมา พอฝึกๆไปก็เกิดปีติความอิ่มเอิบใจ เกิดความแผ่ซ่านทั่วกาย พอฝึกก็กลายเบาจิตเบาสัมผัสความสุขที่ประณีตลึกซึ้งลงไป พอฝึกๆไปจิตเข้าถึงความสงบตั้งมั่นธรรมทั้งหลายก็ปรากฏตามความเป็นจริง เกิดการรู้เห็นตามความเป็นจริง ก็พัฒนาไปโดยลำดับลำดา เริ่มจาก ..คิดถูกคิดเป็น ก็นำมาสู่..การพูดที่ถูกต้อง ..การกระทำที่ถูกต้อง ..การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง ..ความเพียรที่ถูกต้อง ..สติที่ถูกต้อง ..สมาธิที่ถูกต้อง ..เกิดปัญญาความรอบรู้ตามความเป็นจริง ..เป็นอิสระหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงได้" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

ถ่ายทอดธรรมโดย พระมหาวรพรต กิตฺติวโร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"#ใช้ชีวิตให้เป็นธรรมเถิด แล้วธรรมะก็จะอยู่ในทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต . การเดินจงกรม การนั่งสมาธิจะเป็นองค์ประกอบที่ช่วยยกระดับพัฒนาจิตใจได้อย่างมากเลยนะ ไม่ใช่แค่ว่าเราใช้ชีวิตให้มันประกอบไปด้วยโลภ โกรธ หลง แล้วเรามารอกันแค่ช่วงเดินจงกรมนั่งสมาธิ อาศัยช่วงเวลาปฏิบัติที่เรารู้สึกว่าเป็นช่วงปฏิบัติมาชำระมาล้างความผิดที่มันทำระหว่างวัน อันนี้เรียกว่า ทำไปเถอะนะแต่ว่าเหตุมันยังมีอยู่สุดท้ายเราจะรู้นะว่ามัน #ต้องเปลี่ยนที่เหตุ #เปลี่ยนการใช้ชีวิตเปลี่ยนแง่มุมในการใช้ชีวิตของเรานั่นเอง . ซึ่งถ้ามันครบองค์ประกอบนะ ชีวิตเราก็จะดำเนินอยู่ในธรรมเลย ทำไปสักระยะหนึ่งจะรู้สึกว่ามันไม่ต้องมีเจตนาในการเข้าไปทำมาก มันจะดำเนินไปเรียบๆนะ แต่ว่าให้ทำผิดมันทำไม่ได้แล้วนั่นเอง เรียกว่าจิตใจมันยกระดับขึ้นมาอย่างมากเลย จนแบบว่าจะให้กลับไปทำชั่วทำผิดนะใฝ่ไปในทางอกุศลเนี่ยทำไม่ได้ ก็เรียกว่าต้องยกระดับจิตใจนะ #ปรับมุมมองการปฏิบัติธรรมให้มันอยู่ในทุกแง่มุมดีกว่านะ แล้วเราก็จะเจอได้ว่าแค่อยู่เฉยๆนะทำหน้าที่ของเราไปตามหน้าที่เนี่ย มันก็เรียกว่าเป็นการปฏิบัติธรรมอยู่แล้วนะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 03 พฤษภาคม 2567 #ใช้ชีวิตให้เป็นธรรม #ไม่มีเราในเรื่องราว #ปฏิบัติธรรม #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..เวลาเจอปัญหาจริงๆแล้ว ทำไมวางยาก เห็นครูบาอาจารย์เอาใจคนที่เราไม่ชอบ ทำไมรู้สึกโกรธมาก ๆ พยายามทำให้สงบ แต่ก็ยังโกรธอยู่ดี ถ้าขั้นตอนแบบนี้ มันก็ต้องฝึกอบรมเนาะ ก็ไม่ได้วางกันง่าย ๆ แต่ก็ต้องค่อย ๆ ฝึกอบรม อยู่ในเส้นทางการเจริญภาวนา ภาวนาคือการทำให้เจริญ เจริญอะไร ? ก็เจริญอริยมรรคมีองค์ 8 กิจในอริยสัจ อย่างอกุศลเกิดขึ้นอย่างนี้ พระองค์ก็ให้ทำการบรรเทาอกุศล ถ้าในแง่ของอริยมรรคก็ต้องอาศัยสัมมาวายามะ ละอกุศล..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 02 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..อย่าลืมนะว่าแก่นแท้ของการมีชีวิตคืออะไร ? ..คือการทำที่สุดแห่งทุกข์ ที่สุดแห่งทุกข์ ดับทุกข์นั่นเอง นี่คือแก่นแท้ของการมีชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา ชำระกิเลสในจิตใจ อยู่กับกิเลสมาก ๆ ใจก็ร้อนนะ เผาเป็นฝืนเป็นไฟ กิเลสนี่แหละพาให้หมู่สัตว์ทั้งหลายจมอยู่ในวัฏสงสาร อยู่กับกิเลสมาก ๆ ก็ออกมายากนะ จนกลายเป็นนิสัย เป็นความเคยคุ้นที่จะทำกิเลสขึ้นมาอีก... เราก็หมั่นทบทวนนะว่าชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่ ? ถ้าต้องการดับทุกข์ อะไรถ้าก่อทุกข์ เราก็หลีกออก เลี่ยงออก อย่าให้กิเลสได้เผาอกเผาใจ มันก็ต้องสู้เต็มที่นะ ไม่งั้นจะกิเลสก็ลากไปนะ ลากไปทำผิดษีลผิดธรรม บางทีก็ทุกข์กันนานนะ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 02 พฤษภาคม 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถ้าเริ่มต้นกันโดยปราศจากสัมมาทิฏฐิ สภาวธรรมมันก็เป็นตัวเป็นตนไปหมดนะ เป็นเราได้สภาวธรรมขั้นโน้น เราได้สภาวธรรมขั้นนี้ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของจิตใจนะถ้าเราเริ่มต้นกันไม่ถูก . สิ่งที่น่ากลัวกว่าคืออะไรรู้ไหม ? .. ก็คือ กิเลสนั่นแหละ ไม่ใช่อะไรอื่นไกล . ไม่ใช่ว่ามาปฏิบัติแล้วต้องมาได้สภาวธรรมที่ดี ซึ่งถ้ามันได้ก็ให้รู้ไว้เลยนะว่ามันไม่เกี่ยวกับเรา มันเกี่ยวกับว่าเราดำเนินไปในเส้นทางที่มันอยู่ในวิถีของมันมากกว่า สภาวธรรมซึ่งมันเกิดขึ้นก็ไม่ได้มีเราเข้าไปทำนะ ไม่ได้มีเราเข้าไปเป็นเจ้าของสภาวธรรมนั้นๆ #ไม่ได้มีเราเป็นผู้กระทำให้เกิดสภาวธรรมนั้นๆ แต่ว่าเราดำเนินวิถีชีวิต เรียกว่า #วางจิตวางใจไว้ถูกเนี่ยมันก็ต้องดำเนินไปแบบนั้นอยู่แล้ว ก็จะได้เห็นแง่มุมที่เรียกว่ากิเลสเป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังมากกว่า ซึ่งอะไรที่มันง่ายๆ มันง่าย มันรวดเร็ว ก็พึงระวังไว้ก่อนนะ เพราะว่าปกติจะเห็นได้ว่าจิตใจเราเนี่ยฝักใฝ่ไปในทางที่มันจะง่ายอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นมรรค (มัก) นะที่มันไม่ได้อยู่ในอริยมรรคนั่นเอง พูดภาษาชาวบ้านก็มักง่าย อะไรมักง่ายเนี่ยระวังไว้ก่อนดีกว่า จะแง่มุมการใช้ชีวิตเองก็ตามนั้นเอง แง่มุมการปฏิบัติธรรมเองก็ตาม ก็เป็นสิ่งที่เราต้องค่อยๆสั่งสมประสบการณ์ไปนะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 02 พฤษภาคม 2567 #พึงระวังกิเลส #มักง่าย #ผลชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..จิตนี้ก็เป็นอะไรที่ฝึกฝนกันได้นะ แต่ว่าถ้าใครไม่ได้ฝึก ก็จะไปอีกทางหนึ่ง อยู่กับวิถีที่เราคุ้นชินนั่นเอง เราใช้ชีวิตแบบไหนก็จะดำเนินไปแบบนั้นนะ จะเห็นได้ว่าเราไม่เคยใช้ชีวิตกันนอกกรอบอยู่แล้วนะ เราทำแบบไหนก็จะทำแบบนั้นไปตลอด ทีนี้การฝึกฝนยกระดับพัฒนาจิตใจเนี่ย ถ้าแต่ละท่านไม่เคยฝึกฝนกันมาเลยก็ให้รู้ไว้เลยว่ากรอบวิถีการปฏิบัติเรา เราเคยดำเนินมาแบบไหน ก็จะดำเนินไปแบบนั้น แต่ถ้าเรื่องการฝึกฝนปฏิบัติมันก็ทำกันได้ทุกคนนะ ไม่ใช่ว่ามาทำได้เฉพาะบางคนเท่านั้น ซึ่งถ้าลองไปถามคนที่เขาเคยรักษาศีลอุโบสถเป็นปกติก็ได้ ก็จะรู้สึกว่าไม่ได้มีอะไรที่ยากไปนะ การปฏิบัติมันยากมันก็ช่วงแรกๆเท่านั้นแหละช่วงที่จิตใจต้องยกระดับขึ้นมา ถ้าจิตใจเราใฝ่ไปในทางต่ำมากเลย เรียกว่าการปฏิบัติ การถือศีล การเจริญภาวนาเองก็ตาม ก็ใช้กำลังใจอย่างมากนะ เพราะว่าต้องปรับระดับขึ้นมามาก แต่เชื่อเถอะว่าพอทำไปสักระยะหนึ่ง จิตก็จะมีความเคยคุ้นนะ #เคยคุ้นในฟากที่เป็นกุศล .. อะไรที่ดีที่งามที่เป็นไปเพื่อให้ใจไม่ทุกข์เนี่ย สังเกตได้เลยว่าเราจะทำได้ง่ายขึ้น แต่พอทำได้ง่ายขึ้นแล้วเนี่ยสิ่งที่มันจะทำได้ยากก็เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามนั้นเอง .. พอจิตใจเราใฝ่ไปทางกุศลแล้วนะสิ่งที่มันจะทำได้ยากก็คือ การทำชั่วการทำบาปทั้งหลายทั้งปวงนั่นเอง .. ทีนี้ถ้าเรา #รักษาความเป็นปกติในจิตใจเราไว้ พอจิตใจเราเกิดความไม่ปกติขึ้นมานะ สติจะเตือนขึ้นมาเองเลย อันนี้เป็นพื้นฐานของศีลที่รักษาไว้ดี เป็นไปเพื่อสมาธิ และเป็นไปเพื่อให้เกิดปัญญา.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 01 พฤษภาคม 2567 #ฝึกจิตคุ้นชินกับกุศล #สมาทานศีล #วันพระ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"ถ้าคนบรรลุโสดาบัน เขาจะเรียกตัวเองว่าอะไร ? นางวิสาขาจะไม่พูดว่า ตัวเองเป็นพระโสดาบัน เพราะไม่มีตัวตนแล้ว มีแต่สภาวะที่เป็นไป เพราะในพระไตรปิฎก ตำราที่ท่านกล่าวไว้อย่างเช่น พระสารีบุตรไปถามอนาถาบิณฑิกเศรษฐีว่าท่านป่วยไหม ทนเวทนาไหวไหม อนาถาบิณฑิกเศรษฐีก็บอกว่าผมทนไม่ไหว ก็เหมือนเรียกตัวเอง ผู้ชายเรียกตัวเองว่าผม ก็เรียกปกตินะ อันนี้เป็นตัวอย่างในพระไตรปิฎก อย่างบางทีพระอรหันต์ท่านสนทนาธรรมในพระไตรปิฎก ก็ใช้ว่า 'กระผม' ความจริงก็มีทั้งความจริงโดยสมมุติ โดยสมมุติก็สื่อสารกันไปตามเหตุตามปัจจัย อันนี้ก็เป็นเรื่องราวที่ท่านจดบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก... ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 30 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ทุก ๆ ครั้งที่เราก่อกรรม เจตนาเป็นตัวกรรม มันจะถูกบันทึกไว้ในวิญญาณนี่แหละ ทุกอย่างที่ทำไว้นี่ถูกบันทึกไว้หมดนะ เจตนาขยับปุ๊บ ..ก่อกรรม จะกุศล อกุศลก็ตาม ก่อไว้หมด เวลาตายจากอัตภาพนี้ ไปปฏิสนธิใหม่ เรียกว่ากรรมที่ก่อไว้ ที่บันทึกไว้ในวิญญาณ จะค่อย ๆ ถูกถอดออกมาเป็นดีเอ็นเอ (DNA) ทำให้คนนั้นเกิดมามีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างกัน มีสติปัญญาต่างกัน มีกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ มากน้อยต่างกัน มีสติปัญญาต่างกัน ก็เพราะว่ากรรมที่ทำไว้นั่นแหละส่งผลแบบตรงมาเลย บางคนเกิดมาพิกลพิการ บางคนเกิดมามีรูปร่างหน้าตาผิวพรรณแตกต่างกัน ..เกิดจากเหตุปัจจัยที่ก่อไว้ทั้งหมด เวลาก่อกรรมนี่ ขยับยังไง ทำที่ไหน มันถูกบันทึกใว้หมดนะ จำได้หมด ดีก็ตาม ไม่ดีก็ตาม..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 30 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"#การปฏิบัติธรรมเราก็ทำได้แค่เพียงสร้างเหตุขึ้นมา เหตุก็แค่ว่าอยู่กับลมหายใจ รู้หายใจยาว-หายใจสั้น เป็นตัวดำเนินเรื่องมาเลยนะ ทีนี้เมื่ออยู่กับสิ่งนี้ได้จิตจะสงบบ้าง ไม่สงบบ้าง ก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยแล้วกันนะ แต่ว่าเราก็เพียรสร้างเหตุนั่นเเหละ ไม่ใช่ว่าต้องมานั่งเค้นผลนะ นั่งปฏิบัติแต่ละครั้งต้องให้ใจสงบตลอด ซึ่งถ้ามันจะเกิด ก็ให้รู้ไว้เลยว่าเดี๋ยวมันก็เกิดเอง แต่จะให้มันเกิดโดยการไปบังคับไปควบคุมแต่ละครั้งเนี่ย ใจเราจะทุกข์ ใจเราจะเดือดเนื้อร้อนใจเองซะเปล่าๆ ก็ให้วางใจไว้ก่อนว่าเราก็มีหน้าที่แค่เพียงทำเหตุเท่านั้นเอง ก็เพียรทำเหตุนั่นแหละนะ ก็เป็นธรรมะอันสูงสุดแล้วหละ ถ้าคนเข้าใจนะในสิ่งที่เรียกว่า “อริยสัจ” ก็จะเข้าใจว่า .. ชีวิตเราทำเหตุได้อย่างเดียว แต่ถ้าคนไหนที่เขายังไม่เข้าใจเนี่ย ก็จะไปจับเอาที่ผลนะ จับเอาที่ผลเป็นเบื้องปลายเลย อยากจะให้ปฏิบัติไปแล้วสงบบ้าง ปฏิบัติแล้วต้องสงบพิมันไม่สงบใจก็ทุกข์ขึ้นมา ซึ่งในความเป็นจริงนะอยู่ได้แค่เพียงสร้างเหตุเท่านั้นเอง ผลจะเป็นอย่างไรก็เดี๋ยวเกิดมาตามเหตุ ถ้าเราตั้งหลักไว้แบบนี้ได้ ใจเราจะไม่ทุกข์กับผลที่เกิดขึ้น แม้ว่าผลที่เกิดขึ้นนั้นมันจะเป็นทุกข์ในปัจจุบัน แต่ว่าทุกข์เกิดขึ้นมาแล้ว อย่างไรต่อหล่ะ จะหยุดสร้างเหตุไหม มันก็ไม่ใช่เรื่องนะ ไม่ใช่เหตุผลอะไรที่ควรจะไปหยุดสร้างเหตุนั้น ก็พึงทำสร้างเหตุกันต่อไป มีสติ รู้กายรู้ใจไว้ก็ดีนะ ตามกรรมฐานที่เราถนัด ชีวิตเราก็มีอยู่เท่านี้นะ ก็พึงเพียรในการปฏิบัติไป" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 30 เมษายน 2567 #เพียรสร้างเหตุ #การปฏิบัติธรรม #กายใจ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ธรรมะประจำวันบางทีก็เป็น เรื่องราวในสมัยพุทธกาลบ้าง ให้เห็นแง่มุมอะไรต่างๆนะ เรื่องราวก็จะเชื่อมโยงเข้าสู่การปฏิบัติ ให้เห็นเกร็ดเล็กเกล็ดน้อย บางทีก็เป็นหลักใจในการดำเนินชีวิต ธรรมะก็เป็นแบบง่ายๆ บ้าง บางทีธรรมะบางอย่างก็อาจจะลงเทคนิคบ้างเนอะ Technical บ้าง อะไรบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยในแต่ละวัน วันนี้ก็เป็นธรรมะหมวดดับร้อนนะ ช่วงนี้หน้าร้อนด้วย ธรรมะแบบฟังง่ายๆและก็นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน วันนี้ก็หมวด ป. ปลา เปลี่ยนแปลง ปัจจุบัน และการปล่อยวาง หมวด ป.ปลา ธรรมะ 3 ป. เปลี่ยนแปลง ปัจจุบัน และก็การปล่อยวาง นั่นเองนะ [1] การเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็จะเห็นได้จากทุกอย่าง ทุกแง่มุมเลย มองไปอะไรก็เปลี่ยนแปลงไปหมดเลยนะ มองแค่วันเวลาก็ล่วงเลยไป อย่างวันนี้ก็วันที่ 29 แล้ว ไวไหมโยม แต่ละวันนี้ดี๋ยวพระอาทิตย์ขึ้นเดี๋ยวพระอาทิตย์ตก แป๊บเดียวนะเดี๋ยวเช้าแล้ว เดี๋ยวค่ำแล้ว แป๊บเดียวเองนะโยม เดี๋ยวโยมต้องตื่นไปทำงานอีกแล้ว นอนแป๊บเดียว ตื่นไปทำงาน กลับบ้านมาก็กลับมาเจอผู้คนที่บ้าน เดี๋ยวก็ต้องกลับมากินข้าว..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 29 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..อย่างน้อยมีทิฏฐิถูกต้องไว้ก่อนว่า #กายใจนี้ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งเท่านั้น #ไม่เคยเป็นเราเป็นของเรามาก่อน .. สิ่งที่ต้องระวังไว้เลยก็คือ "ตัวใจ" ตัวใจที่มันไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวนะ เรียกว่าไร้เดียงสาซะเหลือเกิน คอยไปจับยึด ไปรับรู้อะไรคอยจะยึดอยู่ตลอด ก็ต้องเป็นอะไรที่ค่อยๆสอนเขาไปนะ สอนใจค่อยๆเรียนรู้กันไป ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเราเป็นของเราหรือเปล่า ค่อยๆพิสูจน์กันไปในแต่ละวัน .. ก็อย่างน้อยนะมีความเห็นที่ถูกไว้ก่อนว่า #กายนี้ไม่เคยเป็นเราเลย .. ถ้ายกระดับไปอีกได้ก็จะเห็นต้นตอว่ามาจากจิตใจทั้งนั้นนะ จิตใจที่ไปคอยจับ จับปุ๊บฉวยเลย ฉวยมาว่า..กายนี้เป็นเรา เป็นของเรา ก็เป็นเส้นทางที่ต้องค่อยๆดำเนินไปนะ .. ซึ่งถ้า #ถอดถอนความเห็นผิด เหล่านี้ไปได้เนี่ย เรียกว่า .. ทุกข์ในชีวิตมันจะเกิดขึ้นได้ยากเลย .. เรียกว่า ไม่มีทุกข์เกิดขึ้นมาในจิตใจ" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 29 เมษายน 2567 #กายใจนี้ไม่ใช่เรา #ละความเห็นผิด #ละความยึดถือในกายในใจ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...เราก็ลองมารู้จักคุณธรรมเบื้องต้นของพระโสดาบันกันก่อนเนาะ ในทางพระพุทธศาสนา พระโสดาบันคือพูดถึงอริยสัจ 4 ผู้เกิดสัมมาทิฎฐิก็คือผู้รู้แจ้งอริยสัจ 4 นั่นเอง ท่านก็จะละกิเลสนะ ละกิเลสได้ ถอดถอนความเห็นผิดได้ ก็คือถอดถอนกิเลสนั่นเองนะ เดี๋ยวลองมาดูกัน ข้อแรกที่เป็นหัวใจสำคัญสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะปิดอาบายภูมิ ถ้าไม่รู้จักสิ่งนี้แล้วเรียกว่าการเดินทางก็จะไม่ชัดเจนนะ คือสังโยชน์ข้อแรกเลย สังโยชน์ก็คือกิเลสที่ร้อยรัดหมู่สัตว์ไว้ในวัฏสงสาร ดึงรั้งร้อยรัดไว้ เหนี่ยวไว้..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 28 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถ้าเราเข้าใจแล้วว่า #ธรรมะก็เป็นหน้าที่ เหมือนกัน มีงานการอะไรที่เราต้องทำเนี่ย มีงานบ้าน งานในหน้าที่การงาน งานที่เป็นอาชีพเรา บางทีนะ ถ้างานนั้นอยู่ในสัมมาอาชีพ เราทำไปเถอะ เราจะรู้ว่าบางทีเนี่ยเราจะอุทิศกายใจให้กับงานไปเลย #อุทิศกายใจนั้นก็คืออยู่กับหน้าที่อยู่กับธรรมะ นั่นเอง ไม่ใช่หน้าที่ที่ทำไปแล้วมันจะเอาอะไรเข้าตนเองนะ ซึ่งบางทีทำไปเนี่ยจะไม่รู้สึกว่าต้องมาตั้งสติ ต้องมาตั้งสัมปชัญญะมากในหน้าที่นั้นมาก . . ซึ่งถ้าพอดีไปทุกอย่าง มันจะไหลลื่นนะสติสัมปชัญญะก็จะมีอยู่กลายๆ เรียกว่าหล่อเลี้ยงอยู่ ทำไปมีปีติหล่อเลี้ยงในใจอยู่ การเคลื่อนไหวการกระทำอะไรเนี่ยมันจะเป็นไปโดยที่อกุศล ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่สามารถจะเข้ามาแทรกได้ เพราะว่าใจมันเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เรียกว่าเบื้องต้นจะอยู่ในปฐมฌานก็ได้ ใจปราศจากอกุศลต่างๆ ก็เรียกว่าทำไป เคลื่อนไปมีความรู้สึกรู้เนื้อรู้ตัวอยู่เบาๆ ทำไปอยู่กับกิจการงาน ซึ่งถ้าเราตั้งเป้าไว้ถูกนะ ในอีกแง่มุมหนึ่งก็คือว่าในช่วงชีวิตของเราจะเป็นเป็นไปเพื่อการปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเราต้องมารอในช่วงเวลาที่เราหลีกเร้นออกมาเดินจงกรม นั่งสมาธิ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 28 เมษายน 2567 #ธรรมะคือหน้าที่ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ก็เป็นธรรมะสั้น ๆ ได้ยินพระสงฆ์นั่นแหละ ธรรมะสั้น ๆ ดี เผื่อไปดับร้อนได้ในช่วงนี้ก็หน้าร้อน ยอม หยุด เย็น ธรรมะในหมวด พ. ก็พอใจ พอใจคือการที่จะมีฉันทะในการเจริญกุศล พอใจ พอดี พอกันที พอกันทีกับวัฎฏะนะ พอกันทีกับสังขารที่มีแต่ความปรุงแต่ง เมื่อวานก็เป็นสันโดษ สะอาด สงบ วันนี้ก็เป็นธรรมะในหมวด อ.อ่าง ..อ่อนโยน อนิจจัง อนัตตา อ่อนโยน อนิจจัง อนัตตา เผื่อจะเป็นแง่มุมธรรมะไปดับร้อน ช่วงนี้อากาศร้อนอย่างน้อยก็นำความอ่อนโยนไปประพฤติก่อนเนาะ ใจอ่อนโยน ..ภาวนาง่ายนะ คนใจอ่อนโยน บางทีใจเราแข็งไป ภาวนาก็ยากนะ อย่างบางทีรู้ลมหายใจ รู้สึกถึงลมหายใจ รู้สึกตัว บางทีมันมีแรงมาเยอะนะ ใจไม่นุ่มนวล ไม่อ่อนโยน มันก็แผงไปด้วยอัตตา ตัวเล็ก ๆ นะ บางทีมาเนียน ๆ ในคราบของการปฏิบัติ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 27 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..วิถีคำสอนที่พระพุทธองค์ท่านตรัสไว้ก็ยังดำรงอยู่ ทีนี้ก็อยู่ที่แต่ละบุคคลแล้วล่ะว่าจะเห็นคุณค่าอย่างไร .. ว่ามีโอกาสได้เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งทีจะเลือกดำเนินชีวิตในทางไหน ซึ่งถ้าธรรมอันจะเป็นเบื้องต้น ก็เป็นสิ่งที่เรียกว่า "กุศลกรรมบถ 10" ซึ่งพระพุทธองค์ท่านตรัสไว้นะว่าอย่างมนุษย์เราที่รู้จักกันอยู่เนี่ย ก็ยังเรียกว่าเป็นสุคติภูมิ เป็นภูมิที่ยังประกอบด้วยความสุขอยู่ จริงหรือเปล่าแล้ว ? ก็สุขนะ แต่ว่าบางคนถ้าผู้ใดมีปัญญาหน่อยก็จะเห็นว่า .. แม้มันจะสุขอย่างไรความทุกข์มันก็ยังมีเจืออยู่เรื่อยๆ .. ถ้าเห็นได้ ก็เรียกว่ามีปัญญาอยู่ในระดับที่ว่าจะเป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์แล้วหล่ะ ทีนี้สุคติภูมิก็ไม่ได้มีมนุษย์เท่านั้นนะ ก็ยังมีพวกเทวดาอะไรอีก ซึ่งถ้าพูดถึงเทวดาบางคนก็จะรู้สึกว่าจับต้องได้ยากนะ แต่ว่ามองในวิถีชีวิตเราก็ได้ว่าเทวดาก็รู้สึกว่าเป็นคนที่เพียบพร้อมไปด้วยกามคุณ ดูอย่างคนที่เขามีเงินมีทองก็ได้บางทีก็เพียบพร้อมด้วยกามคุณอยู่แล้วนะ จิตใจก็ไม่ต้องไปขวนขวายให้ดิ้นรนในการทำงานมาก บางทีเกิดมาเพียบพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งจะเรียกคนเหล่านั้นว่าเทวดาก็เรียกได้คล้ายๆเลยนะ .. แต่ว่าแม้เป็นเทวดาก็ยังมีความทุกข์อยู่เป็นธรรมดา #ถึงจะอยู่ในสุคติภูมิก็ยังมีความทุกข์อยู่เป็นธรรมดา .. ซึ่งถ้าเรารู้ไว้ก่อนเลยว่าการที่บุคคลนั้นเขาได้ดำรงอยู่ไว้ในกุศลกรรมบถ 10 ก็เรียกว่าเป็นเหตุที่ทำให้เกิดในสุคติภูมิได้ ซึ่งถ้าจะคาดคะเนกันได้นะว่าอย่างน้อยชีวิตนี้ได้เกิดมาอยู่ในภพของมนุษย์ ในภูมิของมนุษย์เองก็ตาม ก็คาดเดากันได้นะว่าเคยจะบำเพ็ญไว้อยู่ในกุศลกรรมบท 10 ซึ่งตอนนี้ก็ต้องสำรวจกันดูนะว่ายังกระทำไว้อยู่หรือเปล่า ยังทำไว้อยู่เนืองๆไหม ถ้าหลุดออกไปแล้ว ก็เรียกว่าพร้อมจะหลุดจากภพภูมิของมนุษย์.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 27 เมษายน 2567 #กุศลกรรมบถ10 #ภพภูมิ #สุคติภูมิ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"ก็เหมือนโยมกำลังขึ้นรถยนต์ใหม่ ๆ นะ ขึ้นรถยนต์ นั่งรถยนต์ไปก็ต้องสตาร์ท เรียกว่า ใส่เกียร์ เหยียบคันเร่ง จับพวงมาลัย แล้วก็ขับไป ความเร็วยิ่งมากขึ้น ถ้าโยมกระโดดลงกลางทาง ก็จะกลิ้ง จะลงก็ต้องค่อย ๆ ความเร็วก็ต้องค่อย ๆ ลดลง ลดลง ลดลง จอดสนิทก็ลงมา ก็เป็นแบบนั้นแหละนะ เวลาเจริญสติปัฏฐานก็จะเป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา อย่างอานาปานสติ 16 ขั้น ถ้าในด้านของสมถะ จะเป็นการที่จะค่อย ๆ เข้าฐานไป ความตั้งมั่นสูงขึ้น จิตจะค่อย ๆ พรากออกจากฐานไป พรากออกจากฐานกาย เข้าฐานเวทนา เข้าฐานจิต ความตั้งมั่นสูงขึ้น บางทีอยู่กับฐานจิต ความตั้งมั่นสูงขึ้น สภาพละเอียด อยู่ ๆ ลืมตาขึ้นมา มันก็จะเบลอได้เหมือนกัน ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 26 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"วันนี้ก็เป็นธรรมะ 3 ส. สันโดษ สะอาด สงบ [1] สันโดษเป็นทรัพย์อย่างยิ่ง เผื่อจะเป็นหลักใจให้ญาติโยม สันโดษเป็นทรัพย์อย่างไร ? ..สันโดษเป็นทรัพย์จะเป็นหลักใจในการใช้ชีวิตได้เนาะ สันโดษเราก็พอใจตามที่ได้นะ ...ก็ตามมีตามได้ พอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ [2] มีความสะอาด สะอาดทั้งกายวาจาและใจนะ สะอาดทางกายอย่างน้อยนะ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม วาจาไม่โกหก พูดหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อนะ ใจนี่ไม่โลภ ไม่พยาบาท แล้วก็มีสัมมาทิฎฐิ [3] ธรรมะอีกประการหนึ่งก็คือความสงบ สะอาดทางกายวาจาใจแล้วเนี่ยจะพบกับความสงบขึ้นมา ร่มเย็นจากภายใน ความสงบก็ตรงข้ามกับความวุ่นวาย ความวุ่นวายส่วนใหญ่ก็เกิดจากการแสวงหานะ แสวงหารูป รส กลิ่น เสียง ส่วนใหญ่นี่แหละชีวิตฆราวาสก็อยู่กับรูป รส กลิ่น เสียง ก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายนะ วุ่นวายว่าต้องดิ้นรนแสวงหา..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 26 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..กุศลเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ต้องไปตั้งท่าต้องทำไปตลอด #แค่เราไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเป็นโลภะโทสะโมหะเกิดขึ้นมาก็เรียกว่ามีกุศลเกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ทีนี้ถ้าเราเข้าใจได้ถูก ก็จะเข้าใจว่าการเอาสติมาคอยจับอยู่ที่ปลายยอดตลอด มีความโกรธเกิดขึ้นมาคอยรู้ ๆ เรียกว่ามันก็ดูกันได้แค่ปลายยอด ทีนี้มา #จัดการกันที่ต้นเหตุดีกว่า .. ใช้ชีวิตอย่างไรไม่ให้อกุศลเกิด อันนี้สำคัญกว่ามากนะ เพราะว่าถ้าเราถอนรากถอนโคนมันได้ โดยการใช้ชีวิตให้ถูกแต่แรก ความโลภ ความโกรธ ความหลง เกิดิขึ้นมาแต่ละครั้งเนี่ย เราจะรู้ได้โดยอัตโนมัตินะ #เพราะว่าชีวิตของเรามันเป็นไปด้วยสิ่งที่เรียกว่าอยู่ในฟากของกุศลอยู่ตลอด ก็ปรับมุมมองนะมาพิจารณาก่อนว่า สิ่งที่เรียกว่า .. อกุศลมันเกิดมาได้เพราะว่ามีเหตุอยู่ ถ้าในอีกแง่มุมหนึ่งเนี่ยเอาสติไปคอยจับไปคอยดับเหตุอันนั้น เรียกว่า จับไปก็ไม่จบนะ ไม่จบเพราะว่ามันมีอยู่เรื่อยๆเหตุมันมีอยู่เรื่อยๆ ถ้าเราจะจัดการให้ถูกจุดเองเนี่ย เรียกว่า .. มาใช้ชีวิตให้ถูกกันดีกว่า .. ใช้ชีวิตอย่างไรให้ ความโลภ ความโกรธ ความหลง มันไม่เกิดขึ้นมา บางทีก็อาจจะไม่ได้รู้ว่าต้องมีสติมากขึ้นมาก็ได้ แต่ว่า .. ใช้ชีวิตไป โลภไม่เกิด โกรธไม่เกิด หลงไม่เกิด เรียกว่า "ใช้ชีวิตถูกต้อง ถูกต้องอยู่ในธรรม" ก็ต้องเข้าใจถูกนะ เราจะประยุกต์ได้หลายแง่มุมเลย #เราจะทำอะไรก็คอยดูว่าความโลภความโกรธความหลงมันเกิดขึ้นมาหรือเปล่า บางทีก็สงสัยว่า เอ๊ะ เมื่อกี้มันก็ไม่มีสติ แต่ไอ้ตอนไม่มีสติเนี่ย โลภ โกรธ หลง ไม่เกิดได้อีกแง่มุมหนึ่งนะ ทีนี้ก็จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติธรรมเนี่ยไม่ได้จบแค่มาเดินจงกรมนั่งสมาธิ แต่เราสามารถขยาย ขยายไปได้ในทุกแง่มุมในการใช้ชีวิตของเราเลย ก็อยู่ที่แต่ละคนจะนำไปประยุกต์ สังเกตได้รวดเร็ว ได้ทันท่วงที ปัญญาก็เกิดขึ้นเฉพาะตนนะ ก็เป็นสิ่งที่เราควรนำไปปฏิบัติแล้วกันในฟากของสัมมาทิฏฐิ ขอให้ยืนพื้นไว้ก่อน สัมมาทิฏฐิ" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 26 เมษายน 2567 #สัมมาทิฏฐิ #กุศล #อกุศล #การใช้ชีวิตที่ถูกต้อง #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ทางที่ดีนะเราก็ ..อย่างโยมนั่งสมาธิใช่ไหม เราก็ลองหากรรมฐานที่เราถนัดดูเนาะ ถ้ากลาง ๆ ก็อานาปานสติ หรือถ้าถนัดทำความรู้สึกตัว ก็ทำความรู้สึกตัวก็ได้ แต่ถ้าโยมมีกรรมฐานที่รู้สึกถนัดอยู่แล้วนะ จะบริกรรมก็ได้ หรือว่าจะอาศัยกรรมฐานที่ถนัดที่โยมรู้สึกฝึกแล้ว ใจผ่อนคลายใจสงบ ใจที่ชอบกรรมฐานนั่นแหละก็ทำไปได้ จะแผ่เมตตาก็ได้ อะไรก็ได้ เราก็ลองดูเนาะ เมื่อเจอกรรมฐานแล้ว เราก็สร้างเหตุใหม่ไป ก็ตั้งสัมมาทิฎฐิก่อนนะว่าความคิดลบ ๆ นี้มันเป็นผลแล้ว จากเหตุที่ไปก่อไว้ เราก็ยอมรับความจริง เข้าใจความจริงก่อน เราเปลี่ยนผลไม่ได้หรอกนะ แต่เราสร้างเหตุใหม่ได้ แล้วก็สร้างเหตุไป..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 25 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"เมื่อวานก็มีธรรมะ 3 ย. นะ จำได้ไหมโยม ? ..ธรรมะ 3 ย. ยอม หยุด เย็นนะ วันนี้ก็มีธรรมะ 3 พ. นะ ..ธรรมะ 3 พ. ก็คือ พอใจ พอดี และก็พอกันที ก็เริ่มด้วยพอใจก่อนนะ พอใจเนี่ย..เวลาฝึกมันต้องมีฉันทะนะ มันต้องมีกำลังใจในการฝึกนะ ถ้าไม่มีตรงนี้เรียกว่ามันไม่มีแรงผลักดัน ยกตัวอย่าง เหมือนโยมอยากจะลดน้ำหนักหรือว่าอยากจะออกกำลังกาย ถ้าไม่มีความพอใจ มันไม่มีแรงนะ ไม่มีแรงสู้นะ แต่ขอให้ลองฝึกไปก่อน ความพอใจอาจจะมาทีหลังก็ได้ แต่อย่างน้อยเราฝึกไปก่อน ฝึกฝืนไปก่อน บางคนมาใหม่ ๆ ทำไมฟุ้งซ่านจังเลย ยังไม่สงบเลย ยังยึดติดคิดลบอยู่เลย ..ก็ไม่เป็นไรนะ เราก็สร้างเหตุใหม่ไปเรื่อย ๆ สร้างเหตุ อาศัยการสร้างเหตุไป พอใจเริ่มเคยคุ้นกับการสร้างเหตุ สงบขึ้นมาเล็ก ๆ น้อย ๆ จะเริ่มเห็นว่ามีการพัฒนานะ ทุกข์น้อยลง บางทีก็เริ่มมีปัญญาไปต่อ ต่อให้ไม่สงบก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยใจไม่เป็นทุกข์ จะเริ่มเห็นได้ว่าการปฏิบัติให้ผลจริง ๆ จากการที่ค่อย ๆ ลด ละ สละ วางนะ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 25 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

" #อย่าตั้งตนอยู่ด้วยความประมาท #เป็นผู้ที่ปรารภความเพียรไว้ก่อน . กิจอะไรที่เรายังไม่ได้ทำไว้ดี ก็ตั้งใจทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางธรรมก็ตาม เรื่องทางโลกก็ตาม .. ทางธรรม ก็ตั้งสติสัมปชัญญะ คอยสำรวจสังเกตจิตใจไว้ก่อน .. กิจทางโลกเรามีหน้าที่อะไรเราก็พึงขวนขวาย . #อย่าไปคอยสร้างเหตุผลให้กิเลส กิเลสเขาก็คอยจะชักนำเราให้เราผลัดเว้นไป ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ด้วยอำนาจกิเลสก็มาก เหตุผลแต่ละอย่างก็ดูเข้าท่านะ ถ้าไปฟังเขาแต่ละอย่างเนี่ย เรียกว่ากิจที่เราพึงจะกระทำ ก็เรียกว่าไม่ได้กระทำซะที . ก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันนะ อย่าไปผัดวันประกันพรุ่ง ก็อย่าไปหาเหตุผลให้กิเลสให้เขามีอำนาจมากขึ้น . ในเมื่อตั้งจิตตั้งใจได้ตามหลักดังนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่า ชีวิตเราก็ย่อมที่จะเป็นไปให้ห่างไกลจากความทุกข์นะ ถ้าเราไม่หาเหตุผลให้กิเลสอยู่เนืองๆ ก็เรียกว่าอีกแง่มุมหนึ่ง เรียกว่าเราฝืน #ฝืนหาเหตุผลให้เราดำเนินอยู่ในเส้นทางธรรม ก็ถ้าเรายังดำเนินอยู่ในเส้นทางธรรมนะ ความทุกข์ก็เรียกว่าไกลจากจิตใจเรานั่นเอง" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 25 เมษายน 2567 #ความไม่ประมาท #มาณพผู้เกียจคร้าน #วรุณชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"อยู่กับกิเลสมาก ๆ มันจะกลายเป็น ..บางทีก็จะกลายเป็นนิสัย เป็นพฤติกรรมไปนะ เป็นพฤติกรรมไป ก็เป็นแง่มุมหนึ่ง แง่มุมของกิเลส เรียกว่า 'เป็นมลทินในจิตใจ' 'มละ' [เป็นภาษาบาลี อ่านว่า มะ-ละ] ความเป็นมลทิน เป็นธรรมให้เกิดความเศร้าหมอง คือเป็นธรรมที่ทำให้ใจเศร้าหมอง มละ ..มลทินในจิตใจ กิเลสมันเป็นมลทิน อันนี้นี้ก็เวลาอยู่กับ ..มันก็แปลงสภาพมาจากโลภ โกรธ หลง นั่นแหละนะ อยู่กับโลภโกรธหลงมาก ๆ มันจะกลายเป็นกิริยาบางอย่าง เช่น อิจฉา ริษยา มีความตระหนี่ มีมายา มีความโอ้อวด อะไรพวกเนี้ยเนาะ มีความเห็นผิด นี่..รากเหง้าก็มาจากราคะ โทสะ โมหะ ให้เห็นแง่มุมของมล ..มลทิน ก็มีอยู่ 9 ประการ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 24 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..จิตใจเรา ถ้ามีกิเลสเสียแล้ว เรียกว่าไม่พ้นกันหรอกนะ อะไรที่มันจะชั่วช้า ชั่วหยาบ ก็พร้อมที่จะทำกันได้ เพราะฉะนั้น ในข้อแรกก็จึงสำคัญอยู่มาก ในข้อแรกของโอวาทปาฏิโมกข์ #การไม่ทำบาปทั้งปวง เรียกว่าถ้าละกันได้ กุศลอะไรเดี๋ยวก็ตามมาเอง . ก็มีคำเปรียบเปรยของครูบาอาจารย์ท่านอยู่ ก็เป็นคำสอนของปู่ชาท่านสอนไว้ว่า แม้ว่าการทำบุญโจรมันก็ทำได้ จริงหรือเปล่า #แต่ว่าการที่ไม่ทำชั่วทั้งปวงเรียกว่าเป็นเหตุของทุกสิ่งเลย ถ้าเราละเหตุจากการทำชั่วได้เราก็ไม่ต้องเป็นโจรซะแล้ว แต่ว่าในอีกมุมหนึ่งเนี่ย การเป็นโจรก็คือทำอะไรก็ตาม ที่ก่อให้เกิดความเบียดเบียน จะไปฆ่าสัตว์ ไปลักทรัพย์ ไปประพฤติผิดในกาม โจรก็จะมาทำบุญ มันก็ทำได้นะเพราะว่ามันเป็นคนละส่วนกัน แต่เหตุที่จะไม่ทำให้คนนั้นเป็นโจรเรียกว่าทำได้ยากกว่านะ ถ้าเราละเหตุจากนั้นได้ ก็เรียกว่าชีวิตเราก็ไกลจากความทุกข์ได้เยอะ . วันนี้ก็นำเรื่องราว เป็นตัวอย่างดูว่าถ้าใครก็ตามแต่ที่เขาได้ไปประทุษร้ายกับบุคคลที่เขาไม่ได้ประทุษร้ายต่อพระพุทธองค์ตรัสเป็นธรรมเทศนาไว้ ถ้าใครไปทำร้ายกับคนที่เขาไม่ทำร้ายเราตอบเนี่ยหรือไม่ได้มีเหตุที่ต้องทำร้ายเราด้วยซ้ำ เรียกว่ากรรมอันหนัก จะวกเข้ามาหาบุคคลผู้นั้นอย่างมากเลย พระองค์ก็ทรงเปรียบเหมือน บุคคลหนึ่งเขาได้กำเศษฝุ่นหรือเศษธุลีไว้ แล้วก็โปรยออกไปนะ ถึงจะโปรยออกไปห่างตัวไปให้ไกลตัวเลยเนี่ย แต่ด้วยความที่ลมมันพัดทวนกลับมา เศษฝุ่นที่มันโปรยออกไปย่อมพัดเข้ามาหาคนผู้นั้นอยู่แล้วนะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 24 เมษายน 2567 #งดชั่วทั้งปวง #ผลกรรม #นายพรานสุนัขชื่อโกกะ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...พระพุทธองค์ก็ได้ตรัสถึงวางจิตในการให้ทาน วางจิตอย่างไรมีผลมาก วางจิตอย่างไรมีผลไม่มากนะ ก็เป็นเหตุการณ์ที่พระสารีบุตรได้เข้าไปถามพระศาสดา เหตุใดบุคคลให้ทานแล้วมีผลมาก บุคคลให้ทานแล้วไม่มีผลมาก ..เพราะเขาวางจิตต่างกัน เหมือนโยมนั่งสมาธิกันอยู่เนี่ย แต่ละคนจะมีอะไรที่ต่างกันนะ เพราะการวางจิตต่างกัน วางจิตเป็นสมุทัยบ้าง วางจิตเป็นมรรคบ้าง อย่างการให้ทานก็มีแง่มุม แค่การวางจิตพลิกกันนิดเดียว ผลต่างแล้ว ..เราหยิบของให้เหมือนกัน ให้เพื่อนก็ได้ ให้พระภิกษุสงฆ์ก็ได้ หยิบสิ่งเดียวกัน ให้เหมือนกัน แต่ใจเราวางไว้ต่างกัน ผลก็ต่างกัน แค่พลิกใจ ปรับจิตใจนิดเดียว ผลก็ต่างแล้ว..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 23 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..บางทีถ้าเราอยู่อย่างลำบากไป อยู่อย่างที่คนสมัยก่อนเขาอยู่กัน บางทีเรื่องไม่เป็นเรื่องไม่ก่อให้เกิดทุกข์ให้เกิดขึ้นมาในใจ อยู่แบบไหนก็อยู่ไปแบบนั้น . จะเห็นว่าวิถีชีวิตเนี่ยส่งผลอย่างมากต่อความทุกข์ในจิตใจเรา ซึ่งถ้าเราอยู่อย่างลำบากได้โดยใจไม่เดือดร้อน เรียกว่า ความทุกข์หายไปมากนะ ซึ่งถ้าลำบากในที่นี่เนี่ย ก็ดูจากข้อปฏิบัติก็ดูเหมือนจะไม่ต้องทำอะไรนะ ก็แค่ระงับจิตใจให้ได้ ไม่ให้ไหลไปเพลิดเพลินไปกับสิ่งที่เรียกว่า กามคุณ . การได้มีโอกาสสมาทานรักษาศีลอุโบสถ ก็ขยับขึ้นมาอีก 3 ข้อ • ไม่ฉันอาหารไม่บริโภคอาหาร ไม่กินอาหารในเวลาวิกาล รู้จักพอเพียง อยู่กันแค่มื้อเช้าเนี่ยเมื่อเช้าก่อนพระอาทิตย์เขาจะเลยเที่ยงวันไปเนี่ยก็อยู่ได้นะ เรียกว่าชีวิตก็ไม่ตามใจปาก ลำบากไหมล่ะก็ลำบากสำหรับคนที่ไม่เคยทำนั่นเอง หรือใครที่ใช้ชีวิตตามใจมาตลอด เรียกว่าลำบากแน่นะ แต่ถ้าไปดูวิถีของพระก็ได้นะ อยู่ไปเถอะ ลำบากในช่วงแรกๆนะ อยู่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าต้องมากินมื้อเย็น ถ้ายังรู้สึกว่ายังต้องมากินมื้อเย็นอยู่ ก็ปฏิบัติไปก่อน ทำไปก่อนนะ เดี๋ยวร่างกายหรือจิตใจเขาปรับเอง • การไม่ดูการละเล่นหรืองดเว้นจากการฟ้อนรำ ไม่ตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับ จะเห็นว่ามีแต่กิริยานะที่ต้องเข้าไปกระทำทั้งนั้นเลยเนี่ย ลำบากไหมก็ลำบากสำหรับคนที่ไม่เคยทำนะ แต่ถ้าใครที่เขาไม่ทำเป็นปกติ การเข้าไปทำกลายเป็นเรื่องลำบากสำหรับเขาเองเสียมากกว่า • การไม่นอนในที่นอนอันสูงใหญ่ การนอนในที่นอนอันพอเหมาะพองามนะ ไม่ได้นอนไปให้จิตใจเพลิดเพลินไปกับการนอนมาก ก็อยู่อย่างเรียบง่าย เมื่ออยู่อย่างเรียบง่ายก็เข้าใกล้วิถีที่พระอริยเจ้าและพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านปฏิบัติอยู่ . #อยู่ให้ง่ายไว้ก่อน ให้ง่าย ในที่นี้คือ #ง่ายด้วยความเป็นอยู่ ไม่ได้ง่ายด้วยการตามใจไป . ถ้าง่ายด้วยความเป็นอยู่เนี่ย คนภายนอกเขาจะมองว่าอยู่ลำบากนะ ทั้งที่ความจริงก็ไม่ได้มีอะไรเลยนะ เพราะว่าไม่มีอะไรจริงๆนั่นเอง มันเลยลำบาก ทั้งนี้ก็ต้องมาประพฤติปฏิบัติกันดูนะ ก็ในวันพระนี้ก็จะได้มีโอกาสจะให้ญาติโยมได้สมาทานรักษาศีลอุโบสถกันดู ได้เข้าใกล้วิถีที่พระอริยเจ้าท่านทำกันมาเป็นปกติ เรียกว่าเป็นการยกระดับจิตใจเราให้เข้าใกล้ไปอีกนะตามคำสอนที่พระพุทธองค์ท่านตรัสสอนไว้ . อยู่ลำบากไว้ก่อน กุศลธรรมเจริญโดยยิ่งเลย ไม่ใช่เจริญธรรมดานะเจริญยิ่ง อันนี้ก็น่าจะทดลองกันดู และก็ไม่ใช่แค่กุศลธรรมเขาเจริญอย่างเดียว สิ่งที่เรียกว่าอกุศลธรรมก็เสื่อมถอยไปโดยธรรมชาติ วันพระทั้งทีถ้ามีโอกาสก็ทดลองกันดูนะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 23 เมษายน 2567 #อยู่อย่างลำบาก #กุศลธรรมเจริญยิ่ง #อกุศลธรรมย่อมเสื่อมไป #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ลูกของบุตรนายโคฆาตก์มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา นึกถึงพ่อว่าไม่เคยทำบุญจึงชวนพ่อมาทำบุญ หลังจากนั้นก็ได้ให้พ่อที่ไม่เคยทำบุญสุนทานมาเลยนะได้มีโอกาสถวายทานถวายภัตตาหารพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์ พอพระองค์ฉันกับคณะสงฆ์ฉันเสร็จก็อนุโมทนาทาน ตรัสพระกถาสอนสอนธรรมะไว้ว่า "บัดนี้ ท่านเป็นดุจใบไม้เหลือง ความตายปรากฏแก่ท่านแล้ว ท่านดำรงอยู่ปากทางแห่งความเสื่อม เสบียงของท่านก็ยังไม่มี ท่านจงทำที่พึ่งแก่ตน จงรีบพยายามเป็นคนดี กำจัดมลทิน จะเข้าถึงอารยธรรมอันเป็นทิพย์" ..พอได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วก็ตรัสรู้เป็นพระโสดาบันนะ บุตรนายโคฆาตก์ที่เป็นพ่อของลูก ๆ ทั้งหลายที่พาพ่อมาฟังธรรมก็ได้ตรัสรู้เป็นพระโสดาบัน อีกวันหนึ่งก็นิมนต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคณะสงฆ์มาฉันภัตตาหารที่บ้านอีกครั้ง ถวายสังฆทานเรียบร้อย ฟังธรรม พระองค์ก็ตรัสพระกถาว่า "บัดนี้ ท่านเป็นผู้มีวัยชราน้อมเข้าไปแล้ว เตรียมพร้อมไปสู่สำนักของยมราช ที่พักระหว่างทางของท่านยังไม่มี ท่านจงทำที่พึ่งแก่ตน พยายามเป็นบัณฑิต ท่านกำจัดมลทินได้แล้ว ไม่มีกิเลส จะไม่เข้าถึงความเกิดและความตายอีก.." พอฟังพระธรรมเทศนาพระกถาก็ตรัสรู้พระอนาคามีบุคคล ก็เป็นนิทานสอนธรรมนะ เรื่องราวในธรรมบทสอนธรรม … คุณงามความดี เราก็หมั่นสร้างนะ ไม่มีใครทำแทนกันได้ ใครก็ทำแทนไม่ได้ ถ้าเราไม่สร้างไว้ ในการเดินทางในวัฏสงสารต้องมีเสบียงบุญคุณงามความดีนะ ถ้าเรายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ บารมียังไม่ถึงพร้อมที่จะตรัสรู้ธรรมก็ต้องสร้างกันไว้ สร้างกันไว้ แต่ถ้าดีที่สุดนะ ..เจอเส้นทางแล้วก็ดำเนินไปให้สุด ให้สุดท้าง ..อย่างน้อยก็เต็มที่นะ เต็มที่ เจอเส้นทางอริยมรรค์มีองค์ 8 แล้วก็ไปให้สุดทาง..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 22 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..พระเถระท่านก็มีอุปนิสัยในการที่ชอบเรียกคนอื่นเขาว่า เป็นคนถ่อย ฝ่ายภิกษุเองเนี่ยเขาได้ทราบเรื่องราว ก็มีความเคลือบแคลงสงสัยเหมือนกันว่าบรรดาพระอริยเจ้าแล้วเนี่ยปกติแล้วเนี่ยเขาชอบกล่าวคำหยาบหรือเปล่า กล่าวคำที่เป็น ผรุสวาจา หรือเปล่า ก็ได้นำเรื่องนี้ไปกราบทูลกับพระผู้มีพระภาคเจ้าท่าน . เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าท่านก็ได้ทราบด้วยอุปนิสัยของท่านว่าท่านปิลินทวัจฉะ ท่านก็ได้เคยเกิดเป็นพราหมณ์มา ถ้าโดยศัพท์ที่เขาเขียนกันอยู่ในเรื่องราวก็เรียกว่าเกิดเป็นพราหมณ์มา 500 ชาติ แต่บางทีคำว่า 500 ก็เป็นสำนวน สำนวนที่เขาใช้ในพระไตรปิฎกแปลว่ามากก็ได้ ว่าเกิดมามากมายเลยนะ ก็ได้เกิดมาเป็นพราหมณ์ในหลายชาติด้วยกัน ซึ่งแต่ละชาติก็ชอบจะพูดคำว่า “วสละ” ที่แปลว่าคนถ่อยก็พูดอย่างนี้อยู่ตลอด . ในคราวได้เกิดมาในตระกูลพราหมณ์ ในภพชาตินี้เหมือนกัน ก็ยังติดอุปนิสัยเดิมอยู่ เวลาเจอผู้คนก็ทักทายเขาด้วยคำว่าคนถ่อย เรียกใคร หรือเป็นคฤหัสถ์ฆราวาสก็ดี แม้แต่พระภิกษุ ภิกษุที่อยู่ในศาสนาอื่นก็ดี ก็เรียกว่าคนถ่อยไว้ก่อน พระพุทธเจ้าท่านก็ได้ทรงทราบอุปนิสัยจากข่ายระญาณของพระองค์เอง ก็จึงบอกกล่าวไปว่า ท่านปิลินทวัจฉะท่านก็ไม่ได้มีเจตนาอันมุ่งร้ายนะ การพูดของท่าน พูดออกมาแต่ละคราวก็ไม่ได้ประกอบไปด้วยโทสะ ไม่ได้มีจิตใจที่มุ่งที่จะเบียดเบียนนะอยากจะประทุษร้ายใคร แต่ว่าด้วยอุปนิสัยเดิมที่ทำมาแบบเดิม ทำอยู่ซ้ำๆพูดแบบนี้ซ้ำๆมาหลายภพหลายชาติก็เป็นธรรมดานะที่ท่านจะกล่าวออกมา โดยปกติ ด้วยความคุ้นเคยนั่นเอง แต่โดยอุปนิสัยจิตใจท่านนั้นก็ไม่ได้มีเจตนาที่มุ่งร้ายอะไร ก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำมาอย่างไรซ้ำๆ ก็ย่อมที่ก่อผลเหมือนกันนะในอนาคต . แต่ว่าท่านเองก็ได้ถือว่าเป็นที่เป็นรักใคร่ของเหล่าเทวดาก็ด้วยเหตุที่ท่านเคยได้ทำมาแต่ก่อน ครั้งอดีตท่านก็ได้เกิดเป็นพระราชาอยู่เมื่อเกิดเป็นพระราชาด้วยอุปนิสัยที่ใฝ่ไปในทางธรรม ก็จึงให้ประชาชน ให้ราษฎร เขาได้ถือศีล 5 ศีล 5ก็เรียกว่าเป็นของที่บางทีก็อยู่คู่โลกมาอยู่แล้วนะ ไม่ใช่ว่าต้องมีเฉพาะในยุคที่มีพระพุทธศาสนา จะเห็นว่าศีล 5 คล้ายๆกฎหมายเลย ถ้าใครเขาประพฤติปฏิบัติในสังคมนั้นก็จะสงบร่มเย็นนั่นเอง ในคราวที่ท่านได้เกิดเป็นพระราชา ท่านก็ได้ชักชวนมหาชนให้ได้ประพฤติดำรงตนอยู่ในศีล 5 ดำรงตนอยู่ในธรรม และเมื่อได้ละอัตภาพนั้นไปนะประชาชนที่ได้เกิดอยู่ในราษฎรท่านเนี่ยเป็นราษฎรท่าน เรียกว่าเมื่อดำเนินอยู่ในวิถี จิตใจไม่ได้เกิดความเบียดเบียน ไม่ได้ก่อให้เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจขึ้นมาในจิตใจ ก็เรียกว่าได้ไปอุบัติในภพที่เรียกว่าเทวดานั่นเอง ซึ่งเมื่อได้เกิดเป็นเทวดาแล้ว ก็เรียกว่ามีความรักใคร่แก่ผู้ที่ได้มอบหนทางแก่ผู้ที่ทำให้ตนได้มีความสุขได้มีความสุขเสวยสุขในเทวดาไป ก็ได้น้อมระลึกถึงท่านพระราชาในครั้งนั้น ซึ่งได้มาอุบัติขึ้นเป็นท่านปิลินทวัจฉะในคราวนี้นี่เอง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 22 เมษายน 2567 #พระปิลินทวัจฉเถระ #วาทะว่าคนถ่อย #เอตทัคคะในทางผู้เป็นที่รักใคร่ของเทวดา #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..อย่างเรื่องราวในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากว่าท่านจะตรัสรู้ธรรม เจ้าชายสิทธัตถะกว่าจะบรรลุอรหันตสัมมาสัมพุทธะก็ต้องอาศัยความยากลำบาก กว่าจะบำเพ็ญบารมีมาตั้งสี่อสงไขยกับอีกแสนกัป ก็ใช้เวลายาวนานและในช่วงปรมัตถบารมีต้องอาศัยใจที่เข้มแข็งนะ นึกถึงคุณธรรมได้นะ นึกคุณธรรมของพระองค์ นึกถึงคุณของพระรัตนตรัย คุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ..ก็เป็นอะไรที่ทำให้มีกำลังใจนะ เป็นกำลังใจ นึกถึงคุณพระธรรม คุณพระพุทธ คุณพระธรรม พระสงฆ์ ที่สำคัญคือคำสอนที่เป็นอมตะ พระศาสดาล่วงลับไปก็จะมีพระธรรมวินัยเป็นตัวแทนนึกถึงคำสอนพระองค์ขึ้นมาก็จะเป็นอมตะ คำสอนก็เป็นอมตะตลอดกาล นำมาประพฤติปฏิบัติก็ดับทุกข์ได้จริง ๆ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ก็จะเหลือแต่คำว่าพระธรรมนะ นึกถึงพระธรรมคำสอนที่สำคัญ คือ การน้อมนำมาปฏิบัติก็เหมือนอยู่ใกล้ชิด อยู่ไม่ไกล มีสติสัมปชัญญะอยู่ ยิ่งเรานึกถึงอริยมรรคมีองค์ 8 ที่เรียกว่าพระองค์ตรัสถึงเป็นกัลยาณมิตรของพระพุทธองค์ เราก็นำมาอย่างน้อยสัมมาทั้ง 8 ต้องท่องได้นะ อยู่ในหัวใจเพราะเป็นเส้นทางการยกระดับจิต.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 21 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เรียกว่า #เป็นไปเฉพาะตน ไม่ใช่อะไรที่เราจะเอามากระทำแล้วมันเหมือนกัน แล้วมันเดินตามทางกันเป๊ะๆเลย .. แต่ระหว่างทาง ให้รู้ไว้เลยว่า #ถ้าเดินถูกทางความทุกข์ในชีวิตเรามันจะค่อย ๆ ลดน้อยลงไปทีละอย่างทีละอย่าง เหมือนเราเดินทาง ตั้งเป้าไว้เลยเดินไปเชียงใหม่ สมมติว่าปลายทางอยู่เชียงใหม่แล้วกัน เส้นทางให้รู้เลยว่า ตัวเรามันจะค่อยๆเบาลง ภาระที่เราแบกไประหว่างเดินทาง มันจะค่อย ๆ เบาลงไปนะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 21 เมษายน 2567 #การเดินทางด้วยปัญญา #เส้นทางเฉพาะตน #ทุกข์น้อยลง #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"วันพักผ่อนนะ เราก็ให้ใจได้พัก ใจได้พักก็ได้ให้อยู่กับองค์กรรมฐานนี่แหละนะ มีกรรมฐาน มีเครื่องอยู่ ..ถ้าาใจไม่มีกรรมฐาน ไม่มีหลักใจ ไม่มีกายคตาสติเป็นเสาหลัก ก็เพลิดเพลินไปกับรูป รส กลิ่น เสียงทั้งหลาย พอเพลิดเพลินไป ..เพลินอยู่กับสิ่งใด ก็ย่อมเพลินอยู่กับสิ่งที่เป็นทุกข์ ..เพลินอยู่กับสิ่งที่เป็นทุกข์ ก็ย่อมเกิดทุกข์ขึ้นมานะ รูป รส กลิ่น เสียงทั้งหลายก็เป็นของร้อนนะ ร้อนอกร้อนใจ มีโทษมาก มีความสุขนิดเดียวเองนะ เป็นความสุขที่ไม่คุ้มค่ากับความทุกข์ แต่ถ้าเราพรากออกในช่วงเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมงที่เจอกันก็พรากออกแล้วนะ เดี๋ยวใจก็จะค่อย ๆ เดินทางเข้าสู่สมาธิโดยธรรมชาติเลยนะ เพราะไม่ไปก่อเหตุ ไม่ไปก่อเหตุคือความเร่าร้อน ร้อนอกร้อนใจ ติดกล้องกับกามคุณทั้งหาย สงัดจากกาม และอกุศลธรรม ก็จะเดินทางเข้าสู่ปฐมฌาน มีวิตกวิจารปีติสุขเอกัคคตา ไม่มีส่วนไหนของกายเลยที่ปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวกไม่ถูกต้อง .. หลังจากนั้นก็จะค่อยค่อยเดินทางต่อนะ ความสงบตั้งมั่นมากขึ้น รู้ตัวไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ …บางท่านอาศัยลมหายใจ บางท่านอาศัยความรู้สึกตัว รู้สึกถึงกายที่นั่งอยู่ รู้สึกทั้งตัวไปได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ .. ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 20 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..สำหรับผู้ที่เห็นคุณท่านและก็ตอบแทนคุณตอบ ก็เรียกว่า เป็นอุปนิสัย เป็นคุณธรรมที่พึงมีในจิตใจนะ . แม้ว่าเหล่าสุนัขจิ้งจอกจะดูเป็นผู้ที่ยากไร้ หรือว่าไม่ได้มีพละกำลังอะไรมาก ทีนี้ท่านผู้ที่เป็นราชสีห์ก็ยังตอบแทนอยู่เลย .. ก็ด้วยความรู้สึกว่าการที่ผู้ใดก็ตามมีคุณธรรมอันเป็นมิตร .. เป็นมิตร ก็คือ มีความปรารถนาดีให้แก่กัน .. ก็เรียกว่า เป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมานะ ไม่ได้ด้อยไปด้วยกำลังเลย ทีนี้ในแง่มุมของเราเนี่ยผู้ที่ด้อย บางทีก็ได้ด้วยกำลังบ้าง ด้อยด้วยด้วยโภคทรัพย์บ้าง อาจจะไม่ได้มีเงินทองนะ แต่ถ้าจิตใจเขาเนี่ยมีคุณธรรมอยู่เต็มเปี่ยม ก็เรียกได้ว่าเป็นผู้ที่ควรจะคบค้าสมาคมด้วย เพราะว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากอยู่ . เพราะว่าบางทีคนเราเหล่านั้นด้วยความที่เขามีคุณธรรมอยู่ในจิตใจนะ สิ่งที่เขาจะนำให้เราเข้าไปใกล้ ก็คือ สิ่งที่เรียกว่าคุณธรรมนี่แหละ บางทีเขาอาจจะนำให้เรามาใกล้พระพุทธศาสนาด้วยซ้ำนะ เราก็ไม่รู้หรอก . เรียกว่าเป็นเรื่องราวชาดกในครั้งสมัยพุทธกาลแล้วกัน ให้เราได้นำมาฟังเผื่อจะได้แง่มุมในหลายๆแง่มุมนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเราก็ได้ การวางใจ การประพฤติกับบุคคลอื่น.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 20 เมษายน 2567 #คุณชาดก #มิตรธรรม #ธรรมของมิตร #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ในสมัยพุทธกาลเป็นเรื่องราวของสองสามีภรรยาที่บรรลุพระอรหันต์เมื่อตอนอายุแก่ เรื่องราวก็มีอยู่ว่า ในครั้งหนึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปที่เมืองสาเกต มีพราหมณ์คนหนึ่งเห็นพระพุทธองค์ก็ได้เข้ามากราบ มากราบเสร็จก็เลยบอกว่าพรามณ์เนี่ย เขาก็คือบิดาของพระองค์ พระองค์เป็นบุตรของเขา ก็นิมนต์พระองค์ไปที่บ้านนะไปที่บ้าน เพราะว่าบรรดาบุตรก็ย่อมดูแลบิดามารดานะ ก็เลยนิมนต์ไปที่บ้าน พระองค์ก็รับนิมนต์ ไปที่บ้าน ก็ไปเจอภรรยาของพราหมณ์ ภรรยาของพราหมณ์ก็เตรียมจัดแจงเสนาสนะ เตรียมอาหารถวาย พระองค์ก็ได้ไปฉันที่บ้านของพราหมณ์สองสามีภรรยา แล้วก็เหล่าพระภิกษุสงฆ์ก็ตามไปด้วย พราหมณ์ก็นิมนต์ให้พระพุทธองค์มาฉันที่บ้านในทุก ๆ วัน พระองค์ก็ตรัสว่าพุทธเจ้าไม่สามารถไปที่ที่เดียวได้นะ จะต้องเสด็จจาริกไปในที่ต่าง ๆ ไม่สามารถไปที่บ้านโยมคนใดคนหนึ่งได้ พราหมณ์ก็บอกว่างั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวถ้าอย่างนั้นเนี่ย ถ้าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน ก็ให้คนมาบอกพราหมณ์ละกัน เดี๋ยวพราหมณ์จะตามไป ตามเอาอาหารไปถวาย ตามนำข้าวปลาอาหารไปถวายในที่ที่พระองค์เสด็จไปฉัน พระองค์ก็รับนิมนต์นะ ..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 19 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ถ้าใจไม่ได้มีความตั้งมั่นมากพอ ไม่ได้อาศัยการฝึกฝนจนมีสติสัมปชัญญะ จนมีสัมมาสมาธิที่ตั้งมั่นมากพอ จะไม่เห็นว่าสิ่งทั้งหลายก็เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่ เมื่อสิ่งทั้งหลายเปลี่ยนแปลงไป .. ถ้าใจไม่ได้รู้ตามความเป็นจริง เข้าไปจับฉวยเอาไว้เมื่อไหร่เข้าไปยึดถือไว้ไปกอดไว้เลย .. ความทุกข์ความบีบคั้นมันจะก่อขึ้นมาในใจ ที่นี้ใจเราก็เริ่มจะเริ่มเดืออดเนื้อร้อนใจแล้ว ใจจะเริ่มมีความทุกข์เกิดขึ้นมา ถ้าไม่เห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปเองตามเหตุตามปัจจัย เป็นไปเองอยู่แล้วนะ ดำเนินไปเอง ใจก็จะไม่มีปัญญาเกิดขึ้นมา ก็จะหลงผิดอยู่ตลอด ทีนี้ใจก็จะเริ่มอยู่กับความทุกข์ได้อย่างตลอดนะ นี่ก็เรียกว่าเป็นกระบวนการที่ ถ้าเราเข้าใจนะ เข้าใจว่าขันธ์ทั้ง5แบบนี้ทำงานได้เอง เป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ทุกข์ในชีวิตเรามันก็จะค่อยๆลดน้อยลงไปเอง เรียกว่า ก็ต้องอาศัยการฝึกฝน พัฒนาสติขึ้นมาก่อน ถ้าไม่มีการฝึกฝนเนี่ยเรียกว่าใจเราย่อมที่จะหลงผิดไปนะ หลงผิดในความเป็นเรา จากการที่เกิดการสัมผัสทางตาหูจมูกลิ้นกายใจนึกขึ้นมาทีละเล็กละน้อย ก็ในส่วนของธรรมวันนี้ ถ้าเราตั้งเป้าไว้ให้ถูกก่อนนะว่า กายใจรูปนามขันธ์ 5 ให้เห็นไว้เลยว่าเป็นธรรมที่เป็นไปเองอยู่แล้วนะ ไม่ต้องมีเราเข้าไปยึดถือเนี่ย ก็เรียกว่าเขาก็ดำเนินไปเองอยู่แล้ว ใจเราไม่ต้องทุกข์ซะด้วยซ้ำ ถ้าตั้งเป้าไว้ก่อนเนี่ย ในการปฏิบัติธรรมเราก็จะดำเนินไปด้วยวิถีที่มันเรียบง่ายมากขึ้น เพราะว่าเป็นไปเพื่อรู้ธรรมอันเกิดขึ้นตามความเป็นจริงนั่นเอง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 19 เมษายน 2567 #ขันธ์5ไม่ใช่เรา #ละความเห็นผิด #เห็นตามความเป็นจริง #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"#ตอบ ก็เป็นอาการที่เรียกว่าจิตยังไม่ถึงฐานนะ จิตไม่ถึงฐาน เข้าไปในอารมณ์ เหมือนเมื่อวานนะที่บอก เมื่อวานพึ่งเทศน์ไปนะ เวลาร้อน เข้าไปรู้ร้อน ..ร้อน เข้าไปรู้ว่าร้อน ..เย็น ก็เข้าไปรู้ว่าเย็น ..อากาศสบาย เข้าไปรู้ว่าสบาย ..ร้อน เดิน[ใน]อากาศร้อน ๆ ก็เข้าไปรู้ว่าร้อน หรือว่า ..โกรธ ก็เข้าไปรู้ว่าโกรธ ..อร่อย เข้าไปรู้ว่าอร่อย จะมีอยู่คำหนึ่งที่จะผุดมาเหมือนกันทุกคน คำว่า 'รู้แล้ว..ทำไม เมื่อไหร่จะดับ' เนี่ย เหมือนคำนี้ คำพูดออกมาจากจิต เมื่อไหร่จะหยุดหมุน.. เพราะมีเราเข้าไป เข้าไปคลุกวงใน เข้าไปคลุกในอารมณ์ มีเรากระโดดออกมาล่ะ จิตไม่ถึงฐาน ไม่ตั้งมั่นนะ จะเหมือนกัน จะมีคำหนึ่ง 'รู้แล้ว ทำไมไม่ดับ' ..โกรธก็ไปรู้ว่าโกรธ เอ..แล้วทำไมไม่ดับ เมื่อไหร่จะดับ ? เข้าไปอยู่กับการหมุน ๆ เอ..เมื่อไหร่จะหยุดหมุน จะรู้ ไม่รู้ ..ยังไงเขาก็หมุนแล้วก็จะดับไป..เป็นแบบนี้ไปอยู่แล้วนะ ธรรมชาติก็จะเป็นเช่นนั้น การเจริญจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน จิตต้องตั้งมั่นก่อนนะ ถึงจะเข้าไปเจริญจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 18 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..หลักสำคัญที่เราชาวพุทธปฏิบัติกันได้ก็ทำด้วยใจที่ปล่อยวางแล้วกัน #ทำด้วยใจที่ปล่อยวาง ใจไม่ได้จะเอาอะไรนะ ไม่ได้จะมีอะไร ไม่ได้จะเป็นอะไร . ก็ใช้ได้ในทุกแง่มุมนะของการปฏิบัติธรรม จะให้ทานก็ได้ ให้ทาน รักษาศีล การเจริญภาวนา . ถ้าทำด้วยใจที่ไม่ได้คาดหวังอยู่แล้ว ว่าตัวผู้กระทำเองต้องได้รับอะไรตอบแทน ทีนี้ใจเราจะทำด้วยความปลอดโปร่งไปมากเลย จะให้ก็สบายนะ จะรักษาศีลประพฤติข้อวัตรข้อปฏิบัติ เรียกว่าเรียนรู้สิกขาบททั้งหลายเนี่ย จิตใจก็สบาย พอใจสบายเราก็จะเห็นผลนะ เห็นผลจากการได้เรียนรู้สิกขาบทต่าง ๆ . แม้แต่ศีล 5 ถ้าเราบางทีนะ เราทำด้วยใจที่มีความคาดหวังแล้วกัน คาดหวังว่าทำแล้วเราต้องได้อะไรตอบแทน ก็ถ้าใจนะเริ่มด้วยตัณหาซะแล้วเนี่ย อยากมีอยากเป็นก็ตามนะ ปลายทางเรียกว่า ก็ได้ไม่เต็มยอดหรอก . ซึ่งถ้าเราประพฤติ เราวางใจได้ถูกแต่ต้น ก็วางใจว่าสิ่งเหล่านี้ก็เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสอยู่แล้ว เรียกว่า #เอาออก ซะมากกว่า ก็มองไว้ว่าประพฤติปฏิบัติแล้วมีอะไรที่เรายึดถือมันได้หายไปบ้าง อันนี้ก็เรียกว่าจะเกิดประโยชน์แก่ผู้ได้ศึกษาปฏิบัติมากกว่า . แต่ในทางตรงกันข้ามนะถ้าตั้งจิตตั้งใจ ไว้แต่แรกว่าเรามาเรียนรู้ศึกษาปฏิบัติธรรมแล้วเนี่ยเพื่อที่จะเอาอะไรก็ตาม จะเป็นความมีความเป็นทางโลกก็ตาม ความมีความเป็นทางธรรมก็ตาม ก็เรียกว่าปฏิบัติไป จิตใจก็จะได้รับความที่ว่าเป็นของหนักละกัน เข้ามาทีละเล็กละน้อยแล้ว . ทีนี้ก็อยู่ที่จิตใจแต่ละคนแล้วนะว่า ถ้าคาดหวังไว้แต่ต้น พอสิ่งเหล่านั้นมันได้มาทีละเล็กละน้อยเนี่ยอยู่ที่กำลังปัญญาของแต่ละคนแล้วว่าจะเห็นทุกข์ได้มากขนาดไหนนะ ถ้าบางคนไม่เห็นทุกข์เลย ก็เรียกว่าสะสมไปเรื่อยๆ ความมีความเป็น .. แม้สิ่งที่เราจะทำเองจะดีก็ตามนะ จะเป็นฟากของกุศลก็ตาม แต่สิ่งนี้ก็เป็นของหนักได้นะ #สิ่งที่เป็นกุศลก็เป็นของหนักได้สำหรับผู้ที่ไปยึดถือนั่นเอง .. ถ้าผู้ไม่ไปยึดถือ ก็เรียกว่าเบาอยู่ตลอดเวลาที่ทำเลย แม้หลังทำก็เบานะ ผลก็คือ ความเบาจิตเบาใจนั่นเอง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 18 เมษายน 2567 #เวลามสูตร #การให้ทานที่มีผลมาก #ผลแห่งทาน #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"จิตตั้งมั่นไม่เข้าไปหาอารมณ์ จิตตั้งมั่นอยู่ จิตตั้งสำคัญมากเลยเนาะ พระองค์ก็จะตรัสถึงเหตุแห่งวิมุตติ 5 ประการ ก็คือถ้าปฏิบัติตามเหตุนี้จะเป็นเหตุปัจจัยให้เข้าถึงวิมุตติ ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 ประการ ซึ่ง 5 ประการนี้ ทุก ๆ ข้อจะมีคำหนึ่งคือคำว่า 'จิตตั้งมั่น' สำคัญมากเลยนะ จิตตั้งมั่นเหตุแห่งการเข้าวิมุติ 5 ประการ มีอะไรบ้าง ? เราก็จะได้ฟังเป็นข้ออรรถข้อธรรม เป็นแง่มุมหนึ่ง เผื่อเราก็จะได้สร้างเหตุให้ถูกนะ ..ก็คือ [1] หนึ่งก็คือการได้ฟังธรรมและเข้าใจครับเข้าใจธรรมตามที่พระศาสดาหรือเพื่อนพรหมจารีแสดง พอฟังธรรมจากพระศาสดาหรือว่ามีสหธรรมิกจะไปฟังเทศน์ฟังธรรมจากพระศาสดามาบอกต่อนะ เธอรู้แจ้ง ..เธอรู้อรรถรู้ธรรมนั้นเนี่ยย่อมเกิดปราโมทย์ เกิดปิติ กายสงบ มีปัสสัทธิ ..ย่อมได้รับความสุข จิตย่อมตั้งมั่น นี่เป็นเหตุแห่งวิมุตประการที่หนึ่ง [2] ข้อที่สอง การได้แสดงธรรม แสดงธรรมที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาและมีความเข้าใจอรรถเข้าใจธรรมที่ตนแสดง พอรู้อรรถรูปธรรมนั้นก็เป็นเหตุปัจจัยให้เกิดปราโมทย์ เกิดปิติ กายสงบ ย่อมได้รับความสุข จิตตั้งมั่น ก็เป็นเหตุเข้าถึงวิมุตติประการที่ 2 การแสดงธรรม ผู้ที่จะแสดงก็ต้องเรียกว่ามีความเข้าใจในธรรมนะถึงจะแสดงออกมาได้ [3] เหตุที่ทำให้เข้าถึงวิมุตติได้ก็คือการสาธยายธรรมที่ได้ยินได้ฟังมา ศึกษาเล่าเรียนที่ได้ยินได้ฟังมาและเข้าใจในธรรทนั้นนะ บางทีเราก็สวดมนต์ สวดมนต์ หัวใจสำคัญนะบทสวดสำคัญเลยเนาะ 'ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร' 'อนัตตลักขณสูตร' ..เป็นพระสูตรที่ปัญจวัคคีย์ได้ฟังแล้วบรรลุพระอรหันต์ เพราะการจะบรรลุพระอรหันต์ สุดท้ายก็ต้องเห็นอนัตตานะ อนัตตาธรรมล้วน ๆ ก็เป็นหัวใจของการเดินทางสู่การพ้นทุกข์ ปฏิบัติไปด้วย ท่องไปด้วย มันจะมีเหลี่ยมมีแง่มุม บางทีเราฟังธรรม เราสาธยายธรรม จุดนี้ไม่เข้าใจ พอปฏิบัติไปด้วย กลับมาสาธยายใหม่ เริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น ต้องเข้าใจว่าบทสวดมนต์เนี่ยโยมก็อย่าไปมองเป็นบทสวดมนต์นะ ก็ลองมองเป็นมิติใหม่คือ 'คำสอนที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสเทศน์กับพระสาวกไว้' มองมุมนี้เนาะจะได้ก็เหมือนกับการที่เราได้ฟังธรรมจากพระองค์เหมือนกัน [4] ประการที่ 4 ก็คือการตรึกในธรรม ก็คือใคร่ครวญในธรรมที่ได้ฟังมา ได้ศึกษาเล่าเรียนมา บางทีเราได้ยินได้ฟังธรรมนะ ยกตัวอย่างเช่น 'ขันธ์ทั้ง 5 เป็นอนัตตา' ..เอ๋ จริงหรอ ? เราก็รู้สึกว่าเป็นเราอยู่ แต่ก็ลองไปพิจารณาดู ตรึกดู ..รูปก็ไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยงสิ่งนั้นเป็นทุกข์ ..สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา มันก็เริ่มน้อมมา น้อมเชื่อในสัจธรรมความจริงแล้ว จากการมาใคร่ครวญ ตรึกนึก พิจารณาจากประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา [5] การเข้าถึงวิมุติประการสุดท้ายก็คือการได้เล่าเรียนสมาธินิมิตมานะ เล่าเรียนสมาธินิมิตมา [คือ]ฝึกสมาธินั้นเองนะ ทำไว้ในใจด้วยดี เรียกว่า ทำไว้ในใจด้วยดี ทรงไว้ด้วยดี แทงตลอดด้วยดีด้วยปัญญา เรียกว่าการเข้าสมาธินั้นเอง ฝึกสมาธิฌานหนึ่ง สอง สาม สี่ พระองค์ก็ตรัสว่า 'สัมมาสมาธิจะเป็นเหตุปัจจัยให้น้อมไปสู่พระนิพพาน' จำไว้ได้ 5 ข้อนะ เราก็ลองดูนะ เราก็สามารถใช้ได้ทั้ง 5 ข้อเลยนะ [1] การฟังธรรมเป็นเหตุปัจจัยให้เขาถึงวิมุตติ [2] การแสดงธรรม [3] การสาธยายธรรม [4] การพิจารณาธรรม ใคร้ครวญธรรมที่ได้ฟังได้ยินมา และก็ [5] การทำสมาธิ สัมมาสมาธิ จิตตั้งมั่น เข้าถึงปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยะฌาน จตุตถฌาน ฌานทั้ง 4 เป็นเหตุปัจจัยให้น้อมไปสู่พระนิพพาน..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 17 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

" #การปฏิบัติธรรม #ก็ให้เป็นไปเพื่อความทุกข์ในชีวิตเราค่อยๆลดน้อยลง . แม้ว่าเรื่องจะไม่เป็นเรื่องเองก็ตามเนี่ย ขอให้สิ่งเหล่านั้นมันไม่ก่อความทุกข์ขึ้นมาในจิตใจ ก็เรียกว่า อยู่ในการปฏิบัติธรรมเหมือนกัน . ถ้าเหตุแห่งความทุกข์มันลดน้อยไปทีละเล็กละน้อย เรียกว่าค่อยๆเอาสิ่งที่เป็นอกุศลในใจค่อยๆเอาออกไป ทีนี้เราจะค่อยๆสังเกตธรรมะที่เกิดขึ้นในกายในใจได้ง่ายขึ้นนะ . .. ก็ให้แต่ละวันเราค่อย ๆ เอาทุกข์ออก .. เอาทุกข์ที่มีในใจออกไปทีละเล็กละน้อย . สังเกตเรื่องราวในชีวิตประจำวันเราก็ได้ ว่าสิ่งต่างๆที่มันกระทบขึ้นมาจะเป็นผัสสะ เกิดเป็นเวทนาทางกายก็ดี เวทนาทางใจก็ดี สิ่งนั้นเหล่านี้มีอิทธิพลต่อจิตใจเราขนาดไหน . ถ้ามีอิทธิพลมาก ยังกดหัวเราอยู่นะให้เกิดขึ้นมาแต่ละครั้ง มีความทุกข์เกิดขึ้นมาในใจ ก็ค่อยๆเห็นเหตุก่อน สืบสาวจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ได้ อย่างรถติดเองก็ตาม ติดไป ใจทุกข์ร้อน ช่วยหรือเปล่า? ก็ไม่ช่วยนะ แม้ว่าใจเราจะรีบไปแค่ไหนก็ตาม ถ้ารีบไปนะก็ไม่ได้เกี่ยวกับไฟเขียวไฟแดงที่เขาทำตามหน้าที่ของเขา ทำตามระยะเวลาเขาอยู่ . ยกตัวอย่างเรื่องราวนี้เราไปสืบต่อก็ได้ เอาไปขยายเป็นเรื่องราวที่เรากระทบในชีวิตประจำวันเราก็ได้ ถ้าใครประยุกต์ได้นะก็จะเห็นว่าความทุกข์ในใจเราเนี่ยบางทีไม่ได้มีเหตุให้เกิดนะ เกิดมาบางทีรู้สึกเลยว่าเกินความจำเป็น ถ้าเห็นแบบนี้ชีวิตเราจะสงบร่มเย็นได้ขึ้นมากเลย.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 17 เมษายน 2567 #การปฏิบัติธรรม #ไม่ก่อทุกข์ในใจ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..แต่ถ้าผู้ที่ไม่สำรวมอินทรีย์ ไม่มีกายคตาสติ ก็เรียกว่าเป็นผู้ที่ประมาณนะ เหม่อ เผลอสติไปกับรูป รส กลิ่น เสียง ก็เรียกว่าเป็นผู้ที่ประมาท ปราโมทย์ไม่มี ปิติไม่เกิด ปัสสัทธิไม่มี ..เขาย่อมอยู่เป็นทุกข์ พระองค์ก็ตรัสไว้ เขาย่อมอยู่เป็นทุกข์ ..พออยู่เป็นทุกข์ จิตไม่ตั้งมั่น ไม่เห็นธรรมตามความเป็นจริง แต่ถ้าเรามีหลักใจไว้ กายคตาสติ รู้ตัว จิตจะเคยคุ้นกับอุเบกขา และอาศัยความต่อเนื่องนะ ต่อเนื่อง แต่ไม่ได้เป็นเคร่งเครียดจดจ้องนะ เคร่งเครียด force จะเอาให้ได้นะ แค่รู้บ้าง เผลอบ้าง ก็ไม่เป็นไร ก็รู้ไป ก็รู้เนื้อรู้ตัวใหม่ไปเรื่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ วางใจถูกสำคัญนะ วางใจไม่ก่อสมุทัยไม่ก่อตัณหา จิตจะค่อย ๆ เดินทางขึ้นมาโดยธรรมชาติ เกิดการสำรวมอินทรีย์ กายคตาสติ เกิดปราโมทย์ เกิดปิติ ปัสสัทธิ มีความสุข ..ต้องมีความสุขนะ ถ้าไม่มีความสุข จิตไม่ตั้งมั่น ถ้าใจเครียดอยู่ ใครตั้งใจมากไป เครียดมากไป สังเกตดูเนาะ มีความสุขเป็นเหตุให้เกิดสมาธิ เมื่อเกิดสมาธิ สัมมาสมาธิ จิตตั้งมั่น ก็ย่อมเห็นธรรมตามความเป็นจริง เห็นรูป นาม ขันธ์ทั้ง 5 เกิดดับความเป็นจริงนะ เห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ..ย่อมเห็นตามความเป็นจริงแล้ว พระศาสดาท่านก็ตรัสว่า อริยสาวกนี่..เรากล่าวว่าเมื่อเห็นตามความเป็นจริงอยู่ ย่อมยุบ ย่อมไม่ก่อ ย่อมคว้างทิ้ง ย่อมไม่ถือเอา ย่อมทำให้กระจัดกระจาย ไม่ทำให้เป็นกอง ย่อมทำให้มอด ย่อมไม่ทำให้ลุกโพรง ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ..ก็คือให้กระจายขันธ์ออก.. 'กระจายขันธ์ออก' อันนี้สำคัญมากเลยเนาะ ถ้าจิตไม่ตั้งมั่น ขันธ์จะมารวมกัน จะประกอบความรู้สึกว่าเราเกิดขึ้นมา..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 16 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ศีล เป็นเครื่องงดเว้นไว้จากสิ่งที่เป็นบาป เป็นกรรม เป็นอกุศลทั้งหลาย ถ้าในแง่มุมของศีลอุโบสถ ก็เป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ท่านก็ทรงสรรเสริญว่า ทำแล้วมีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรืองมาก ก็เรียกว่า #ศีลอุโบสถอันประกอบด้วยองค์8 นั่นแหละ ทั้ง 8 ข้อนะพระองค์ก็ตรัสว่าเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทั้งหลายเนี่ยทำกันเป็นปกติ ก็คือวิถีชีวิตท่านอยู่ใน 8 ข้อนี้นั่นแหละ เรียกว่าทำกันตลอดชีวิตนะ ถ้าในแง่มุมที่พระองค์ตรัสไว้มีความเป็นอยู่ใน 8 ข้อนี้เป็นปกติ จนเรียกว่าไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปกระทำ ต้องมีเจตนาไปเป็นเครื่องงดเว้นไว้ ท่านตรัสไว้ว่าเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าทำกันอยู่เป็นปกติตราบชั่วชีวิตเลย ก็ในโอกาสวันพระ ก็เป็นโอกาสอันดีให้พวกเราทั้งหลายได้มีโอกาสมาทานรักษาศีล ศีลอุโบสถก็เรียกว่าในแง่มุมหนึ่งถ้าเราทราบว่าเป็นสิ่งที่พระอริยเจ้าเขาทำกันอยู่แล้ว ด้วยความเป็นปกติด้วยซ้ำ ก็ในวันหนึ่งก็มีโอกาสที่เราชาวพุทธจะได้มีโอกาสเข้าใกล้ความเป็นพระอริยเจ้ามากขึ้นทีละเล็กละน้อย ศีลอุโบสถก็การเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยได้เยอะ.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 16 เมษายน 2567 #ศีลอุโบสถ #ศีลของพระอริยเจ้า #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"ในสมัยพุทธกาล ก็มีแง่มุมหนึ่งที่มีปริพาชกเขาตั้งคำถามกันว่า คนมีเชื้อเหลือ..ก็เรียกว่ายังมีกิเลสอยู่..ตายแล้ว ต้องตกนรกไหม ? เขาคิดว่า บุคคลที่มีกิเลสอยู่ตายแล้วต้องตกนรกทุกคน เหตุการณ์ก็มีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง เป็นรุ่งเช้า พระสารีบุตรท่านก็ได้เตรียมห่มจีวร เตรียมบาตร สะพายบาตรอย่างดีเลย จะไปเตรียมตัวไปบิณฑบาตยามเช้าที่เมืองสาวัตถี พอเดินทางไปสักพักหนึ่ง รู้สึกว่ายังเช้าไป ยังเช้าไปอยู่ ญาติโยมก็คงยังจะไม่ออกมากัน ก็เลยแวะไปที่สำนักปริพาชกที่หนึ่งดีกว่า แต่พอไปที่สำนักปริพาชก เขาก็คุยกันนะ คุยกัน ..เขาก็บอกกันว่าบุคคลมีเชื้อเหลือ ก็คือยังมีกิเลสอยู่ ..ตายแล้วเนี่ยต้องตกนรกทุกคน เราก็รู้จักนะ โลภก็ดึงไปเป็นเปรต หลงก็ไปเป็นเดรัจฉาน มีโทสะขึ้นมามาก ๆ สร้างเหตุโทสะไว้มาก ๆ กริ้วมาก ๆ ก็ไปเป็นสัตว์นรก เขาก็คิดว่าถ้าใครยังมีกิเลสอยู่ ตายไปต้องตกนรกทุกคน พระสารีบุตรท่านฟัง ๆ นะ ผู้มีปัญญาฟังแล้ว ก็บางทียังไม่พูดอะไรนะ ไม่รับรอง ไม่คัดค้าน ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวไปบิณฑบาตเสร็จก่อน.. ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 15 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..สังขารทั้งหลายก็ให้รู้ไว้เลยว่าไม่พ้นจากคุณลักษณะอันเป็นปกติของธรรมชาติ คือ #ความไม่เที่ยง นั่นเอง . ถ้าสิ่งต่างๆเนี่ยเราเห็นได้ว่ามันไม่เที่ยงนะ มันไม่แน่นอน มันพร้อมจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเนี่ย ใจเราจะประพฤติ จะวางใจต่อสิ่งนั้นได้ถูก จะอารมณ์อันดีก็ตาม อารมณ์อันไม่ดีก็ตาม ถ้าเห็นว่า #เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ใจจะไม่เข้าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรกับมันมากนะ เพราะว่าเดี๋ยวมันมาเดี๋ยวก็ไป เดี๋ยวมันไปปุ๊บเดี๋ยวมันก็มาอีก . ธรรมชาติก็มีอยู่เท่านี้นะ ทีนี้ถ้ามันมาๆไปๆอยู่อย่างนี้เนี่ย เราจะไปอะไรกับมันได้ล่ะ เรานั่งอยู่เฉยๆให้มันไปเถอะ ให้สังขารมันทำหน้าที่ของมันไป มันจะปรุงดีบ้างนะก็เรื่องของมัน มันจะปรุงไม่ดีก็เรื่องของมัน เรียกว่า .. ช่างมันได้ .. ปล่อยมันได้ ก็ให้มันเป็นไปเถอะ . ทีนี้จิตใจก็จะไม่ไปข้องแวะกับมันแล้วนะ เรียกว่า .. อำนาจอิทธิพลของสังขารเริ่มไม่มีอิทธิพลกับจิตใจเรา . จิตใจเราก็วางเฉยได้ #วางเฉยด้วยการไม่ไหลตาม เพราะเห็นสรรพสิ่งตามความเป็นจริงแล้วเนี่ย ก็เป็นองค์ธรรมอันสำคัญเหมือนกันนะ ปฏิบัติไปก็ต้องเห็นตามความเป็นจริง ความไม่เที่ยง ความที่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเข้าไปยึดมั่นถือมั่นและใจเป็นทุกข์ขึ้นมาเลย ใจมีความรู้สึกว่าอยากจะให้สิ่งนี้เที่ยงแท้แน่นอน ทำไม่ได้นะ ถ้าทำได้เนี่ยก็ให้รู้ไว้เลยนะว่าชีวิตนี้เราอาจจะไม่พ้นทุกข์กันแล้วล่ะถ้าเราควบคุมอะไรให้มันแน่นอนได้ตลอด . ก็เป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้นะว่าถ้ารูปนามขันธ์ 5 นี้แล้ว ถ้าเที่ยงแล้วเนี่ยให้รู้ไว้เลยว่าหนทางแห่งความทุกข์แห่งความพ้นทุกข์เนี่ยอาจจะไม่มีเลยนะ แต่ข้อดีของการที่สังขารทั้งหลายมันไม่เที่ยงก็คือสิ่งนี้เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ จะเห็นความเปลี่ยนแปลง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 15 เมษายน 2567 #พรากออกจากอารมณ์ #อาการของจิต #สังขารคววามปรุงแต่ง #จิตไม่เที่ยง #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...แต่ถ้าเรามองในภาพใหญ่ ในชีวิตเรา บางทีเจอเรื่องร้าย ๆ เข้ามานะ เจออุปสรรค ปัญหา หนักอกหนักใจ ทุกวันนี้ก็ปัญหาเยอะเนาะ ปัญหาที่ทำงาน ปัญหาที่บ้าน ปัญหาครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ อะไรต่าง ๆ บางทีก็ติดขัด ติดขัด ติดปัญหาทั้งหลาย ..ก็เข้ามา บางทีชีวิตก็เหมือนมองหาทางออกไม่เจอ แต่ผู้ที่สร้างบุญกุศลไว้ดี สร้างเหตุปัจจัยที่ดีไว้ พอเจอเรื่องร้าย ๆ บางทีมันจะมีเหตุปัจจัยที่ทำให้หลุดออกมาได้นะ เราจะเริ่มสัมผัสได้นะ คุณงามความดีที่สร้างไว้ ไม่เคยหายไปไหนนะ ถ้ามองกันแบบเห็นกันแบบง่าย ๆ ..สร้างสติ สร้างความเคยคุ้นที่จะอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ฟังเทศน์ฟังธรรม พรากออกจากกาม รักษาศีล โยมบางทีเจอเรื่องทุกข์ สติเกิดเองนะ บางที ทำไมอยู่ ๆ อยากรักษาศีล 8 ขึ้นมาเอง อยากให้เนกขัมมะเอง อยากตื่นแต่เช้ามาเดินจงกรมนั่งสมาธิ มาไหว้พระสวดมนต์เอง ..เป็นอานิสงส์ทั้งนั้นเนาะ จากการที่เพาะบ่มสร้างคุณงามความดีในจิตใจ แล้วทำไมเรื่องใหญ่ ๆ จะไม่เกิดขึ้นได้ล่ะ ?..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 14 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

#ไม่ปล่อยใจไหลไปตามกิเลส #แก้ที่ต้นตอ #เหตุแห่งทุกข์ .. เพราะว่ามีเหตุอยู่ มีเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์อยู่ในจิตใจ ก็เรียกว่า เกิดจากความหลงผิดก็ได้ ความหลงผิดที่เป็นทุนเดิมในจิตใจอยู่แล้ว . การที่คนทั่วไปเขาไปแสวงหาความสุขเข้ามาทับถมเข้ามาทักถมความทุกข์ที่มีอยู่เดิม ก็เรียกว่าเป็นการกลบหน้าไป เหมือนเอาอะไรมายัดใต้พรม พรมก็ดูจะสะอาดนะ ดูจะสงบเรียบร้อยดี แต่ว่าเศษฝุ่นเศษอะไรมันก็ยังกองอยู่ข้างล่างอยู่แค่เอาพรมออกขึ้นมาก็เจอแล้วนะกองขยะข้างใต้ที่ซ่อนอยู่ . ก็เปรียบเหมือนความทุกข์นะ ความทุกข์ ถ้าเราไม่ได้ไปจัดการที่ข้อประพฤติข้อปฏิบัติที่ไปแก้ไขที่ต้นตอ คนทางโลกเนี่ยเขาก็จะรู้สึกว่าการที่เขาได้หาอะไรทำ ดูหนังฟังเพลงก็ดี หาความสุขชั่วคราว มาโปะหน้าไว้เนี่ย เหมือนว่าจะเป็นการแก้ทุกข์ได้แล้วนะ ถ้าอย่างช่วงสงกรานต์ก็ไปสาดน้ำกันให้ร่างกายเนี่ยมันได้รับความเย็นขึ้นมา ก็ทำได้แค่ชั่วครู่ชั่วคราว ทำได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น . แต่ถ้าจะจัดการกับที่ต้นตอจริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าไปหาความเย็น หาความสุขความสบาย เข้ามาโปะหน้าไว้นะ . แต่ว่าเป็นการเอาความทุกข์ที่มันมีอยู่แล้วในจิตใจออกไปทีละเล็กละน้อย ซึ่งถ้าใครเอาออกไปได้หมดเนี่ย ก็เรียกว่า ความทุกข์ก็ไม่มี . #ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความทุกข์ไม่มี #ใจจะพบกับความสุขขึ้นมาได้เอง . อันนี้จะเป็นคนละมุมกันเลยนะกับการวิ่งไปแสวงหาความสุข เข้ามาแก้ขัดความทุกข์ที่มันเผชิญในชีวิตเรา แต่ถ้าปฏิบัติได้ถูกหลักนะ ถูกหลักตามที่พระพุทธองค์ท่านสอน เปรียบได้กับการนำทุกข์ออกไปทีละเล็กละน้อย ก็ได้ข้อปฏิบัติที่เราก็อาจจะคุ้นเคยกันอยู่นะ .. เรื่องของทานก็ดี .. เรื่องของการรักษาศีลก็ดี .. เรื่องของการเจริญภาวนาก็ดี . กิจอันเบื้องต้นนี่แหละ แต่ว่าแก้กันที่ต้นตอเลยนะ เรียกว่าเป็นการเอาความร้อนในจิตใจออกไปทีละเล็กละน้อย ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 14 เมษายน 2567 #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...เวลามีอารมณ์หนึ่งต้องรีบออกมานะโยมนะ ต้องรีบออกมา รีบออกมามีสติ ตื่นขึ้นมาก่อน สร้างความเคยคุ้นที่จะอยู่กับความสงบ ทุกครั้งที่มีสติ จิตจะเปลี่ยนทาง อยู่กับความสงบ อาศัยลมหายใจก็ได้ มีกรรมฐานนะ อาศัยลมหายใจ อาศัยทำความรู้สึกตัว รู้กายที่นั่งอยู่ จิตจะเริ่มเปลี่ยนทาง จะเริ่มคุ้นกับความสงบ ทั้งที่ความสงบเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีนะ ความสงบร่มเย็น แต่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ได้ไม่นานนะ เพราะว่าความเคยคุ้นเก่าดึงไว้ ความเคยคุ้นเก่าดึงไว้ อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง กิเส ตัณหา มันก็ดึงไว้ มีความเคยคุ้นเหมือนกัน เคยคุ้นที่จะดึงไปกับกระแสโลก ต้องอาศัยความเพียรนะ ฝึกฝนอบรมพัฒนาจิตใจ ให้ใจได้อยู่กับความสงบซะส่วนใหญ่ เขาจะไม่ค่อยเอาความร้อนทั้งหลาย ความทุกข์ร้อน ความร้อนอกร้อนใจทั้งหลายมันก็กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม ชีวิตก็ร่มเย็นเป็นสุขขึ้นมา มันก็ต้องแลกเนาะ ชีวิตเราจะอยู่กับกิเลสจนป่วยเป็นโรค ..โรคจิตมั่นถือมั่นบ้าง ..โรคเครียดบ้าง หรือว่าเราก็จะให้ความสำคัญกับพระธรรม นำพระธรรมมาปฏิบัติธรรม ..อย่างน้อยก็มีศีลนะ มีสติสัมปชัญญะ รู้เนื้อรู้ตัวอยู่ ต้องมีกรรมฐาน มีหลักของใจ มีกายคตาสติเป็นหลักของใจ มีเสาเข็มเสาหลักปักลงให้มั่นที่ฐานกาย อยู่กับฐานกาย ใจสงบร่มเย็นเป็นสุข อยู่ไปเรื่อย ๆ จิตก็จะค่อย ๆ สงบขึ้นมา ตั้งมั่นขึ้นมา ก็จะเดินทางเข้าสู่ปฐมฌาน สงัดจากกามและอกุศลธรรม ชีวิตก็ร่มเย็นนะ ใจปราศจากตัณหาก็ชิน ชินความสงบร่มเย็น..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 13 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..สงกรานต์ ทางบาลี “สังกันตะ” “สัง” แปลว่าพร้อมไปด้วย ถ้าโดยความหมายแล้ว แปลว่า ก้าวล่วง ก้าวเดินไปข้างหน้า ก็หมายถึงระยะเวลาที่ผ่านไปครบ 1 ปี . แต่ถ้าเราจะเอาความหมายที่ลึกซึ้งไปกว่านั้นเนี่ย ในความเป็นจริง ในด้านของสภาพธรรม เวลาเกิดขึ้นจากการที่เราได้ดำริจุดเริ่มมาก่อน แต่ถ้าเราไม่เคยจับมาก่อนเลยว่าเราจะเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ในทุกๆขณะนั้นก็มีแค่ปัจจุบันขณะเท่านั้น ก็มีแค่ปัจจุบันธรรมนั่นเเหละที่ผ่านไปๆ มีแค่ความรู้สึกที่ไหลเวียนเปลี่ยนผ่านไปเรื่อยๆ ความเป็นจริงแล้วก็มีอยู่เท่านี้นี่เอง . แต่ในทางโลก ถ้าคนที่ต้องใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้คำนึงถึงสภาพของสิ่งที่เป็นนามธรรมบ้าง ในด้านของจิตใจก็ต้องหาอะไรที่จับต้องได้ง่ายหน่อย ก็ใช้ปฏิทินก็ได้เป็นช่วงระยะเวลาก็ได้ ถ้าไม่จับนะไม่เอาอะไรมานับ ก็สื่อสารกันยาก พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง . ถ้าในความหมายที่เรารู้จักกันก็สงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ไทยนั่นเอง ปีใหม่ก็แปลว่า ณ วันนี้เมื่อปีที่แล้วก็เวียนมาครบ 1 ปีพอดี . ซึ่งระยะเวลาแล้วก็หมุนไปตลอดนะ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเปลี่ยนแปลงโดยปัจจุบันขณะนี่แหละ แต่พอนับกันไปนับกันมา ก็คบไป คบวินาทีบ้าง คบนาทีบ้าง ครบชั่วโมงบ้าง ก็ไปวันหนึ่งผ่านไป เดือนหนึ่งผ่านไป ปีหนึ่งผ่านไป . สิ่งที่สำคัญนะที่เราได้พึงตระหนักกันก็คือว่า .. เวลาในจิตใจเรามีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนะ .. แต่ระดับคุณภาพจิตใจเราได้เปลี่ยนแปลงไปตามระยะเวลาที่ไหลเวียนเปลี่ยนไปหรือเปล่า . สำคัญนะของชาวพุทธเราได้มีโอกาส ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในพบพระพุทธศาสนาด้วยแล้ว แต่ละวินาทีนมีความเปลี่ยนแปลงไหมในจิตใจเรา หรือใครทำอะไรในปีก่อนๆในปีนี้ก็ยังทำอยู่แบบนั้น . อันนี้ก็มองได้หลายมุมนะ ถ้าเรายกระดับคุณภาพจิตใจไว้ดีแล้ว ใจไม่ทุกข์เลยเรียกว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ แต่ว่าก็ยังพัฒนาต่อยอดได้อีก เรียกว่าถ้าเหตุแห่งทุกข์ยังมี ก็ยกระดับจิตใจขึ้นไป ให้ปีหนึ่งที่ผ่านไปให้เราได้เรียนรู้สัจธรรมความจริงของธรรมชาติมาบ้าง ก็อาจจะเป็นเหตุให้ทุกข์ที่เกิดขึ้นในจิตใจเรานั้นมันค่อยๆลดน้อยลงไป . แต่ในทางกลับกันเลย ในอีกมุมหนึ่งนะถ้ามีแค่ระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปเนี่ยแต่จิตใจยังอยู่เท่าเดิมเลย เรียกว่าปีก่อนหน้าเป็นอย่างไร ในปีนี้เป็นอย่างนั้นเลย มีความทุกข์เกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหนก็คงไว้เท่านั้น ก็ในอีกมุมหนึ่งก็ยังดีนะ ใจไม่ทุกข์มากก็ดีแล้ว . แต่ถ้าในมองในมุมด้านของธรรมะ ก็เรียกว่าเสียโอกาสอยู่ ในแต่ละวันที่ล่วงเลยไปถ้าเราอาศัยการฝึกฝนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจหายไปทีละเล็กละน้อยอยู่แล้วนะ เรียกว่าจะค่อยๆลดน้อยลงไปนะเป็นเรื่องธรรมดา . แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลยให้แต่ละวินาทีที่ผ่านไป มีการกระทบ มีสติสัมปชัญญะรับรู้แต่ละครั้ง ปล่อยไปเลย ปล่อยให้โอกาสที่เราจะได้ฝึกฝนเรียนรู้ธรรมะเนี่ยเลยผ่านไปล่องลอยผ่านไปเหมือนระยะเวลา ก็เรียกว่า เสียโอกาส นั่นเอง เราก็จะได้ใช้ชีวิตให้เหมาะสม ให้เข้ากับสิ่งที่เรียกว่าวันสงกรานต์จะได้ก้าวล่วงล่วงเลยไปโดยการพัฒนาจิตใจไปด้วย.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 13 เมษาคม 2567 #วันสงกรานต์ #ก้าวหน้า #ยกระดับจิตใจ #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

Q ตั้งใจปฏิบัติดีแล้วทำไมอกุศลยังเกิดอยู่ ? "...โยมจะเริ่มเห็นอริยสัจ จะเห็นเหตุแล้ว ต่อให้เจริญกุศล เจริญกุศลไป จะเริ่มเห็นเหตุ แต่มันมีอะไรดันมา เป็นนิวรณ์ที่ดันมา ดันมาจากอาสวะ ก็มาจากอนุสัยเนี่ยแหละ จะเริ่มเห็นเหตุแล้ว จะเริ่มเห็นเหตุแล้วว่าสิ่งที่เคยก่อไว้ ตามมาหมดนะ ..ความเคยคุ้นที่ไปก่อไว้ทั้งหมด นิสัยที่ไม่ดีที่ไปทำไว้ทั้งหมด มันก่อเป็นเหตุ แล้วส่งเป็นผลมาทั้งหมด ..ที่ผุด ๆ มาเนี่ยก็ใช้เวลานะ แต่ก็อยู่ในเส้นทางที่จะลดละเลิกก็ทำถูกแล้ว รักษาศีล และเจริญภาวนาต่อเนื่องกันไป.. ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 12 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..การประพฤติ การปฏิบัติ ทำอะไร ถ้ามีสัมมาทิฐิไว้ เดี๋ยวข้ออื่นๆจะกลายเป็นสัมมาขึ้นมาได้เอง เรียกว่า .. ถ้าเรามีสัมมาทิฏฐิเป็นองค์นำ .. ก็เปรียบเหมือนเห็นรุ่งอรุณของธรรมทั้งหลาย . . บางทีถ้าเราละเลยสัมมาทิฏฐิไป ศีล 5 เราก็ละเมิดล่วงละเมิดได้ง่ายนะ บางทีคนไปตั้งใจฝึกในภาคของจิตตสิกขาเลย ศีลก็ไม่สนใจ ในขั้นปัญญาก็ไม่สนใจ ซึ่งในสิ่งที่เรียงตามอริยมรรค ก็จะมี #ปัญญาเป็นองค์นำ มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ เป็นองค์นำ ก็จะประกอบไปด้วยปัญญา มีศีล และสมาธิ แต่ถ้าเราเอาสิ่งที่เราคุ้นเคยกันอยู่ตลอด ก็จะคุ้นเคยกับคำว่า ศีล-สมาธิ-ปัญญา กันเสียมากกว่า แต่ในภาคปฏิบัติที่เรียงกันอยู่ในมรรคเลยเนี่ย ท่านเอาปัญญาเป็นองค์นำนะ มีสัมมาทิฏฐิเป็นองค์นำ ถ้าเรามีปัญญาเป็นองค์นำเสียแล้วเนี่ย ให้รู้ไว้ก่อนเลยว่า องค์อื่นๆที่จะตามมาเนี่ยเป็นขั้นของการปฏิบัติในส่วนของศีลก็ตาม ในส่วนของการพัฒนาทางจิตใจและการเจริญภาวนาก็ตาม ก็เรียกว่าปลอดภัยนะ ปลอดภัย ปฏิบัติไปแล้วไม่ได้รับผลข้างเคียง ผลข้างเคียงจากความเห็นผิดเป็นทุนเดิม เราเข้ามาสู่ขั้นตอนของการยกระดับพัฒนาจิตใจกันเลยนะ แต่ไม่ได้มีปัญญาตามมาด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ จิตใจที่เราเอามาฝึกเอามาฝืนเอามาขัดเกลา จิตตัวนี้ยังมีกำลัง มีกำลังในอีกฟากหนึ่งที่ไม่ใช่สัมมาทิฏฐิ เมื่อตัวนี้มันอ้วนพลีมันออกกำลังกายได้อย่างดีแล้วนี้ ที่นี้แหละจะให้วางก็วางยากแล้วนะ ถ้าฝึกใช้ตัวนี้มาตลอด เพราะฉะนั้นแล้ว การใช้ชีวิตเราแล้วก็ให้กลับมาย้อนดูกันสัมมาทิฏฐิไว้ก่อน.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 12 เมษาคม 2567 #สัมมาทิฏฐิ #รุ่งอรุณแห่งธรรม #ปัญญา #ศีล #สมาธิ #อริยมรรคมีองค์8 #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ในสมัยพุทธกาล ก็มีภิกษุ ท่านมีความเห็นที่ไม่ตรงอยู่ท่านหนึ่ง ชื่อ พระยมกะ ..ยมกภิกษุท่านมีความเห็นที่ไม่ตรง เรียกว่ามีทิฏฐิชั่วแล้วกันเนาะ ในพระไตรปิฎกก็ใช้คำว่า 'ทิฏฐิชั่ว' เรียกว่ามีมิจฉาทิฏฐิ ท่านบอกว่าท่านรู้ถึงธรรมของพระศาสดาในธรรมที่พระองค์แสดงว่า 'พระอรหันต์ตายแล้วสูญ ตายแล้วย่อมพินาศ ตายแล้วย่อมไม่เกิดอีก' นี่ท่านมีทิฏฐิแบบนี้ พระอรหันต์ตายแล้ว ท่านคงหายไปเลยเนาะ บางทีก็ดับหายไปเลย พระอรหันต์ตายแล้วก็คงไม่เกิดแล้ว ..มีใครคิดแบบนี้ไหม ? ในสมัยพุทธกาล เนื่องจากในสมัยก่อน มีผู้ที่มีสัมมาทิฏฐิที่อยู่เยอะมากนะ พระภิกษุ..พอท่านเห็นว่ามีใครสักคนหนึ่งเกิดมิจฉาทิฏฐิขึ้นมา พระทั้งหมดก็จะรีบเข้ามาช่วยกัน เรียกว่ามาช่วยเหลือกัน ช่วยกันตักเตือนนะ เพราะว่าเส้นทางนี้ ถ้าทิฏฐิเพี้ยนขึ้นมา เห็นผิดขึ้นมา ก็จะคิดผิด พูดผิด ทำผิด ที่เหลือก็จะรวนทั้งหน้ากระดานเลยนะ แต่ถ้าทิฏฐิถูกขึ้นมา ก็จะเห็นถูก คิดถูก ทำถูก ถ้ามีความเห็นไม่ตรงนะ การปฏิบัติที่เหลือก็จะรวนหมดเลย เพราะเห็นไม่ตรง พอไม่ตรงเป็นเรื่องใหญ่นะ สัมมาทิฏฐิเนี่ย ภิกษุท่านเห็นว่ามีคนหนึ่งนะ มองกันก็เหมือนเป็นเพื่อนสหธรรมิกนะ เพื่อนเรามีมิจฉาทิฏฐิขึ้นมา ก็ต้องรีบเข้ามาช่วยเหลือตักเตือนกันเนี่ย ก็มีภิกษุกลุ่มใหญ่เข้ามาพูดคุยกับพระยมกะว่าท่าน..เห็นว่าท่านมีความเห็นแบบนี้ มีความเห็นว่าท่านรู้ถึงธรรมที่พระศาสดาแสดงพระอรหันต์ตายแล้วสูญ ย่อมพินาศ ย่อมไม่เกิดอีก ย่อมดับไป ..ดับสูญไป ท่านเห็นอย่างนั้นหรือ ? ตอนแรกก็มาพูดคุยทักทายปราศัยกันก่อน แล้วก็ถามกัน เห็นอย่างนั้นน่ะ เห็นอย่างนั้น ภิกษุก็เลยบอกว่าถ้าท่านอยากได้กล่าวตู่ก็พระศาสดาเลย พระศาสดาท่านไม่ได้สอนอย่างนี้ ไม่ได้ตรัสแบบนี้ พระยมกะก็เถียงสุดชีวิต ก็คงอาจจะได้ยินได้ฟังมานะ แต่ทิฏฐิยังไม่ถูก ยังเพี้ยนอยู่ พอทิฏฐิเพี้ยน ที่เหลือเพี้ยนหมด อันนี้เป็นเรื่องใหญ่นะ ภิกษุท่านเห็นกัน ท่านเลยแบบว่าเห็นเพื่อนสหธรรมิกมีมิจฉาทิฏฐิ ก็เลยต้องรีบมาเตือนกัน แต่พอเตือนไม่ฟังแล้ว ก็ต้องยกระดับ ก็เลยนึกถึงอัครสาวกเบื้องขวา ผู้ที่เป็นเลิศทางปัญญา ก็นึกถึงพระสารีบุตรนะ พระภิกษุก็นึกถึงพระสารีบุตร มีพระสารีบุตรเป็นที่พึ่ง ..เหตุการณ์ก็เกิดที่วัดพระเชตวัน ก็เลยเข้าไปกราบนิมนต์พระสารีบุตร ขอให้มาช่วยอนุเคราะห์พระยมกะภิกษุหน่อย..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 11 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

#ให้ใจได้มีที่พึ่งพิงไว้ #ให้มีสติอยู่กับสภาพธรรมที่เกิดขึ้นในทุกๆลมหายใจ ก็พึ่งระลึกไว้ด้วยใจที่ปล่อยวาง ไม่ได้ทำไปด้วยความที่ว่าจะเค้นจะเอาอะไร #ก็เรียนรู้ธรรมชาติตามความเป็นจริงนี่แหละ มีลมหายใจสั้นลมหายใจยาวก็ว่าไปตามนั้น หายใจยาวแแล้วกายนี้ปรุงเป็นแบบไหน หายใจสั้นผลพวงที่เกิดขึ้นจากการหายใจสั้นเป็นแบบไหน ก็รับรู้ได้นะ . ทีนี้ก็จะค่อยๆถอนความเห็นผิดว่ากายนี้ เป็นตัวตน เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นเขา ไปทีละเล็กละน้อย . ก็จะเห็นว่า ธรรมชาติอันเป็นเหตุ เหตุปัจจัยปรุงลมหายใจมาแบบไหน ผลที่เป็นปลายเหตุเรียกว่ากายเป็นแบบไหน . ก็จะเห็นเป็นแค่ธรรมชาติอันเป็นเหตุปัจจัย ถ้าเห็นไปตามนี้ก็เพิกถอนความเห็นผิดได้มากมายแล้วล่ะ ก็อานิสงส์ก็มากนะ . #อยู่กับลมหายใจไว้ก่อน มีเรื่องมีราวกลับมารู้ลมหายใจไว้ก็ช่วยได้เยอะ เรียกว่า #ปล่อยใจไม่ให้ไหลไป .. ไม่ให้ไหลไปกับกองอกุศลทั้งหลาย ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 11 เมษาคม 2567 #อานาปานสติ #รู้ลมหายใจสั้นยาว #มีสติสัมปชัญญะเป็นเพื่อน #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...โลกจะร้อนไปขนาดไหนก็ตาม วันสุดท้ายต้องมาถึง เนี่ย เราพร้อมไหม ? อนุสัย มีอะไรยังละไม่ได้หรือเปล่า ? อาสวะใดยังไม่สิ้น ? เนี่ย มันใช้เวลานะ ใช้เวลาในการค่อย ๆ สร้างความเคยคุ้น เวลามันเหลือน้อย เหลือน้อยลงไปในทุก ๆ ที ทุก ๆ ที เราก็จะได้ไม่ประมาทนะ ถ้าวันสุดท้ายมาถึง ทำไงล่ะโยม ? อย่างน้อยก็รักษาศีล 5 ไว้ก่อน มีศีล 5 ก็อบอุ่นและปลอดภัย ไม่ต้องรอวันสุดท้ายนะ เราก็ตั้งมั่น ..ตั้งมั่นว่าเราจะรักษาศีล 5 ตลอดชีวิต ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะไม่ผิดศีลเลย ..บุญบารมีก็ค่อย ๆ เกิดนะ กลิ่นของศีล ก็เป็นกลิ่นที่หอมนะ หอมฟุ้งขจรไป แล้วก็มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย ถึงไตรสรณคม มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ตลอดชีวิตนะ อธิษฐานจิตไว้ ในห้องมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เราก็ถือโอกาสในการที่จะได้ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ไม่ต้องรอวันสุดท้ายมาถึง โลกจะเป็นยังไงก็เป็นไปตามเหตุปัจจัยนะ จบช่วงชีวิตยังไงก็เปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้หรอกนะ เปลี่ยนแปลงใจดีที่สุด เปลี่ยนแปลงจากข้างในดีที่สุดแล้วนะ เวลาที่เหลืออยู่นี่แหละ รักษาศีล 5 มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งตลอดชีวิต ตั้งจิตอธิษฐานไว้ มีอานิสงส์มากนะ แล้วก็ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะค่อย ๆ เดินทางเข้าสู่เส้นทางของพระอริยเจ้าทั้งหลาย จะเริ่มค่อย ๆ เดินทางสู่โสดาปัตติมรรค สัทธานุสารี ธัมมานุสารี ก็ต้องอาศัยพื้นฐานในการมีศีล 5 ที่บริบูรณ์ มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งเป็นสรณะ ก็ตั้งจิตอธิษฐานไว้ตลอดชีวิตเลยนะ ตลอดการเดินทางในวัฏสงสาร มีที่พึ่งที่อบอุ่นอยู่ในหัวใจ ก็จะค่อยเดินทางตามรอยพระอริยเจ้าทั้งหลาย..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 10 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

#ปฏิจจสมุปบาท #ธรรมอันเป็นเหตุเป็นปัจจัย .. ผู้ใดที่เห็นธรรม ก็เรียกว่าเห็นพระองค์เอง .. ผู้ใดเห็นตัวพระองค์เอง ก็เรียกว่าเห็นธรรม .. ผู้ใดเห็นธรรม ก็เรียกว่าเห็นปฏิจจสมุปบาท .. หรือผู้ใดที่เห็นปฏิจจสมุปบาท ก็เรียกว่าเห็นธรรมะที่พระองค์ได้ตรัสสอน ซึ่งถ้าเราจะนำมาร้อยเรียงหนึ่งก็ได้เห็นธรรมะก็ได้เห็นปฏิจจสมุปบาท .. เมื่อผู้ใดเห็นปฏิจจสมุปบาทได้ ก็เรียกว่าเห็นพระองค์เอง #ซึ่งพระองค์จริงๆก็เป็นธรรมะที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาทเองก็ได้ . ถ้าเห็นแค่พระวรกายท่านเป็นตัวบุคคลที่เกิดมาประมาณ 2600 ปีล่วงมาแล้วเนี่ยก็เรียกว่ายังเข้าไม่ถึงตัวพระองค์จริงๆ . แต่ธรรมะที่เรียกว่าปฏิจจสมุปบาทถามว่าอยู่ตรงไหนล่ะ ? ก็ไม่ใช่อะไรไกลนะ #ก็อยู่ในกายใจเรา นี่แหละ แค่เราพากเพียรเห็นธรรมะอันเป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นในกายในใจนี้ ก็เรียกว่าเห็นพระพุทธองค์ที่ท่านได้ตรัสบอกไว้เลย . เพราะฉะนั้นแล้ว พระพุทธองค์ที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสสอนไว้เนี่ยก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล ก็อยู่ในกายในใจเรานี่แหละ ถ้าเรามีปัญญาซะหน่อย เห็นความจริงทีละเล็กละน้อย ค่อยๆเห็นสภาพอันเป็นเหตุปัจจัยนะเป็นสภาพธรรมที่ปราศจากความเป็นตัวตนเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นตัวตนเป็นเราเป็นเขาเนี่ย . สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ภาพเหตุปัจจัยที่เมื่อสิ่งนี้มีสิ่งนี้ก็ย่อมมี เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นสิ่งนี้ก็ย่อมเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ดับไปสิ่งนี้ก็ย่อมดับไป และเมื่อสิ่งนี้ไม่มีสิ่งนี้ก็ย่อมไม่มี เรียกว่าเป็นกฎของธรรมชาติที่เป็นเหตุปัจจัยเกิดขึ้นมา มีเพียงเท่านี้นะ . แต่ว่าด้วยความหลงผิดเป็นทุนเดิมธรรมชาติเหล่านี้ได้กลายเป็นตัวเป็นตนไปซะหมด เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นมาเนี่ยมีใจก็ไปรับรู้เนี่ยสิ่งนั้นก็เรียกว่ากลายเป็นสิ่งที่เรารับรู้ขึ้นมาโดยทันทีไม่ว่าจะเป็นทางตาหูจมูกลิ้นกายใจก็ดีนะ เมื่อมีใจที่หลงผิดทุนเดิมไปรับรู้อยู่แล้วเนี่ยก็เป็นธรรมดาที่ใจเราจะค่อยเข้าไปยึดไปถือไปยึดมั่นถือมั่นในกระบวนการเหล่านี้ . จากตอนแรกที่ถ้าใครเห็นได้ว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นเหตุปัจจัยทางธรรมชาติแห่งทุกข์ก็จะไม่เกิดขึ้นแก่เขาเหล่านั้นขึ้นมาแต่ถ้าใครเห็นผิดไปจากธรรมชาติเหล่านี้เนี่ยเห็นว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวเป็นตนเป็นบุคคลเป็นเราเป็นเขาขึ้นมา สิ่งที่เขาจะได้รับคือความทุกข์ที่จะเกิดขึ้นมาในใจทีละเล็กละน้อย เมื่อเกิดขึ้นมาจนเคยชิน ทุกข์ก็จะเกิดขึ้นมาได้ง่ายขึ้นง่ายขึ้น เรียกว่าเป็นกระบวนการธรรมชาติ . ถ้าผู้ใดเห็นอริยสัจและเห็นความจริงขึ้นมาก็ค่อยถอดถอนทิฏฐิอันหลงผิดขึ้นไปทีละเล็กละน้อได้ เมื่อทิฏฐิอันหลงผิดไม่มีที่ตั้งทุกข์ก็ไม่เกิดขึ้นแก่เขา เมื่อนั้นคนเหล่านั้นก็จะเห็น #พระพุทธเจ้าพระองค์จริง ที่เรียกว่า ท่านเป็นกระแสปฏิจจสมุปบาท ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 10 เมษาคม 2567 #เห็นกระแสปฏิจจสมุปบาท #เห็นธรรม #เห็นพระพุทธเจ้า #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"Q1 ปฏิบัติแล้วเห็นแสงสว่าง ? โยมลืมตามาตอนนี้ก็ได้นะ ลองดูก็ได้นะว่าหายไปแล้วหรือยัง ? ถ้าหายแล้วก็แปลว่าไม่ใช่ตัวตนนะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ต่อให้มีอยู่ โยมลองสังเกตต่อไปก็ได้ว่าเป็นอย่างไรนะ ? เพราะว่าสัจธรรม พระองค์ก็ตรัสไว้แล้ว 'สัพเพธัมมาอนัตตา' สรรพสิ่งไม่ใช่ตัวตน สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นไม่ใช่ตัวตน ลืมตามาก็หายหมดแล้วเนาะ หายหมดแล้วนะ ไม่มีอะไรเป็นตัวตน ผู้เข้าไปหาย่อมไม่หลุดพ้น ผู้ไม่เข้าไปหาย่อมหลุดพ้น บางทีปฏิบัติไปเห็นความวิจิตรพิสดารทั้งหลาย จะมาความสว่างผ่องใสขนาดไหน ก็เห็นเป็นอนัตตาหมดนะ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาหมด อย่าไปสำคัญมั่นหมายมาเป็นเราเป็นของเรา จะสว่างผ่องใส จะเบิกบานแจ่มใส บริสุทธิ์ขนาดไหน เป็นอนัตตาทั้งหมด มีแต่ความเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลายไป ไม่ใช่ตัวตนเลย..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 09 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...บางคนอื่นเขานะเขาว่าอันนี้ดีนะอันนี้ดีนะทำแล้วเดี๋ยวจะร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองมากมายทำแล้วชีวิตจะรุ่งเรืองไม่มีทางที่จะกลับไปสู่ เพราะเห็นอยู่อย่างเดียวเลย เส้นทางที่ก้าวเดินมาที่ทุกข์หายไป เพราะประพฤติตามอริยมรรคมีองค์ 8 ทั้งหมด ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นเส้นทางดำเนินของพระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลาย พระองค์ก็ตรัสต่ออีกไปว่า 'พวกเธอจะกล่าวแต่สิ่งที่พวกเธอรู้เอง เห็นเอง รู้สึกเองเท่านั้น ไม่ใช่หรือ ?' ภิกษุก็ตอบว่า 'เป็นอย่างนั้นพระเจ้าข้า' เพราะภิกษุที่ฟังอยู่เป็นพระอริยเจ้าแน่นอนที่กล่าวออกมาแต่ละอย่าง การตอบคำถามแต่ละอย่าง ถ้าผู้ที่ไม่ถึงสัมมาทิฏฐิ ไม่มีทางที่จะตอบออกมาจากใจแบบนี้ได้เลยนะ พระองค์ก็ตอบว่า 'ถูกแล้ว ถูกแล้วนะ พวกเธอทั้งหลายเป็นผู้ที่กระทำ เป็นผู้ที่เรานำไปแล้วด้วยธรรม' เป็นสันติกร garlico โอปะนะยิโกปัจจัตตังเวทิตัพโพวิญญูหิติ ถึงธรรมที่บุคคลก็รู้ได้เฉพาะตนนะ ให้ผลได้ไม่จำกัดกาล เป็นธรรมที่ควรเรียกกันเข้ามาดู เป็นธรรมที่น้อมเข้ามาใส่ตน วิญญูชนก็รู้ได้เฉพาะตน' เพราะผู้ที่ประพฤติธรรมก็ย่อมได้รับผลแห่งธรรมนั้น ดำเนินอยู่ในเส้นทางแห่งอริยมรรคมีองค์ 8 จนเกิดสัมมาทิฏฐิ ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ ถึงพร้อมด้วยทัศนะ เป็นผู้ที่ถึงพระสัทธรรม เป็นผู้เห็นอยู่ซึ่งพระสัทธรรม เป็นผู้ที่ตกกระแสซึ่งพระนิพพาน ก็อาศัยการอบรมศีล สมาธิ ปัญญา เป็นผู้ที่รู้แจ้งอริยสัจขึ้นมา ก็ในเมื่อชีวิตมีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ทุกมิติ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ก็จะมีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ก็จะมีแต่อริยมรรคมีองค์ 8 ..การกล่าวอะไรก็เป็นกล่าวแต่สิ่งที่เข้าถึง ธรรมที่เข้าถึง..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 09 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ผู้ที่ไม่ละจากความเพียร ถ้ายังประกอบความเพียรอยู่เนืองๆ ก็ย่อมที่จะได้เป็นผู้ได้ความสงบในสักวันหนึ่ง . เปรียบเสมือนคนเหล่าใดที่เขาไม่ละจากความเพียร มีความพากเพียรในการขุดดิน ขุดไปเรื่อยๆ ขุดไปไม่ย่อท้อก็ย่อมที่จะพบแหล่งน้ำได้ฉันนั้นเช่นกัน . เรื่องราวก็แสดงให้เห็นถึง .. ผู้ที่เกียจคร้าน เกียจคร้านไปก็ย่อมที่จะยังประโยชน์อย่างยิ่งที่จะเกิดขึ้นแก่ตนให้ย่อหย่อนลงไป เรียกว่า เสียประโยชน์นั่นเอง .. แต่ผู้ที่ใดที่ปรารภความเพียรประกอบความเพียรอยู่เนืองๆ ผลในภายภาคหน้าก็ย่อมที่จะได้รับตามเหตุอันสมควรนะ . เมื่อได้ฟังเรื่องนี้แล้วเนี่ย การปฏิบัติธรรมเองก็เช่นกัน เราก็น้อมนำมาปฏิบัติให้เกิดขึ้นแก่ใจตัวเองได้ ปฏิบัติไปมีอุปสรรคบ้าง มีความย่อท้อเกิดขึ้นในใจบ้าง #ก็อย่าท้อนะให้ทำไปก่อน ถ้ามีเหตุอยู่เนี่ย สร้างเหตุอยู่เนืองๆเดี๋ยวผลก็ย่อมปรากฏขึ้น . แต่ในทางกลับกันถ้าเราขี้เกียจเสียเเล้วนะ เหตุก็ไม่มีนะ เหตุที่จะเป็นผลที่ดีในอนาคตก็ไม่มี อีกทั้งอุปนิสัยเราจะใฝ่ไปในความมักน้อยนะ มักน้อยก็คือขี้เกียจนั่นเอง ไม่ใช่มักน้อยในแบบที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ มักน้อยคือไม่เอาอะไรเลยนั่นเองนะ . ผู้ใดที่อยู่แบบนี้ก็จะคุ้นชินไปในฝั่งที่เป็นอกุศลเสียมาก จิตใจมีความเกียจคร้านมีโมหะเข้ามาคุมในจิตใจเนี่ย หนทางก็ประเมินเอาได้เลยนะว่าเป็นไปในทางที่จะไม่ก่อให้เกิดความเจริญแน่" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 09 เมษาคม 2567 #ปรารภความเพียร #ไม่เกียจคร้าน #วัณณุปถชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..มีทุกข์ก็ยิ่งต้องปฏิบัติธรรม ทุกครั้งที่มีความทุกข์ก็นำทุกข์นั้นมาเรียนรู้นะ เรียนรู้ ..เรียนรู้แล้วก็จะวางใจว่าเมื่อเรียนรู้จบแล้วก็จะไม่ทุกข์เนื่องเดิมอีก จิตจะค่อย ๆ เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ รู้ไปเรื่อย ๆ กิเลสก็มีหลายระดับมากมาย บางทีกิเลสละเอียด ..ต่อให้เราเคยเห็นแว๊บ ๆ นะ พวกมานะ อัตตา พวกกันพอใจในรูปฌานอรูปฌานบ้าง พวกสังโยชน์ละเอียด ๆ เนี่ย ..แต่ถ้าจิตยังไม่ได้เรียนรู้ ยังไม่ผ่านกิเลสแบบหยาบ ๆ จะเป็นแค่แว๊บ ๆ แว๊บ ๆ แค่รู้แว๊บ ๆ แต่สุดท้ายที่ดันมาบ่อย ๆ จะเป็นกิเลสแบบหยาบ ๆ บางทีพวกกามฉันทะ พวกนิวรณ์แบบนี้นะที่จะดันออกมา พวกกิเลสต่าง ๆ สากายทิฏฐิที่จะดันความเห็นผิดออกมา ในส่วนของสากายทิฏฐิ ราคะ ปฏิฆะ จะดันออกมา ให้เรียนรู้พวกนี้ กิเลสหยาบ ๆ พอมีกิเลสเสียดแทงจิตใจ เราก็ต้องยิ่งฝึกยิ่งฝืนนะ อย่าปล่อยใจให้จมไปกับบาปอกุศล จมนานก็บางทีก็รู้เลยว่าอะไรที่ไปจมแล้ว มันก็ก่อความเคยคุ้นนะ พอจะพรากออก มันก็ยากเหมือนกันนะ ญาติโยมก็ต้องฝึกต้องฝืนนะ ต้องสู้ ต้องสู้ บางทีจมไปแล้วนี่ดึงกว่าจะขึ้นมาเนี่ย ยาก ..กระแสโลกแรงด้วยนะ พระพุทธองค์ก็อุปมาเหมือนบุคคล การที่บุคคลระดับในการที่จมอยู่กับกองทุกข์ การที่ใครสักคนหนึ่งอยู่ ๆ จะกระโดดแล้วก็ข้ามมาจากฝั่งกองทุกข์ในทะเลแห่งวัฏสงสารได้ ก็เหมือนบุคคลตกน้ำ 7 จำพวก..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 08 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.areehttps://www.facebook.com/dhammaaree

#ศีลอุโบสถ ก็เป็นข้อปฏิบัติเพื่อที่จะเป็นการ #ข่มกิเลส เหมือนกัน กิเลสก็ก็ประกอบไปด้วยราคะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง • "ราคะ" อะไรก็ตามที่จิตใจเรารู้สึกว่าอยากจะดึงเข้าหาตัว ก็ไม่ใช่แค่เป็นอารมณ์เท่านั้นนะ เป็นสิ่งของก็ได้แต่ ถ้าจะมองกันให้ดีจริงๆก็เป็นแค่อารมณ์ภายในใจ เห็นอะไรก็ตามข้าวของเครื่องใช้กับอาหารก็ดีตากระทบปุ๊บเกิดเป็นภาพปรุงขึ้นมาในใจ จริงๆก็มีแค่จิตนะ จิตที่อยากได้อยากมี หรือความอยากเป็นเองก็ตาม สร้างเป็นภพขึ้นมาในใจว่า เมื่อตัวเราจะได้สิ่งๆนี้ ได้รับเป็นชื่อเสียงก็ดีนะ เป็นคำสรรเสริญก็ดี ก็เรียกว่าฟูขึ้นมาในใจ จิตใจมี ใจเป็นใจ มีความรู้สึกอย่างไร ก็ย่อมเป็นอย่างนั้น เรียกว่าเป็นอารมณ์ของราคะ • ทางด้านที่เป็น "โทสะ" เรียกว่าผลักออก จิตใจอยากจะผลักออกไป ผลักก็เป็นด้านอารมณ์เหมือนกัน ถ้าเรามีราคะมีความโลภขึ้นมา เมื่อไม่ได้ดั่งใจนะสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้ เรียกว่าผลักออก มีโทสะเกิดขึ้นมาในจิตใจ • อีกด้านหนึ่งก็เป็น "โมหะ" อารมณ์เหมือนเฉยๆแบบงงๆ งงๆคือไม่ได้ความหนักแน่นไปในทางใดทางหนึ่งถ้าคนที่เขาเฉย เฉยแบบอุเบกขาเขาจะตรงกันข้ามนะไม่ได้ใช้เฉยแบบเหม่อลอยพร้อมที่จะลงไปในอารมณ์ ถ้ามีโมหะเข้าครองครองอารมณ์ก็พร้อมเกิดขึ้นได้ตลอด . . ก็เรียกว่าเป็นอุบายเพื่อการข่มกิเลสเหมือนกันการรักษาศีลอุโบสถ ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 08 เมษาคม 2567 #วันพระ #ศีลอุโบสถ #ข่มกิเลส #ปัญจุโปสถิกชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..มีตำนานเล่ากันว่ามีเทพธิดาชาลินี เห็นว่าพระอนุรุทธะท่านตามหาผ้าในป่าเพื่อจะนำมาทำเป็นจีวรก็เลยเนรมิตเป็นเป็นผ้าผืนหนึ่งวางไว้ตามริมทางที่พระอนุรุทธะท่านเดินไปพออท่านเดินไปเจอพอดี ก็ได้ถือโอกาสนำผ้านั้นมาทำเป็นจีวร ก็เป็นตำนานที่ชาวเมืองเขาเชื่อกันเขาก็เลยนำผ้าไปวางไว้ จนวันหนึ่งหมอชีวกโกมารภัจจ์ท่านก็เห็นแล้วว่าภิกษุยากลำบากนะกว่าจะนำผ้ามาเย็บปักเป็นจีวรก็ต้องตามหาผ้าในป่ากัน ก็เลยกราบขอพระบรมราชานุญาตจากพระศาสดา พระองค์ก็ทรงอนุญาตให้ภิกษุรับผ้าได้ จากคฤหัสถ์ได้ หรือว่าหากผ้าจากตามป่าก็ได้ หมอชีวกก็เลยถือโอกาสเลยนะเพิ่งไปรักษาพระเจ้าจันทปัชโชติมาได้รับผ้าเนื้อดีเลยได้รับผ้าเนื้อประณีตอย่างดีเลยก็ถือโอกาสได้ถวายพระศาสดาตอนนั้นเลย พอถวายเสร็จบารมีก็เต็มพอดีนะฟังเทศน์ฟังธรรมก็ตรัสรู้พระโสดาบันตอนนั้นเลย ก็เป็นเหตุปัจจัยที่เราหมั่นเรียนรู้เรื่องราวในสมัยพุทธกาลที่มาที่ไป ของงานทอดผ้าป่าสามัคคี.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 07 เมษายน 2567 #ทอดผ้าป่าสามัคคี #ธรรมอารี #พระวรินทร ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

#จาคะ #การสละออก ในเรื่องของการสละออก .. สละออกอย่างสูงสุด .. อานิสงส์มากที่สุด #ก็สละความเห็นผิดออกไปนะว่ากายใจนี้เป็นเราเป็นของเรา .. ถ้าสละออกไปได้ การดำเนินชีวิตเรียกว่าจะไม่ทุกข์ขึ้นมาเลย เพราะว่า #เหตุแห่งทุกข์ไม่มี ซึ่งถ้าจะทำได้ในมุมไหนได้บ้าง ในเบื้องต้นก็แสดงออกตามหน้าที่เรามีหน้าที่มีกิจการงานอะไรต่างๆก็ทำไปตามหน้าที่ ถ้าทำตามหน้าที่แล้วเนี่ยก็เรียกว่ามีกรอบ เหมือนมีข้อวัตรข้อปฏิบัติมา ทางพระก็จะมีข้อวัตรข้อปฏิบัติปฏิบัติอยู่ ว่ามีศีลมีวินัยมากำหนดนะ . เราก็ดำเนินตามวิถีเท่านั้นแหละ ใจไม่ได้ไปยินดียินร้าย . แต่ถ้าจิตใจเริ่มยินดียินร้ายมาในให้รู้เลยว่าตอนนี้ใจเราเริ่มเอนเอียงไปฝั่งของความรู้สึกคุ้นชินในความมีความเป็นแล้วล่ะ เมื่อนั้นก็ให้เราดำเนินอยู่ในกรอบวิธีไว้ก่อน ในการปฏิบัติก็ให้รู้ไว้ว่าจะอยากทำก็ตามจะไม่อยากทำก็ตาม ก็ดำเนินนะตามสิ่งหน้าที่ที่เราพึงปฏิบัติไว้.. ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 06 เมษาคม 2567 #จาคะ #การสละออก #ดำเนินในวิถีธรรมชาติ #ดำเนินในวิถีมรรค #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

#ถาม คิดปรามาสพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ? #ตอบ อันนี้เรียกว่าเชื่อว่าเป็นกันเยอะนะ มันก็จะเป็นอกุศลที่ผุดขึ้นมา แต่เราก็ไม่ได้มีเจตนาเนาะ เจตนาเป็นตัวกรรม ก็เป็นเหตุปัจจัยที่เกิดขึ้นนะ อาจจะเป็นอกุศลสัญญาที่เกิดขึ้น บางทีเราอาจจะไปฟังข่าวหรือว่าเคยได้ยินอะไรไม่ดีเกี่ยวกับพระสงฆ์ หรือว่าได้ยินอะไรลบ ๆ เรื่องลบ ๆ บางทีมันก็ฝังเข้ามา แล้วมันก็ผุดขึ้นมา เกิดขึ้นได้นะ เป็นอกุศล ก็จะเป็นปัจจัยที่ไม่ได้ตั้งใจ ก็ไม่เป็นไร พอเกิด ..เราก็รู้เท่าทันนะ มองว่าเป็นเพียงแค่สังคารความปรุงแต่ง มองลงในไตรลักษณ์เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตายนต์ โยมบังคับได้ไหม ? ไม่ให้พูดขึ้นมา ..บังคับไม่ได้เนาะ ? ก็ไม่ใช่ตัวเราของเรา เป็นเพียงแค่ธรรมชาติหนึ่งนะ พอเกิดขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นเพียงแค่ธรรมชาติหนึ่งเท่านั้น เกิดขึ้นและก็ดับไป ใจก็จะได้ไม่ติดข้อง... ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 05 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

#ฤกษ์ดียามดี หลายๆคนก็ใช้ชีวิตโดยหลักที่ว่าถ้าทำดีแล้วเขาต้องดีตอบ ถ้าเราพูดดีแล้วเขาก็ต้องพูดดีต่อเรา ถ้าเราคิดดีคนอื่นก็ต้องคิดดีกับเรา นี้ก็เป็นธรรมดานะ แต่สิ่งสำคัญก็คือว่า #ให้จบที่เรา #คิดดีพูดดีทำดี คนอื่นเขาจะทำอะไรจะทำดีบ้างไม่ดีบ้างก็เรื่องของเขาไป เป็นเหตุปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุมเราอยู่แล้วนะ . เพราะในความจริงนั้นเรามองกันให้ดีๆ แค่เหตุปัจจัยที่รู้สึกว่าเป็นภายใน เเค่กายใจเรานี้ก็เป็นเหตุปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว . แค่เราดำเนินตน ตั้งจิตตั้งใจให้อยู่ในร่อง อยู่ในกฎของธรรมชาติใจก็จะไม่ทุกข์เอง . ไม่ใช่ว่าเราไปควบคุมอะไรได้นะ #แค่เราใช้ชีวิตให้อยู่ในกรอบของธรรมะ #ธรรมะก็จะคุ้มครองเราเอง นี้ก็เป็นเรื่องที่เราชาวพุทธควรตระหนักไว้อยู่ในใจ . #เมื่อใดก็ตามที่เราคิดดีพูดดีทำดีนะเมื่อนั้นก็ถือว่าเป็นฤกษ์ดีเป็นยามดี ไม่ต้องไปอาศัยคนเขาบอกกล่าวต้องอาศัยหมอดูเขาบอกว่าวันนี้ดีหรือเปล่า ถึงเขาจะบอกไม่ดีแต่ถ้าจิตใจเราคิดดีพูดดีทำดีซะแล้วเนี่ย พระพุทธองค์ก็บอกไว้เลยว่าอันนั้นแหละเรียกว่า "ฤกษ์ดียามดี" ไม่ต้องรอใครเขาบอกนะว่าวันนี้ดีหรือเปล่า . ถ้าวันนั้นไม่ดีก็พลิกกันได้ เพราะว่า .. โลกจริงๆแล้วก็เกิดในใจเรานะ .. เกิดจากการกระทบนี่แหละ ทางตาหูจมูกลิ้นกายใจ มีวิญญาณไปตั้งอยู่ในอายตนะต่างๆ .. ถ้าไม่มีวิญญาณไปรับรู้ซะแล้วเนี่ยโลกนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นมาในใจ อะไรที่คนอื่นเขาบอกว่าดีบ้างไม่ดีบ้าง ลองปิดตาปิดหูซะดูสิ ก็แค่ทำไป จริงๆแล้วการกระทำง่ายกว่าพูดนะ ถ้าทำไปเรื่อยๆทำไปเนืองๆอะไรที่เรารู้สึกว่าดี เสียงพูดมาคอยขัดขวาง เสียงพูดก็ไม่ใช่แค่ข้างนอกเท่านั้นหรอก บางทีก็คำพูดในใจเราเนี่ยทำไปแล้วท้อบ้างเหนื่อยบ้าง แต่ถ้าเราแค่ตั้งหน้าตั้งตาทำซะเท่านั้น ก็เรียกว่าเดี๋ยวผลก็สำเร็จเอง.." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 05 เมษาคม 2567 #ฤกษ์ดียามดี #นักขัตตชาดก #ชาดกว่าด้วยโทษของการถือฤกษ์ยาม #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...พอเผลอใจไปกับกิเลส มันก็เกิดความคุ้นชิน เรียกว่านิสัยขี้เมาแล้วกันนะ เข้าใจแล้วเนาะนิสัยมันจะเริ่มเกิดนิสัยขึ้นมา อย่างตอนเย็น ปกติก็อยู่บ้าน อยู่กับครอบครัว แต่พอเริ่มเกิดนิสัยขี้เมาขึ้นมาแล้ว เริ่มไม่คุ้นแล้ว จากบ้านที่อยู่เย็น ๆ นี่เริ่มไม่คุ้นแล้ว กลับอยากจะออกไปเข้าวงนะ เข้าวงกับเพื่อน แล้วพอเวลาดื่มไป ดื่มไปมาก ๆ มันจะมีความกลิ่นไอของการดื่ม กลิ่นไอออกมา ตัวก็จะเหม็น ๆ แบบนี้ ..อันนี้ก็อุปมาเหมือนกับอาสวะ นิสัยที่เป็นคนขี้เมาก็เหมือนอนุสัย พอหมักหมมไป ตัวก็จะฟุ้งเหม็นออกมา เดินไปที่ไหน เขาก็รู้ละ..คนนี้คงไปดื่มมาแน่เลย ..อาสวะกิเลาที่หมักดองอยู่ก็เหมือนกัน เป็นกิเลสที่ดันออกมา คอยดันออก ดันออกมา..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 04 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ในแต่ละวันพึงสร้างเหตุปัจจัยกันไป เพราะชีวิตก็ไม่แน่ไม่นอนนะ อะไรที่เกิดขึ้นมาในชีวิตเราก็ไม่แน่ไม่นอนเลย เหตุปัจจัยแต่ละอย่างเนี่ยถ้าจิตใจเรายังไม่มั่นคงยังไม่พร้อมรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น ทิศทางในการดำเนินชีวิตเราพร้อมจะเปลี่ยนได้ตลอดเวลา . แต่ถ้าท่านใดมีธรรมะเป็นหลักของใจเเล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นหรือเรื่องที่ทุกข์ร้อนในจิตใจนี่ก็ย่อมที่จะเป็นไปในทางเดียวเลยนะ #เป็นบาทฐานให้เกิดปัญญา . ก็ใช้เวลาแต่ละวันไม่ให้สูญเปล่าไป ก็นั่งฟังธรรมไปนั่งไปสบายๆ รู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมาด้วย เรียกว่า #อยู่อย่างเป็นปกติ ใครมีหน้าที่มีกิจการงานอะไรก็ทำไปตามหน้าที่ไป ให้ธรรมะมาอยู่ในหน้าที่อยู่ในชีวิตประจำวันเราบ้าง ไม่ได้มาอยู่แค่เรามาเพียรกันเดินจงกรมนั่งสมาธิ อันนั้นถ้าเราแบ่งเวลาออกมาได้เนี่ยก็จะช่วยได้มากนะ . แต่ว่าถ้าเราวางหลักไว้ผิด ว่าธรรมะอยู่แค่การมาปฏิบัติธรรม การใช้ชีวิตเราละเลยธรรมะไปหมด อันนี้ก็เป็นเรื่องที่น่าจะเสียโอกาสอยู่ เพราะว่าในแต่ละวันหนึ่งเราทำงานกันก็ขั้นต่ำก็ 7-8 ชั่วโมงแล้วล่ะ มีหน้าที่อะไรๆก็เเสริมกันไป ถ้าปล่อยไปในวันหนึ่งไม่ได้มีกะจิตกะใจอยู่กับกิจงานที่ตัวเองจะพึงกระทำ ด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่ได้ทำด้วยใจที่เอนเอียง อยากมีอยากได้ หรืออยากทำให้คนอื่นเขามีความเดือดเนื้อร้อนใจขึ้นมา ก็เรียกว่า #ใช้ชีวิตอยู่ในวิถีของธรรมะอยู่ตลอด .." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 04 เมษาคม 2567 #อยู่อย่างเป็นปกติ #ทำหน้าที่ตนตามปกติ #อุคคเสนบุตรเศรษฐี #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..เกิดเป็นมนุษย์ ..เกิดเป็นเดรัจฉาน ..เกิดเป็นเทวดา ..เกิดเป็นพรหม ก็ทุกข์ทั้งนั้นเนอะ เป็นมนุษย์นี้เราก็ยังถือว่าอยู่กลาง ๆ นะ อยู่กลาง ๆ เรียกว่ามีโอกาสที่จะเลือกได้ อย่างเดรัจฉานนี่เรียกว่าเป็นช่วงที่ใช้วิบากอยู่นะ ตั้งแต่อบายภูมิ สัตว์นรก กำเนิดเดรัจฉาน เปรตวิสัย ใช้วิบากอยู่ ยังไม่สามารถที่จะยกระดับจิตใจได้ ..เป็นช่วงใช้วิบาก เราเห็นเข้าแล้ว นี่เราก็เห็นเขาเป็นครูนะ เห็นเขาเป็นครูสอนธรรมะนะ ถ้าไม่อยากผิดพลาดอีก ก็รีบยกระดับจิตใจนะ เป็นมนุษย์นี่ยังมีโชคดี ยิ่งเจอพระพุทธศาสนาด้วยนี่ก็ยิ่งโชคดีนะ จะได้มีโอกาสยกระดับจิตใจ ถ้ากายเป็นมนุษย์ มนุษย์คือผู้ที่มีจิตใจสูง ถ้ากายเป็นมนุษย์ แต่ใจไม่ได้เป็นมนุษย์ล่ะ ? ถ้ากายเป็นมนุษย์ ใจร้อน ใจร้อนนี่เขาเรียกว่ามนุสสเนรยิโก กายเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นสัตว์นรก ก็คือคนที่ไม่มีศีลธรรม เรียกว่าจิตใจโหดร้ายโหดเหี้ยมนะ ไม่มีมนุษยธรรม เคยเห็นไหม บางทีข่าว ..ลงจากรถ โกรธกัน ขับปาดหน้า บางทีเอาปืนมายิงกันเลย เรียกว่าฆ่าโดยที่ไม่รู้สึกผิด ไม่รู้สึกผิดเลย ..เนี่ยกายเป็นมนุษย์ แต่ใจร้อน เรียกว่าเป็นมนุษย์ แต่ใจเป็นสัตว์นรก แต่ถ้าบางท่านกายเป็นมนุษย์ แต่ใจโลภ เรียกว่ามนุสสเปโต ..อยากได้ อยากได้สิ่งต่าง ๆ บางทีอยากได้ไม่พอนะ ต้องถึงกับไปลักทรัพย์ วิ่งปล้นเขาตามสะพานลอยนะ หรือว่าไปหลอกลวงเขาเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ ใจไม่มีความสุขนะ ใจมีความโลภพลักดัน..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 03 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"..ไม่ใช่ว่าเราก้าวมาสู่การปฏิบัติแล้ว เราละเลยคุณธรรมข้อพื้นฐานไป #ไม่อย่างนั้นปฏิบัติไปตัวตนจะยิ่งพอกพูนขึ้นไปเรื่อยๆนะ . ยิ่งปฎิบัติยิ่งสูง เห็นใครก็ต่ำกว่านั้น ก็ไม่ใช่นะ . #มีความอ่อนน้อมถ่อมตน . เหมือนต้นไม้ก็ได้ ดูต้นไม้ใหญ่ๆต้นที่เขาเผื่อแผ่กิ่งก้านไม้ให้ร่มเงามีแต่ต้นไม้ที่โตแล้วทั้งนั้นนะ ถ้าเป็นต้นเล็กๆต้นเด็กๆอยู่มีแต่คอยจะพุ่งขึ้นข้างบน อ่อนน้อมเป็นกับที่ไหธรรมชาติก็เป็นแบบนั้น จะได้เห็นความจริงนะว่า .. เป็นผู้ใหญ่จริงก็อ่อนน้อมถ่อมตนได้ .. แม้จะเป็นเด็กก็ฝึกฝนคุณธรรมในจิตใจ .. อยู่ในแต่ละวันก็ไม่ให้กิเลสพอกพูนขึ้นมา .. ก้มหัวได้ ก็เรียกว่า..ความเห็นว่ากายนี้เป็นตัวเป็นตนเราก็ยิ่งไม่มีเท่านั้นแหละ" ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระชยากร ภทฺทธมฺโม (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา เช้า 03 เมษาคม 2567 #อ่อนน้อมถ่อมตน #ติตติรชาดก #พระชยากร #ธรรมอารี ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree

"...ใจไม่มีที่พึ่งก็ไม่มีทิศทางนะ ที่พึ่งก็คือพระรัตนตรัย มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ..สรณะอื่นไม่มีนะ มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะตลอดชีวิต ตอนที่เรายังไม่มีที่พึ่ง ยังไม่มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ บางทีชีวิตเราก็เหมือนใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ นะ ไม่มีทิศทาง ไม่ชัดเจน ก็เหมือนคนรักษาศีลแหละ แต่ก่อนก็บางทีเขาอาจจะไม่ได้ผิดศีลนะ ไม่ได้ผิดศีล ไม่ได้ผิดธรรม แต่ไม่ได้รักษา ไม่ได้มีเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น โอกาสผิดพลาดมันก็มีนะ บางทีเราคิดว่าเราก็เป็นคนดีนะ ไม่ได้ผิดศีลผิดธรรมอะไร แต่ถ้ามีเหตุปัจจัยมีโอกาส ก็มีโอกาสทำพลาดได้เหมือนกันนะ ต่างจากคนที่มีเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น ..ยังไงก็ไม่ทำ ..ยังไงก็ไม่ผิดพลาด มีศีล 5 อยู่ในใจ ..จะต่างกัน ก็เหมือนกันนะโยม ถ้าเรามีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นที่พึ่งเมื่อไหร่ ชีวิตเราก็จะเปลี่ยนไป มีทิศทางที่แน่นอน มีที่พึ่ง เวลามีความทุกข์ แค่ระลึกถึงคุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ ใจก็ร่มเย็น มีที่พึ่ง..." ………………………… ถ่ายทอดธรรมโดย พระวรินทร นิทฺทโร (พระผู้ช่วยสอน) ณ สวนธรรมอารี จ.พระนครศรีอยุธยา ค่ำ 02 เมษายน 2567 ติดตามธรรมะเพิ่มเติมได้ที่ Facebook ช่องทางสื่อสารหลัก : https://www.facebook.com/dhammaaree Facebook ข่าวสารประชาสัมพันธ์ : https://www.facebook.com/dhammaareefoundation YouTube คลังวิดีโอ : https://www.youtube.com/@dhamma_aree Instagram คลังภาพ : https://www.instagram.com/dhamma_aree/ SoundCloud คลังเสียง : https://soundcloud.com/dhamma_aree LineGroup สอบถามการปฏิบัติทั่วไป : https://bit.ly/3Fxu8Ol LineOA ช่วยเหลือติดขัดสภาวธรรม : https://lin.ee/pXSQeyZ Website ธรรมอารี :http://www.dhammaaree.com TikTok ธรรมอารี : https://www.tiktok.com/@dhamma.aree