Filtrar por género
นำ "โจทย์" จากชีวิตจริงมาวิเคราะห์แจกแจง, เปิดประเด็นปัญหา ขุดคุ้ยคำตอบที่ซ่อนอยู่ แล้วปรับสมดุลย์ด้วยสัจจะธรรม เพื่อให้เห็นเส้นทางดำเนินต่อไปในชีวิต ในช่วง "สมการชีวิต". New Episode ทุกวันจันทร์ เวลา 05:00, Podcast นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายการธรรมะรับอรุณ ออกอากาศทุกวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย (สวท.) มีคำถาม/ข้อเสนอแนะ หรือสมัครติดตามฟังทั้ง 7 รายการ ที่ panya.org
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
- 289 - นิสัย 22 อย่าง ที่ควรละ [6719-1u]
อุปนิสัยของคนที่เคยบวชแล้วสึกออกไป (ทิด)
- หลังจากสึกแล้ว ออกไปอยู่ครองเรือน จะมีความรับผิดชอบขึ้น ใจเย็นขึ้น มีอุปนิสัยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นกว่าก่อนบวช แต่อุปนิสัยดี ๆ เหล่านั้น อาจจืดจางได้ ขึ้นอยู่กับว่าได้สร้างเหตุเพื่อรักษาความดีนั้นอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เช่น นั่งสมาธิ การคบเพื่อน เป็นต้น
นิสัย 22 อย่าง ที่ทำให้ชีวิตตกต่ำลง
1) ไม่ยอมตื่น–นอนในเวลาที่ไม่ควรจะนอน
2) เสพความบันเทิงมากเกินไป
3) ไม่เข้าหาบัณฑิต
4) แวดล้อมด้วยคนเทียมมิตร–เอาแต่ได้ มีภัยไม่ช่วย ปอกลอก ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง หัวประจบ ชักชวนไปในทางไม่ดี
5) อยู่กับศพ–อยู่กับคนไม่มีศีล
6) ไม่เปิดทางน้ำเข้า–ปิดกั้นไม่ให้มีทรัพย์สินเข้า ไม่ขยันทำมาหากิน ไม่หาแหล่งรายได้อื่น
7) ไม่ปิดทางน้ำออก–เปิดทางให้ทรัพย์สินไหลออก, อบายมุข 6 (ดื่มสุรา เที่ยวกลางคืน ดูการละเล่น การพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร เกียจคร้านในการทำงาน)
8) ไม่ทำงบประมาณ–ไม่มีสมชีวิตา ไม่รู้รายรับรายจ่าย ทำให้ไม่รู้จักสมดุล ไม่รู้จักการใช้จ่ายทรัพย์ใน 4 หน้าที่ (ใช้จ่ายในครัวเรือน รักษาทรัพย์ สงเคราะห์ผู้อื่น ให้)
9) ไม่ฝังทรัพย์–ไม่ทำบุญให้ทาน ไม่บริจาคในเนื้อนาบุญ
10) ไม่จ่ายหนี้–ไม่ดูแลบำรุงเลี้ยงบิดามารดา
11) ไม่ให้คนยืม–ไม่สงเคราะห์ผู้อื่น
12) เติมเนื้อไม้ใหม่–ไม่ศึกษาหาความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของตน ศึกษาหาความรู้ที่ไม่ถูกทาง
13) มีตาเดียว–หาแต่ทรัพย์อย่างเดียว โดยไม่สนวิธีการได้มา (ตั้งอยู่ในศีลธรรมหรือไม่ เป็นกุศลธรรมหรือไม่ วิญญูชนติเตียนหรือไม่ ไม่มองเห็นอนาคตทางตรงด้วยสองตาขึ้นไป)
14) หวั่นไหวในโลกธรรม–ทำให้เกิดทุกข์ (ลาภ เสื่อมลาภ ยศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์)
15) คำนึงถึงแต่สิ่งที่ล่วงไปแล้ว–จมอยู่กับความผิดพลาดในอดีต
16) มุ่งหวังในสิ่งที่ยังไม่มาถึง–กลัวผิดพลาดในสิ่งที่ยังไม่เกิด ทำให้ไม่ทำอะไร (ต่างกับการตั้งเป้าหมายที่จะต้องใช้สองตา)
17) ไม่รับภาระ–ไม่สนใจใคร อยู่ใน comfort zone ไม่รู้จักพัฒนาตนด้วยการออกจาก comfort zone ทำให้ไม่เกิดความเจริญก้าวหน้า
18) ไม่สนทนาธรรมตามกาล–ไม่ทำข้อปฏิบัติที่ทำให้เกิดปัญญา ไม่หาฟังสิ่งที่ดีดี เช่น ธรรมะ และไม่สอบถามคำถาม ชีวิตก็จะพัฒนาได้ยาก
19) ไม่รู้ว่าวันนี้ชีวิตจะทำอะไร–ไม่มีแผนในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เพื่อให้ไปสู่เป้าหมายชีวิตที่ตั้งไว้
20) คิดลบอยู่เรื่อย–มองโลกในแง่ร้าย (อิจฉาริษยา ระแวง เคลือบแคลง ขี้เกียจ)
21) มีข้ออ้างทุกอย่าง–(ผัดวันประกันพรุ่ง) ชีวิตจะไม่สำเร็จ ก้าวหน้าไปไม่ได้
22) ไม่รู้ประมาณในการบริโภค–ไม่รักษาสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย จิตใจจะดีได้ก็ต้องอาศัยร่างกาย
บทสรุป : นิสัยที่ไม่ดี 22 ข้อนี้ ถ้ามีแล้ว ชีวิตจะเสื่อมลง ต่ำลง ถดถอย แต่ถ้าปรับปรุงตัว ละนิสัยไม่ดี 22 ข้อนี้ได้ ชีวิตจะเจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง เป็นมงคล มีแสงสว่าง อย่างแน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 05 May 2024 - 59min - 288 - การบรรลุโสดาบันในโลกปัจจุบัน [6718-1u]
Q1: โสดาบัน
A: โสดาบัน หมายถึง ผู้ที่จะไปถึงกระแส อยู่บนกระแส อยู่บนทาง เปรียบเหมือนกับการล่องแม่น้ำให้ออกไปสู่ทะเล คือ ทางที่จะไปสู่พระนิพพาน
- คุณสมบัติของโสดาบัน (โสตาปัตติยังคะ 4)
(1)–(3) มีศรัทธาอย่างลงมั่นไม่หวั่นไหวในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ (อจลศรัทธา): โดยศรัทธาจะเต็มได้ต้องควบคู่ไปกับการมีปัญญาพอสมควร รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรไว้ ไม่ทำในสิ่งที่ท่านไม่ได้สอน ไม่งมงาย ตั้งมั่นในเรื่องของกรรม จิตใจจะไม่เคลื่อนคล้อยไปทางอื่น เช่น การอ้อนวอนบูชาขอร้อง เสี่ยงเซียมซี ดูหมอดู แก้เคล็ด เป็นต้น หากไม่สบายใจก็จะหาคำตอบจากในคำสอนของพระพุทธเจ้า ไม่ไปหาคำตอบนอกคำสอนของพระพุทธเจ้า
(4) มีศีล 5 ชนิดที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย
- ความเป็นโสดาบัน (โสตาปัตติผล)
(1) จะมีศีล ชนิดที่ไม่ใช่สีลัพพตปรามาส-จะไม่งมงาย ไม่ใช่สายมู ทุกอย่างมีเหตุมีผล
(2) จะละสักกายทิฏฐิได้-เข้าใจว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นของไม่เที่ยง
(3) จะละวิจิกิจฉาได้-ละความเคลือบแคลง เห็นแย้ง ไม่ลงใจไปได้
- ประเภทของโสดาบัน 1. เอกพีชี (เกิดอีก 1 ชาติ) 2. โกลังโกละ (เกิดอีก 2-3 ชาติ) 3. สัตตักขัตตุงปรมะ (เกิดอีกไม่เกิน 7 ชาติ)
- การบรรลุโสดาบันในยุคปัจจุบัน แม้คุณสมบัติการเป็นโสดาบันจะไม่ง่าย แต่หากเราใช้ ความเพียรในการสร้างเหตุ ความเป็นโสดาบันก็จะเกิดขึ้นได้ ให้ตั้ง “ความเพียร” ในการสร้างเหตุที่จะเป็นโสดาบัน ก็จะได้โสตาปัตติผลอย่างแน่นอน แม้จะยาก แต่ผลที่จะได้มันมาก ความทุกข์จะลดลงไปอย่างมาก ผู้ที่เป็นโสดาบันแล้ว ท่านเปรียบกับเศษฝุ่นที่ติดปลายเล็บกับปริมาณหินดินบนเทือกเขาหิมาลัย ปริมาณความทุกข์ของโสดาบันที่จะหมดสิ้นไปมากเท่านั้น ที่เหลืออยู่มีเพียงนิดเดียว
- การเป็นโสดาบันจะรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยจะมีเครื่องทดสอบให้ทำผิดศีล ให้ออกนอกเส้นทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ ก็จะทำไม่ได้ จิตใจจะไม่น้อมไป เมื่อคุณสมบัติโสดาบันครบตอนไหน ก็เป็นโสดาบันได้ตอนนั้น กรณีที่จะเป็นโสดาบันไม่ได้ คือ ได้ทำอนันตริยกรรม (ฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตกกัน ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อเลือด)
Q2: ความเห็นไม่ตรงกับคู่ครอง
A: เป็นปัญหาของการใช้ชีวิตคู่ เป็นเรื่องยุ่งของการครองเรือน วิธีการป้องกันไม่ให้วุ่นวายไปกว่านี้ คือ อย่าทำผิดศีลและมีสัมมาวาจา หรือประพฤติพรหมจรรย์
Q3: ให้ทานมากจนไม่เหลือไว้ใช้จ่าย
A: การห้ามไม่ให้ผู้อื่นให้ทาน ไม่ใช่มิตรแท้แต่เป็นคนพาล และการให้ทานแล้วเบียดเบียนตนเองหรือผู้อื่นก็ไม่ถูกต้อง
- คนฉลาดในการให้ทาน 1) ด้วยศรัทธา 2) ด้วยความเคารพ 3) ในเวลาที่เหมาะสม 4) มีจิตอนุเคราะห์ 5) ไม่กระทบตนและผู้อื่น หากขาดข้อใดข้อหนึ่ง บุญก็จะเศร้าหมองลง
- วิธีแก้ปัญหาการให้ทานมากเกินไป ให้จัดทำงบประมาณกันเงินไว้สำหรับการทำทาน เพื่อไม่ให้กระทบตนและเพื่อผู้อื่น
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 28 Apr 2024 - 47min - 287 - ชนะกิเลสด้วย "ปัญญาวุธ" [6717-1u]
ช่วงไต่ตามทาง: ภรรยาพาลูกหนีออกจากบ้าน
- ท่านผู้ฟังรายนี้เจอเหตุการณ์ภรรยาพาลูกหนีมา กทม. โดยไม่ทราบสาเหตุ เกิดคำถามข้องใจและความเป็นห่วงมาก จิตใจไม่เป็นสุข แต่เมื่อได้ฟังพระสูตร ก็รู้สึกเย็นขึ้น จิตใจสงบลง ระงับความคิดฟุ้งซ่านลงไปได้บ้าง
- เมื่อจิตใจเบา นุ่มนวล เย็นอยู่ในภายใน ก็จะสามารถหาวิธีการอื่นที่เหมาะสม นุ่มนวล ไม่เนื่องด้วยอาชญาศาสตรา เป็นไปด้วยคุณธรรม คือ ความสามัคคี เมตตา ให้อภัย หาทางออกที่เป็นกุศลธรรม ชนะทั้งสองฝ่าย ทั้งตัวเราก็ได้ประโยชน์ คือ มีกุศลธรรมเกิดขึ้นในจิตใจ อีกฝ่ายก็ได้รับความต้องการอย่างถูกต้อง มีกุศลธรรมเกิดขึ้น ด้วยการมีธรรมะเข้าไปแทรกเอาไว้
- สำคัญ คือ “ปัญญา” เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นคุณมี “เครื่องมือ” ที่จะใช้งานเพื่อแก้ปัญหานั้นหรือไม่
- “อาวุธ” ที่จะนำไปใช้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่มันเร่าร้อน กดดัน บีบคั้นในทุก ๆ ด้าน ก็คือ “ปัญญา” พระพุทธเจ้าใช้คำว่า “ปัญญาวุธ”
- กรณีผู้ฟังท่านนี้ ใช้ธรรมะที่ได้ฟังมาปรับให้เกิดอาวุธ คือ ปัญญาในจิตใจของตน จัดการกับสิ่งที่เป็นอกุศลในใจให้มันออกไป (ความคิดฟุ้งซ่าน ตำหนิติเตียนผู้อื่น) ให้จิตใจยังเย็นสบายอยู่ได้ นี่คือตัวอย่างการใช้ปัญญาวุธ
ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: ปัญญาวุธ
- ปัญญา คืออะไร? ท่านจัดสัมมาสังกัปปะไว้ร่วมกับสัมมาทิฏฐิ สังเคราะห์ลงในส่วนที่เรียกว่าปัญญา การที่เราคิดเรื่องนั่นนี่ นั่นแหละคือปัญญาแล้ว เช่น วันนี้จะขายของอะไร ที่ไหน จะคุยกับหัวหน้ายังไง ขับรถไปไหน ความคิดทั้งหมด คือ ปัญญา ทุกคนมีปัญญา แค่เรามีความคิดก็มีปัญญาแล้ว จะถูกหรือผิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
- ถ้าเราตริตรึกไปทางไหนมาก จิตเราจะน้อมไปทางนั้น จิตเราน้อมไปทางไหนมาก สิ่งนั้นจะมีพลัง นี่เป็นเทคนิคหนึ่งที่จะฝึกปัญญาของเราให้มีพลัง คนฉลาดก็กลับเป็นคนโง่ได้ และคนโง่ก็กลับเป็นคนฉลาดได้ ขึ้นอยู่กับแนวคิดของปัญญาว่าไปทางไหน
- ปัญญาควรใช้ไปในทางที่ไม่คิดคดโกง เบียดเบียดผู้อื่น ไม่ใช้ปัญญาไปในทางตระหนี่ ให้รู้จักการแบ่งปัน และควรใช้ปัญญาหาความสงบให้จิตใจด้วย และควรมีมิตรที่ฉลาดมีปัญญา ไม่คบคนพาล
- “ปัญญาวุธ” เป็นปัญญาที่เอาชนะ กำจัดจิตใจที่ไม่ดี กำจัดกิเลส ให้เป็นผู้ที่มีจิตใจที่สงบได้
- ปัญญาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำเนินชีวิตไปในทางต่างๆ โดย “ความคิด” เป็นตัวที่ทำให้เกิด “ปัญญา” ปัญญาเกิดจากการคิดธรรมดานี่แหละ แล้วคิดต่อเนื่องต่อไปๆ ปัญญาก็จะพัฒนาเติบโต เช่น ปัญญาในการทำมาหากินที่ดี ไม่คดโกง เบียดเบียน จากนั้นพัฒนาไปในการแบ่งปันทรัพย์ที่หามาได้ ต่อมาก็พัฒนาปัญญาไปในทางทำให้จิตใจมีความสงบ เป็นต้น
- เมื่อเรารู้จักคิดไปในทางที่ดี สัมมาทิฏฐิก็จะเกิดขึ้น จะค่อยพัฒนาสัมมาสังกัปปะของเราไป ให้ไปตามทางที่ทำให้มีปัญญามากขึ้นๆ เราจึงสามารถสร้างอาวุธ คือ ปัญญาสุดท้ายในการกำจัดกิเลสที่อยู่ในจิตใจของเรา ให้เราเป็นผู้ที่มีความสงบเย็น มีความพ้นทุกข์ รักษาตนให้พ้นจากภัยในวัฏฏะได้นั่นเอง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 21 Apr 2024 - 56min - 286 - ทำชีวิตให้เจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรม [6716-1u]
Q1: การสวดมนต์โดยไม่รู้ความหมาย
A: เหตุที่ต้องสวดมนต์เป็นภาษาบาลี เพราะการสาธยายธรรมด้วยภาษาที่เป็นต้นฉบับจะเป็นไปเพื่อรักษาคำสอนของพระพุทธเจ้า การสวดมนต์ภาษาบาลีแม้ไม่รู้ความหมาย แต่เมื่อบทสวดมนต์ทั้งหลายเป็นพุทธพจน์ ซึ่งเป็นคำดี การเปล่งเสียงพูดออกไปก็ย่อมเป็นสิ่งดี แต่ถ้ารู้ความหมายด้วยและทำให้จิตใจสงบด้วยก็จะดียิ่งขึ้น
- การสวดมนต์มี 3 ขั้นตอน 1. คำพูดที่ออกจากปากเป็นบทสวดมนต์ที่เป็นพุทธพจน์หรือไม่ 2. รู้ความหมายของคำพูดนั้นหรือไม่ 3. ทำให้จิตใจสงบหรือไม่ อาจทำได้ไม่ครบ 3 ขั้นตอน ก็ยังดีกว่าไม่สวดมนต์เลย
- “ทำนองการสวดมนต์” พระพุทธเจ้าไม่ให้สวดด้วยเสียงโดยยาว (เอื้อน สูง-ต่ำ) เพราะจะทำให้เกิดความกำหนัดได้ (เสียงเพลง) ทรงอนุญาตให้สวดเป็น “ทำนองสรภัญญะ” ได้ คือ ท่องสวดเป็นจังหวะ มีลักษณะเป็นคำฉันท์ คำคล้องจอง บทกลอน เป็นเทคนิคให้จำได้ง่ายขึ้น เพื่อสืบต่อคำสอน
Q2: ทำชีวิตให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม
A: วิธีทำให้ “เจริญทางโลก” ประกอบด้วย 4 อย่าง
1. มีความขยันหมั่นเพียรในงาน (อุฏฐานสัมปทา)
2. รู้จักรักษาทรัพย์ (อารักขสัมปทา)
3. มีมิตรดี (กัลยาณมิตตตา) - มิตรที่มีศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญา ที่ทำให้เราเกิดกัลยาณธรรม
4. มีสมดุลในชีวิต (สมชีวิตา) - ให้รายรับท่วมรายจ่าย รายจ่ายที่ควร 4 อย่าง คือ (1) เลี้ยงดูครอบครัว (2) ลงทุนหรือเก็บไว้ในวันฝนตก (3) สงเคราะห์ผู้อื่น (4) ทำบุญ
- คาถาเศรษฐี “อุ อา กะ สะ” มีที่มาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า 4 ข้อนี้ ไม่ใช่แค่ท่อง แต่ต้องนำไปทำด้วย
- วิธีทำให้ “เจริญทางธรรม” ประกอบด้วย 4 อย่าง
1. ศรัทธา - ความมั่นใจ ไม่ใช่ความงมงาย ศรัทธาที่ถูกต้องต้องประกอบด้วยปัญญา คือ มีความเชื่อมั่น มั่นใจในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าว่าทรงตรัสรู้ดีแล้ว, สิ่งที่ท่านตรัสรู้/คำสอนของท่านเป็นสิ่งที่บอกสอนไว้ดีแล้ว, ใครก็ตามที่ปฏิบัติตามคำสอนนั้นจะต้องดีขึ้นมาได้ ให้มั่นใจในการลงมือปฏิบัติ มีเหตุต้องมีผล
2. ศีล - ศีล 5
3. จาคะ - การให้ การบริจาค รู้จักสละออก (ให้แบบสงเคราะห์ / ให้เพื่อหวังเอาบุญ)
4. ปัญญา - ฝึกให้เห็นความเกิดดับของสิ่งต่าง ๆ ว่าเป็นของไม่เที่ยง
- “ด้วยความขยันหมั่นเพียร รู้จักเก็บรักษาทรัพย์ มีเพื่อนดี รู้จักรายรับรายจ่าย จะทำให้เจริญทางโลก และด้วยศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญา จะสามารถรักษาจิตให้อยู่ในทางธรรม เมื่อแก่ตัวลง สิ่งที่เราสะสมเหล่านี้จะมีกำลังมากขึ้น มีอินทรีย์แก่กล้ามากขึ้น เป็นปัจจัยให้เจริญทางธรรมต่อไปได้”
Q3: หมดไฟในการทำงาน
A: พระพุทธเจ้าอาศัยอิทธิบาท 4 ทำให้งานของท่าน คือ การเป็นพระพุทธเจ้าสำเร็จได้ เหล่าพระอรหันต์ทั้งหลายต่างสำเร็จความเป็นอรหันต์ได้ก็เพราะเจริญอิทธิบาท 4 ดังนั้น งานของเราซึ่งเป็นงานธรรมดา จะสำเร็จได้ก็ด้วยอิทธิบาท 4 เช่นกัน งานที่ถูกเติมด้วยอิทธิบาท 4 จะกลายเป็นมงคลในชีวิตทันที ถ้าตั้งจิตไว้ถูก
- อิทธิบาท 4 ประกอบด้วย
1. ฉันทะ - ความพอใจ รักในงานที่ทำ
2. วิริยะ - ความแข็งใจทำต่อไป ไม่เลิกแม้เจออุปสรรค วิริยะคือความมีระเบียบวินัย (ทำในสิ่งที่ต้องทำ ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่ก็ตาม)
3. จิตตะ - การเอาใจใส่ ตรวจสอบ ตรวจตรา ว่าทำถูกต้องหรือไม่
4. วิมังสา - การพิจารณา ตรวจตราเพื่อพัฒนาแก้ไขปรับปรุง ใช้วิธีการที่ดีขึ้น
- โดยมี “สมาธิ” เป็นตัวเชื่อม ประคับประคองไม่ให้เข้มงวดเกินไป (ฟุ้งซ่าน) หรือย่อหย่อนเกินไป (ขี้เกียจ) ไม่ให้ส่ายไปในภายนอก ไม่ให้ตั้งสยบอยู่ภายใน ให้งานนั้นมีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ขึ้นเป็นประธานด้วยอาศัยสมาธิอยู่ตลอด
Q4: วิธีอยู่ร่วมกันของเจ้านาย และลูกน้อง
A: ลูกน้องเป็นหนึ่งในทิศทั้งหก หัวหน้าต้องบริหารจัดการลูกน้องโดยไม่ใช้อาชญาหรือศาตรา แต่ให้ใช้เมตตากรุณา เป็นโค้ช สนับสนุน แนะนำให้ลูกน้องเกิดการพัฒนา มีความก้าวหน้า ทั้งทางโลกและทางธรรม คือ 1. ให้ทำงานตามกำลัง 2. ให้อาหารและรางวัล 3. ให้รักษาพยาบาลยามเจ็บไข้ 4. แบ่งของที่มีรสประหลาดให้ 5. ปล่อยให้อิสระตามสมัย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 14 Apr 2024 - 51min - 285 - เตรียมจิตด้วยปัญญาก่อนเจ็บป่วยมาถึง [6715-1u]
ช่วงไต่ตามทาง: Party Girl กับคนบ้างาน
- ท่านผู้ฟังอดีตเคยเป็น Party Girl ชอบสังสรรค์ ดื่มเหล้า ส่วนอีกคนเป็นคนวิศวกร เงินเดือนสูง มุ่งมั่นในการงานและความก้าวหน้าของอาชีพมาก จนกระทั่งได้มีโอกาสไปหลีกเร้น ช่วงที่นั่งสมาธิเกิดความคิดแจ่มแจ้งขึ้นมาว่าการดำเนินชีวิตที่เป็นอยู่ไม่ใช่ “ทาง” จะเอามาเป็นหลักไม่ได้ จึงเลิกสังสรรค์ และลาออกจากงาน แล้วหันมาสนใจปฏิบัติธรรม ทำสมาธิเจริญวิปัสสนากรรมฐาน หาทางพ้นทุกข์ ตั้งหลักในการดำเนินชีวิตใหม่ คือ การเป็น “โสดาบัน” ในชาตินี้
- การอยู่หลีกเร้นไม่คลุกคลีกับใคร ทำให้ได้ฝึกสติ เกิดสมาธิ ทำให้จิตสงบ เกิดปีติ สุข จึงเกิดปัญญาว่า การแสวงหาความสุขจากการปาร์ตี้ แต่งตัว กิน ดื่ม ตำแหน่งงานสูง เงินเดือนสูง อันนี้ไม่ใช่ทาง แม้ทั้งสองจะอายุไม่มาก ยังเจอทุกข์ไม่มาก แต่มีปัญญามาตามทางมรรค เริ่มเห็นได้ว่า สุขมันก็ทุกข์เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าการมีเงินทองจะเป็นทางออกให้พ้นทุกข์ได้ ด้วยความไม่ประมาทจึงหันมาศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้มากขึ้นดีกว่า
ช่วงสมการชีวิต:เตรียมจิตด้วยปัญญาก่อนเจ็บป่วยมาถึง
- สุขภาพกาย สุขภาพใจ ต้องดูแลทั้งสองส่วนคู่กัน
- “สุขภาพกาย” พระพุทธเจ้าให้แนวทางไว้ว่า
1) อาหาร - 1. กินพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ 2. กินเป็นเวลา 3. กินพอประมาณ
2) ที่อยู่ - ถ้าอยู่ที่ไหนแล้วยังละกิเลสไม่ได้เหมือนเดิม หรือกิเลสที่เคยละได้แล้วกลับมาอีก ก็ไม่ควรอยู่ที่นั่น
3) น้ำดื่ม - ให้กรองน้ำก่อน ไม่ให้มีตัวสัตว์ ให้น้ำมีความสะอาดเพื่อจะดื่มได้
- “สุขภาพใจ” ใครก็ดูแลไม่ได้นอกจากตัวเรา
- ราคะ โทสะ โมหะ เป็นโรคของจิต ถ้าจิตป่วย กายก็จะป่วยตาม จึงต้องไม่ทำให้จิตใจป่วย คือ อย่าให้มีราคะ โทสะ โมหะ ชนิดที่ควบคุมไม่ให้ผิดศีลไม่ได้
- นอกจากมีศีลแล้ว “สมาธิ” จะรักษาความสงบ รักษาการไม่มีราคะโทสะโมหะให้มันดีอยู่ได้ เช่น ไม่โกรธถึงขนาดด่าคน ซึ่งจะมีสมาธิได้ต้องมี “สติ” ตั้งเอาไว้ “สติ” ช่วยเสริมสร้างพลังจิต ให้จิตของเราตั้งอยู่ในศีลได้ ให้จิตของเราเวลามีอะไรมากระทบแล้วไม่ขึ้นลง ไม่มีราคะโทสะโมหะออกมาจนทำให้ผิดศีล สติเป็นตัวที่จะรักษาสุขภาพจิตใจของเรา วิธีฝึกสติ คือ “สติปัฏฐาน 4” เช่น อาณาปนสติ ดูลมหายใจ การมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวทั่วพร้อมในทุกอิริยาบถ เป็นต้น
- นอกจากสติและศีลแล้ว ตอนที่เรายังไม่ป่วย ต้องมี “ปัญญา” เข้าใจธรรมชาติของความป่วย เปรียบเหมือนทหารที่ต้องเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก่อนมีการประกาศสงครามจึงจะสามารถรักษาบ้านเมืองเอาไว้ได้ เราจึงต้องเตรียมปัญญาไว้ก่อน เพราะวันที่เราเจ็บไข้ได้ป่วยจะมาถึงแน่นอน
- ให้เข้าใจธรรมชาติของความเจ็บป่วยด้วย “ปัญญา” ว่า
1) ความเจ็บป่วยเป็นภัยที่แม่ลูกช่วยกันไม่ได้
2) เราไม่มีความเป็นใหญ่เฉพาะตนในสิ่งนั้น เช่น สั่งให้แบ่งเวทนาจากความเจ็บป่วยให้ผู้อื่นไม่ได้ สั่งให้หมอรักษาตนให้หายไม่ได้
3) เวทนาจากความเจ็บป่วยนั้นเป็นไปตามฐานะ คือ เป็นไปตามเหตุปัจจัย บางทีอาจหายหรือระงับได้ด้วยปีติอันเกิดจากการฟังธรรมะ เช่น พระคิลิมานนท์ พระวักกลิ พระอัสสชิ พระสารีบุตร เป็นต้น
4) เป็นโลกธรรม 8 เป็นสุขทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ คือ สุขทุกข์มีในเจ็บ/ไม่เจ็บ ในสุขเวทนาบางทีก็มีทุกข์มีสุขได้ ในทุกขเวทนาบางทีก็มีทุกข์มีสุขได้ คือ กุศลธรรม/อกุศลธรรม มีได้ทั้งในสุขหรือทุกข์
5) ต้องมีจิตใจที่อยู่ได้ด้วยการมีเป้าหมาย เช่น อิคิไก (ญี่ปุ่น) ความหมายของการมีชีวิตอยู่ ทำตนให้เป็นประโยชน์ ในทางพระพุทธศาสนามีอิทธิบาท 4 ทำให้อายุยืนได้ถึง 1 กัลป์
6) เวลาไปเยี่ยมผู้ป่วย ไม่ควรถามว่าว่าดีขึ้นไหม สบายดีขึ้นไหม เพราะเวทนาเป็นไปตามฐานะอยู่แล้ว สิ่งที่ควรถามคือ อดทนได้อยู่ไหม ไปให้กำลังใจ ด้วย 5 ข้อข้างต้น ไปพูดคุยเพื่อให้ “ผู้ป่วยเกิดความอาจหาญ ร่าเริงในธรรม”
- โดยสรุป : สุขภาพจิตที่ดีเริ่มจาก “สติ” รักษา “ศีล” ทำให้เกิด “ปัญญา” เมื่อมีสติ ศีล ปัญญาเป็นเครื่องมือแล้ว ก็จะรักษาสุขภาพจิตให้ดีได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 07 Apr 2024 - 58min - 284 - อดทน คือ ทุกสิ่ง [6714-1u]
Q1: อานิสงส์ของการสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
A: พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สถานที่ที่ควรเห็นเพื่อให้เกิดความสังเวช คือ สังเวชนียสถาน 4 ได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงธรรมจักร และปรินิพพาน ซึ่งมีการสร้างเจดีย์ที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้
- การบูชาพระพุทธเจ้า ไม่ได้ทำเพื่อการอ้อนวอนขอร้องให้ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ทำเพื่อให้เกิดบุญกุศลที่เป็นไปเพื่อให้เกิดปัญญา ซึ่งหนึ่งในปัญญาที่ต้องมี คือ การสลดสังเวชใจ คำว่า “สังเวช” ไม่ใช่เรื่องไม่ดี สังเวชเกิดแล้วดีเพราะทำให้เกิดความตื่นตระหนักขึ้น ต่างกับเสียใจที่ยังมีราคะ โทสะ โมหะ ร่ำไห้คร่ำครวญ ส่วนสังเวช (sense of urgency) จะมีความรีบเร่งที่จะดับไฟที่ไหม้ตนอยู่โดยไม่พึ่งพาใครก่อน
- บุญจากการสักการะพระบรมสารีริกธาตุ มี 2 อย่าง (เป็นบุญให้ไปเกิดในสวรรค์ได้)
1. บุญที่เกิดจากอามิสบูชา เช่น การยกมือไหว้ ถวายของ เวียนประทักษิณ เดินจงกรม
2. บุญที่เกิดจากจิตใจที่มีศรัทธา มีปัญญา เกิดความสลดสังเวชใจว่า แม้พระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่ปานนี้ก็ยังต้องปรินิพพาน สรีระเหลือเพียงเท่านี้ เกิดความสลดสังเวชใจ ให้เรายิ่งต้องรีบปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ให้เห็นธรรมที่ท่านเห็นแล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานว่า “ธรรมอันใดที่พระพุทธเจ้าเห็นแล้วขอให้เราเป็นผู้ที่มีส่วนแห่งธรรมนั้น” เพื่อจะสร้างเหตุตามท่านไป เพื่อให้มีปัญญาอันเดียวกัน
- ผู้ที่ไม่ได้เดินทางไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ สามารถทำอามิสบูชาจากที่ไหน เวลาใดก็ได้ เพียงแค่ตั้งจิตระลึกถึงพระพุทธเจ้า (พุทธานุสติ) จิตก็ไปถึงเสมอเพราะจิตไม่ถูกจำกัดด้วยระยะทางหรือเวลา
- พระอาจารย์ได้ไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุเช่นกัน ได้รับ “พลังใจ” “เกิดปัญญา” ว่า แม้พระพุทธเจ้าก็ยังปรินิพพาน เกิดความสลดใจ ทำให้ “ตั้งหลักขึ้นได้ใหม่” “พลังจิตเพิ่มขึ้นมา” เห็นหลักว่า แม้ตัวพระพุทธเจ้าจะไม่อยู่แล้ว แต่เส้นทาง การปฏิบัติตามมรรค 8 หนทางให้พ้นทุกข์ยังมีอยู่ ให้เราเพียรปฏิบัติต่อไป ก็จะตามท่านไปได้
Q2: เมื่อเห็นสัตว์เบียดเบียนชีวิตกัน
A: แนวคิดทางพระพุทธศาสนา คือ “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” จึงให้ตั้งจิตของเราไว้ด้วยกับ “เมตตา” และ “อุเบกขา”
- เมตตาต้องมาพร้อมอุเบกขา คือ เมตตาทางใจต้องให้ได้อย่างไม่มีประมาณ แต่ให้ไปหยุดอยู่ที่อุเบกขา
- อุเบกขา คือ ความวางเฉยในผัสสะที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ โดยดูบริบทและความเหมาะสมของสถานการณ์ด้วย อุเบกขาไม่ใช่การปล่อยปละละเลย ไม่สนใจ ไม่แยแส อุเบกขาจะเป็นตัวหยุดความเสียใจ กังวลใจ ฟุ้งซ่าน กำจัดโมหะ
Q3: หนังสือ อดทน คือ ทุกสิ่ง
A: ความอดทนมี 4 ระดับ
1) อดทนได้แบบสบาย (ตีติกขาขันติ)
2) อดทนได้แบบอดกลั้น (อธิวาสนขันติ) – แม้เกิดความไม่พอใจแต่อดกลั้นไม่ให้อกุศลธรรมในใจ (โทสะ การผูกเวร) เกิดขึ้นได้
3) เก็บกด – เกิดอกุศลธรรมในใจ (มิจฉาทิฎฐิ พยาบาท ผูกเวร) แล้ว แต่ไม่ได้แสดงออกมาทางกาย ทางวาจา
4) อดทนไม่ได้ (ขันแตก)
- “ความอดทน” อยู่ในทุกสิ่งในชีวิตของเรา สามารถเปลี่ยนจิตไม่ให้เกิดอกุศลธรรม กำจัดมิจฉาสังกัปปะ (คิดชั่ว) ทำให้เกิดปัญญาในการปล่อยวางอกุศลธรรมได้
- วิธีแก้ความอดทนไม่ได้ (เก็บกด, ขันแตก)
1. ใช้ปัญญาพิจารณาอนัตตา (ความไม่เที่ยง) เช่น เห็นเป็นเพียงลมที่ทำให้เกิดเสียงมากระทบหูให้ได้ยิน ไม่ได้มีตัวตน
2. ใช้ความเมตตา อุเบกขา คือ สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน ใครทำอย่างไรก็จะได้รับผลแห่งกรรมนั้น ก็จะปล่อยวางได้ โดยเริ่มจากทำจิตให้เป็นสมาธิ จากนั้นตั้งจิตไว้ด้วยกับเมตตา แล้วเอาเหตุการณ์ที่ทำให้เก็บกด, ขันแตก มาแผ่เมตตาให้ตัวเองผ่านไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย เมื่อจิตเราชุ่มอยู่ด้วยกับเมตตาแล้ว ความเก็บกดก็จะเกาะอยู่ที่จิตไม่ได้ ก็จะต้องถูกปลดปล่อยไป
Q4: ทำบุญกับพระในบ้าน (พ่อแม่) กับทำบุญที่วัด
A: บุญในทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ การให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ไม่จำกัดว่าต้องไปทำบุญที่วัด หรือกับพระสงฆ์เท่านั้น ปริมาณบุญจากการให้ทานจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ด้วยความมีศีลของผู้ให้และผู้รับ และของที่ให้ทานบริสุทธิ์ ไม่ได้ขโมยมา มีความประณีต
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 31 Mar 2024 - 56min - 283 - เข้าใจสุขทุกข์ด้วยพยับแดด [6713-1u]
ช่วงไต่ตามทาง:
- การมองโลกในแง่ดีในทางพระพุทธศาสนา คือ การไม่คิดไปในทางที่เป็นอกุศล ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ประมาท ไม่เผลอเพลิน มีความระมัดระวังอย่างสูงไม่ให้อกุศลธรรมเกิดขึ้นในใจ
- คุณปฐวี เมื่อได้ฟังธรรมะแล้ว พอเจอเรื่องร้าย ก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร ปัญหาที่เคยรู้สึกว่าหนัก ก็กลายเป็นง่ายขึ้น เบาขึ้น มีแสงสว่างเกิดขึ้นในจิตใจ มีความร่าเริงแจ่มใสขึ้น เพราะสติที่ตั้งขึ้นไว้ได้ ทำให้จิตไม่ได้ไหลไปตามอารมณ์ความรู้สึกจิตใจตั้งมั่นอยู่ได้อย่างดี
ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ:
- เมื่อเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าแล้ว อย่าเอาแต่รักสุขเกลียดทุกข์ แต่ต้องเข้าใจสุขทุกข์ ผ่านปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “พยับแดด” พยับแดด ไม่ใช่ “ของจริง” แค่ “ดูเหมือนว่าจริง” คือ แม้เราจะเห็นแต่ไกลว่าข้างหน้าเหมือนมีน้ำอยู่บนถนน แต่เมื่อขับรถไปถึงจุดนั้นแล้วกลับไม่มีน้ำ มันไม่ใช่ของจริง การปรุงแต่งมองเห็นพยับแดดว่าเป็นสิ่งที่มีตัวตนนั้น เปรียบเหมือนกับทุกข์ที่เราปรุงแต่งไปก่อนหน้า ซึ่งเป็นทุกข์ที่เกิดขึ้นจริง ๆ ณ วินาทีนั้นแล้ว ทำให้ทุกข์ไม่ได้ลดลงและสุขไม่ได้มากขึ้น
- เราจะมาหาของจริง ในสิ่งที่ไม่ใช่ของจริงจะไปเจอได้อย่างไร ในพยับแดดมีแต่แสงแต่ไม่มีตัวตน “เราจะไปหาสุข ในสิ่งที่เป็นความทุกข์ ก็จะหาไม่เจอ เปรียบเหมือนกับการไปหาน้ำในตัวพยับแดด เราจะไม่เจอน้ำ สิ่งที่เจอจะมีเพียงความว่างเปล่าจากความเป็นตัวตน”
- ผู้ที่เข้าใจเรื่องพยับแดด จะไม่ไปตามหาสุขในสิ่งที่เป็นทุกข์ อย่าไปคาดหวังจากพยับแดดที่จริง ๆ แล้ว มันไม่มีอะไร ก็จะไม่ทุกข์ นั่นคือ “การยอมรับ” พระพุทธเจ้าใช้คำว่า “ปริญญา” คือ ความรอบรู้เรื่องทุกข์
- เมื่อเข้าใจทุกข์ ก็จะไม่ทุกข์ จะได้ “ความสุขที่เหนือกว่าสุขเวทนา” คือ สุขที่เหนือกว่ากามสุข เป็นสุขที่เกิดจากความรู้ยิ่ง รู้พร้อม เย็น คือ นิพพาน เป็นความสุขที่เกิดจากปัญญาที่เหนือกว่าสุขเวทนาทั่วไป เป็นเวทนาที่ละเอียดลงไป พ้นจากทุกข์ที่เกิดจากตัณหา
- ผู้ป่วยที่เกิดทุกขเวทนา ความเจ็บปวดนั้นก็เหมือนพยับแดด ไม่สามารถที่จะเป็นตัวตน ไม่สามารถทำให้จิตใจหวั่นไหวได้ แม้แต่ความตายก็ไม่ใช่การสิ้นสุดจริง ๆ เพราะตายแล้วก็มีการเกิดใหม่ ไม่ว่าจะวิ่งหนีพยับแดด (ความเจ็บป่วย) หรือวิ่งเข้าหาพยับแดด (สิ่งปรุงแต่ง) ก็คืออันเดียวกัน อยู่ที่ว่ามองจากมุมไหนเพราะมันคือสิ่งที่ไม่มีตัวตน มีความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นธรรมดา
- บทสรุป: ปรากฏการณ์พยัพแดด มีอยู่ทุกขณะในชีวิตของเรา เป็นสิ่งที่คนรักสุข เกลียดทุกข์ ต้องเข้าใจ จะทำให้มีสุขที่เหนือกว่าสุขเวทนา พ้นจากความทุกข์ที่เกิดจากตัณหา ได้ความสุขที่เกิดจากปัญญาอย่างแน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 24 Mar 2024 - 57min - 282 - ธรรมะกับการระงับความเครียด [6712-1u]
Q1: การฟังธรรมช่วยจัดการความเครียด จริงหรือไม่
A: เมื่อเกิดความเครียดขึ้น การฟังธรรมย่อมดีกว่าการหาความสุขทางกามแน่นอน แต่ต้องฟังให้ถูก
- วิธีฟังธรรมเพื่อคลายความเครียด
1. ต้องมีศรัทธา โดยเริ่มจากเลือกหมวดธรรมะที่เราพอใจ มีศรัทธาที่จะฟังก่อน
2. ขณะฟังธรรม อย่าเพ่งโทษติเตียน ให้มีจิตนอบน้อมในการฟังธรรม
- การฟังธรรมช่วยให้คลายเครียดได้ เนื่องจากเสียงเป็นเครื่องล่อให้จิตสงบได้ ทุกเสียงที่ได้รับฟังจะมีอารมณ์ติดมาด้วยเสมอ ให้เลือกฟังแต่สิ่งที่ดีดี จิตเราน้อมไปทางไหน สิ่งนั้นจะมีกำลังเสมอ ถ้าฟังธรรม จิตก็จะมีกำลัง สติปัญญาก็จะเกิดขึ้น ความเครียดก็จะระงับไปเอง
Q2: วิธีรวมสมาธิให้ได้เร็ว
A: ต้องมีสัมมาสติก่อนจึงจะมีสัมมาสมาธิ โดยสัมมาสติเกิดจากการปรารภความเพียร มีศีล มีสัมมาวาจา ทั้งนี้ ต้องมีศีลที่เป็นไปเพื่อสมาธิ ได้แก่ การรู้ประมาณเพื่อการบริโภค การนอนยามเดียว ไม่นอนกลางวัน การสำรวมอินทรีย์ การอยู่หลีกเร้น การสันโดษในบริขารแห่งชีวิต การอยู่ง่าย กินง่าย การรับฟังคำตักเตือนด้วยความเคารพหนักแน่น เป็นต้น สิ่งแวดล้อม สถานที่ คนรอบตัว สิ่งของที่ใช้ การกระทำอื่น ๆ ก็มีผลต่อการนั่งสมาธิ สำหรับพระอาจารย์จะใช้วิธีแผ่เมตตาด้วย สมาธิเป็นทักษะ สามารถฝึกได้ ยิ่งฝึก ยิ่งได้ ให้ใส่ความเพียร การพัฒนาลงไป
Q3: การบังเอิญเจอคนหนึ่งบ่อย ๆ เคยทำบุญร่วมกันมา ใช่หรือไม่
A: อาจเป็นเหตุบังเอิญหรือเกิดจากกรรมเก่าก็ได้ ถ้าคิดว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับเราด้วยเหตุแห่งกรรมเก่าทั้งหมด ความคิดนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ คนที่จะรู้อย่างรอบคอบว่าเกิดจากกรรมเก่าหรือไม่ต้องมีความสามารถระดับพระพุทธเจ้า แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะรู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือกรรมเก่า แต่ให้สนใจ และเข้าใจว่า สิ่งนี้คือผัสสะ ผัสสะเป็นของไม่เที่ยง ถ้ามีผัสสะก็จะมีเวทนา ถ้ามีเวทนาก็จะมีความทุกข์ ถ้ามีความทุกข์ก็ต้องแก้ทุกข์ ตรงนี้จึงจะเป็นสัมมาทิฏฐิ
Q4: คนไม่ถูกกันในที่ทำงาน เป็นเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่
A: ในสังสารวัฏนี้ ทุกคนเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันหมด พระพุทธเจ้าจึงสอนว่า “อย่าเห็นแก่สั้น อย่าเห็นแก่ยาว เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร แต่ระงับด้วยการไม่จองเวร” คือ อย่าแตกร้าวจากมิตรให้เร็วนัก ต้องให้อภัย มีเมตตา ไม่ผูกเวร เมื่อเจอคนไม่ถูกกันในที่ทำงาน เราต้องรักษาตัวเอง โดยตอบโต้ด้วยความอดทน ไม่เบียดเบียน มีเมตตาจิต รักใคร่เอ็นดู การแผ่เมตตาก็ช่วยได้ แก้ความโกรธด้วยเมตตา แก้การผูกเวรด้วยการให้อภัย เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ก็จะดีขึ้นมา
- วิธีแผ่เมตตา เริ่มจากให้จิตเป็นสมาธิ แล้วตั้งจิตไว้ด้วยกับเมตตาเหมือนมารดาที่มีต่อบุตร แล้วกำหนดบุคคลนั้นเข้ามาในจิต แล้วแผ่เมตตาให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยมีบุคคลนั้นเป็นอารมณ์
Q5: บุญที่นอกเหนือจากการบวช
A: ฆราวาสสามารถบวชนอกเครื่องแบบได้ การบวช คือ การประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 เป็นอย่างน้อย บุญไม่ได้เกิดจากการบวชเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา ด้วย
Q6: การแต่งกายมีผลต่อบุญในการใส่บาตรหรือไม่
A: คนที่มีศรัทธามากจะมีความประณีตออกมาให้เห็นจากอาหารที่ใส่บาตร การแต่งกาย ซึ่งเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล
Q7: การสวดมนต์ทำให้ชีวิตดีขึ้น จริงหรือไม่
A: ถ้าสวดมนต์แล้วจิตเป็นอารมณ์อันเดียว จิตเป็นสมาธิ ไม่หวั่นไหวขึ้นลงไปตามสิ่งต่างๆ เจอผัสสะใดๆ แล้วยังรักษาจิตให้ดีอยู่ได้ อันนี้ชีวิตดีขึ้นแน่นอน ไม่ใช่สวดมนต์ด้วยความงมงาย ให้รักษาการกระทำทางกาย วาจา ใจ ของเราให้ดีตลอด แล้วชีวิตก็จะดีขึ้นแน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 17 Mar 2024 - 55min - 281 - ชนะความไม่พอใจในงานด้วยธรรมะ [6711-1u]
การทำงานมักมีปัญหาอยู่เป็นประจำ เวลามีคนโกรธหรือไม่พอใจเรา หากเราตอบโต้กลับด้วยความโกรธความไม่พอใจกลับไป เรื่องราวก็จะยิ่งขยายผล หากเป็นผู้ปฏิบัติธรรม จะชนะความโกรธได้ ด้วยการไม่โกรธตอบ จะเอาชนะความอิจฉาริษยาได้ ด้วยเมตตามุทิตา จะเอาชนะความตระหนี่ได้ ด้วยการให้ จะเอาชนะความเพ่งเล็งหาโทษใส่ความได้ ด้วยความสัตย์ความจริง (ความจริงใจ โอบอ้อมอารี)
เมื่อรู้ว่าตัวเองโกรธ แสดงว่ามีสติแน่ แต่ยังตัดไม่ได้ เพราะสติยังมีกำลังอ่อน ปัญญายังมีกำลังน้อย ก็ต้องเพิ่มสติเข้าไป ด้วยการฟังเทศน์ฟังธรรม สวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วตั้งใจใหม่ ตั้งปณิธานในวันใหม่ว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไร จะยิ้มสู้ จะไม่โกรธ จะแผ่เมตตาให้ทุกคนที่พูดด้วย ทุกที่ที่เดินไป ทุกสถานการณ์ที่ผ่านมา รวมถึงแผ่เมตตาให้ตนเองด้วย”
วิธีตอบโต้ความไม่พอใจในที่ทำงาน 4 อย่าง ได้แก่ เมตตาจิต รักใคร่เอ็นดู ไม่เบียดเบียน และความอดทน ปัญญาก็จะเกิด เมื่อมีสติปัญญาเกิด ก็จะตัดความไม่พอใจ (โทสะ) ได้
ถ้าเราสามารถละความโกรธ ความไม่พอใจในที่ทำงานได้ ไปที่ไหนเราก็จะสบายใจแน่นอน
อย่าไปคิดว่างานมันยาก งานมันหนัก งานมันเหนื่อย แต่ความยาก ความหนัก ความเหนื่อย นี่แหละ มีค่า มีความหมาย มีคุณธรรมที่เราใส่ลงไป หากเราใส่คุณธรรมต่าง ๆ ลงไป ก็จะสามารถเอาชนะได้ เมื่อเราเอาชนะความโกรธความไม่พอใจในที่ทำงานได้ จิตใจเราก็จะเบา
“ฆราวาสธรรม 4 ประการ”
พระพุทธเจ้าเทศน์สอนอาฬวกยักษ์
1. สัจจะ (ความจริง) = ให้เป็นคนดีจริง ๆ มีความจริงใจ ซื่อตรง ซื่อสัตย์ ไม่เป็นคนหลอกลวงหรือหน้าไหว้หลังหลอก ผลที่ได้รับ คือ ความเคารพจากผู้อื่น ความจริงใจจากผู้อื่น
2. ทมะ (การข่มบังคับใจ) = การฝึกฝนตน ปรับจิตใจตน แก้ไขนิสัยตน ให้มีลักษณะที่ดีขึ้นมา ด้วยสติปัญญา ผลที่ได้รับ คือ ไม่มีเวรกับใคร ยับยั้งตนไม่ให้ทำชั่วทำผิดได้ การงานออกมาดี
3. ขันติ (ความอดทน) = ความอดทน ขยันหมั่นเพียร พยายามทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ ทำจริง แน่วแน่จริง ไม่เพลินไปกับสิ่งมาล่อลวง ผลที่ได้รับ คือ การงานสำเร็จ เป็นหลักให้กับผู้อื่นได้
4. จาคะ (การสละออก) = การให้ การบริจาค เป็นประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น แสดงถึงการไม่ผูกเวร ผลที่ได้รับ คือ ฝึกจิตให้ละความตระหนี่ เป็นการละกิเลส
ฆราวาสธรรม 4 ประการ นอกจากทำให้ปัจจุบันอยู่เป็นสุข ไม่ผูกเวรกับใคร ฝึกฝนตน รักษาทรัพย์ได้ มีมิตร มีบริวาร แล้ว ยังทำตนให้มีความสุขในโลกหน้าได้อีกด้วย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 10 Mar 2024 - 1h 00min - 280 - วิธีกำจัดความเคยชิน [6710-1u]
Q1: ฝากเงินไปทำบุญ ผู้ฝากได้บุญหรือไม่?
A: ได้ กรณีพระเจ้าปายาสิทำทานเป็นประจำ โดยสั่งลูกน้องให้ไปทำแทน แต่พระเจ้าปายาสิตั้งจิตไม่ถูก ในขณะที่ลูกน้องตั้งจิตอธิษฐานถูกต้องว่า “ใคร มีสิ่งใดต้องการ ก็ขอจงมารับสิ่งนี้ไปให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลนั้น” เมื่อตายไป ลูกน้องได้ไปสวรรค์ในชั้นที่สูงกว่าพระเจ้าปายาสิ
วิธีตั้งจิตอธิษฐานเมื่อทำทาน ต้องเป็นการสละออกแบบไม่ได้ต้องการอะไรกลับมา ไม่อ้อนวอนขอร้อง เวลาให้ทานโดยไม่หวังอะไรตอบแทนจะได้บุญมากที่สุด และเมื่อบุญเกิด เราก็จะตั้งจิตอธิษฐานได้ การตั้งจิตอธิษฐาน หมายถึง การตั้งใจมั่นอย่างแรงกล้าในการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น ตั้งใจมั่นว่าจะคิดดี ทำดี พูดดี เพื่อเป็นเหตุให้สำเร็จอะไรก็ตามขึ้นมา (อธิษฐานสร้างเหตุนั่นเอง) ผู้ฝากทำบุญสามารถตั้งจิตอธิษฐานได้เองโดยไม่ต้องฝากใคร
Q2: ธรรมะที่ช่วยให้นึกถึงเรื่องดี มากกว่าเรื่องไม่ดี
A: ความเคยชินของจิต (อนุสัย) มักจะนึกถึงเรื่องไม่ดีที่ผ่านมาแล้ว เมื่อคิดตริตรึกไปในทางไหน จิตจะน้อมไปทางนั้น จิตน้อมไปทางไหน สิ่งนั้นจะมีพลังขึ้นมา และจะมีอารมณ์ติดมากับความคิดนั้นเสมอ เช่น เมื่อนึกถึงตอนที่ถูกคนต่อว่า อารมณ์ความขัดเคือง ความไม่พอใจ (ปฏิฆะ) ก็จะติดมาด้วย หากไปตรงกับความเคยชินที่เคยถูกต่อว่ามาก่อน ก็จะเหมือนถูกกรีดซ้ำรอยเดิม (ปฏิฆานุสัย) วิธีที่จะกำจัดความเคยชินต้องตั้งสติขึ้น บังคับให้มันอย่าไปในร่องเดิม บังคับให้ไปทางอื่น ก็จะเป็นการลบรอยเก่า กำจัดแพทเทินเดิม เอาความเคยชินออกไป ต้องหยุดด้วยการตั้งสติ มีเมตตากรุณา ไปทางมรรค 8 คือ ให้ตั้งจิตไว้ด้วยกับเมตตา เหมือนแม่รักลูก และเอาเหตุการณ์นั้นขึ้นมา แผ่เมตตาที่เรามีไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายผ่านเหตุการณ์นั้น อารมณ์ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นมันจะเบาบางลงด้วยความเมตตา อารมณ์ความเคยชินแบบเก่าก็จะลดลง ต้องทำซ้ำบ่อยๆ ให้เกิดความเคยชินแบบใหม่ขึ้น
Q3: เหตุใดคนถึงสนใจธรรมะน้อยลง
A: บุคคลไม่เห็นทุกข์ก็จะไม่เห็นธรรม ทุกข์มี 2 อย่าง คือ ทุกข์ที่ทนได้ง่ายเห็นได้ยาก (สุขเวทนา) ทุกข์ที่ทนได้ยากเห็นได้ง่าย (ทุกขเวทนา) ผลของความทุกข์มี 2 ทาง ทางแรก คือ ร่ำไห้ คร่ำครวญ ทุบอกชกตัวถึงความเป็นผู้งุนงงพร่ำเพ้อ ทางสอง คือ แสวงหาทางออกว่าใครหนอ จะรู้ทางออกของความทุกข์นี้ สักหนึ่งหรือสองวิธี ซึ่งทางนั้นจะต้องมีองค์ประกอบ 8 อย่าง ตามทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ จึงจะเป็นทางออกของปัญหาที่ถูกต้องได้ วิธีที่จะทำให้คนมาสนใจธรรมะได้ คือ ต้องให้ปัญญา
Q4: ผู้หญิงสนใจธรรมะมากกว่าผู้ชาย
A: ความเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงไม่ได้มีผลต่อการเห็นธรรมะง่ายหรือยาก มีสิทธิเข้าถึงธรรมะได้เท่ากัน
Q5: การฟังเพลง เล่นดนตรี เป็นตัวขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมหรือไม่?
A: การดูการละเล่นที่เป็นข้าศึกต่อกุศลธรรมหรือสิ่งที่ทำให้เกิดความกำหนัด ยินดี ลุ่มหลง เพลิดเพลิน สิ่งนั้นเป็นอกุศล ทำให้จิตมีความเพลินไป ก็จะผิดศีล 8 แต่ไม่ผิดศีล 5 เพลงขับที่พูดเรื่องธรรมะ โลกุตรธรรม ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นสัมมาวาจา ไม่เป็นข้าศึกต่อกุศลธรรม
Q6: ความสุขในโลกนี้ไม่มี มีแต่ความทุกข์มากหรือทุกข์น้อย
A: ความสุขที่เกษมในโลกนี้ไม่มี สุขเวทนา คือ ความทุกข์ที่ทนได้ง่ายเห็นได้ยาก ทุกขเวทนา คือ ความทุกข์ที่ทนได้ยากเห็นได้ง่าย ที่เห็นว่าในโลกนี้มีแต่กองทุกข์ นั้น ถูกต้องแล้ว เราควรหาความสุขที่เกิดจากความสงบภายในตามทางมรรค 8 เป็นสุขที่อยู่เหนือกว่าสุขเวทนาและทุกขเวทนา
Q7: มีบุตรยาก เกิดจากกรรมเก่าหรือไม่?
A: อาจเกิดจากกรรมเก่า เช่น โพธิราชกุมาร ในอดีตชาติเคยกินไข่นก ลูกนก แม่นก เพื่อเลี้ยงชีวิตเป็นประจำ หรือเกิดจากเหตุปัจจุบัน เช่น ยา อาหาร สุขภาพ สารพิษ ก็ให้ทำความดีตามมรรค 8 ไปเรื่อย ๆ ความสุขหรือความทุกข์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีลูกหรือไม่มีลูก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 03 Mar 2024 - 54min - 279 - ความสมดุลระหว่างทางโลกกับทางธรรม [6709-1u]
เรื่องของนางกาณา ในสมัยพุทธกาล เป็นสตรีที่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก แต่ไปแต่งงานไม่ทันเพราะใส่บาตรพระ ทำให้เจ้าบ่าวไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่นแทนเพื่อให้ทันฤกษ์ยาม นางกาณาเสียใจมาก ตั้งแต่นั้นมา นางกาณาก็ด่าว่าติเตียนภิกษุ แต่ก็ยังมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอยู่ พระพุทธเจ้าจึงเสด็จมาโปรด ปรับจิตใจนางกาณาและแม่ให้ยังมีศรัทธาอยู่ ให้เข้าใจสถานการณ์ อย่าหาบาปเพิ่มให้ตนเอง ให้ดำเนินชีวิตตามทางอริยมรรคมีองค์ 8 นางกาณาและแม่ได้ฟังแล้วก็บรรลุพระโสดาบัน ได้ทรัพย์อันยิ่งใหญ่มากกว่าการได้แต่งงาน
ถ้าเราเจอผัสสะที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจก็ตาม และเราพยายามรักษาตามมรรค 8 ไว้ได้ กิเลสก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะเราตั้งใจจะทำความดี รักษาจิตใจให้ดีเหมือนเดิม ในขณะที่โลกบีบคั้น ปัญญาก็จะเกิดขึ้นว่า โลกมันเป็นอย่างนี้ มีเกิดและดับ มีลาภ มีเสื่อมลาภ มีสุข มีทุกข์ ปัญญาจะเกิดขึ้นทันที
ความสมดุลระหว่างทางโลกกับทางธรรม ธรรมะมีหลายระดับ เช่น ระดับนักบวช ระดับผู้ครองเรือน การครองเรือนไม่ว่ารูปแบบใดก็ตาม ถ้าอยู่ด้วยความยินดีในกามก็จะได้รับการเบียดเบียนจากกาม ถ้าในการดำเนินชีวิตของเราไม่ได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ได้มีธรรมะสอดแทรกเอาไว้ แล้วต้องเผชิญกับกาม จิตใจก็จะมีความวุ่นวาย มีความทุกข์ระทม
ความเข้าใจที่ถูกต้องคือ สุขทุกข์ถ้ามีเหตุให้เกิดมันก็เกิด สุขทุกข์เป็นธรรมดา มีเกิดมีดับ เป็นของไม่เที่ยง ไม่ใช่ว่าจะได้แต่สุข ไม่เอาทุกข์ ถ้าจิตใจเราแปรปรวนด้วยผัสสะที่มากระทบให้มีสุขบ้าง ทุกข์บ้าง ความสงบตั้งไม่ได้ ก็จะไปตามกระแส มองไม่เห็นทาง
ศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา เป็นฆราวาสธรรม ต้องรักษาไว้ เป็นธรรมให้อยู่ครองเรือนได้อย่างเป็นสุข ธรรมะต้องอยู่แทรกไปในทุกการกระทำ ทุกความคิดของเรา เราต้องนำสติสัมปชัญญะมาตั้งธรรมให้ได้ เริ่มจากการมีความเข้าใจที่ถูกต้อง สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายะมะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ ทุกอย่างอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้แน่นอน ไม่ใช่ว่าต้องแยกกัน ให้เรามีธรรมะสอดแทรกเข้าไปในจิตใจของเรา เราจะสามารถรักษากาย วาจา และจิตใจ ให้อยู่ในทางโลกได้ทุกสถานการณ์ เมื่อมีธรรมะรักษาอยู่ในจิตใจแล้ว ก็จะสามารถปรับตัวแปรแก้สมการให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามทางที่จะมีนิพพานเป็นที่สุดจบได้แน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 25 Feb 2024 - 57min - 278 - วิธีรับมือกับคนเจ้าอารมณ์ [6708-1u]
Q1: วันมาฆบูชา พุทธศาสนิกชนควรปฏิบัติตนอย่างไร
A: วันมาฆบูชา เป็นวันแห่งความรักของพระพุทธศาสนา เป็นความรักที่เป็นไปด้วยความเมตตาชนิดที่ไม่มีเงื่อนไข คือ ความรักที่บริสุทธิ์ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ 1. ไม่มีเงื่อนไข 2. ไม่มีประมาณ ไม่กลัวหมด 3. ไม่เว้นใครไว้ หากเรารักคนอื่นด้วย 3 องค์ประกอบนี้ ไม่มองเห็นใครเป็นศัตรู มองทุกคนด้วยจิตใจที่เป็นมิตร ด้วยจิตใจที่มีความรักความเมตตาแบบนี้ เป็นสิ่งที่ควรเอามาปฏิบัติ ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ก็จะทำให้มีจิตใจแบบพรหม อยู่เป็นสุขได้
Q2: วิธีรับมือกับคนเจ้าอารมณ์
A: การเงียบ ไม่ต่อคำด้วย อาจจะไม่จบเดี๋ยวนั้น แต่ในอนาคตก็จะจบ ค่อย ๆ ใช้เวลาระงับลง การพูดสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่พูด ให้พูดสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในเวลาที่เหมาะสม และให้แผ่เมตตาให้บุคคลนั้นผ่านไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย เขาจะรับกระแสความรักความเมตตาจากเรา อารมณ์ร้อน โทสะของเขาก็จะเบาบางลง
วิธีแผ่เมตตา 1. ทำจิตให้เป็นสมาธิ-ตั้งสติขึ้นโดยใช้พุทโธหรือกำหนดลมหายใจ พอเกิดสติแล้ว จิตจะค่อยระงับลง เป็นสมาธิ สมาธิที่เกิดขึ้นจะเป็นกำลังในการส่งกระแสความเมตตาออกไป
2. ตั้งจิตไว้ด้วยกับเมตตา-นึกถึงความรักของมารดาที่มีเมตตาต่อลูกชนิดที่ไม่มีประมาณ
3. ส่งกระแสความเมตตาออกไปให้บุคคลนั้นผ่านไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย-โดยเอาบุคคลนั้นตั้งเป็นอารมณ์ ความขัดข้องในใจของเราก็จะลดลงหรือหมดไปด้วยความเมตตา
4. แผ่เมตตาซ้ำไปเรื่อย ๆ จิตใจเราก็จะไม่มีความขัดเคืองใจ ไม่มีความอิจฉาริษยา จะมีแต่ความเมตตากรุณาให้ไป
Q3: ธรรมะสำหรับคนที่มีอาการนอนไม่หลับ
A: แบบที่ 1 เป็นโรคนอนไม่หลับ (Insomnia) แบบที่ 2 เป็นคนที่มีจิตเป็นสมาธิตื่นอยู่ตลอดคืน (ตื่นด้วยสติสมาธิ) แบบที่ 2 เมื่อตื่นแล้วจะไม่รู้สึกอ่อนเพลีย ร่างกายได้พักผ่อนอยู่ในสมาธิ แบบที่ 1 นอกจากการรักษาทางการแพทย์และการปรับพฤติกรรมแล้ว ทางด้านจิตใจ พระพุทธเจ้าให้มีสติสัมปชัญญะน้อมไปในการนอน คือ ให้เราตั้งสติไว้ก่อน ไม่ให้จิตเพลินไปตามความคิด ฟุ้งซ่าน ให้ใช้พุทโธตั้งสติขึ้น เมื่อสติมีกำลังตั้งขึ้นได้แล้ว ให้น้อมจิตไปที่การนอน โดยให้ตั้งจิตว่า “ฉันกำลังจะนอน บาปอกุศลทั้งหลายอย่าตามเราผู้นอนอยู่ไป” แล้วน้อมจิตไปเพื่อการนอน
Q4: ทำไมบางคนถึงมีสติสมาธิในทางทำงานมาก
A: คนเราจะเก่งเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ ต้องมีสติสมาธิอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่านำไปใช้ในทางไหน ถ้าเอาสติ สมาธิ ปัญญา นำไปใช้ในทางที่ทำให้กิเลสเพิ่มขึ้น จะเป็น “มิจฉา” แต่ถ้านำไปใช้ในทางที่ทำให้กิเลสลดลง อันนี้เป็น “สัมมา” มรรค 8 (ศีล สมาธิ ปัญญา) เอาไปปรับใช้ได้ทุกเรื่อง ทั้งการเล่นกีฬา การเรียน การทำงาน โดยต้องฝึกให้จิตของเรามีความเคยชินในเรื่องนั้น ๆ ด้วย
Q5: เหตุใดประเทศไทยซึ่งเป็นเมืองพุทธ จึงยังมีปัญหาความรุ่มร้อน
A: ประเทศอินเดีย ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ก็ยังมีปัญหา มีความไม่ราบรื่น เพราะโลกมันเป็นอย่างนี้ สุข ทุกข์ พอ ๆ กัน ไม่ใช่ว่าจะเป็นที่ ที่มีแต่สุขอย่างเดียว ดังนั้น เราจะคาดหวังว่าเมื่อศึกษาธรรมะแล้ว ทุกอย่างจะราบรื่น อันนี้ไปตามความอยาก (ตัณหา) แล้ว ย่อมมีปัญหาตามมาแน่นอน หากเรามีเงื่อนไขแห่งความสุขมาก ความทุกข์ก็จะมาก เพราะความจริงมันไม่เป็นไปตามเงื่อนไข แต่ถ้าเรามีเงื่อนไขแห่งความสุขน้อย ก็จะมีความสุขมาก เพราะมีความอยากน้อย ดังนั้น เงื่อนไขแห่งความสุขจึงเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งที่เราควรทำ คือ ให้เราปฏิบัติตามศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเป็นเครื่องรักษาจิตของเราให้มีความผาสุกได้ แม้เผชิญกับความเจ็บป่วย ความชรา ข้าวยากหมากแพง เกิดสงคราม เราก็จะยังเป็นผู้ที่อยู่ผาสุกได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 18 Feb 2024 - 52min - 277 - โรค Phobia กับการละอาสวะ [6707-1u]
กระบวนการเกิดของพฤติกรรม เกิดจากจิตใจ โดยจิตของคนเราจะเป็นไปตามอารมณ์ เปรียบเหมือนกับลิง โหนตัวไปมา จับกิ่งไม้นี้ โหนตัวไปจับกิ่งไม้อื่น แล้วปล่อยกิ่งไม้เดิม ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จิตของของเราก็เหมือนกันเคลื่อนไปตามอารมณ์นี้ นั้น โน้น ซึ่งอารมณ์ก็เกิดมาจากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อจิตไปเสวยอารมณ์ก็จะเกิดสิ่งที่อาสวะผลิตขึ้นมา คือ กิเลส ราคะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้นเมื่อไม่มีสติ หลงเพลินไป อาสวะเป็นของไหลออกเนื่องจากพฤติกรรมของจิตที่ไปเสวยอารมณ์นั้น ๆ เมื่อจิตไปเสวยอารมณ์ อาสวะที่ผลิตออกมาก็จะถูกสะสมไว้ที่จิต (reinforce) คือ การตอกย้ำลงไป พฤติกรรมนั้นก็จะทำง่ายขึ้นในครั้งต่อไป เมื่อจิตเราไปเสวยอารมณ์อย่างนั้นอีก อาสวะเมื่อเราไม่มีสติ หลงเพลินไป ก็จะถูกผลิตขึ้นมาอีก ก็จะเป็นการตอกย้ำอีกว่า การกระทำพฤติกรรมแบบนี้มันก็จะง่ายขึ้น เช่น คนที่ชอบกินผัดกะเพราแล้วมันอร่อย ก็กินผัดกะเพราในครั้งต่อไปก็ยิ่งจะง่าย หรือ คนที่กลัวงู ก็เพราะมีอาสวะสะสมในจิตให้เกิดอารมณ์กลัวจากการได้เห็นงูมาก่อน เมื่อมีผัสสะมากระทบ พฤติกรรมจะออกมาทันทีว่ากลัวงู พอพัฒนามากขึ้นก็จะกลายเป็นโรค Phobia
สำหรับคนที่เป็นโรค Phobia หรือโรคซึมเศร้า ทำให้มีปัญหาในการดำเนินการชีวิต พระพุทธเจ้าสอนว่า “หากเรากลัวสิ่งใด เราจะละความกลัวได้ ก็ต้องละในสิ่งนั้น เราทุกข์ตรงไหน เราจะละทุกข์ได้ เราต้องละทุกข์ตรงนั้น มันติดตรงไหน จะแก้ จะตัดได้ ก็ต้องแก้ที่ตรงนั้น เป็นแผลตรงไหน จะให้หายได้ ต้องใส่ยาลงไปที่ตรงนั้น” เมื่อเรากลัวสิ่งไหน ให้เข้าไปหาสิ่งนั้นด้วยสติปัญญา เมื่อมีความกลัวเกิดขึ้น ให้เข้าใจด้วยปัญญาว่าจริง ๆ แล้ว มันไม่ได้น่ากลัว มีปัญญาเห็นตามความเป็นจริง (โยนิโสมนสิการ) อาสวะความกลัว ก็จะถูกตัดออกทันที แต่ถ้ายังตั้งสติไม่ได้ ก็ให้คิดเรื่องอื่น ไปตั้งสติในเรื่องอื่น เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ การมีจุดที่ตั้งสติขึ้น เป็นการเพิ่มกำลังของสติและปัญญา การฟันลงไปก็จะถูกจุดมากขึ้น อาสวะก็จะถูกทำลายได้ตรงจุดยิ่งขึ้น เปรียบเทียบความคมของมีดได้กับปัญญา ขนาดของมีดเปรียบได้กับสมาธิว่ามีกำลังมากแค่ไหน การเล็งลงไปให้ถูกจุด เปรียบได้กับสติ
ความกลัวมี 2 ประเภท 1) ความกลัวที่เป็นกุศล เช่น กลัวต่อบาป (หิริโอตัปปะ) 2) ความกลัวที่เป็นอกุศล เช่น กลัวอื่น ๆ กลัวสูญเสีย กลัวตาย กลัวเจ็บป่วย เป็นต้น หากกลัวความตาย ท่านให้พิจารณาความตายด้วยการเจริญมรณสติ ตั้งสติระลึกถึงความตาย แล้วระลึกถึงความดีของตน ดึงจิตมาจดจ่อไว้ที่ความดีของตน (ฌาน) เป็นสัมมาสมาธิ พอมีสมาธิเห็นด้วยปัญญาว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกสิ่ง พิจารณาแบบนี้ซ้ำวนไปวนมาหลาย ๆ รอบ เพราะอาสวะที่สะสมไว้มานานมันเหนียว
โดยสรุป “ให้เราสังเกตพฤติกรรมของเราว่าเป็นมาอย่างไร มันแก้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเรื่องหนัก ๆ ที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็แก้ไขได้ ราคะ โทสะ โมหะ มันอบรมจิตใจเรามามากแล้ว เราจึงตกเป็นทาสของมันจนทุกวันนี้ ทำให้มีพฤติกรรมต่าง ๆ ออกมา ในทางจิตใจเราจึงต้องแก้ที่เหตุปัจจัย โดยใช้สติปัญญา เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาตรงนี้”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 11 Feb 2024 - 1h 00min - 276 - วิธีตัดเวรตัดกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร [6706-1u]
Q1: อโหสิกรรมแล้ว คนนั้นจะไม่ต้องรับผลกรรม ใช่หรือไม่
A: การกระทำทุกอย่างทั้งทางกาย วาจา ใจ ต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น ผล คือ วิบาก ความเชื่อที่ว่า “ถ้าเราทำกรรมอย่างไร ก็จะได้รับกรรมอย่างนั้น” เป็นความเชื่อที่ผิด เป็นมิจฉาทิฎฐิ แต่ “ทำกรรมอย่างไร ก็จะได้รับผลของกรรมอย่างนั้น” เป็นความเชื่อที่ถูก “ผลของกรรม” กับ “กรรม” เป็นคนละอย่างกัน “อโหสิ” คือ การกระทำของเรา แม้เราให้อภัยเขา เขาก็ยังต้องได้รับผลของกรรมของเขาอยู่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะให้อภัยเขาหรือไม่ เพราะแต่ละบุคคลมีกรรมเป็นของตน แต่การให้อภัยจะเป็นประโยชน์กับตัวเรา หากเราไม่พอใจเขา ผูกเวร ก็จะเป็นบาป เป็นอกุศลกรรมของเรา การให้อภัยจะเป็นตัวตัดไม่ให้ความชั่ว หรืออกุศลกรรมเกิดขึ้นกับเรา ตัวเราก็จะได้รับผลของกรรมดีจากการให้อภัยนั้น ตัวอย่าง การผูกเวรของพระเทวทัตที่มีต่อพระพุทธเจ้า
- วิธีการที่จะขอตัดเวรตัดกรรม คือ การปฏิบัติตามอริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งเป็นปฏิปทาให้ถึงความสิ้นกรรม ให้เราทำความดี รักษาศีล เจริญสมาธิ เจริญปัญญา
- พระอาจารย์แนะนำให้เรา “ทำความดีต่อไป ความชั่วไม่ทำเลยดีกว่า ให้อภัยทุกคน ไม่คิดร้ายกับใคร เขาจะดีหรือร้ายอย่างไร เราก็จะทำความดีอย่างเดียว เพื่อให้ถึงนิพพาน จะเป็นที่พ้นทุกข์ให้ถึงความสิ้นกรรมได้”
Q2: ทำบุญให้กับบุคคลที่เสียชีวิตโดยไม่เจตนาของเราและเป็นคนต่างศาสนา จะได้รับบุญที่ทำให้หรือไม่
A: บุญจากการใส่บาตร ทำสังฆทาน เกิดขึ้นที่เราแล้ว เราส่งกระแสจิตไปถึงบุคคลนั้น ให้เขาอนุโมทนา ส่วนเขาจะมาอนุโมทนาหรือไม่ เป็นเรื่องจิตของเขา ในที่นี้ให้เราตั้งหน้าตั้งตาทำความดีต่อไปไม่ว่ารูปแบบใด เพื่อกำจัดความไม่สบายใจ ความกังวลใจของเรา โดยทำบุญให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา การภาวนาจะทำให้จิตใจสงบได้
Q3: พี่สาวเป็นอัลไซเมอร์ อยู่ตัวคนเดียว ลูกไม่ดูแล แต่ต้องรอการตัดสินใจของลูก พี่น้องควรทำอย่างไร
A: สามี ภรรยา ลูก เปรียบเหมือนเสื้อผ้า มีใหม่ได้ แต่พี่น้องเปรียบเสมือนแขนขา มีใหม่ไม่ได้ พี่น้องจึงตัดกันไม่ขาด แนะนำให้พี่น้องช่วยกันดูแลพี่สาว
Q4: ลูกพูดกับพ่อว่า แก่แล้วไม่ทำอะไร ทวงบุญคุณกับลูก พ่อควรทำอย่างไร
A: พ่อควรทำใจ คือ ทำใจของเราให้เป็นกุศล ผาสุกอยู่ได้ แม้ทายาทไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง อย่าคิดในทางที่เป็นอกุศล เศร้าหมอง อย่าไปสาปแช่งลูก เอาเมตตา อุเบกขา เข้าไปใส่ พยายามพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด
Q5: ตอบแทนคุณพ่อแม่ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันได้อย่างไร
A: “ทำเอง” หรือ “จัดให้กระทำ” ก็ได้ อาจจะเอาเงินเดือนให้ ทำประกันชีวิตให้พ่อแม่
Q6: ทะเลาะกับพี่น้อง และไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองผิด เป็นบาปหรือไม่
A: ผิด หรือถูก ไม่เหมือนกับสัมมา หรือมิจฉา แม้ถูกแต่ก็อาจเป็นมิจฉาได้ การผูกเวรอยู่ เป็นบาป ให้เจริญเมตตาโดยไม่มีประมาณ ไม่มีเวรต่อกัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 04 Feb 2024 - 54min - 275 - Mindset ที่ทำให้ชีวิตมีความสุข [6705-1u]
ช่วงไต่ตามทาง: ประสบความทุกข์ต่อเนื่อง
ช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา ประสบความทุกข์มาก ทั้งเรื่องเงินทอง คนในครอบครัวเสียชีวิตหลายคน โควิด หน้าที่การงาน สุขภาพร่างกาย เจอบททดสอบหลายอย่าง เครียดมาก บางครั้งไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี ถ้าไม่มีธรรมะ ก็อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าได้ แต่ผู้ฟังท่านนี้ มีสติ คอยดึงไว้ ไม่ทำอะไรที่ผิดศีล หรือเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ปรุงแต่งให้จิตใจหดหู่ลงไป นึกถึงธรรมะความไม่เที่ยง มีสติสัมปชัญญะอดกลั้นเวทนาไว้ รักษาจิตให้มีความสงบ หาความสุขในปัจจุบัน เร่งทำความดี ฟังธรรม มีกัลยาณมิตร เดินตามทางมรรค
ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: Mindset ที่ทำให้ชีวิตมีความสุข
กฎเกณฑ์ที่เราตั้งในชีวิต ทำให้เราทุกข์โดยไม่จำเป็น ก็ควรจะเปลี่ยนกฎเกณฑ์ใหม่ กฎเกณฑ์ความสุขของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน เจอผัสสะมาไม่เหมือนกัน มีความเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง “รักสุข เกลียดทุกข์” ถูกผลักดันด้วยเวทนา หากเราตั้งกฎเกณฑ์ว่าทุกอย่างจะต้องราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไร เราถึงจะมีความสุขนั้น รอไปเถอะ เราจะทุกข์โดยไม่จำเป็น
ทิฏฐิ (Mindset) เกิดจากผัสสะ หล่อหลอมตกตะกอนจนทำให้เป็นกฎเกณฑ์ในชีวิต ในโลกปัจจุบันมีทิฏฐิว่า “ต้องมีเงิน ถึงจะมีความสุข” ทำให้เกิดความเพียรในการหาเงิน ความเพียรเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าความเพียรนั้นทำให้ผิดศีล อย่างนี้ไม่ดี
พระพุทธเจ้ามีกฎเกณฑ์ที่ทำให้ทุกข์ลดลง มีสุขเพิ่มขึ้น คือ มรรค 8 ถ้าเราเปลี่ยนกฎเกณฑ์หรือเงื่อนไขในชีวิตให้น้อยลง หรือให้เป็นไปตามเงื่อนไขความจริงของอริยสัจ คือ ทุกอย่างเกิดขึ้นตามเหตุ ตามปัจจัย มีความไม่เที่ยงเป็นธรรมดา ถือว่าเป็นผู้ที่มาตามกระแสแห่งการพ้นทุกข์แล้ว เราจะมีความทุกข์ลดลงมาก ความสุขชนิดที่เหนือกว่าสุขเวทนาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ปัญหาในชีวิตประจำวันจะลดลงมาก
ให้มี “สติ” พิจารณาว่าเราทุกข์เรื่องอะไร แล้วให้เราเอากฎเกณฑ์ของเรานั้นมาตั้งขึ้น แล้วท้าทายมันด้วยความจริง (อริยสัจ) ว่าจริงๆ มันเป็นอย่างนั้นหรือไม่ กฎเกณฑ์ที่ไม่เข้าท่าของเรานั้นก็จะตั้งอยู่ไม่ได้ ต้องมีสติตั้งอยู่ในความจริง (อริยสัจ) เป็น “สัมมาทิฎฐิ” ซึ่งเป็นตัวกำจัด “มิจฉาทิฏฐิ” ได้
ให้ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต ถ้าเรามีกฎเกณฑ์ความสุขในชีวิตมากเท่าไร เป็นไปตามกระแสของโลกมากเท่าไร ความทุกข์ของเราก็จะมากตามกระแสของโลกนั้น คือ มีตัณหามาก ความทุกข์ก็มาก แต่ถ้าเรามีกฎเกณฑ์ความสุขในชีวิตน้อย คือ ไม่ต้องตามกระแสของตัณหา ความทุกข์ก็น้อย แต่ความสุขจะมีมาก ความสุขเกิดจากภายใน ไม่ใช่จากปัจจัยภายนอก เรามีความสุขได้ทันที ด้วยการตั้งจิตของเราใหม่ ให้มาตามทางมรรค 8
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 28 Jan 2024 - 59min - 274 - ธรรมะรับอรุณ Live 22 ม.ค. 2567 - [6704-1u_Live]Mon, 22 Jan 2024 - 59min
- 273 - วิธีทำจิต เมื่อต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย [6703-1u]
ช่วงไต่ตามทาง: ท่านผู้ฟังป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด และเสียชีวิตแล้ว ความป่วยมี 2 อย่าง คือ ป่วยกายกับป่วยใจ ก่อนเสียชีวิต ท่านไม่มีการร่ำไห้คร่ำครวญ นึกเสียใจ แต่มีพลังจิตพลังใจเข้มแข็งมาก ยังสอนลูกหลานว่าความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา ทุกคนต้องตาย ธรรมะที่ทำให้บุคคลนี้ยังมีความผาสุกอยู่ได้แม้มีความตายมาจ่ออยู่ตรงหน้า คือ การตั้งสติไว้ มีการฟังเทศน์อยู่สม่ำเสมอ เมื่อมีทุกขเวทนาเกิดขึ้น พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่ามี 2 วิธี คือ ใช้สุขาปฏิปทา คือ การหลบจากความเจ็บปวดด้วยการเข้าสมาธิ หรือใช้ทุกขาปฏิปทา คือ การพิจารณาลงไปในความเจ็บปวดทางกายนั้น จิตแยกกับกายได้ ทุกขาปฏิปทานี้ เป็นวิธีการ หรือการพิจารณาชนิดที่เป็นที่สบายต่อการบรรลุนิพพาน คือ เห็นโดยความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ:วิธีทำจิต เมื่อต้องเผชิญกับความเจ็บป่วย
Stage 1 ยังไม่ป่วยกาย-หากกายยังไม่ป่วย ก็อย่าให้ใจป่วย ที่ตั้งแห่งความเบาใจ 4 ประการ ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และศีลของเรา ให้ยึดไว้เป็นสรณะ จิตของเราก็จะมีความเบาใจได้ อย่าเอาจิตของเราไปใส่ไว้ในจุดที่หนักใจ กังวลใจ ดูข่าวพอประมาณ ให้มีความรู้ที่จะทำให้เมื่อป่วยจริงแล้วจะมีความผาสุกอยู่ได้ และต้องฝึกสติให้มีกำลังมากขึ้น และสมาธิต้องเข้าได้ง่าย ตั้งอยู่ได้นาน ต้องฝึกให้มีความชำนาญ
Stage 2 เจ็บป่วย แต่ไม่มาก-ให้ฝึกทำตั้งแต่ตอนที่ยังมีทุกขเวทนาทางกายไม่มาก คือ ให้มีความเพียรตั้งสติเอาไว้ ใคร่ครวญแยกแยะสุขเวทนา ทุกขเวทนา กุศลธรรม อกุศลธรรม และพิจารณาฐานะความเจ็บไข้ ที่จะไม่ได้มาด้วยการอ้อนวอนขอร้อง ถ้ามีเหตุเกิดของโรค โรคก็ย่อมเกิด เป็นธรรมดาที่จะต้องเจ็บป่วยไข้ เมื่อจิตสงบแล้วจะสามารถเห็นความไม่เที่ยงในกาย แล้ววาง ละ ไม่ยึดถือ ไม่กำหนัดยินดีในกาย แล้วเอาความที่จิตเป็นอารมณ์อันเดียวนั้น ตั้งมั่นเอาไว้ เห็นกายในความของไม่เที่ยง ปล่อยเสีย วางเสีย แยกจากกัน เหมือนดึงดาบออกจากฝัก พิจารณาแยกกายกับจิตออกจากกัน
Stage 3 ป่วยหนักมากแล้ว-คนที่หนักปานนี้แล้ว ถ้าตั้งอยู่ในธรรม 5 อย่างนี้ ไม่นานก็จะสามารถบรรลุธรรมขั้นสูงได้ ถ้าจะตาย แล้วเข้าถึงความไม่ตายได้ มันคุ้มกว่านะ ร่างกายแตกสลายตายไป แต่เข้าถึงความไม่ตาย คือ ความอมตะ นิพพานได้ ย่อมดีกว่าการอยู่ในกายเน่าเฟะ ท่านเปรียบเหมือนหม้อดินเก่า รั่ว แตก แต่เห็นถาดทองคำอยู่ จะไปเอาหม้อดินมาใช้ทำไมเล่า ไปเอาถาดทองคำดีกว่า จะได้ถาดทองคำได้ด้วยการรักษาจิต คนที่ป่วยหนักแล้วต้องแยกกายแยกจิตให้ได้เร็ว ให้ได้นาน ให้คงอยู่ได้ตลอด ธรรม 5 ข้อ ที่พระพุทธเจ้าให้พิจารณาเมื่อป่วยหนัก ได้แก่
1. ให้พิจารณาถึงความไม่งามในกาย
2. การให้เห็นความปฏิกูลในอาหาร
3. การเห็นว่าโลกทั้งปวงไม่น่าเพลิดเพลิน ไม่น่ายินดี
4. พิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งหลาย
5. มรณสัญญา กำหนดหมายไว้ในความตาย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 14 Jan 2024 - 1h 01min - 272 - แนวทางการสั่งสอนเด็กในปัจจุบัน [6702-1u]
Q1: ทำอย่างไรให้กรรมชั่วที่เคยทำไว้ สิ้นผลไปโดยเร็ว
A: หลักการทั่วไป คือ กรรมชั่วจะให้ผลเป็นความไม่ดี ทุกขเวทนา ส่วนกรรมดี จะให้ผลเป็นความสุข แต่หลักการนี้มีเงื่อนไขตัวแปร 2 อย่าง คือ เวลาและความหนักเบา เวลา: กรรมจะให้ผลในปัจจุบันหรือในเวลาต่อมา และต่อมาอีก, ความหนักเบา: ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขหรือสถานการณ์หลายอย่าง เปรียบเหมือนเกลือกับความเค็ม เกลือเค็มอยู่แล้ว แต่จะเค็มมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่ามีน้ำน้อยหรือน้ำมาก ถ้าน้ำน้อยก็เค็มมาก ถ้าน้ำมากก็เค็มน้อย ตัวอย่าง ท่านองคุลีมาล เป็นต้น สำหรับ “ปฏิปทาให้ถึงความสิ้นกรรม” นั้น ต้องปฏิบัติตามมรรค 8 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าเราทำให้มาก เจริญให้มากแล้ว อันนี้จะเป็นปฏิปทาให้ถึงความสิ้นกรรมได้ เร็วอย่างมากก็ 7 ปี ทั้งนี้ จะเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับอินทรีย์ (ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) ว่ามีความแก่กล้าหรือไม่
Q2: การทำความดีกับการทำบุญ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร
A: “ความดี” กับ “บุญ” เป็นคำไวพจน์กัน แต่บุญจะหมายเอาในบริบทเรื่องของจิต ส่วนความดีจะหมายเอาในบริบทเรื่องของการกระทำทางกาย วาจา ใจ แต่บางครั้งบุญก็อาจให้ผลเป็นทุกขเวทนาได้ เปรียบกับการกินยาขม ตอนกินมีรสขม แต่เมื่อยาออกฤทธิ์แล้ว อาการเจ็บป่วยก็ดีขึ้น ให้ผลเป็นความสุข ส่วนคนที่ทำชั่วแล้วได้ดี เปรียบกับเครื่องดื่มรสหวาน กลิ่นหอม สีสวย แต่เจือไปด้วยยาพิษ ตอนกินเข้าไปมีรสอร่อย แต่พอพิษออกฤทธิ์ ก็จะเจ็บปวด ให้ผลเป็นความทุกข์
Q3: การสั่งสอนเด็กสมัยนี้ มีแนวทางอย่างไร
A: สำหรับวันเด็ก ให้ทบทวน 2 ส่วน ส่วนแรก สิ่งที่แตกต่างกัน คือ ความต้องการของเด็ก ต้องเข้าใจลูก เข้าใจว่าสังคมมันเปลี่ยนแปลงไป จะสอนเหมือนเดิมไม่ได้ วิธีการสอนต้องเปลี่ยนแปลงไป ส่วนที่สอง สิ่งที่เหมือนกัน คือ ไม่ว่าเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร แต่หน้าที่ของพ่อแม่ คือ ต้องสอน “ให้ลูกตั้งอยู่ในความดี ห้ามลูกเสียจากบาป” วิธีสอนที่ดีที่สุด คือ การทำเป็นตัวอย่าง พระพุทธเจ้าจะสอนสาวกให้เข้าใจได้ ท่านทรงทำเป็นตัวอย่าง คือ “สอนสิ่งที่ท่านทำ ทำในสิ่งที่ท่านสอน”
เด็กที่ตั้งคำถาม ไม่ยอมทำตามในทันทีไม่ใช่เด็กดื้อ แต่เป็นเด็กที่มีวิจิกิจฉา (ความเคลือบแคลงเห็นแย้งยังไม่ลงใจ) จะกำจัดได้ ต้องเอาปัญญาเข้าไปใส่ ซึ่งจะมีปัญญาได้ก็ต้องมีศรัทธา ดังนั้น ให้เอาปัญญา และศรัทธาใส่ลงไปในวิจิกิจฉา อุดรูรั่วตรงนั้น ความเคลือบแคลงเห็นแย้งก็จะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ครูอาจารย์ ที่ต้องให้ความรู้ ให้ปัญญา มีความเมตตา และความอดทน ในการสั่งสอนเด็ก
Q4: ขอพรให้เกิดใหม่ชาติหน้าได้รับสิ่งที่ดี ๆ แต่พระพุทธเจ้าสอนว่าการไม่เกิดดีที่สุด ที่ถูกควรเป็นอย่างไร
A: คนที่มีปัญญาสูงจะเห็นว่า การเกิดเป็นทุกข์ ส่วนคนที่มีปัญญาลดลงมาจะเห็นว่า การเกิดยังดีอยู่ ส่วนคนที่ยังไม่เข้าใจจะเห็นว่า การเกิดไม่มี ชาติหน้าไม่มี คำสอนของศาสนาพุทธมีหลายระดับ การจะไปติผู้ที่อยู่ระดับต่ำกว่าเป็นสิ่งไม่ถูก
Q5: พ่อแม่ทำไม่ดีกับลูก เป็นบาปหรือไม่
A: บุคคลที่เป็นอริยชน (คนที่เติบโตมาก่อน) ห้ามกันบุคคลออกจากสิ่งที่ไม่ดี นั่นเป็นการสั่งสอนให้ออกจากอกุศลกรรม ไม่ใช่การผูกเวร อย่างนี้ไม่เป็นบาป เป็นการเปิดโอกาสให้กลับตัว
Q6: ครอบครัวเป็นเครื่องกีดขวางการปฏิบัติธรรม ควรทำอย่างไร
A: ต้องปลดล็อก ขึ้นอยู่กับความยึดถือของแต่ละบุคคลว่ามากหรือน้อย จิตใจมีความมั่นคงสูงหรือไม่ มีปัญญาสูงหรือไม่ เปรียบเทียบเรื่องนกมูลไถกับช้างอาชาไนย จะเปลี่ยนเปลงจิตใจให้มีกำลังจากนกมูลไถเป็นช้างอาชาไนยได้ ต้องปฏิบัติตามมรรค 8 (ศีล สมาธิ ปัญญา) ให้มาเพ่งตรงนี้ ก็จะกำจัดขวากหนาม สิ่งกีดขวางได้ เป็นช่องทางที่พระพุทธเจ้าเดินลุยเปิดทางมาก่อนแล้ว เพียงแต่เราเดินตามให้ได้ โดยจะมีเครื่องมาทดสอบให้เราหลุดออกจากทางบ้าง ก็ต้องอดทน ค่อย ๆ ปรับ หากุศโลบาย สอบถามครูบาอาจารย์ หาแนวทางที่จะทำให้จิตเรามาตามทางให้ได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 07 Jan 2024 - 55min - 271 - วิธีทำให้ "ความหวัง ความมั่นใจ" มีอยู่ตลอดปี 2567 [6701-1u]
ช่วงไต่ตามทาง: คุณจอย ได้รับทุกขเวทนาทางใจ คือ ถูกสามีนอกใจ และได้รับทุกขเวทนาทางกาย คือ พบว่าตนป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะที่หนึ่ง ในสถานการณ์ที่หมดหวัง ครอบครัวแตกสลาย และยังเจอโรคภัยไข้เจ็บร้ายแรง แต่ด้วยการมีธรรมะรักษาจิตใจไว้ ทำให้ยังมีความหวัง ความมั่นใจที่จะดำเนินชีวิตให้ดีได้ ความหวังความมั่นใจนี้ คือ “ศรัทธา” ที่ตั้งเอาไว้ ทำให้มีการปฏิบัติธรรม มีเมตตา มีอุเบกขา ประกอบด้วยปัญญาในการปล่อยวาง เห็นว่าสุขทุกข์เป็นเรื่องธรรมดา จิตใจประกอบด้วยกำลัง คือ อินทรีย์เป็นพละ เหล่านี้ ทำให้ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ก็ยังสามารถดำรงอยู่ได้ จิตใจมีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายในชีวิต คือ การปฏิบัติธรรมให้ละเอียดสูงขึ้น ให้จิตมีกำลังมากขึ้น ประกอบด้วยความหวัง และกำลังใจ ตอนนี้คุณจอยมีความสบายใจมาก ภูมิใจมากที่ได้ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า ขอบคุณความทุกข์ที่ทำให้เห็นธรรม การฟังธรรมะอยู่เป็นประจำ ได้ฝึกปฏิบัติธรรม ทำให้จิตใจมีความเข้มแข็ง เกิดปีติอยู่ภายใน ส่งผลให้ร่างกายฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว
ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ: ให้เรามีศรัทธา มีความมั่นใจ มีความหวังที่ประกอบด้วยปัญญา ในปี 2567 นี้
ในช่วงใกล้ปีใหม่ คนเรามักจะมีความหวังว่าปีหน้าจะดีขึ้น แต่ถ้าตั้งความหวังไว้ไม่ถูกตั้งแต่แรก ก็จะไปผิดทาง กล่าวคือ คนที่รักสุข เกลียดทุกข์ ก็จะแสวงหาแต่ความสุขแล้วผลักความทุกข์ออกไป แต่สิ่งนี้ไม่ถูกต้องเพราะสุขทุกข์เกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา เปรียบเหมือนการตั้งใบเรือ หรือตั้งหางเสือผิด ก็จะไปผิดทาง จึงให้กลับมาตั้งทิศทางใหม่ให้ถูกต้อง คือ ให้ตั้งศรัทธา คือ ความมั่นใจที่ประกอบด้วยปัญญา ปัญญา คือ ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ที่ว่าสุขทุกข์เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ และดับได้เป็นธรรมดา ซึ่งเป็นความจริงของโลกใบนี้
ความหวัง หรือความอยากได้นั่นนี่ จะให้ปรากฏในโลกความเป็นจริงได้ จะต้องเป็นความหวังที่ประกอบด้วยปัญญา โดยพิจารณาตามหลักอิทธิบาท 4
1. ฉันทะ (ความพอใจ) กำหนดความอยาก ความฝัน ความหวัง ที่ประกอบด้วยปัญญา คือ เข้าใจความจริงว่าสุขทุกข์มีได้เป็นธรรมดา และสิ่งที่อยากนั้นอาจจะสำเร็จหรือไม่ก็ได้
2. วิริยะ (ความเพียร) ต้องเกิดการลงมือทำ ทำจริง แน่วแน่จริง โดยต้องมีการวางแผน ขั้นตอนกระบวนการ (Action Plan) ก่อนลงมือทำ เพียงแค่รู้ขั้นตอนถัดไป ทีละ Step ว่าต้องทำอะไรบ้างก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องรู้ขั้นตอนทั้งหมดในคราวเดียว ถ้าไม่รู้ว่าจะวางแผนอย่างไรก็ให้เข้าสมาธิ ให้เกิดความสงบเย็น หนทางก็จะปรากฏขึ้น
3. จิตตะ (ความจดจ่อ) ให้ตั้งสติสัมปชัญญะเอาจิตมาจดจ่อที่นิสัยใหม่ ที่เราเอาเข้ามาแทนที่นิสัยเดิมที่ไม่ดี
4. วิมังสา (ไตร่ตรองด้วยปัญญา) ต้องมีปัญญา อย่างมงาย คนที่งมงายจะทำให้ความคมของปัญญาลดลง เสื่อมลง อย่าอ้อนวอน หรือขอร้อง แต่ให้เปลี่ยนเป็นการตั้งจิตอธิษฐาน คือ การตั้งใจมั่นอย่างแรงกล้าในการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ตั้งใจที่จะสร้างเหตุให้ได้
ให้เรามีความมั่นใจใน พุทโธ ธัมโม สังโฆ
“พุทโธ” เป็นตัวแทนของการบรรลุความสำเร็จ คือ การตรัสรู้
“ธัมโม” เป็นตัวแทนของวิธีการหรือกระบวนการ คือ การปฏิบัติตามมรรค 8 ที่ทำให้ตรัสรู้ได้จริง
“สังโฆ” เป็นตัวแทนของการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผู้ลงมือทำจริง ทำตามธัมโม คือ ถ้าปฏิบัติตามธัมโม แล้วยังไงก็จะได้พุทโธ
ศีลที่เป็นไปเพื่อสมาธิ ได้แก่ ศีล 5 การสำรวมอินทรีย์ การรู้ประมาณในการบริโภค การประกอบตนอยู่ในธรรมอันเป็นเครื่องตื่น การฝึกให้มีสติสัมปชัญญะ
พระอาจารย์อวยพร “ในปี 2567 ให้ท่านผู้ฟังเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จตามสิ่งที่ตนได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ ที่ไม่ใช่เป็นการอ้อนวอนขอร้อง แต่เป็นการตั้งใจมั่นอย่างแรงกล้าในการที่จะทำให้สำเร็จได้ ด้วยเหตุปัจจัยที่เหมาะสมประกอบด้วยปัญญาที่ตั้งขึ้นไว้จากความมีศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นผู้ที่ประกอบด้วยแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เป็นไปในทางศีล สมาธิ และปัญญา อันเป็นทางที่จะมีนิพพานเป็นที่สุดจบเพื่อที่จะให้ถึงความสุขที่เหนือความสุขเวทนาหรือทุกขเวทนา แต่เป็นความสุขที่เกิดจากความสงบ เป็นความสุขที่เกิดจากความระงับ เป็นความสุขที่เกิดจากความรู้ยิ่ง ความรู้พร้อม และนิพพาน”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 31 Dec 2023 - 56min - 270 - ทบทวนตนเองด้วย "สัมมาวายามะ" [6652-1u]
ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมขุมทรัพย์แห่งใจ จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม 2567 เวลา 09.00 – 12.00 น. ณ หอประชุมกองทัพเรือ ลงทะเบียนได้ที่ http://panya.org/newyear หรือ http://linkdd.co/newyear
หลักธรรมที่นำมาใช้สำหรับการทบทวนตนเองในรอบปี คือ “สัมมาวายามะ” โดยแบ่งเป็น 2 หมวด คือ กุศลธรรม (ความดี) และอกุศลธรรม (ความไม่ดี) ให้ทบทวนดูว่าในรอบปี ตัวเรามีอกุศลธรรม เพิ่ม ลด หรือมีเกิดขึ้นใหม่หรือไม่ เช่น พูดชั่ว คิดชั่ว ทำชั่ว ทำผิดศีล ขี้เกียจ เป็นต้น และทบทวนว่ามีกุศลธรรม เพิ่มขึ้นหรือไม่ การตรวจสอบตัวเองก็ต้องไม่เข้าข้างตัวเอง ถ้าพบว่าตนเองกุศลธรรมไม่เพิ่มแต่มีอกุศลธรรมเพิ่ม ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะหากเราทำแบบเดิมแล้วหวังว่าจะได้ผลแบบใหม่ก็จะไม่เป็นอย่างนั้น ถ้าเราหวังจะให้ผลเปลี่ยนแปลงไป ก็ต้องเปลี่ยนวิธีการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การตั้งเป้าหมาย เพื่อนฝูง พฤติกรรมที่เป็นอยู่ เป็นต้น ซึ่งวิธีการ หรือกระบวนการนั้น อยู่ในมรรค 8
การปล่อยวางกับการวางเฉย “การวางเฉย” มาจากคำว่า อุเบกขา อุเบกขา คือ การวางเฉยในสุขเวทนา และทุกขเวทนา เจาะจงลงไปในเรื่องของเวทนาเท่านั้น ส่วน “การปล่อยวาง” มาจากคำว่า วิราคะ (การคลายกำหนัด) การที่วางขันธ์ 5 ได้ทั้งหมด โวสสัคคะ (การสละคืน) หรือ นิโรธ (ความดับ) โดยลำดับขั้นตอนในการปล่อยวางสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ เป็นดังนี้ 1. มีจิตเป็นสมาธิ 2. เกิดปัญญาเห็นสิ่งนั้นตามความเป็นจริง 3. เกิดความเบื่อหน่าย (นิพพิทา) 4. เกิดความคลายกำหนัด (วิราคะ) 5. เกิดการสละคืน (โวสสัคคะ) หรือความดับ (นิโรธ) ความดับเกิดขึ้นได้ก็ เพราะปล่อยวางได้แล้ว การปล่อยวางไม่เหมือนกับ การไม่สนใจ ไม่แยแส ไม่แคร์ ปล่อยทิ้ง ไม่รับผิดชอบ อย่างนี้ไม่ใช่การปล่อยวาง การด่วนปล่อยวางเกินไป เป็นลักษณะของโมหะไม่ใช่การปล่อยวาง
วิธีอยู่ร่วมกับคน Toxic พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบไว้เหมือนกับช้างที่ต้องเข้าสู่สนามรบที่ต้องถูกแทงด้วยหอก หลาว ลูกศร ต้องอดอาหาร ต้องอยู่กับเสียงดังอึกทึกครึกโครม ช้าง และทหารจะเข้าสู่สนามรบต้องมีชุดป้องกัน เปรียบเหมือนกับมนุษย์ที่ต้องเข้าสู่สนามของผัสสะ ที่มีหนามเยอะแยะไปหมดเมื่อเข้าไปแล้วจะโดนเกี่ยว โดนทิ่มแทง เป็นอุปมาอุปไมย เมื่อเราเข้าสู่สถานที่ที่มีคนคิดร้ายต่อเรา ด่าว่าเราทั้งต่อหน้า และลับหลัง ทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน ซึ่งเราเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่กับคนประเภทนี้ ปัจจุบันเรียกว่าคน Toxic เมื่อเจอสถานการณ์แบบนี้ ลำดับแรกที่ต้องมี คือ “ความอดทน” และลำดับที่สอง คือ “เมตตาและอุเบกขา” เมื่อเรามีเมตตา และอุเบกขาแล้ว ก็จะดึงเขาออกจากความคิดร้าย ออกจากมิจฉาวาจาได้ อาจต้องใช้เวลา แต่จิตเราจะไม่เป็นอกุศล และสามารถเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร เปลี่ยนคนชั่วให้เป็นคนดีได้
วิธีทำทานให้เกิดผล การให้ทานจิตเราต้องมี “ศรัทธา” ทั้งก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้ และผู้รับการให้ ต้องเป็นผู้มีราคะ โทสะ โมหะน้อย หรือไม่มีเลย หรือเป็นผู้ที่มีบุญคุณกับเราเช่น พ่อแม่ และรูปแบบการให้ ต้องไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น โดยต้องแบ่งจ่ายทรัพย์เป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1. ใช้จ่ายในชีวิต ครัวเรือน 2. เก็บรักษาทำให้งอกเงย 3. สงเคราะห์ผู้อื่น 4. ให้ในเนื้อนาบุญ
ศรัทธากับความงมงาย ต่างกันตรงปัญญา ศรัทธาในพระพุทธศาสนาต้องประกอบด้วยปัญญา ถ้าศรัทธาโดยไม่มีปัญญา นั่นคือความงมงาย ทุกวันนี้คนเรามักศรัทธาโดยไม่มีปัญญาเพราะทำง่ายกว่า หรือบางครั้งก็มีศรัทธาแต่ไปยึดติดที่ตัวบุคคล ดังนั้น ให้เราศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ผลที่เกิดจากศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา จะเกิดการลงมือทำจริงแน่วแน่จริงทำให้ผลที่ปรารถนาปรากฏขึ้น ส่วนศรัทธาด้วยความงมงาย จะทำให้ไม่เกิดการลงมือทำ ผลที่ปรารถนาก็จะไม่ปรากฎขึ้น ก็จะต้องขอวนไปเรื่อย ๆ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 24 Dec 2023 - 53min - 269 - วิธีพัฒนาตนเอง ต้อนรับปีใหม่ [6651-1u]
ช่วงไต่ตามทาง: การที่เรารู้สึกว่าโลกวุ่นวาย นั่นคือ จิตใจของเราเองต่างหากที่มันวุ่นวาย แต่เมื่อจิตของเราได้ฟังธรรม ก็จะรู้สึกได้ว่าโลกมันเปลี่ยน แม้ความเป็นจริงโลกจะไม่ได้เปลี่ยน โลกก็ยังเป็นโลกเหมือนเดิม มันเป็นไปตามเงื่อนไขตามกระแสของมัน แต่จิตของเราที่ถูกชโลมด้วยกระแสแห่งธรรม มีความเย็นอยู่ใต้ร่มแห่งธรรมะของพระพุทธเจ้า จะมีความผ่อนคลาย สบายใจ ทำให้การตอบสนองต่อโลกมันเปลี่ยนแปลงไป
กรณีบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเจอสิ่งมากระทบหลายด้าน ทั้งโรคภัยไข้เจ็บของคนไข้ ญาติของคนไข้ พยาบาล หรือหมอด้วยกัน เรื่องที่ทำให้เกิดความไม่พอใจมีมาก จากที่เคยมีอารมณ์ฉุนเฉียว โกรธ ไม่พอใจ แต่เมื่อได้ฟังธรรมะแล้ว ได้แผ่เมตตา ได้ปรับปรุงตัวเองให้พูดจาดีดี ใจเย็น ก็พบว่ามีจิตใจที่สงบขึ้น ปล่อยวางได้ การวินิจฉัยโรคของคนไข้ก็เห็นได้ชัดเจน ถูกต้องมากขึ้น คนไข้ และญาติของคนไข้ก็มี Feedback ที่ดีกลับมา
สิ่งมหัศจรรย์ คือ การที่มีการแสดงธรรม มีผู้ฟังธรรม และผู้ฟังธรรมได้รับประโยชน์ เพราะเมื่อมีคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ จึงมีการทวนกระแสที่เกิดจากการฟังธรรมะ เจตนารมณ์ของพระอาจารย์ คือ การที่ท่านผู้ฟังได้นำความรู้ ได้นำธรรมะที่ได้รับฟังนำไปใช้แล้วเกิดประโยชน์
ช่วงปรับตัวแปรแก้สมการ:ทบทวนตนเอง ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
ให้ทบทวนตนเอง ทั้ง 3 ทาง ได้แก่ ทางกาย ทางวาจา และทางใจ ส่วนใดที่เป็นกุศลกรรม ถ้ายังไม่มีก็ทำให้มี ที่มีอยู่แล้วก็ทำให้ดีขึ้น ส่วนใดที่เป็นอกุศลกรรม ถ้ายังไม่มีก็อย่าให้เกิดขึ้น ถ้ามีอยู่แล้วก็ต้องละเสีย
ความเกี่ยวเนื่องในการกระทำทางกาย ทางวาจา และทางใจ มีได้และเป็นได้ทั้งในทางกุศล และอกุศล เช่น มีเจตนาที่ดี อยากให้คนอื่นปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น (มโนกรรม) แต่ใช้วาจาที่ไม่ดี (วจีกรรม) ไม่ได้เจตนาจะฆ่ายุง (มโนกรรม) แต่ตบยุงไปโดยอัตโนมัติ (กายกรรม) ถือว่าการกระทำนั้นได้สำเร็จประโยชน์แล้ว ดังนั้น ถ้าเราด่าคนแบบอัตโนมัติ พูดจาเสียดสี ทิ่มแทง ใช้หอกคือปาก โขกสับด้วยวาจา แม้จะอ้างว่าไม่ได้คิดอะไร แต่วจีกรรมนั้นก็ได้สำเร็จประโยชน์แล้ว มีการเบียดเบียนกันเกิดขึ้นแล้ว เป็นกรรมแล้ว เพียงแต่อาจจะไม่ผิดศีลชนิดที่เจตนาจงใจจะผิดศีล แต่ว่ามันมีความด่างพร้อยแน่นอน การกระทำทางกาย ทางวาจา ทางใจ ที่ทำโดยอัตโนมัติ นั้น เกิดมาจากอาสวะที่เราสะสมไว้ ทำให้เราทำอะไรออกไปโดยไม่ได้คิด เป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อมีอาสวะแล้วเป็นกรรมแน่นอน ตรงจุดนี้ให้ท่านผู้ฟังทบทวนตนเอง การกระทำทางกาย ทางวาจา และทางใจ โดยอัตโนมัติ ที่ทำให้เราเผลอไป ลืมไป เพลินไป มีอะไรบ้าง ทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม ส่วนใดที่เป็นกุศลกรรม ถ้ายังไม่มีก็ทำให้มี ที่มีอยู่แล้วก็ทำให้ดีขึ้น ส่วนใดที่เป็นอกุศลกรรม ถ้ายังไม่มีก็อย่าให้เกิดขึ้น ถ้ามีอยู่แล้วก็ต้องละเสีย
เมื่อเห็นความเชื่อมโยงในความแตกต่างนี้แล้ว ให้เรารักษาความดี ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ให้ได้ตลอดทาง อย่าให้กิเลสมาทำให้บิดเบี้ยว ให้ทบทวนตัวเองบ่อย ๆ ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรืออย่างน้อยปีละครั้ง ให้ไปในทางกุศลธรรมให้ได้ เพื่อค้นหาสมบัติในจิต แล้วทำให้มันปรากฏออกมาให้ชัดเจนผ่านทางกายและวาจา ก็จะทำให้ปีนี้ที่เหลือดีได้ และจะทำให้ปีใหม่ที่จะถึงนี้เป็นปีที่ดีที่สุดได้ นี่เป็นคำอวยพร เป็นพรอันประเสริฐที่ได้รับจากพระพุทธเจ้า พระอาจารย์ได้รับมาก็ส่งต่อให้ท่านผู้ฟังทุกท่าน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 17 Dec 2023 - 58min - 268 - ศรัทธากับปัญญา [6650-1u]
Q1: พระพุทธเจ้าตรัสถึงการฆ่าตัวตายไว้อย่างไรบ้าง?
A: การฆ่าโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือสัตว์อื่น ไม่ดีทั้งนั้น เพราะเป็นการทำชีวิตของบุคคลหรือสัตว์ให้ตกล่วงลงไป เว้นแต่จะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ไม่ก่อนและไม่หลังจากการตาย การฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้า ซึ่งเกิดจากความบกพร่องทางสมองหรือทางจิต โดยไม่ได้มีเจตนาทำบาปทำกรรมนั้น ถ้ายังมีราคะ โทสะ โมหะ ยังไงก็เป็นเจตนา
Q2: งานก่อสร้างถือเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่?
A: พระพุทธเจ้าตั้งชื่องานก่อสร้างของพระสงฆ์ไว้ว่า “นวกรรม” งานก่อสร้างบางอย่างมันจำเป็น แต่ทรงเตือนไว้ว่า อย่าทำให้มันมาก อย่ายุ่งวุ่นวายกับมันเยอะ เพราะจะเป็น “เครื่องเนิ่นช้า” เป็นเหตุให้ 1. พระวินัยหย่อนยาน 2. ตั้งสติปัฏฐาน 4 ได้ยาก 3. เพื่อนไม่รัก
Q3: บทสวดมนต์ใดที่ทำให้หายเจ็บป่วย
A: พระพุทธเจ้าสอนว่า “ถ้าคนจะสำเร็จอะไรได้ทุกอย่างเพียงการอ้อนวอนแล้ว จะไม่มีใครเสื่อมจากอะไร” ถ้าลำพังการสวดมนต์แล้วทำให้หายเจ็บป่วยได้ โลกนี้ก็จะไม่มีใครตาย การสวดมนต์ในทางพระพุทธศาสนา คือ การพูดกล่าวตามที่พระพุทธเจ้าได้เคยสอนไว้หรือสัชฌายะ (Recitation) ไม่ใช่การสวดเพื่อขอพร (Pray) การที่เรามีความเจ็บไข้ได้ป่วยได้ ก็เพราะมีกายนี้ เมื่อมีกายก็ย่อมมีเวทนาที่เกิดขึ้นในกาย พอมีเวทนาเกิดขึ้นในกาย ก็ย่อมมีแก่ มีเจ็บ มีตาย จะไม่ให้มีสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องอย่าเกิด การเข้าใจเรื่องโพชฌงค์ 7 สติปัฏฐาน 4 หรือสัญญา 10 ประการ จะทำให้เรากำจัดความเกิดได้ ถ้ากำจัดความเกิดได้ ก็จะกำจัดความเจ็บไข้ได้ป่วยได้ รวมถึงกำจัดความตายได้ นี่ต่างหากที่เป็นแก่นแท้ (Essence) ของบทสวดมนต์นั้น
Q4: การทานเนื้อสัตว์ เป็นบาปหรือไม่?
A: การทานเนื้อสัตว์ มีทั้งรูปแบบที่เป็นการส่งเสริมการฆ่าสัตว์และไม่เป็น การฆ่ามี 3 ระดับ 1. ฆ่าเอง (ผิดศีล) 2. ใช้ให้เขาไปฆ่า (ผิดศีล) 3. ชักชวนให้คนอื่นทำ (ไม่ผิดศีล แต่ได้รับบาป) ถ้ายังต้องประกอบอาชีพค้าขายสัตว์เป็นหรือเนื้อสัตว์อยู่ ก็ให้ตั้งอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา และให้ตั้งจิตอธิษฐานที่จะเปลี่ยนอาชีพต่อไป
Q5: คนที่ชอบพูดซ้ำเติมผู้อื่น จะได้รับผลกรรมอย่างไร?
A: “ใครทำกรรมอย่างไรไว้ ก็ย่อมได้รับผลกรรมนั้น” เราจะดีจะชั่ว ไม่ได้อยู่ที่ปากของคนอื่น แต่อยู่ที่การกระทำของเรา ให้ทำตามศีล สมาธิ ปัญญา ปฏิบัติตามมรรค 8 เมื่อเราปฏิบัติตามมรรค 8 แล้ว อาจจะมีทุกขเวทนาหรือสุขเวทนา อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา ให้มั่นใจว่าทำดีต้องได้ดี แม้สุขเวทนาอาจจะยังไม่ให้ผลในตอนนี้ก็ตาม การได้ทำความดี นั่นคือดีแล้ว ให้มั่นใจว่าถ้าทำความดีแล้ว ความดีนั้นจะอยู่กับเรา ความดีนั้นจะรักษาผู้ที่ปฏิบัติดี ธรรมะจะคุ้มครองผู้ที่ปฏิบัติธรรมะ ไม่มีใครที่จะทำอันตรายผู้ที่มีธรรมะคุ้มครองได้เลย ให้มั่นใจในข้อนี้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 10 Dec 2023 - 54min - 267 - มรรค 8 กับการอยู่ครองเรือน [6649-1u]
นักกอล์ฟคนหนึ่ง เป็นตัวแทนขององค์กรไปแข่งขันกอล์ฟ เดิมในช่วงฝึกซ้อมจะเกิดภาวะเครียดมาก เหนื่อยมาก เนื่องจากมีความเพ่ง เกร็ง มีความจดจ่อจนเกินไป กลัวว่าจะทำได้ไม่ดี จึงพยายามบังคับ บีบคั้น ที่จะต้องทำให้ได้ ต่อมา มีการนั่งสมาธิ 2 ชั่วโมง ตอนเช้า ช่วงฝึกซ้อม ก็จะตีกอล์ฟแบบเงียบ ๆ ไม่พูดคุยกับคนมาก บางครั้งก็ใส่หูฟัง ฟังเทศน์ฟังธรรมไปด้วย โดยตีกอล์ฟแบบไม่เพ่ง ไม่บังคับ บีบคั้น ตนเองจนเกินไป เป็นการกำหนดรู้เฉย ๆ มีความรู้ตัวทั่วพร้อม มีสติ มีสัมปชัญญะในการตีกอล์ฟ ก็พบว่าตนเองมีการควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น เมื่อมีการควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ทั้งในขั้นตอนการฝึกซ้อม ในเกมส์การแข่งขัน และต่อทีม ทำให้ผลการแข่งขันออกมาดี ได้รับชัยชนะ ซึ่งการชนะคนอื่นไม่สำคัญเท่ากับชนะใจของตัวเองที่มีวินัยฝึกซ้อม และสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ สติ และสมาธิ สามารถนำมาใส่ในการเล่นกีฬาได้ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะอิริยาบถนั่ง หรือเดินจงกรม
การดำเนินชีวิตของฆราวาส มีการงานต้องทำมาก มีความวุ่นวายในการดำเนินชีวิต ใน 1 ปี มี 52 สัปดาห์ เคสแรก ไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม 1 สัปดาห์ ทำได้ดีมาก เห็นความสงบในใจ 2 สัปดาห์ไปเที่ยวพักผ่อน มีจิตใจสงบเย็นสบาย แต่ 49 สัปดาห์ที่เหลือ เป็นทุกข์เรื่องงาน ด่าว่าผู้อื่น คิดอาฆาต มีความกังวลหลายเรื่อง จิตใจไม่เย็นสบาย เคสที่สอง ไปเข้าคอร์สปฏิบัติธรรม 1 สัปดาห์ ทำไม่ค่อยได้ จิตใจวุ่นวายไม่สงบ 2 สัปดาห์ไปเที่ยวพักผ่อน มีจิตใจสงบเย็นสบาย และ 49 สัปดาห์ที่เหลือ มีความสุขกับการทำงาน มีจิตใจที่เย็นสบาย เคสที่สองย่อมดีกว่าเคสแรก เพราะมีความสุขมากกว่า มีจิตใจที่เย็นสบายมากกว่า
การที่คฤหัสถ์ผู้ครองเรือนจะหลีกออกจากการครองเรือนนั้นทำได้ยาก พระพุทธเจ้าจึงให้ธรรมะไว้สำหรับการครองเรือนให้มีความราบรื่น มีความผาสุกในการครองเรือน เมื่อใดที่รู้สึกว่าเกิดทางตัน ความมืด ติดขัด หาทางออกไม่เจอ ไม่รู้จะไปทางไหน ต้องใช้แสงสว่าง ใช้ดวงตา หาทางออก นั่นคือ ปัญญา มีตัณหาอยู่ตรงไหน ความทุกข์มาทับถมเราทันที ถ้าเราไม่มีตัณหาสิ่งนั้นจะไม่มาเป็นทุกข์กับเรา สำหรับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระพุทธเจ้าไม่ให้ยึดถือ แต่ให้เอาเป็นที่พึ่ง คือ สรณะ ซึ่งไม่เหมือนการยึดถือ คือ อุปาทาน อุปาทานเป็นเหตุแห่งทุกข์ แต่การเอาเป็นที่พึ่ง เป็นเหตุแห่งมรรค (ทางพ้นทุกข์) ทุกข์กับมรรค เหมือนกันตรงที่ไม่เที่ยงเหมือนกัน แต่หน้าที่คนละอย่างกัน ผลคนละอย่างกัน เมื่อเกิดความทุกข์ เจอทางตันแล้ว ให้หาให้เจอว่าตัณหามันอยู่ตรงไหน เราก็ต้องเอาปัญญาฉายเข้าไปให้เห็น ซึ่งปัญญาจะอยู่ในมรรค 8 มรรค 8 สามารถทำได้ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ไม่ต้องรอเวลาถ้าทำได้ นั่นคือแสงสว่าง นั่นคือปัญญา นั่นคือดวงตา นั่นคือความรู้ เมื่อไรที่รู้สึกตัน หาทางออกไม่เจอให้กลับมาที่ทางนี้ “ทางของมรรค 8” ให้มีศีล มีการฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่เป็นประจำ พูดจากันให้ดี ๆ มีการจ่ายทรัพย์อย่างถูกต้อง ทำหน้าที่ในทิศทั้งหกอย่างดี การภาวนาก็จะอยู่ตรงนั้น ทำบ้านของเรา ทำกายของเรา ทำจิตของเรา ให้เป็นสถานที่ในการภาวนาปฏิบัติธรรม ด้วยการปฏิบัติเรื่องศีล เรื่องการใช้จ่ายทรัพย์ เรื่องทิศทั้งหก เรื่องข้อปฏิบัติในสัมมาอาชีวะต่าง ๆ นั่นคือ การปฏิบัติธรรมแล้ว ในช่วง 49 สัปดาห์ ถ้าเราทำได้อย่างนี้ทั้งหมด ก็จะเยี่ยมมาก ดีมาก ในสัปดาห์ที่เหลือเราจะทำอย่างอื่นเพิ่มเติมเข้าไปก็สามารถทำได้ ความอยากจะลดลงไปโดยอัตโนมัติ ในความที่ว่าเราทำได้ที่นี่ เดี๋ยวนี้ ความพอใจในจิตใจมันจะเต็มเปี่ยม เต็มอิ่มขึ้นมาทันที เป็นทางออกในการแก้ปัญหา ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้องตามกระบวนการนี้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 03 Dec 2023 - 57min - 266 - กฐิน ทาน และการสวดมนต์ [6648-1u]
- กฐิน เป็น 1 ใน 2 พิธีกรรมที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “ผ้า” “ทอดกฐิน” คือ การที่ญาติโยมมอบผ้าให้หมู่สงฆ์ “กรานกฐิน” คือ กระบวนการที่พระสงฆ์ร่วมกันทำผ้าขึ้นมา เพื่อมอบให้กับพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่อยู่ในอาวาสนั้นครบ 3 เดือน โดยจะต้องทำผ้า (ตัด เย็บ ย้อม) ให้เสร็จภายในวันนั้น โดยกฐินมีกำหนดเวลาให้ทำได้เฉพาะช่วง 1 เดือน หลังจากออกพรรษาเท่านั้น งานกฐินไม่ได้เน้นเรื่องจำนวนเงิน แต่เน้นเรื่องความสามัคคีและความพร้อมเพรียงกันของหมู่คณะ
- ปัจจัยที่ทำให้การทำทานได้บุญมากหรือน้อย ประกอบด้วย
1. ผู้ให้ มีความบริสุทธิ์ในศีล มีศรัทธาเต็ม ทั้งก่อนให้ทาน ระหว่างให้ทาน และหลังให้ทาน
2. ผู้รับ มีความบริสุทธิ์ในศีล มีราคะ โทสะ และโมหะ เบาบาง
3. ตัวทาน (สิ่งของที่นำมาให้) เป็นของที่ได้มาโดยถูกต้อง บริสุทธิ์ ไม่ได้คดโกงใครมา
- การสวดมนต์ที่ถูกต้อง คือ การสาธยาย หรือสัชฌายะ เพื่อให้จำให้ได้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยความเห็น การสวดมนต์เป็นไปเพื่อให้ตัวเราเกิดปัญญา ให้จิตเรามีความสงบ อย่างนี้ถึงจะได้บุญ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา คำสอนของพระพุทธเจ้าที่อยู่ในบทสวดมนต์ทั้งหมด ไม่ได้เป็นไปเพื่อการอ้อนวอน ขอร้อง หรือเสกเป่าคาถา แต่เป็นพุทธวจนที่พระพุทธเจ้าได้บอกได้สอนไว้ แล้วเอามาซ้ำ เอามาย้ำ เอามาท่อง เป็นการสาธยายหรือสัชฌายะ เพื่อให้เกิดปัญญา การสวดมนต์ได้บุญมาก เป็น 1 ใน 6 ที่ทำให้บรรลุธรรมได้
- ถือศีล 8 เล่นโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่ ต้องพิจารณาว่าเป็นการละเล่นอันเป็นข้าศึกแก่กุศลธรรมหรือไม่ ควรกำหนดเวลาที่ใช้ให้เหมาะสม ควบคุมตัวเองให้ได้ มีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอด ถ้าวันไหนรักษาศีล 8 ก็ควรหลีกเลี่ยงแล้วหาสิ่งอื่นทดแทน เช่น การหาความสุขจากสมาธิซึ่งเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งดีงามมากกว่า
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 26 Nov 2023 - 53min - 265 - การอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก [6647-1u]
- ผู้ชายเคยทำผู้หญิงท้องและให้ไปทำแท้ง เกิดความร้อนใจ แต่แก้ไขด้วยการตั้งจิตตั้งใจใหม่ โดยการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ และปัญญา ทำทุกวันๆ ก็พบว่าชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
- การอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก ต้องมีการปรับจิตปรับใจให้มีความเมตตาต่อกัน ให้มีธรรมะในจิตใจ ซึ่งการให้ธรรมะซึ่งกันและกัน ไม่จำเป็นต้องพูดหรือทำอะไรให้กัน เพียงแค่ตัวเรานำธรรมะมาปฏิบัติ ก็ชื่อว่าได้ให้ธรรมะแล้ว
- วิธีปรับจิตใจของตนต่อบุคคล 5 กรณี ได้แก่ 1. เขาพูดไม่ดี แต่การกระทำยังดีอยู่ 2. เขาทำไม่ดี แต่วาจายังดีอยู่ 3. เขาทำไม่ดีและวาจาก็ไม่ดีด้วย 4. เขาทำไม่ดี พูดไม่ดี และจิตใจก็ไม่ดีด้วย 5. เขามีการกระทำที่ดี คำพูดที่ดี และมีจิตใจที่ดี ให้เราหาข้อดีของบุคคลนั้นให้เจอ ไม่ใช่เพื่อพัฒนาเขา แต่เพื่อพัฒนาจิตใจของเรา ไม่ให้มีความอาฆาตพยาบาท ให้มีความเมตตาต่อบุคคลนั้น ให้จิตใจของเราไปในทางสว่าง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 19 Nov 2023 - 1h 01min - 264 - มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นยอดธง [6646-1u]
ความเชื่อในเรื่องต่าง ๆ จะต้องประกอบด้วยปัญญา ให้เรามีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นยอดธง จะทำให้มีความเห็นที่ถูกต้อง
ในที่นี้ยกเรื่อง ข่าวการสักยันต์ที่ฝ่ามือเพื่อเปิดดวงชะตาเสริมดวง การสวดมนต์ด้วยบทสวดที่ช่วยให้เป็นเศรษฐีหรือพ้นกรรม ความอยากต่าง ๆ เช่น อยากเป็นพระอรหันต์ หรือการขอร้องอ้อนวอน ซึ่งเป็นมิจฉาทิฐิ
ดังนั้นเราจึงต้องตั้งสถานะของเราให้ถูก มีศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์โดยเดินตามทางมรรค 8 จะทำให้ตัณหาลดลง และมีนิพพานเป็นที่สุดจบ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 12 Nov 2023 - 55min - 263 - หลักในการตามรักษาไว้ซึ่งความจริง [6645-1u]
หลักในการตามรักษาไว้ซึ่งความจริง
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ในจังกีสูตร ว่าอย่าเพิ่งปักใจลงไป อย่ายึดถือโดยส่วนเดียว
เข้าใจความจริงอันประเสริฐ คือ สัจจะ
ด้วยการใช้หลักในการตามรักษาไว้ซึ่งความจริง 12 ขั้นตอน ดังนี้
- ปลูกศรัทธาลงไปครั้นมีศรัทธาเกิดแล้วย่อม เข้าไปหา ครั้นเข้าไปหาแล้วย่อม เข้าไปนั่งใกล้ ครั้นเข้าไปนั่งใกล้แล้วย่อม เงี่ยโสตลง ครั้นเงี่ยโสตลงย่อม ฟังซึ่งธรรม ครั้นฟังซึ่งธรรมแล้วย่อม ทรงไว้ซึ่งธรรม ครั้นทรงไว้ซึ่งธรรมแล้วใคร่ครวญ ซึ่งเนื้อความแห่งธรรมทั้งหลายอันตนทรงไว้แล้ว เมื่อใคร่ครวญ ซึ่งเนื้อความแห่งธรรมอยู่ธรรมทั้งหลาย ย่อมทนต่อความเพ่งพินิจ เมื่อการทนต่อการเพ่งพินิจของธรรมมีอยู่ฉันทะ ย่อมเกิดขึ้น ผู้มีฉันทะเกิดขึ้นแล้วย่อม มีอุตสาหะ ครั้นมีอุตสาหะแล้วย่อม พิจารณาหาความสมดุลย์แห่งธรรม ครั้นมีความสมดุลย์แห่งธรรมแล้วย่อม ตั้งตนไว้ในธรรมนั้น ผู้มีตนส่งไปแล้วอย่างนี้อยู่ ย่อมกระทำให้แจ้ง ซึ่งปรมัตถสัจจะ (ความจริงโดยจริงความหมายสูงสุด) เข้าใจแทงตลอดซึ่งธรรมนั้นด้วยปัญญา
โดยมี 3 ขั้นตอนที่จะบรรลุ อริยสัจ คือ
ขั้นที่ 1 การตามรักษาซึ่งความจริง ว่าอย่าพึงปักใจลงไปว่านี้เท่านั้นจริง
ขั้นที่ 2 หาความจริงที่จะเปลี่ยนจาก Fact เป็น Truth (ความจริงอันประเสริฐ คือ สัจจะ) ได้
ขั้นที่ 3 การจะทำให้บรรลุได้ จะต้องทำให้มากเจริญให้มาก
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 05 Nov 2023 - 59min - 262 - เหนือวัฎสงสาร โดยมาตามมรรค 8 [6644-1u]
Q1: ทำไมช่วงเข้าพรรษา คนถึงนิยมรักษาศีล จะได้บุญมากกว่าช่วงปกติหรือไม่?
A1: เป็นการเอาคติจากการอยู่ที่ใดที่หนึ่งช่วงเข้าพรรษาที่พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้มาปรับใช้ในการกำหนดช่วงเวลาในการทำความเพียร รักษาศีล และให้เราทำแบบเป็นอริยะอุโบสถ โดยการระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
Q2: พระพุทธรูปที่หิ้งพระที่บ้าน ควรหันหน้าไปทางทิศไหน?
A2: เราไม่ควรติดในเรื่องของความเชื่อที่ว่าพระพุทธรูปจะต้องหันไปทางไหน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ให้เรารักษาศีล และพิจารณาตามความเหมาะสม
Q3: ทำไมถึงไม่วางหิ้งพระไว้ใต้คาน
A3: การวางพระพุทธรูปควรวางไว้ในจุดที่สูงสุด และสถานที่ที่มีความเหมาะสม
Q4: ชีวิตหลังความตาย
A4: ให้เราทำเหตุแห่งความตายให้นิโรธ คือ ดับไป ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงมาสอน บอกความรู้นี้เอาไว้ คือ ให้เราทำจิตของเราให้หมดจากตัณหา มีความรู้ คือ วิชชา จะทำให้เราพ้นจากความตายได้
Q5: ทำอย่างไรถึงจะยอมรับการตายของคนในครอบครัวได้?
A5: ต้องมีปัญญาเห็นว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดา เข้าใจถึงเหตุของความตาย ปฏิบัติตามมรรค 8 จะทำให้เราพ้น จาก ความเกิด ความแก่ และความตายได้
Q6: จิตคนก่อนตายเพียงแต่คิดไม่ดี ก็ไปนรกได้ ทั้ง ๆ ที่ทำความดีมาตั้งมาก พอจ.มีความเห็นว่าอย่างไร?
A6: ดังนั้นเราจึงควรรักษาจิตของเราให้ดีเป็นกุศลตลอดเวลา
เราจะพ้นจากทุกข์โทษของวัฎได้ ให้ไปทางสู่นิพพาน
Q7: คนเราเจอกันในชาตินี้ เพราะว่าทำบุญ /กรรมด้วยกันมา เท็จจริงประการใด?
A7: คนเราจะรักหรือเกลียดกัน เพราะว่าเหตุ 2 อย่าง คือ สิ่งที่เป็นมาในปัจจุบัน หรือสิ่งที่เป็นมาในปางก่อน แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นอยู่ที่การกระทำของเราในชาตินี้ โดยให้มาตามมรรค 8 (ศีล สมาธิ และปัญญา) เป็นเส้นทางที่จะทำให้จิตของเราอยู่เหนือดี เหนือชั่ว เหนือสุข เหนือทุกข์ เหนือบุญ เหนือบาป และหลุดพ้นได้
Q8: เวลาทำบุญแล้วอยากได้บุญจะทำให้จิตใจไม่บริสุทธ์ หรือเปล่าครับ?
A8: การทำบุญโดยไม่ปรารถนาอะไรตอบแทน จะทำให้บริสุทธิ์มากขึ้น และเราควรทำบุญให้บริสุทธิ์มากยิ่งขึ้นไปอีก โดยการตั้งจิตอธิษฐาน สร้างเหตุ ไม่ได้ขอเอาผล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 29 Oct 2023 - 54min - 261 - การบริหารทางจิตสำหรับผู้ใหญ่ [6643-1u]
1. อย่าเพียงแต่เชื่อ
ความเชื่อ หรือศรัทธา จะต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ ประกอบกันให้สมบูรณ์ คือ มีความเพียร มีศีล มีสติ สมาธิ ปัญญา
2. วิธีเสริมสร้างปัญญา
คือการทำสมาธิ พอจิตเป็นอารมณ์อันเดียวแล้วจะเห็นถึงความเป็นเหตุเป็นผล เห็นช่องทางที่จะนำปัญญาไปใช้งาน เห็นถึงความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงไปในจุดต่าง ๆ ปัญญาที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้คือให้พ้นทุกข์
3. วิธีเอาตัวรอด ด้วยปัญญา
โดยการเอาชนะกิเลสของตนเอง รอดจากราคะ โทสะ หรือ โมหะ ทั้งจากตัวเรา และของผู้อื่น โดยการตั้งสติของเราให้เกิดขึ้น และต้องมีความอดทนต่อกิเลส อดทนที่จะไม่คิดชั่ว อดทนต่อสิ่งต่าง ๆ ไม่ให้มิจฉาทางกาย ทางวาจา และใจเกิดขึ้น
4. ระวังคนพาลใกล้ตัว
คนพาลใกล้ตัวคือตัวเราเอง ในขณะที่ถูกครอบงำด้วยราคะ โทสะ โมหะ
ดังนั้นให้เราระวังคนพาลใกล้ตัว รู้จักรักษาตัวรอด เอาตัวรอดจากราคะ โทสะ โมหะโดยการเสริมสร้างด้วยปัญญา ที่ไม่ใช่มีระบบเพียงแค่ความเชื่อ แต่มีหลายๆ องค์ประองค์ประกอบ ทำงานเป็นระบบในทางพระพุทธศาสนา คือ มีความเพียร มีศีล มีสติสมาธิ ปัญญา
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 22 Oct 2023 - 45min - 260 - หลักธรรมในการเลี้ยงลูก และการใช้ชีวิต [6642-1u]
Q1: มีหลักธรรมในการเลี้ยงลูก และการใช้ชีวิตในโลกปัจจุบัน?
A1: หน้าที่ของมารดาบิดา 5 อย่าง ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า มีดังนี้
1. ห้ามลูกเสียจากบาป
2. ให้ตั้งอยู่ในความดี
3. ศึกษาศิลปะวิทยา
4. ให้มีคู่ครองที่สมควร
5. มอบมรดกให้ตามเวลา
Q2: ความขัดแย้งเกิดขึ้นได้อย่างไร และเราจะแก้ไขได้อย่างไร?
A2: ความขัดแย้งมีสาเหตุ จากกาม ความกำหนัดยินดีพอใจ ที่เกิดจากตา หู จมูก ลิ้น และกาย
การแก้ไข จิตต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ มีความเมตตา เห็นอกเห็นใจ ให้อภัยกัน มีอุเบกขา และอยู่ในศีล
Q3: ทานเนื้อสัตว์จะบาปน้อยกว่าดื่มเหล้าจริงไหม?
A3: การรับประทานอาหารเจด้วยการตั้งเจตนาว่าจะไม่เบียดเบียน จะทำให้มีบุญมาก และหากมีการรักษาศีลด้วย จะทำให้ไม่มีความร้อนใจ ส่งผลให้เวลานั่งสมาธิมีจิตที่สงบ
Q4: การฝึกสมาธิ online กับการไปเข้าวัดแล้วไปฟังสด ๆ ได้บุญต่างกันไหม
A4: ได้บุญเหมือนกัน คือ สามารถบรรลุธรรมได้
ดวงตกเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่สาระสำคัญ ให้เราไม่ประมาท ทำความดี รักษาศีล เจริญภาวนา ทุกเวลาเป็นเวลาดีหมด
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 15 Oct 2023 - 54min - 259 - เห็นทุกข์ให้เห็นธรรม เมื่อเจ็บป่วย [6641-1u]
เมื่อตัวเราป่วย หรือคนใกล้ตัวป่วยด้วยโรคร้าย การมีสติสัมปชัญญะ มีศีล สมาธิ เจริญมรณสติ จะทำให้เกิดปัญญายอมรับในความจริง เข้าใจสถานการณ์ ละความยึดถือทำให้อยู่ได้อย่างผาสุก
การมีธรรมะ 5 ข้อ ที่จะทำให้ผู้เจ็บป่วยไข้ผาสุกอยู่ได้
- รู้จักทำความสบาย สัปปายะรู้ประมาณในความสบายรู้จักรับประทานยาบอกอาการไข้จริงตามความเป็นจริงรู้จักอดทนต่อทุกขเวทนาทางกาย
หน้าที่ 5 อย่าง ของผู้ดูแลผู้ป่วย
- สามารถจัดยาให้ถูกต้องได้รู้จักของแสลง และของไม่แสลงดูแลด้วยจิตเมตตากรุณาไม่รังเกียจในการดูแลจัดการปัสสาวะ และอุจจาระพูดให้กำลังใจ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 08 Oct 2023 - 1h 02min - 258 - หลักการใช้จ่ายโภคทรัพย์ [6640-1u]
Q1: คำสอนของพระพุทธเจ้า มีสอนให้แบ่งจ่ายทรัพย์หรือไม่?
A1: พระพุทธเจ้าทรงสอนนายสิงคาลก เกี่ยวกับหลักการใช้โภคทรัพย์ ไว้ดังนี้
รายจ่ายอย่าให้ท่วมรายรับ รายรับต้องท่วมรายจ่าย โดย cash flow ต้องเป็นบวก ซึ่งทรงสอนให้แบ่งโภคทรัพย์ออกเป็น 4 ส่วน ส่วนที่หนึ่งใช้สอย 2 ส่วนใช้เพื่อการงาน และเก็บไว้ใช้ยามมีอันตราย 1 ส่วน การแบ่งสัดส่วนให้พิจารณาให้เหมาะสมกับตัวเราไม่จำเป็นต้องเท่ากัน
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลในเรื่องสมชีวิตา พูดถึงรายรับต้องท่วมรายจ่าย รายจ่ายให้ใช้เพื่อ 4 หน้าที่นี้เท่านั้น เพื่อเป็นการเปิดทางน้ำเข้า ดังนี้
1. ขยันขันแข็ง
2. มีกัลยาณมิตร
3. รักษาทรัพย์ 4 รู้จักกระแสเงินสด เงินเข้าต้องมากกว่าเงินออก
การใช้จ่ายแบ่งเป็น 4 ส่วน
ส่วนที่ 1 ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ส่วนที่ 2 ใช้จ่ายเพื่อรักษาทรัพย์
ส่วนที่ 3 ให้คนที่มีความจำเป็น ไม่หวังได้คืน
ส่วนที่ 4 ให้เพื่อหวังเอาบุญ
ถ้าเราใช้จ่ายแบบนี้จะหมุนวนเป็นกระแสเงินเข้ามาเรื่อย ๆ อุปมาเหมือนจอมปลวก หรือรวงผึ้ง ที่ค่อย ๆ สะสมโภคทรัพย์ จนสามารถขยับฐานะขึ้นเป็นมหาเศรษฐีได้
Q2: คนสมัยนี้ บรรลุธรรมขั้นโสดาบันได้ง่าย จริงหรือครับ?
A2: โสดาบัน คือ ผู้มีศีล 5 บริสุทธิ์ มีศรัทธาในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ชนิดที่ไม่หวั่นไหวคลอนแคลน
โสดาบัน แบ่งเป็น 2 ขั้น คือ โสดาปัตติมรรค และโสดาปัตติผล
คนสมัยนี้บรรลุธรรมโสดาบันขั้นมรรคสามารถเป็นไปได้ เนื่องจากมีสื่อต่าง ๆ
แต่ในขั้นบรรลุธรรมโสดาบันขั้นผลนั้น ปัจจุบันไม่มีใครสามารถพยากรณ์ได้
ทั้งนี้ ตัวเราเองสามารถบอกได้ว่าเรามีคุณธรรมขั้นไหน แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของการไม่เข้าข้างตัวเองหรือมีโมหะ โดยจะมีคุณสมบัติ และเครื่องทดสอบในแต่ละขั้น ดังนี้
- โสดาบัน คือ ผู้ที่มีศีลเต็ม สมาธิ และปัญญาพอประมาณ มีเครื่องทดสอบให้เราเสื่อมศรัทธา สกทาคามี คือ ผู้ที่มีศีลเต็ม สมาธิ และปัญญาพอประมาณ มีเครื่องสอบ เพิ่มเติม คือ ราคะ โทสะ โมหะ ทำให้โกรธ ให้หลงอนาคามี คือ ผู้ที่มีศีลเต็ม สมาธิเต็ม มีเครื่องสอบเพิ่มเติม คือ ราคะกับปฏิฆะ ทำให้หงุดหงิดใจ ยินดีเพลิดเพลินไปอรหันต์ คือ ผู้ที่มีปัญญาเต็ม มีเครื่องทดสอบเพิ่มเติม คือ ความมีตัวตน ความเป็นอนัตตา อวิชชา วิชชา
Q3: การฝึกสมาธิแบบ Online หรือไปสถานปฏิบัติธรรม อันไหนดีกว่ากันครับ?
A3: ทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
Online สามารถทำได้ทุกที่
Onsite หากปฎิบัติแล้วมีปัญหาติดขัด สามารถสอบถามได้ทันที่ (Interactive)
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกในการปฎิบัติของแต่ละคน
Q4: การตักบาตรกับพระอรหันต์จะได้บุญมากจริงไหมครับ?
A4: ในพุทธพจน์ มีระบุไว้ว่าการตักบาตรกับพระอรหันต์จะได้บุญมาก
แต่เนื่องจากเป็นการยากที่จะทราบได้ว่าพระรูปใดเป็นพระอรหันต์
ทั้งนี้ หากต้องการทำบุญแล้วได้บุญมาก ให้ทำสังฆทาน ซึ่งเป็นการให้ทานในหมู่สงฆ์ โดยให้เราตั้งจิตถวายพระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ โดยมีพระรูปใดรูปหนึ่งเป็นตัวแทน พอเราตั้งจิตถูก มีศรัทธาก่อนให้ ระหว่างให้ และหลังให้ ทำให้ได้บุญมาก ซึ่งเป็นหลักการที่ถูกต้องตามหลักธรรมวินัย
Q5: จะรู้ได้อย่างไรว่า พระรูปนั้นเป็นพระอรหันต์ สังเกตได้อย่างไร?
A5: เป็นการยากที่จะทราบว่าพระรูปใดเป็นพระอรหันต์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 01 Oct 2023 - 53min - 257 - สัญญาณก่อนเป็นบ้า และวิธีแก้ไข [6639-1u]
Case ของท่านผู้ฟังทางบ้านที่จับได้ว่าสามีมีหญิงอื่น ได้รับความทุกข์ใจเป็นอันมากจนคิดจะฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหา
พระอาจารย์ได้แนะนำวิธีการรับมือ และแก้ไขปัญหาโดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
- ตั้งสติ ว่าแผลอยู่ตรงไหน ใช้สติเป็นเครื่องเอกซเรย์ที่ตรวจหาหัวลูกศรว่าอะไรเป็นเหตุของความทุกข์ ใน case ของผู้ฟังทางบ้าน ที่สามีมีหญิงอื่น หัวลูกศร คือความรักที่มีต่อสามี เมื่อสามีมีหญิงอื่นจึงนำซึ่งความทุกข์มาให้ใช้ปัญญาเป็นดั่งมีดปาดลงไปที่แผล ทั้งนี้จิตต้องเป็นสมาธิ ถอนความรักออก จนเหลือแต่เมตตา แยกความดีไม่ดี ออกจากสุขหรือทุกข์ แล้วตั้งอยู่ในกุศลธรรมเข้าใจความสุข หรือทุกข์ว่าเป็นธรรมดาใส่ยาเพื่อรักษาแผลที่จิตใจให้หายอย่าให้ลุกลามออกมาภายนอก ด้วย ศีล สมาธิปัญญา อุเบกขา เมตตา ภาวนา และไม่ทำสิ่งที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นมาอีก
สัญญาณที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเราใกล้บ้าแล้ว
- นอนไม่หลับ หรือนอนมากเกินไปกินอาหารมากขึ้น หรือเบื่ออาหารใช่จ่ายฟุ่มเฟือยเสพสิ่งเสพติดเล่นโซเชี่ยลมากเกินไปเพ้อคลั่งอาละวาด มีความเครียดอยู่ตลอดเวลาหวาดระแวงทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่ต้องทำได้ตามปกติ เห็นภาพหลอนได้ยินเสียงแว่วไม่สามารถตัดสินใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ ได้หลงลืมคิดจะฆ่าตัวตาย หรือคิดว่าคนอื่นจะมาทำร้าย
ในทางพระพุทธศาสนา คนที่ยังมีราคะ โทสะ โมหะ มีโอกาสเป็นบ้าได้ทุกคน โดยมีความวิปัลลาส 4 อย่าง ดังนี้
- เห็นสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยงเห็นสิ่งที่เป็นทุกข์ว่าเป็นสุขเห็นสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตนเป็นอนัตตาว่ามีตัวเราเป็นของเราเห็นสิ่งที่ไม่งามอสุภะว่าเป็นของงาม
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 24 Sep 2023 - 58min - 256 - ตั้งมั่นอยู่ในทางที่ถูกต้อง [6638-1u]
Q1: มีคำพูดที่ว่า การสร้างพระประธาน หรือ เจ้าภาพกฐิน ไม่ควรทำคนเดียวถ้าบุญไม่ถึงอาจมีอันเป็นไป ขอสอบถามว่าเป็นอย่างนั้นใช่หรือไม่?
A1: สามารถทำคนเดียวได้ ยกตัวอย่างอนาถบิณฑิกเศรษฐีที่สร้างวัดพระเชตวันเพียงคนเดียว ทั้งนี้ไม่มีพุทธพจน์ข้อไหนที่บอกไว้ว่าไม่ควรทำบุญใหญ่คนเดียว
ทั้งนี้ เหตุผลที่ห้ามทำคนเดียวเป็นกุศโลบาย เนื่องจากการทำบุญด้วยการให้ทานผลที่จะเกิดขึ้น คือ สำหรับตนจะได้ โภคสมบัติ ถ้าชวนคนอื่นด้วย จะได้บริวารสมบัติ คือ มีหมู่คณะ มีเพื่อนเพิ่มเติมขึ้นมา โดยบุญมี 3 อย่าง คือ ให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
Q2: ถามถึงกิจกรรม Challenge ที่นั่งอันเป็นทิพย์
A2: เป็นกิจกรรมที่ท้าให้ผู้สนใจมาร่วมปฏิบัติการด้วยกัน เป็นเวลา 7 วัน เป็นการสร้างนิสัยเอาชนะความขี้เกียจ ฝึกแบบเป็นระบบด้วยรูปแบบการเรียนออนไลน์ และมีระบบการเก็บแต้ม คนที่ปฏิบัติได้ครบ 7 วันก็จะได้รับรางวัล
เมื่อเราทำ Challenge รับคำท้า จะต้องเจอข้อสอบแน่นอน ให้เรามีปัญญา มีความเพียรตั้งมั่นทำความดีอยู่ในทางที่ถูกต้อง
Q3: พระดูดวงให้กับฆารวาส ทำได้หรือไม่?
A3: ถ้าดูแล้วมีการเรียกเก็บค่าดู ไม่สามารถทำได้เนื่องจากผิดศีลของพระ
Q4: บวชชี 7 วันจะช่วย ชำระกรรมเก่าได้จริงไหม หรือเกิดประโยชน์ไหม?
A4: การบวชชีเป็นสิ่งที่ดี ในที่นี้ยกตัวอย่างการทำความดีเหมือนเป็นการเพิ่มน้ำที่สามารถทำให้ความเค็มที่เกิดจากเกลือลดลง แต่เกลือในที่นี้ คือ กรรมเก่าไม่ได้หายไปทั้งนี้เนื่องจากกรรมนั้นได้ทำไปแล้วสำเร็จแล้ว ผลจะได้รับมากน้อย เร็วช้า มีตัวแปรหลายอย่าง เช่นการทำความดี การบวชชี ซึ่งเป็นการเพิ่มน้ำ
Q5: การบวชภิกษุณี ควรจะไปบวชที่อินเดีย ถูกต้องไหม?
A5: การบวชภิกษุณี ต้องเกิดจากการบวชโดยสงฆ์ 2 ฝ่าย คือ ภิกษุ และภิกษุณี แต่เนื่องจากประเทศไทยไม่มีภิกษุณี จึงต้องไปบวชที่ อินเดีย ศรีลังกา หรือไต้หวัน
Q6: การนับวันในพุทธศาสนา กรณี อยู่คนละประเทศ จะยึดหลักการนับวันอย่างไร การปฎิบัติจะมีความลักลั่นกันไหม ?
A6: การกำหนดวันพระในพระพุทธศาสนามากำหนดภายหลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว สมัยพุทธกาลทุกวันคือวันสำคัญ กรณีอยู่คนละประเทศหลักการนับให้ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ
Q7: ถ้าทำงานติดขัดมีปัญหา ขอคำแนะนำ ควรทำอย่างไรดี?
A7: มีปัญหาตรงไหนให้แก้ตรงนั้น ถ้าทำงานติดขัดแล้วมีปัญหา อย่างน้อยให้รักษาศีลโดยนำหลักการปฎิบัติที่ไม่มีทางผิดมาใช้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 17 Sep 2023 - 54min - 255 - วิธีคิดที่ไม่มีทางผิด [6637-1u]
มีตนมีธรรมเป็นที่พึ่งสามารถที่จะผ่านปัญหาต่าง ๆ ด้วยปัญญาเฉพาะตน คนเราสามารถพัฒนาได้ ด้วยวิธีคิดที่ไม่ผิด ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นแบบไหนก็ตาม
ซึ่งเป็นวิธีคิดที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้ใน อปัณณกะ ว่าด้วยข้อปฏิบัติไม่ผิด
“อะไรที่จะมีประโยชน์ให้เอาไว้ก่อน และหามาตรการในการป้องกันความเสี่ยง”
2 ส่วนยังไงก็ผิด เป็นความวิบัติ 3 อย่าง
- สีลวิบัติ (ความวิบัติแห่งศีล)จิตตวิบัติ (ความวิบัติแห่งจิต)ทิฏฐิวิบัติ (ความวิบัติแห่งทิฏฐิ)
ความถึงพร้อม 3 อย่าง ที่ไม่มีทางผิด คือ
- สีลสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยศีล)จิตตสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยจิต)ทิฏฐิสัมปทา (ความถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ)
นั่นคือ ศีล สมาธิ ปัญญา ส่งผลให้เจริญแน่นอน
ข้อปฎิบัติ 3 อย่าง ที่พระพุทธเจ้าทรงตกผลึกมาแล้ว ไม่ว่าจะประกอบอาชีพอะไรเมื่อปฎิบัติแล้วไม่มีทางเสีย มีแต่จะดีขึ้น คือ
- การคุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลายการรู้ประมาณในการบริโภคการประกอบความเพียรเครื่องตื่นอยู่เสมอ ๆ
ในที่นี้ยกตัวอย่าง 3 เรื่องด้วยกัน ดังนี้เรื่องที่ 1 การถ่วงน้ำหนักลูกเต๋า ซึ่งเป็นกลโกงในการเล่นการพนัน ที่นำเทคนิคนี้มาปรับใช้ในการทำความดี สร้างประโยชน์ ทำความดีได้ตลอดเวลา
เรื่องที่ 2 พระโพธิสัตว์ ครั้นเมื่อเกิดเป็นพ่อค้าบริหารความเสี่ยงด้วยระเบียบวินัย ในเรื่องของการใช้น้ำสำหรับการเดินทางในทางกันดาร โดยใช้ปัญญาคิดมาตรการ และระบบที่จะป้องกันความเสี่ยง และมีความเพียรในการทำตามระบบนั้น ทำให้ไม่ถูกยักษ์ที่แปลงกายมาหลอกให้ทิ้งน้ำกลางทางจนกว่าจะเจอน้ำใหม่
เรื่องที่ 3 คน 2 คน ไปหาสิ่งของมาขาย คนที่มีปัญญาจะคิดว่าอะไรที่จะมีประโยชน์ให้เอาไว้ก่อน เช่น ผ้าไหม มีประโยชน์กว่าเชือกป่าน จึงเลือกที่จะขนผ้าไหม
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 10 Sep 2023 - 59min - 254 - ที่พึ่งที่ถูกต้อง [6636-1u]
Q1: การมีบุตรยาก ในพระไตรปิฎก มีบทไหนพูดถึง เหตุของการไม่มีทายาท?
A1: การมีบุตรยากมีสาเหตุจาก 1) เกิดจากกรรมปัจจุบัน เช่น อาหารการรับประทานสุขภาพ และมลพิษ เป็นต้น และ 2) เกิดจากกรรมเก่า ในที่นี้ยกตัวอย่าง 2 case ดังนี้
Case 1 โพธิราชกุมาร เหตุแห่งการไม่มีลูกเนื่องจากทำกรรมเก่า เมื่อครั้งเป็นต้นหนเรือแล้วเรือแตกไปติดเกาะ ประทังชีพตลอดอายุขัยด้วยการกินไข่นก ลูกนก และพ่อแม่นก
Case 2 เศรษฐีที่ร่ำรวย เนื่องจากเคยให้คนใช้นำอาหารไปใส่บาตรพระปัจเจกพระพุทธเจ้า แต่หลังจากเห็นของในบาตรแล้วพบว่ามีแต่ของดี ๆ จึงเกิดความเสียดายของที่ใส่บาตรไป ส่งผลให้ไม่ได้ยินดีในบุญ หรือสมบัติที่ตนมี
และเหตุแห่งการไม่มีลูก มาจากการทำกรรมฆ่าหลาน เนื่องด้วยกลัวมาแย่งมรดก
Q2: อยากจะสร้างบุญสร้างกุศล ให้มีลูกได้ไหม หรือมีวิธีการอย่างไรตามแนวพระพุทธศาสนาที่จะทำให้มีลูกได้?
A2: ในทางพระพุทธศาสนาไม่มีสอนไว้
ทั้งนี้พระอาจารย์แนะนำให้ตั้งมั่นในความดี และตั้งจิตอธิษฐาน โดยอาศัยความดีของเรา เมื่อทำดังนี้แล้วให้วางจิตวางใจไว้ดังนี้ หากจะมีลูกก็ดี หรือไม่มีก็ได้
Q3: หลักการสร้างวัตถุมงคลทางพระพุทธศาสนา มีหลักการอย่างไร?
A3: เรื่องมงคลในพระพุทธศาสนามีอยู่ 38 อย่าง เป็นมงคลที่เราลงมือทำ ปรากฏอยู่ในมงคลสูตร ซึ่งไม่ได้เป็นวัตถุมงคล
การบูชาบุคคลที่ควรบูชาก็เป็นมงคลอย่างหนึ่ง เช่น การนับถือบิดามารดา เจ้านายบุคคลที่มีศีล (พญานาค ท้าวเวสสุวัณ ท้าวสักกะ เป็นต้น)
การบูชาในทางพระพุทธศาสนาทำได้ 2 แบบ ดังนี้ 1) อามิสบูชา คือ ยัญญ (การให้โดยไม่มีผู้รับ) หรือให้ทาน (การให้ที่มีผู้รับ) และ 2) การบูชาโดยไม่ใช่อามิส บูชาด้วยคุณธรรม สิ่งที่บูชา คือ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา
ความเชื่อที่ถูกต้อง จะต้องประกอบด้วยเหตุและผล มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งสูงสุด พาไปพ้นทุกข์ ซึ่งจะต้องปฎิบัติตามอริยะมรรคมีองค์ 8
Q4: การทำพิธีกรรมต่าง ๆ ต้องมีบทสวด ในทางพระพุทธศาสนา กล่าวไว้ว่าอย่างไร
A4: คำสอนของพระพุทธเจ้ามีความเป็นเหตุเป็นผลเพื่อให้เกิดปัญญา ปัญญาคือความเข้าใจในเรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี
การสวดมนต์ เป็นสิ่งที่ดี เช่น สวดมนต์แล้วจิตสงบ สงบแล้วมีปิติ มีปราโมทย์ จิตมีสมาธิ เกิดปัญญา ซึ่งเป็นหนึ่งในที่จะทำให้ถึงวิมุตติ 5 ประการ
Q5: การฆ่าสัตว์โดยความจำเป็น จะบาปไหม?
A5: เป็นบาป โดยบาปที่เกิดขึ้นจะมีความละเอียดแตกต่างกัน เช่น เมื่อเปรียบเทียบระหว่างสัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ การฆ่าสัตว์เล็กบาปน้อยกว่าฆ่าสัตว์ใหญ่ ดังนั้นการฆ่าแมลงสาบด้วยความจำเป็นจึงเป็นบาปไม่มาก
ทั้งนี้พระอาจารย์แนะนำให้ทำบุญกุศล และตั้งจิตอธิษฐานด้วยความดีที่ทำขอให้ได้งานใหม่ ที่ไม่ต้องเบียดเบียนชีวิตสัตว์
Challenge กิจกรรม ท้าให้ทำ
ท้าให้ผู้ฟังนั่งสมาธิตลอด 7 วัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 03 Sep 2023 - 57min - 253 - การตั้งจิตอธิษฐาน [6635-1u]
1.การตั้งจิตอธิษฐาน
การอ้อนวอนขอร้องไม่ใช่หลักการตามคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่สิ่งที่ให้ทำ คือ การตั้งจิตอธิษฐาน
อธิษฐาน คือ การตั้งใจมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คือการสร้างเหตุ เพื่อให้ได้ผล เกิดความสำเร็จ
หลักของการตั้งจิตอธิษฐาน จะต้องตั้งจิตให้ถูก ประกอบด้วยปัญญา มีความแน่วแน่ ไม่คลอนแคลนหวั่นไม่ว่าจะมีสิ่งใดมาขัดขวาง
2.การบูชา
การบูชายัญ เป็นมิจฉาทิฐิ ให้บูชาด้วยจิตอธิษฐานที่ตั้งไว้เป็นความดี
3.ศรัทธา
ศรัทธา มี 4 อย่าง ดังนี้
3.1 กัมมสัทธา เชื่อกรรม เชื่อกฎแห่งกรรม เชื่อว่ากรรมมีอยู่จริง
3.2 วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม เชื่อว่าผลของกรรมมีจริง คือ เชื่อว่ากรรมที่ทำแล้วย่อมมีผล และผลต้องมีเหตุ ผลดีเกิดจากกรรมดี ผลชั่วเกิดจากกรรมชั่ว
3.3 กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์ มีกรรมเป็นของตน เชื่อว่าแต่ละคนเป็นเจ้าของ จะต้องรับผิดชอบเสวยวิบาก เป็นไปตามกรรมของตน
3.4 ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า มั่นใจว่าเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ ทรงพระคุณทั้ง 9 ประการ ตรัสธรรม บัญญัติวินัยไว้ด้วยดี ทรงเป็นผู้นำทางที่แสดงให้เห็นว่า มนุษย์ คือ เราทุกคนนี้ หากฝึกตนด้วยดีก็สามารถเข้าถึงภูมิธรรมสูงสุดบริสุทธิ์หลุดพ้นได้ ดังที่พระองค์ทรงบำเพ็ญไว้
ศรัทธา ที่สามารถยังประโยชน์ให้สำเร็จ ศรัทธานั้นต้องประกอบด้วยเหตุผล และปัญญา อจลศรัทธา คือ มีความศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ที่ตั้งมั่น ไม่คลอนแคลน ไม่หวั่นไหว คือ คุณธรรมของพระโสดาบัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 27 Aug 2023 - 56min - 252 - สัมมาทิฏฐิ [6634-1u]
Q1: การเลี้ยงสัตว์ / เลี้ยง นก ปลา ต่างๆ ทางพุทธศาสนาจะพิจารณาอย่างไร?
A1: หลักการของพระพุทธศาสนาคือหากเลี้ยงแล้วต้องไม่เบียดเบียนชีวิต และไม่ผิดศีล
ถ้าไม่ฆ่า ไม่ได้สั่งให้ฆ่า คือ ไม่ผิดศีล
และการค้าขาย ที่ควรหลีกเลี่ยง คือการค้าขายสัตว์เป็น และค้าขายเนื้อสัตว์
Q2: ระหว่างแม่ที่ทำแท้งลูก กับแม่ทิ้งลูก อันไหนบาปกว่ากัน?
A2: ทั้ง 2 กรณี มีสาเหตุมาจากการผิดศีล ข้อ 3 คือ ผิดจารีต จึงทำให้ไม่ได้รับการยอมรับ แต่กรณีทำแท้ง เป็นการผิดศีลข้อ 1 ด้วย คือ การฆ่า จึงบาปมากกว่าทิ้งลูก เราควรจะสร้างบุญทำให้ถูก แก้ไขปรับปรุงไม่ให้ทำบาป รับผิดชอบความผิดของตนเองจากการผิดจารีต เมื่อตั้งท้องแล้วก็ให้ยอมรับที่จะรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กให้ดี
Q3: การเก็บร่าง พระเกจิอาจารย์ไว้ ถามว่า สมัยพุทธกาลเคยมีการเก็บแบบนี้ไว้ไหม?
A3: ในพระวินัย และพระสุตตันตปิฎก ไม่มีการระบุว่ามีการเก็บร่างไว้ แม้แต่พระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จดับขันปรินิพพานก็ดำเนินการเผาภายใน 7 วัน
หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า สิ่งที่เที่ยงไม่มี ธรรมทั้งหลายเป็นของไม่ใช่ตัวตน สิ่งทั้งหลายเป็นของไม่เที่ยง ในเรื่องนี้จำแนก ออกเป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 การเก็บร่างไว้เพื่อแสดงถึงความยังยืนแน่นอน ผิดหลักการของพระพุทธศาสนา
กรณีที่ 2 เก็บไว้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไม่เที่ยง พอได้
ถ้าจะให้ถูกตามคำสอนของพระพุทธเจ้าฌาปนกิจเลย ไม่ควรเก็บไว้เกิน 7 วัน
Q4: การเก็บร่างไว้ ตรงกับคำสอนของพระพุทธเจ้าไหม?
A4: ที่พระพุทธเจ้าทำให้ดู คือ เก็บไว้ 7 วัน แล้วจึงฌาปนกิจ ดั่งที่ปรากฏในมหาปรินิพพานสูตร ปัจจุบันก็ให้พิจารณาตามความเหมาะสม
Q5: หน้าที่ที่พึงปฎิบัติต่อทิศเบื้องหน้าต้องทำอย่างไร?
A5: หน้าที่ของลูกที่พึงปฏิบัติต่อมารดาบิดา มีดังนี้ เมื่อแก่เถ้าแล้วเลี้ยงดูท่านตอบ เมื่อตายไปแล้วทำกาละให้ ดำรงวงศ์สกุล ทำข้อปฎิบัติเป็นอริยวงศ์ คือ ศีล และเป็นทายาท คือ รับมรดก ข้อปฎิบัติในชีวิตที่ดี ๆ มา ดำรงตนเป็นธรรมทายาท
Q6: เด็กรุ่นใหม่บางคน มองว่า พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูตนเพราะเป็นหน้าที่ ตนไม่จำเป็นต้องเลี้ยงดูท่านตอบ
A6: ความเห็นบางอย่างมีแล้วทำแล้วให้เกิดบาป อกุศล เรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ
ความเห็นที่มีแล้วทำแล้ว ให้เกิดกุศล กิเลสลดลง เรียกว่า สัมมาทิฏฐิ
พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มีสัมมาทิฏฐิ เพื่อยับยั้งชั่งใจ เป็นการให้อาหารส่วนที่เป็นกุศล อีกทั้งให้คบกัลยาณมิตรที่จะช่วยทำให้เกิดความดีขึ้นในชีวิตของเรา
Q7: วันพระไทยกับต่างประเทศ ไม่ตรงกัน จะถูกต้องไหม?
A7: วันพระสามารถใช้เวลาตาม location นั้นได้เลย
Q8: การสร้างพระพุทธรูปจะได้บุญใหญ่จริงหรือเปล่า?
A8: การสร้างพระพุทธรูป จัดอยู่ในหมวดการสร้างเสนาสนะเจดีย์ ได้บุญมากสุดในส่วนของการให้ทาน
แต่การรักษาศีลนั่งสมาธิภาวนา ช่วยให้ใกล้นิพพานมากกว่า และได้บุญมากกว่าการให้ทาน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 20 Aug 2023 - 54min - 251 - การรักษาศีล 5 [6633-1u]
ไต่ตามทาง
เรื่องเล่าของคุณตาที่สมัยหนุ่มเป็นคนอารมณ์ร้อน พอแก่ตัวลงประกอบกับ อินทรีย์แก่กล้าขึ้นจากการมีกัลยาณมิตร ได้ฟังธรรมะ ทำให้เป็นคนใจเย็นลงสามารถรับมือกับสถานการณ์ตอนเกิดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี
การรักษาศีล 5 อย่างละเอียด
1.การฆ่า
ไม่ปลงชีวิตสัตว์ทั้งหมด ไม่ว่าสัตว์นั้นจะมีคุณมีโทษมากหรือน้อย สัตว์ใหญ่ หรือเล็ก
2.การขโมย
ในที่นี้ยกตัวอย่างเรื่องการค้า การซื้อขายถ้าจะให้เป็นการรักษาศีลอย่างละเอียดให้เอามีนอกมีในออก ให้เป็นไปตามกลไกของตลาด และไม่มีการฮั้วกัน การโกง เป็นต้น
3.การดื่มสุรา และเมรัย
พระพุทธเจ้าให้สำรวมจากการดื่มน้ำเมา
รวมทั้งละเว้นจากการคบเพื่อนชั่ว เที่ยวตามตรอกซอกซอยในเวลากลางคืน และเล่นการพนัน เล่นหวยเล่นเบอร์
4.การประพฤติผิดในกาม
ในที่นี้คือการไม่ทำผิดจารีตประเพณี เช่น หนุ่มสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน แล้วอยู่ด้วยกันถือว่าประพฤติผิดในกาม
5.วาจา
นอกจากการไม่พูดโกหก ไม่พูดโดยมีเจตนาให้เขาเข้าใจเป็นอย่างอื่น การพูดเพ้อเจ้อการพูดยุยงให้แตกกัน พูดคำหยาบ รวมถึงการพูดทิ่มแทงคนอื่น การพูดเสียดสี และการพูดที่กระทบกระเทือนจิตใจผู้อื่น ถือว่าผิดศีล
ถ้าเรารักษาศีลได้ดีละเอียด นอกจากรักษาตัวเรายังช่วยรักษาผู้อื่นที่จะไม่ได้รับการเบียดเบียนจากตัวเรา
การรักษาศีลให้ละเอียดเป็นพื้นฐานสู่โลกุตรธรรม
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 13 Aug 2023 - 1h 02min - 250 - พลังใจในพรรษา [6632-1u]
Q1: ที่มาของวันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา
A1: วันเข้าพรรษา มีที่มาเนื่องจากในสมัยพุทธกาลช่วงฤดูฝนพระสงฆ์ผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้เหยียบย่ำข้าวของชาวบ้านที่ปลูกไว้เสียหาย เมื่อเรื่องทราบถึงพระพุทธเจ้าจึงเกิดการบัญญัติเรื่องวันเข้าพรรษาในพระวินัยให้พระภิกษุอยู่จำพรรษาในช่วงฤดูฝน
วันอาสาฬหบูชา เป็นวันแรกที่พระพุทธเจ้าแสดงธัมมจักกัปปวัตตนสูตร มีพระสงฆ์รูปแรกอุบัติขึ้น
เป็นวันที่พระพุทธเจ้าออกบวช วันเกิดพระราหุล และวันที่ทำสังคายนาครั้งแรก
Q2: ในปัจจุบันมีไฟฟ้าใช้แล้ว การถวายเทียนจำนำพรรษา พระภิกษุได้ใช้งานจริงหรือไม่?
A2: เทียนจำนำพรรษาไม่ค่อยได้ใช้ แต่ปัจจุบันก็จะมีการประยุกต์เป็นถวายหลอดไฟซึ่งทางวัดสามารถนำไปใช้ได้
* ชักชวนทำข้อปฏิบัติที่ให้เกิดการตั้งมั่นตั้งใจสร้างนิสัยที่ดีในช่วงเข้าพรรษา 3 ข้อ ทุกวัน ดังนี้ 1) เดินจงกรม 2) นั่งสมาธิ และ 3) รับประทานอาหารมื้อเดียวหรือ 2 มื้อ (รักษาศีล 8)
Q3: ขยันทำบุญได้อะไร?
A3: ทำบุญแล้วได้บุญ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ถ้าเราอยู่ในสังสารวัฏ ต้องมีบุญ ที่จะเป็นเสบียงใช้สำหรับเดินทางไกล
อย่าสร้างบาป ให้ทำบุญ ให้อยู่เหนือบุญเหนือบาป เอาความดี เป็นที่พึ่ง ไม่ประมาทมั่วเมาในความสุข และไม่เมาบุญ
Q4: ที่กล่าวว่า ความรักของพ่อแม่นั้นบริสุทธิ์ บริสุทธิ์อย่างไร?
A4: ความรักของพ่อแม่นั้น ไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ไม่มีหมด เป็นความรักอย่างของพรหม มีเมตตาเป็นที่ตั้ง
Q5: เมื่อถูกเจ้านายสั่งให้ไปจ่ายสินบนแก่ข้าราชการ เราซึ่งเป็นตัวกลางในการส่งมอบผิดบาปหรือไม่?
A5: ผิด และได้บาปมาด้วยส่วนหนึ่ง เนื่องจากมีส่วนร่วมในกระบวนการ
หลักการที่พิจารณาว่าอะไรทำแล้วไม่ผิด หรือไม่บาป คือ ให้มีศีล
ถ้าเอาเงินบาปไปทำบุญ จะได้บุญหรือไม่?
ทำบุญด้วยการให้ทานได้บุญ แต่การเอาเงินบาปมาทำบุญจะมีความเศร้าหมองของวัตถุทานที่ไม่บริสุทธิ์
Q6: เวลาเป็นสังขตธรรมหรือไม่?
A6: สังขตธรรม คือ ธรรมที่มีการปรุงแต่ง มีลักษณะ ดังนี้ 1) มีการเกิดปรากฏ 2) มีความเสื่อมปรากฎ 3) เมื่อตั้งอยู่มีภาวะอย่างอื่นปรากฎ
เวลามีลักษณะทั้ง 3 อย่าง เวลาจึงเป็นสังขตธรรม
Q7: ทำไมคนจึงนิยมไปทำบุญในตอนเช้าของวันพระ?
A7: กิจของคฤหัสถ์มีมากจึงไม่สามารถมาทำบุญได้ทุกวัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้มาทำบุญว่าจะสะดวกมาวันไหน ซึ่งส่วนใหญ่จึงนิยมไปทำบุญในตอนเช้าของวันพระ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 06 Aug 2023 - 53min - 249 - อุปนิสัยแห่งความสำเร็จ [6631-1u]
4 อุปนิสัยที่จะทำให้เราอยู่ในโลกที่มีกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง ได้อย่างปลอดภัย สำเร็จ รักษา กายวาจา ใจ ของเราให้ไปตามทางที่มีองค์ประกอบอันประเสริฐ 8 อย่าง ประกอบด้วยปัญญา และความเพียร อันจะทำนิพพานเป็นที่สุดจบให้เกิดขึ้นได้
ข้อ 1 เรียนรู้ให้เร็ว หากผิดพลาดให้รีบแก้ไขให้ไว ลงมือทำให้เร็ว ปรับตัวให้ทัน นี่คือ concept การสอนของพระพุทธเจ้าที่จะทำให้เกิดการพัฒนา และทำให้เราอยู่ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากนี้ได้สำเร็จ
ข้อ 2 อย่ารักใครมากเกินไป อย่าเกลียดใครมากเกินไป
โลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตามหลักโลกธรรม 8 หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปเราต้องปรับตัวให้เร็ว
มีสติ สัมปชัญญะ เข้าใจสถานการณ์ จะเห็นประโยชน์ จะเห็นโทษได้ ดังนั้นจึงไม่ควรรักหรือเกลียดใครมากเกินไป ให้อยู่กันด้วยเมตตา สร้างประโยชน์ให้แก่กัน และช่วยกันระมัดระวังสิ่งที่เป็นโทษ
ข้อ 3 รู้จักปฏิเสธบ้าง Say No
ให้เราจัดลำดับของงาน
งานที่สำคัญ และเร่งด่วน ให้ลดลง
งานที่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน ทำให้มากขึ้น
งานที่ไม่สำคัญ แต่เร่งด่วน ให้ say no
ให้จิตใจของเรามาจดจ่อทำงานที่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน
ข้อที่ 4 อาหารการรับประทาน
การกินมากมีอาพาทมาก มึนมาก จะทำให้เป็นโรค NCDs หรือ non-communicable diseases เป็นกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง คือ ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้ แต่เป็นโรคที่เกิดจากนิสัยหรือพฤติกรรมการกิน เช่น โรคเบาหวาน ความดัน โรคมะเร็งบางประเภท เป็นต้น ดังนั้น ใน 1 วัน ควรกินเพียง 1 หรือ 2 มื้อ กิน 80% ของท้อง ไม่กินจุบจิ๊บ ไม่ดื่มน้ำหวาน และให้เลือกทานอาหาร non process food
เทคนิคในการตื่นนอนตอนเช้า คือ ตั้งนาฬิกาปลุกเวลานอนจะทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน และมีประสิทธิผล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 30 Jul 2023 - 59min - 248 - เห็นถูกต้อง ทำให้ถูกทาง [6630-1u]
Q1: ฝึกสมาธิ โดยไม่ต้องนั่งสมาธิทำได้ไหม?
A1: การฝึกสมาธิคือการฝึกจิต ให้มีสติตั้งไว้ ไม่เผลอเพลินไปตามเรื่องราวต่าง ๆ หากมีความคิดในทางพยาบาทเบียดเบียนก็ให้ลดลง ซึ่งสามารถทำได้ในทุกอริยาบท
Q2: การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบจดจ่อ เช่น อ่านหนังสือ ถือว่าเป็นการฝึกสมาธิไหม?
A2: การจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่งเรื่องเดียว ถือว่ามีสมาธิประเภทที่มีความคิด แต่จะให้ดีให้เรามาเจาะจงให้มีสัมมาสมาธิ โดยมีลำดับการพัฒนา ดังนี้
สัมมาสมาธิ เริ่มมาจากสัมมาสติ
สัมมาสติ เริ่มมาจากสัมมาทิฏฐิ
สัมมาทิฏฐิ คือรู้ผิดรู้ถูก
Q3: ฤาษีกับพระ มีการทำสมาธิหรือปฏิบัติต่างกันอย่างไร?
A3: ฤาษี คือ ผู้ประพฤติพรหมจรรย์รูปแบบหนึ่ง อาศัยอยู่ในป่า อยู่แบบสันโดษ ไม่คลุกคลีกับใคร ไม่ทานเนื้อสัตว์ ไม่โกนผม นุ่งห่มหนังเสือ หรือผ้าจากหนังสัตว์ ส่วนภิกษุ โกนผม นุ่งห่มผ้าย้อมน้ำฝาด พระพุทธเจ้าทรงเลือกการประพฤติพรหมจรรย์ ในรูปแบบภิกษุ เนื่องจากทรงพิจารณาแล้วเห็นข้อดี ที่จะไม่ต้องมีภาระในเรื่องเครื่องนุ่งห่ม และทรงผม
Q4: วัสดุที่ใช้จดบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำไมต้องเป็นใบลาน?
A4: เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีกระดาษ จึงต้องนำใบของต้นไม้มาใช้จดบันทึก ปัจจุบันบางวัดก็ยังรักษารูปแบบการใช้ใบลาน หรือใบข่อย โดยนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับกระดาษ
Q5: ผ้าไตรจีวรของพระ ทำไมถึงมีหลายสี?
A5: ผ้าไตรจีวร คือ ผ้าที่ทิ้งแล้ว นำมาทำให้เสียสีเดิมด้วยการย้อม เหตุที่มีหลายสีเนื่องจากพระพุทธเจ้ากำหนดสีผ้าไตรจีวรไว้กว้าง ๆ เพื่อให้พระภิกษุอยู่ง่ายกินง่าย แต่ปัจจุบันขึ้นอยู่กับการตกลงกันของพระภิกษุแต่ละกลุ่มในการเลือกใช้สี แต่ทั้งนี้ต้องไม่ใช้สีที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ เช่น สีแดง เป็นต้น
พระวิระชัย ทรงเมตตา อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งใจจะบวชไม่สึก เนื่องจากหลังจากฟังเทศน์ได้สติว่า ตำแหน่งหลังเกษียณก็ต้องคืนเขาไป ในส่วนของเรื่องธุรกิจตายไปแล้วก็เอาเงิน เอาทองไปไม่ได้ การสิ้นเหตุแห่งการเกิดต้องภาวนา และปฏิบัติเท่านั้น อีกทั้งหลังจากบวชแล้วพบว่าการบวชเป็นพระ ปฏิบัติธรรมมีความสุขมากกว่าทางโลก
Q6: ชายสามโบสถ์ คืออะไร
A6: สามโบสถ์ในที่นี้คือ โบสถ์พุทธ โบสถ์คริสต์ และโบสถ์อิสลาม ซึ่งหมายถึงคนที่เปลี่ยนศาสนาไปเรื่อย
Q7: ไปทำบุญแล้วเจออุปสรรคต่าง ๆ ทำให้จิตใจขุ่นมัว แบบนี้จะได้บุญไหม?
A7: ถ้าทำบุญแล้วจิตใจขุ่นมั่ว ได้บุญอยู่ แต่บุญนั้นจะเศร้าหมอง ให้เรารักษาจิตใจของเราให้ดี มีเมตตา อย่าไปคิดไม่ดีกับใคร ให้ตั้งศรัทราของเราให้เต็มที่ จึงจะทำให้ทำบุญแล้วได้บุญมาก การนั่งสมาธิ รักษาศีล ก็เป็นการทำบุญรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่ได้ลงทุนด้วยเงินตราแต่เป็นการลงทุนด้วยร่างกาย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 23 Jul 2023 - 53min - 247 - วิธีคิดของคนมีปัญญาในการฟังข่าว [6629-1u]
คลายเงื่อนปมสมการชีวิตด้วยปัญญา วิธีคิดของคนมีปัญญา ในการฟังข่าวที่มีความฉลาด มีธรรมะในใจ มีวิธีคิดอย่างไร?
คนมีปัญญาจะฟังข่าวแบบมีสติ ไม่ไหลไปตามกระแสดราม่าต่าง ๆ ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งที่มากระทบ จะมีความมั่นคง สามารถคิดวิเคราะห์แยกแยะ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างเป็นบัณฑิตได้
ยกตัวอย่างการใช้ปัญญาในการฟังข่าว
- ข่าวการเมือง: ข่าวประธานสภา รองประธานสภา 2 ท่าน มาจาก 3 พรรคการเมือง และมาจากต่างศาสนากัน แต่ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ข่าวสังคม ดาราซื้อไซยาไนด์มากำจัดสัตว์ ได้รับผลกรรมจนทำให้ชีวิตย่ำแย่ลง ผู้มีปัญญาจะใช้ปัญญา เอาตัวรอดโดยไม่ต้องเบียดเบียนใคร ข่าวดาราป่วยโรคซึมเศร้า ทำอัตวินิบาตกรรม และข่าวคนถูกบันไดเลื่อนของสนามบินตัดขาขาด ผลเกิดจากกรรมใหม่ เนื่องจากการเตรียมตัวไม่สม่ำเสมอข่าวเศรษฐกิจ การตกแต่งบัญชี ของ บริษัท Stark ทำให้ผู้ลงทุนได้รับความลำบาก พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนให้เราต้องรักษาสติ ถ้าไม่มีสติเจอคนพาล ก็จะทำผิดพลาดได้ การมีสติรักตัวเองก็เท่ากับรักษาผู้อื่น
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 16 Jul 2023 - 56min - 246 - พัฒนาจิตในชีวิตประจำวัน [6628-1u]
คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมได้มีกระบวนการพัฒนาอินทรีย์ตามขั้นตอนดังนี้ ต้องมีสติจึงจะมีปัญญา จะมีสติได้ต้องมีศรัทธา มีศรัทธาประกอบด้วยความเพียรแล้ว จึงมีปัญญา
มีความเลื่อมใส จึงมีศรัทธา สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งคนและสัตว์
อยากจะมีจิตใจที่เยือกเย็น ขณะอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดีได้ ให้พัฒนาจิต ให้หนักแน่นไม่หวั่นไหว โดยการตั้งสติขึ้น เปรียบจิตดังหม้อ มีฐานรองหม้อ คือ มรรค 8 ศีล สมาธิ ปัญญา
วิธีการพัฒนา พระพุทธเจ้าให้ดูว่าเรามีอะไรดีอยู่ ให้ตั้งมั่นอยู่ในสิ่งนั้น เช่น มีศีล ให้เราตั้งมั่นอยู่ในศีล พอมีศีลแล้วแสดงว่ามีสัมวายามะ ก็จะทำให้เรามีสติ สมาธิเกิดขึ้นพิจารณาใคร่ครวญสิ่งที่เห็น เกิดปัญญา มีแค่ปัญญายังไม่สามารถหลุดพ้นได้ ถ้าจะให้หลุดพ้นได้ต้องใช้ภาวนามยปัญญา เป็นปัญญาที่เกิดจากการปฏิบัติจนรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง ซึ่งถือว่าเป็นปัญญาที่แท้จริง เป็นการต่อยอดจาก สุตมยปัญญา และจิตมยปัญญา ซึ่งจะเป็นไปในรูปแบบของการ รู้ คิด ทำ
การที่เชื่อเรื่องดวงเพราะไม่มั่นใจ จึงหาที่พึงทางใจ วิธีแก้ปัญหา คือ พัฒนาศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้าให้มั่นคงไม่หวั่นไหว ตั้งมั่นมาตามทาง จะทำให้เจริญพัฒนารุ่งเรืองได้
พระพุทธเจ้านำเสนอสิ่งที่มีประโยชน์มาก คือ การรักษาศีล เจริญปัญญา อันไหนมีประโยชน์น้อยควรละทิ้ง อันไหนมีประโยชน์มากควรจะเชื่อ และควรทำ
จากข่าวการบวชของพระเจมส์ จิ ซึ่งเป็นดาราดัง มีแฟนคลับมาก่อกวน เวลาใครบวชควรส่งเสริมให้ได้ปฎิบัติได้อย่างเต็มที่ อนุโมทนาร่วมกัน
พระสงฆ์ไม่รับเงินทอง แต่สามารถรับปัจจัยสี่เพื่อการบริโภคได้ ไม่ควรใส่เงินลงในบาตร หากต้องการถวายเงินพระ สามารถให้ไว้กับไวยาวัจกรได้
ดารา ดีเจ พวกฟ้อนรำ ร้องเล่นให้คนบันเทิง ทำให้ราคะของผู้อื่นเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบอาชีพนี้จึงตกนรก ดังนั้นหากดาราบวช จึงควรอนุโมทนา และหากต้องประกอบอาชีพดังกล่าว วิธีแก้คือ ให้มีความเห็นถูก ให้เป็นสัมมาทิฐิ และรักษาศีล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 09 Jul 2023 - 57min - 245 - ขันติ คือ ความอดทน [6627-1u]
หลังแต่งงาน เมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ความแตกต่าง ขัดแย้งทางอุปนิสัย การอบรมเลี้ยงดู ปัญหาพ่อผัว แม่ผัว ลูกสะใภ้ เรื่องการเงิน เศรษฐกิจ ทำให้เกิดเป็นปัญหาครอบครัว และนำไปสู่การหย่าร้างในที่สุด ขันติ คือ ความอดทนอดกลั้นต่อความหนักและความร้ายแรงทั้งหลาย เป็นธรรมะที่นำมาใช้แก้ปัญหา ให้เรามีความอดทน อดกลั้นปรับตัวเข้าหากัน จึงจะสามารถประคับประคองชีวิตคู่ให้ผ่านไปได้ด้วยดี
วิธีการที่จะพิจารณาว่าอะไรดีไม่ดี ให้ดูที่ ประโยชน์ ประกอบด้วย ประโยชน์ใน 3 กาล คือ ประโยชน์ในเวลาปัจจุบัน ประโยชน์ในเวลาต่อมา ประโยชน์ในเวลาต่อมาต่อมาอีกและประโยชน์ใน 3 ที่ คือ ประโยชน์ที่เกิดแก่ตนเอง ประโยชน์เกิดแก่ผู้อื่น ประโยชน์ที่เกิดแก่ทั้ง 2 ฝ่าย
เมื่อต้องประสบกับโลกธรรม ให้ใช้ปัญญาพิจารณาหาความจริง เพื่อทำความเข้าใจความจริงของโลก พิจารณาให้เห็นไตรลักษณ์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 02 Jul 2023 - 1h 03min - 244 - บุญเหนือบุญ [6626-1u]
Q1 เอาของวัดกลับบ้าน แม้พระจะให้แล้ว เราจะบาปไหม?
A1 ได้รับอนุญาตจากสงฆ์แล้ว ไม่บาป
คำสอนของพระพุทธเจ้าเน้นเรื่องการรักษาศีล ให้อยู่เหนือบุญ เหนือบาป อยู่เหนือดี เหนือชั่ว คือ พระนิพพาน
Q2 การนำสิ่งของคนตายมาใช้จะส่งผลต่อชีวิตหรือไม่
A2 สามารถใช้ได้ ยกตัวอย่างเช่น พระสงฆ์นำของคนตายมาใช้ แต่ก็ไม่มีผลต่อชีวิต สามารถทำบุญอุทิศให้คนที่ตายไปแล้ว จะทำให้เราสบายใจ
Q3 พระนำสังฆทานที่รับมาแล้ว มาให้ญาติโยม แล้วญาติโยมเอาไปทำบุญต่อจะบาปไหม?
A3 สังฆทานเป็นทานที่ให้แก่หมู่สงฆ์ ถ้าพระที่เป็นตัวแทนสงฆ์ท่านสละออกแล้ว โดยนำมาให้ญาติโยม สามารถนำมาใช้ทำบุญต่อได้
Q4 มีคนให้ของเรามาแล้วเรานำไปทำบุญต่อกับพระได้ไหม?
A4 สามารถนำมาทำบุญต่อกับพระได้
Q5 ใส่บาตร โดยไม่ใส่น้ำ
A5 การใส่บาตรโดยไม่ใส่น้ำก็ได้บุญ อยู่ที่เจตนาของเราให้เป็นบุญ
Q6 คนที่บ้านชอบทำบุญเกินตัว
A6 การทำบุญจะต้องไม่เบียดเบียนตัวเอง และผู้อื่น จะทำมากหรือน้อย แต่ศรัทธาเต็มยิ่งจะทำให้ได้บุญมาก ให้เอาตัว และจิตของเราทำบุญ มีปัญญาเข้าใจอริยสัจสี่ จะทำให้เราอยู่เหนือบุญ เหนือบาปได้
Q7 เมื่อต้องทำงานที่ไม่ชอบ และทำงานกับคนที่ไม่ชอบ ควรปรับจิตปรับใจอย่างไร
A7 ต้องตั้งสติไว้ให้มาก ระมัดระวังอย่างเต็มที่ อย่าทำอกุศลธรรมตอบโต้คนที่ไม่ชอบออกไป ปรับจิตปรับใจของเรา ไม่ให้เพลิน ก็จะทำให้สามารถทำงานที่ไม่ชอบได้
Q8 ทำงานอย่างไรให้มีความสุข?
A8 นำสังคหวัตถุ 4 มาปรับใช้
Q9 ทำอย่างไร ถึงจะ focus กับงานที่ทำได้
A9 เอาอะไรที่จะมาดึงเราไม่ให้ focus กับงานออกไป โดยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ปัจจัยภายนอก แบ่งเวลาให้เหมาะสม ใช่เทคโนโลยีมาช่วยจัดการ เป็นต้น
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 25 Jun 2023 - 54min - 243 - ใช้ธรรมนำทาง ให้พ้นภัยจากวัฏฏะ [6625-1u]
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูก 2 คน เจอปัญหาต่างๆ รุมเร้า ได้รับผลกระทบจากโควิดทำให้สูญเสียรายได้ ลูกก็เจ็บป่วยไม่สบายจำเป็นต้องใช้เงินในการรักษา ใช้ธรรมนำทาง ทำให้มีจิตใจเข้มแข็ง เข้าใจสถานการณ์ ค่อยๆ แก้ไขปัญหา จนคลี่คลายปมปัญหาต่างๆ ลงได้
มุมมองการมองโลก ผู้ที่มองโลกในแง่ร้ายนั้นมีข้อเสีย คือ เป็นคนขี้กังวล ขี้อิจฉา ขี้กลัว ขี้ระแวง แต่มีข้อดี คือ เป็นผู้ที่มีความรอบครอบ ระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิต ไม่ถูกหลอกหรือถูกโกง ส่วนผู้ที่มองโลกในแง่ดีนั้นมีข้อเสีย คือ ทำให้เป็นคนประมาท มีโมหะ ราคะ ลุ่มหลง เผลอเพลิน แต่มีข้อดี คือ เป็นคนมีเมตตา มีน้ำใจ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้มองโลกแบบมัชฌิมาปฏิปทา เข้าใจสถานการณ์ รู้เท่าทันโลกธรรม 8 แนวทางการปฏิบัติที่จะให้เราอยู่ในโลกนี้ได้ ให้ดำเนินตามมรรค 8 อยู่กับทุกข์ก็อยู่ได้โดยไม่ทุกข์ อยู่กับสุขก็อยู่ได้โดยไม่เผลอเพลิน เปรียบเหมือนลิ้นงูอยู่ในปากงู จะทำให้รักษาตนให้พ้นภัยจากวัฏฏะนี้ได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 18 Jun 2023 - 57min - 242 - เห็นถูกต้อง ทำถูกธรรม จึงพ้นทุกข์ [6624-1u]
Q1 ทำไม นั่งสมาธินั่งเฉยๆ ถึงให้บุญมากกว่าการทำบุญ?
A1 การนั่งสมาธิมีประโยชน์ที่เกิดขึ้นมาก และยาวนาน ดังนี้
1. คนอื่นไม่สามารถเอาไปได้
2. ยิ่งใช้ยิ่งเพิ่ม
3. ทำให้เห็นทางแก้ปัญหา
4. ทำให้ถึงนิพพานได้
Q2 การให้ทาน เทียบกับการนั่งสมาธิ คนมักจะพูดว่านั่งสมาธิ บวกมากกว่า บวกมากกว่าอย่างไร?
A2 การให้ทานให้ชีวิตได้เพียง 1 วัน ให้แล้วยังต้องให้อีก แต่การนั่งสมาธิ พอทำจิตให้เป็นสมาธิ ด้วยสติสัมปชัญญะ ตัวเราได้ชื่อว่ารักษาผู้อื่น เพราะจะไม่เบียดเบียนผู้อื่น มีเมตตา อดทน ไม่คิดประทุษร้ายผู้อื่น
Q3 วัดที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีบริการจัดหาปลาให้ปล่อย เป็นพุทธพานิชย์ จะได้บุญไหม?
A3 การค้าขายสัตว์เป็น เป็นอาชีพที่ไม่ควรทำ การไปซื้อสัตว์มาปล่อยไม่ควรทำ
Q4 ไปเข้าโบสถ์แล้วไม่ได้จุดธูปเทียน ถวายดอกไม้ จะผิดหลักการ แล้ว ไม่ได้บุญหรือไม่?
A4 เครื่องบูชาที่มีประโยชน์มาก ที่พระพุทธเจ้าเน้นย้ำ คือ ให้ปฏิบัติบูชา
Q5 การมีคู่ไม่มีคู่ สมหวังผิดหวัง เป็นเรื่องกรรมเก่าหรือไม่?
A5 สามีภรรยาจะอยู่ด้วยกันได้ ต้องมีคุณธรรม 4 อย่างเสมอกัน คือ ศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญา สำหรับคนไม่มีคู่ ให้ปรับมุมมองหาความสุขที่นอกจากทางกาม ซึ่งพระพุทธเจ้าได้เล็งเห็นว่าการประพฤติพรหมจรรย์ดีกว่า มีประโยชน์ทั้งปัจจุบัน และภายภาคหน้า จึงออกผนวช
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 11 Jun 2023 - 54min - 241 - 3 วิธี คลายเครียด ด้วยสมาธิ [6623-1u]
"เห็นทุกข์อยู่ แต่ไม่เห็นธรรม ก็เครียดไง"
เอาความเครียดมาใช้ในการพัฒนาชีวิตของเรา ด้วย 3 ขั้นตอนการใช้สมาธิเพื่อคลายเครียด ดังนี้
- สังเกตให้ได้ก่อนว่าเราเครียดแล้วหรือยัง (ให้อยู่กับปัจจุบัน)ถ้าไม่เครียดเลย ไม่ดี ต้องมีเครียดบ้างขั้นบูรณาการ คือ ถ้ารู้ว่าเครียด ให้มีสติเป็นยามเฝ้าประตู คือ รู้ปัจจุบัน ไม่ไปตามอารมณ์ ให้ยามเฝ้าอยู่ที่ป้อมยาม คือ ลมหายใจ เมื่อเครียดให้สูดลมหายให้มีสติขึ้นมา พอจิตเราไม่เพลินไปตามอารมณ์ ความเครียดระงับลง ๆ จึงเริ่มเป็นสมาธิ จะเห็นทุกข์ เอาปัญญามาดู ให้เห็นเพื่อเข้าใจว่าเป็นธรรมดาเกิดขึ้นได้ ตั้งอยู่ และดับไป พอเราเข้าใจเหตุผล ความมั่นใจ คือ ศรัทธา จะเชื่อมวงจรได้ด้วยทุกข์ทันที เพราะเราเข้าใจเหตุผล วงจรของใช้ตัวแปรเรื่องของอินทรีย์มาบูรณาให้เกิดการคลายเครียด ให้เห็นธรรม เราจึงจะอยู่กับสถานการณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ และรับมือกับปัญหาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ การงาน ปัญหาสุขภาพได้โดยไม่เครียด
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 04 Jun 2023 - 1h 01min - 240 - สร้างสุข จากภายใน [6622-1u]
Q1: ทำบุญเสร็จแล้วสามารถ ขอ หรืออธิษฐาน ได้หรือไม่ ดีไม่ดี อย่างไร?
A1: อธิษฐาน หมายถึง การตั้งใจมั่นว่าจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นสิ่งดี ไม่ใช่การขอ ให้อธิษฐานเพื่อเสริมกำลังใจในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น จะตั้งใจทำงานทุกวัน เพื่อให้เลื่อนตำแหน่ง
Q2: ถ้าทำบุญด้วยความเกรงใจ จะได้บุญมากน้อยแค่ไหน?
A2: การสละออกถือว่าเป็นสิ่งดี แต่ถ้าทำด้วยความเกรงใจ ผลของทานจะได้บุญไม่เต็มที่
Q3: ถ้าใส่ซองกฐินแบบไม่เต็มใจได้บุญไหม?
A3: ได้บุญ แต่ก็จะได้ไม่เต็มที่ เพราะใจเราไม่โน้มไปในสิ่งที่เราทำ แต่อย่างน้อยความตระหนี่จะถูกขูดเกลาออกไป
Q4: คนที่เป็นประธานกฐิน ต้องเป็นคนอายุมาก เท่านั้นจริงไหม?
A4: ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอายุมาก คนอายุน้อยก็เป็นประธาน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่จะทำบุญใหญ่มักจะมีอุปสรรคเป็นธรรมดา มารอาจมาขัดขวางได้ ดังนั้น ต้องประกอบด้วย บุญ บารมี และไม่ประมาท
Q5: ทำบุญแล้วไม่ได้กรวดน้ำ คนที่ล่วงรับไปแล้ว เขาได้รับบุญไหม?
A5: เวลาให้ทำบุญให้ตั้งจิตคิดถึงผู้ที่ล่วงรับไปแล้ว ขณะทำบุญ ผู้ล่วงรับจะได้รับบุญนั้น ไม่ต้องกรวดน้ำก็ได้
Q6: อยู่ในกลุ่มคนติดสบายไม่มีความเพียร / ทำงานแบบชิลล์ๆ ไปวันๆ ดีไหม?
A6: เวลาทำงานให้ทำแบบทางสายกลาง ต้องมีความเครียดบ้างถึงจะดี ให้ทำให้ดีที่สุดในระหว่างที่ทำ ทำให้ดี ทำให้เต็มที่ ปฎิบัติตามศีล สมาธิ ปัญญา จะดีที่สุด
Q7: ขอวิธีเริ่มต้น ปฎิบัติในการลดความเครียด?
A7: ต้องมีความอดทน มีสติ สัมปชัญญะ ให้ใส่ความสุขเข้าไปในงานที่เราทำ ความสุขมาจากภายใน มาจากสติ พอเราตั้งสติได้ จิตจะเป็นสมาธิได้ เราก็จะมีความสุขในงานที่ทำได้
Q8: คำที่ว่า เวรกรรมยุติธรรมเสมอ คำนี้ถือว่าถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นไหม? และเราจะรู้ จะวัดได้อย่างไรว่ามันยุติธรรมแล้ว
A8: เวรกรรมเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมอยู่แล้ว เพราะกรรมไม่มีวันจบ สิ่งที่จะจบ คือนิพพาน บทสรุป คือ ต้องสิ้นกรรม ต้องออกจากระบบของกรรม
Q9: ถ้าต้องอยู่กับหัวหน้าที่อารมณ์ร้อน หรืออารมณ์ร้าย ควรทำอย่างไร?
A9: ถ้าเราอยู่กับคนพาล คือ อยู่กับคนที่มีจิตที่มีฝีกลัดหนอง อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ดังนั้นเราต้องระวัง ต้องมีสติอย่างเต็มที่ เวลาจะพูดอะไรให้ระมัดระวัง คือ รักษาหน้าที่ของเราให้ดี ควรทำ 3 อย่างนี้ คือ 1. เอาเกียรติคุณของนายไปร่ำลือ (เพ่งหาข้อดีของคนนั้น) 2. ทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ 3. แผ่เมตตาโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่มีประมาณ
Q10: ทำงานอย่างไรดี ให้ไม่เกิดปัญหา และงานไม่สะดุด?
A10: ทำงานไม่มีอุปสรรคนั้น ไม่มี แต่เราจะผ่านอุปสรรคของงานนั้นได้ ด้วยการเจริญอิทธิบาท 4 คือ ฉันทะ-ตั้งใจ / วิริยะ-ความเพียร / จิตตะ-เอาใจใส่ / วิมังสา-คิดวิเคราะห์ ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เป็นทางที่จะแก้ปัญหาให้งานสำเร็จได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 28 May 2023 - 54min - 239 - ธุรกิจสีเทา [6621-1u]
ธุรกิจสีเทา คือ ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย มีการเบียดเบียนตัวเองหรือผู้อื่น ธุรกิจที่ผิดศีล เป็นการงานที่มีโทษ เช่น การค้าขายอาวุธ ขายยาพิษ ขายสุรา ขายสัตว์เป็น ขายเนื้อสัตว์ ฟอกเงิน และการพนันทุกรูปแบบ เป็นต้น
อานิสงฆ์ของการไม่ข้องเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา ทำให้ไม่มีความร้อนใจ มีคำพูดที่ดีความคิดดี เมื่อมีคำพูดดีความคิดดีก็จะทำให้มีแต่สิ่งดีงามเข้ามาในชีวิต สร้างครอบครัวให้มีความสุข สร้างบริษัทที่มีความสามัคคี ความสุขก็จะมีขึ้นในชีวิตของเรา ซึ่งสอดคล้องกับคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ให้เราดำรงชีวิตเป็นไปเพื่อการไม่เบียดเบียนทั้งตนเอง และผู้อื่น
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 21 May 2023 - 58min - 238 - อยู่กับทุกข์ โดยไม่ทุกข์ [6620-1u]
เมื่อชีวิตเดินมาเจอปัญหา ให้ปฏิบัติตาม วิมุตายตนสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่กล่าวถึงเหตุแห่งความหลุดพ้นจากทุกข์ ด้วยการทำเหตุแห่งวิมุตติ 5 ประการ ดังนี้
1. สวดมนต์
2. ฟังเทศน์
3. สอนคนอื่น
4. ทำจิตให้สงบ
5. ใคร่คราญธรรมะที่ได้ฟังมา
สำหรับการสวดมนต์ในทางพระพุทธศาสนามีจุดประสงค์เพื่อนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามากล่าวซ้ำ ย้ำ เพื่อให้จำได้ และเป็นการสืบทอดด้วยการบอกต่อ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 14 May 2023 - 55min - 237 - ยาพิษ [6619-1u ]
ข่าวฆาตรกรที่ฆ่าคนด้วยยาพิษ สารไซยาไนด์ จากข่าวจะพบว่ามีเรื่องกามมาเกี่ยวข้อง เช่น เรื่องเงินๆ ทองๆ การเล่นแชร์ มาล่อลวงให้หลงไป สุดท้ายถูกจับได้ เพราะประทุษร้ายกุมารี คือ ไปฆ่าคนที่มีบิดามารดา พี่น้องรักษา จึงสืบเรื่องตามหาสาเหตุการตาย ซึ่งสอดคล้องกับพุทธพจน์ 8 ประการ ของคนชั่วที่จะทำให้ถูกจับได้โดยง่าย มีดังนี้
1. ประหารคนที่ไม่ประหารตอบ (ทำร้ายผู้บริสุทธิ์)
2. ถือเอาสิ่งของไม่ให้เหลือ
3. ลักพาสตรี
4. ประทุษร้ายกุมารี
5. ปล้นบรรพชิต
6. ปล้นราชทรัพย์
7. ทำงานใกล้ถิ่นเกินไป
8. ไม่ฉลาดในการเก็บ
พระพุทธเจ้าอุปมายาพิษเปรียบได้ดั่งอวิชชา คือ ความไม่รู้ ลูกศรเปรียบดังตัณหา (ที่มา: สุนักขัตตสูตร) หากเราไม่ทำจิตของเราให้อยู่เหนือจากผัสสะ ให้พ้นทุกข์ เราก็จะโดนพิษ คือ อวิชชา และตัณหาครอบงำ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 07 May 2023 - 59min - 236 - วิธีเอาชนะกรรมเก่า [6618-1u]
Q1: ควรใช้เงินอย่างไรให้เหมาะสมกับยุคปัจจุบันนี้
A1: บริหารจัดการให้รายรับต้องท่วมรายจ่าย รายจ่ายอย่าท่วมรายรับ โดยการสร้างรายรับเพิ่ม และแบ่งการใช้จ่ายออกเป็น 4 หน้าที่ และตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก โดยอุดรูรั่ว 4 รู อบายมุข 4 คือ นักเลงสุรา การพนัน นักเลงเจ้าชู้ คบคนชั่วเป็นเพื่อน
Q2: คำว่าเสบียงบุญคืออะไร?
A2: ทำบุญสะสมไว้เพื่อให้ผลในเวลาต่อไป
Q3: รู้สึกว่าชีวิตมีปัญหา ร้อนใจอยู่ตลอดเวลา แก้ไขอย่างไรดี?
A3: ถ้าเราเห็นทุกข์ในอุปสรรคนั้นจะเกิดปัญญาที่จะแก้ปัญหาได้นั่นคือการพัฒนา คำสอนของพระพุทธเจ้ามีวิธีการแก้ปัญหาทุกวิธี
Q4: คนเรามีปัญหาเพราะกรรมเก่า จริงหรือไม่? และเราจะเอาชนะกรรมเก่าได้อย่างไร?
A4: มาจากกรรมเก่า 1 ใน 6 ส่วนสุขหรือทุกข์ ในปัจจุบันมาจากเหตุ 6 อย่าง สามารถชนะกรรมเก่าได้ด้วยปัญญา โดยปฏิบัติตามมรรค 8 เป็นปฏิปทาให้ถึงการสิ้นกรรม
Q5: ถ้าโดนเพื่อนในที่ทำงานแทงข้างหลัง ทำอย่างไรดี?
A5: ไม่ทำชั่วกลับ ต้องรักษาความดีของเราต่อไป ไม่ควรไปด่าหรือว่าเขากลับ จิตใจต้องหนักแน่นอดทนและกว้างขวาง
Q6: ลอยอังคารมีหลักการอย่างไร ไม่ลอยได้ไหม
A6: ในคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่มีหลักการที่บัญญัติไว้ จะทำหรือไม่เอาที่สบายใจ การลอยอังคารคือการเอาเถ้ากระดูกผู้ตายไปทิ้ง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 30 Apr 2023 - 52min - 235 - พรหมลิขิต กำหนดชีวิต [6617-1u]
ให้นำพรหมวิหารสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เกิดขึ้นในจิตใจเรา เราก็จะสามารถที่จะอยู่ใน toxic Environment หรือรับมือกับการโดนหักหลังได้ ให้จิตของเราตั้งอยู่ด้วยพรหมวิหาร ความเจริญ ความพัฒนา จะมีขึ้นมาได้ สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม เราจะอยู่เหนือสถานการณ์ และควบคุมสถานการณ์ได้ โดยใช้ความกรุณาเป็นเครื่องป้องกัน มีอุเบกขาที่จะช่วยเบรกไม่ให้จิตของเราไปทางต่ำ การที่เราตั้งมั่นอยู่ในพรหมวิหาร 4 จะช่วยรักษาผู้อื่น และรักษาเราด้วย ไม่มีใครสามารถทำอันตรายคนที่มีธรรมะคุ้มครองได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 23 Apr 2023 - 1h 01min - 234 - สติรักษาจิต [6616-1u]
ให้มีสติรักษาอยู่ตลอด ในขณะเดินทาง หรือเกิดอุบัติเหตุ จะทำให้ไม่หัวร้อน ใจเย็นลง มีสัมมาวาจา เมื่อเจอปัญหาต่างๆ ก็สามารถรับมือจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นได้ และฝึกฝนจิตใจให้ตั้งอยู่ในความดี ขึ้นเรื่อยๆ ให้เต็ม 100 ถ้าไม่ชอบก็ให้ใช้อุเบกขา จะทำให้อารมณ์ที่จะกระตุ้นให้เราโกรธ ก็จะระงับลง
เนื่องในโอกาสปีใหม่ไทย วันสงกรานต์ให้ทบทวนว่าหนึ่งรอบปีที่ผ่านมา เราได้ทำความดีไหม ทำความชั่วไหม จะละชั่วได้อย่างไร พัฒนาความดีได้อย่างไร ปีใหม่ให้ทำความดี 3 ทาง คือ ทางกาย วาจา และใจ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 16 Apr 2023 - 53min - 233 - ของจริง ของปลอม [6615-1u]
ประเด็นเรื่อง “ของปลอม” ที่ปรากฏอยู่ในสังคมปัจจุบัน ไม่จะเป็นข่าวปลอม พระปลอม เป็นต้น สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องทดสอบเราว่าจะคงอยู่ในธรรมนั้นได้ ดังนั้นเราต้องมีความมั่นใจ และไม่เป็นหนึ่งในสังคมที่ไม่ดี “ของจริง” ที่เราต้องเข้าให้ถึง คือ ความจริง 4 อย่าง นั่นคือ อริยสัจ 4
พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนวิธีดูคนไว้ดังนี้
1. คนมีศีล รู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน
2. ความบริสุทธิ์ใจ พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ
3. กำลังจิตกำลังใจ พึงรู้ได้เมื่อมีอันตราย
4. ปัญญา พึงรู้ได้ด้วยการสนทนา
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 09 Apr 2023 - 57min - 232 - พัฒนากรรม [6614-1u]
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโดนโกง ถูกเบี้ยวหนี้ ทำคุณคนไม่ขึ้น คนทั่วไปมักจะโทษว่าเป็นผลมาจากกรรมเก่า ซึ่งมีพราหมณ์มาถามพระพุทธเจ้าว่าสุขหรือทุกข์ในชีวิตของเราเกิดจากกรรมเก่าใช่หรือไม่ พระองค์ได้ทรงตอบว่า สุขหรือทุกข์ในชีวิตของเราไม่ได้เกิดขึ้นจากกรรมเก่าเพียงอย่างเดียว แต่มีเหตุเงื่อนไข 6 ตัวแปรด้วยกัน คือ กรรมเก่า ดินฟ้าอากาศ โรคภัยไข้เจ็บ และการเตรียมตัวไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นเมื่อต้องประสบกับปัญหาต่างๆ ให้เราใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา พัฒนาตนในการที่จะทำกรรมดี ทำผลทำความดีให้เกิดได้ ใจเราก็จะเป็นสุขขึ้นมา
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 02 Apr 2023 - 53min - 231 - เปลี่ยนความเศร้าเป็นความสุข [6613-1u]
ความตายไม่ยกเว้นให้กับใครๆ ทุกคนต้องตายหมด ความตายไม่เที่ยงเป็นอนัตตา ความตายไม่ต่อรอง อ้อนวอนได้สิ่งที่ทำให้เราทุกข์ ไม่ใช่ความตาย แต่เป็นความอยาก ที่มาเกาะเกี่ยวกับความตาย
ดังนั้นเราจึงต้องใช้ปัญญาเปลี่ยนความเศร้าใจเสียใจเป็นความสุข ให้ทำความเข้าใจเรื่องของความตายให้ดี เพื่อที่ความตายนั้นจะมาทำให้เราเกิดความทุกข์ในจิตใจเราไม่ได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 26 Mar 2023 - 53min - 230 - “บุญ” เป็นชื่อแห่งความสุข [6612-1u]
1. Q: อยู่คอนโดกรวดน้ำอย่างไร A: ให้ตั้งจิตแผ่ส่วนกุศลขณะที่ทำบุญนั้นเลย
2. Q: อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เทวดาอารักษ์ได้หรือไม่ A: ได้
3. Q: ถ้าจุดเทียนต่อกันจะทำให้มีสิ่งไม่ดีติดมาด้วย A: สามารถต่อเทียนกันได้ ไม่ได้มีบัญญัติไว้ในพุทธพจน์
4. การกระทำดี/ชั่ว มี 3 รูปแบบ 1) ตัวเราทำเอง 2) สั่งให้เขาทำ และ 3) ชักชวนให้เขาทำ
5. Q: อานิสงส์ของการจุดธูปเทียนบูชาพระ A: การบูชาด้วยของหอม จะทำให้มีศีล การบูชาด้วยประทีปโคมไฟแสงสว่าง จะทำให้มีตาทิพย์
6. Q: วิธีตั้งจิตสำหรับการสวดมนต์ไหว้พระ เมื่อเดินทางไปต่างถิ่น A: ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำสมาธิก่อนนอน และให้น้อมจิตไปเพื่อการนอน
7. Q: นอนอย่างไรให้ถูกทิศ & การบูชาทิศในอริยะวินัยนี้ A: คำสอนของพระพุทธเจ้าไม่ได้มีระบุไว้ว่าจะต้องนอนอย่างไรให้ถูกทิศ แต่มีคำสอนให้บูชาทิศในอริยวินัย
8. Q: ผู้ใหญ่ควรทำตัวอย่างไรให้เด็กเคารพและเชื่อฟัง A: ค่อยๆ พูดค่อยจากัน รับฟัง มีจิตใจที่กว้างขวาง วิธีการฝึกคนใช้วิธีการละมุนละม่อม หรือวิธีการรุนแรง หรือต้องใช้ทำสองวิธีรวมกัน ขึ้นอยู่กับคนแต่ละประเภท
9. การพูดจาจาบจ้วง ล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นมิจฉาวาจา เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
10. Q: กฎแห่งกรรม มีจริงไหม? A: ทำกรรมอย่างไรได้รับวิบากจากผลของกรรมนั้น
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 19 Mar 2023 - 57min - 229 - สุขในงาน เบิกบานในชีวิต [6611-1u]
เวลาที่เราเจอสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการงาน การใช้ชีวิต มีวิธีการรับมือ 5 วิธีด้วยกัน ดังนี้
- เปลี่ยนไปคิดในเรื่องที่จะทำให้สบายใจ ละอกุศลธรรมที่เกิดขึ้นทันที นึกถึงเรื่องที่เป็นกุศล มองต่างมุมในแง่ที่จะทำให้กุศลธรรม อดทนอดกลั้น
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 12 Mar 2023 - 1h 04min - 228 - สมดุลชีวิต [6610-1u]
คำถามที่ 1 การแก้ชงในพระพุทธศาสนา: ทำได้ด้วยการปรับจิตปรับใจ โดยที่เมื่อมีสุขเวทนา ให้มีเมตตา อุเบกขา เห็นความไม่เที่ยง นั้นคือ ดวงดี
เมื่อประสบกับทุกขเวทนา ให้มีความอดทน มีจิตเมตตาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นั่นคือ ดวงดี
คำถามที่ 2 ทำไมไหว้พระต้องจุดธูป: การจุดธูป การถวายปัจจัยสี่ เป็นการบูชาภายนอก การบูชาที่ดีที่สุด คือ การปฎิบัติบูชา
คำถามที่ 3 วิธีแก้ความขี้เกียจในการทำงาน: แก้ไขได้ด้วยการตั้งฉันทะให้มีใจรักในสิ่งที่ทำ มีสติตั้งไว้ให้ถูกต้อง และมีความเพียร
คำถามที่ 4 เครียดทั้งงานและคนทำยังไง: ให้มีสติ ใช้ปัญญา แยกแยะว่าอะไรสำคัญที่สุดเอามาทำก่อน วางแผนการทำงาน จัดระเบียบงาน จัดระเบียบคน
คำถามที่ 5 เจ้ากรรมนายเวร: ความเชื่อว่าอะไรก็เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเป็นมิจฉาทิฐิ ให้เรามีปัญญา หาเหตุ เพื่อหาทางในการแก้ไข
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 05 Mar 2023 - 53min - 227 - ครองเรือนให้ผาสุก [6609-1u]
สะสมความดี ขณะใช้ชีวิตในครอบครัว ขณะทำงานให้อินทรีย์แก้กล้า ก็จะช่วยให้บรรลุธรรมขั้นสูงได้
สมการชีวิต 3 ตัวแปร ที่จะทำให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ไม่มัวเมาไปในสิ่งต่าง ๆ อันจะช่วยทำให้สามารถครองเรือนให้ราบรื่นผาสุกได้
1) เก่งชำนาญในอารมณ์ความรู้สึกของเราเอง : อารมณ์เสีย ต้องมีที่ระบาย เอาอารมณ์ไปทิ้ง ปรับเปลี่ยนเดี๋ยวนั้น ไม่ต้องเก็บมาเป็นขยะในหัว
โกธร ให้มีเมตตา กลัว ให้มีความกล้า เห็นตามความเป็นจริง อิจฉาริษา ให้มีมุทิตา ให้มีคนรับฟัง ปรับจิตใจให้มีคุณธรรม มีสติ และอุเบกขา2) การเงินการงาน ทำงานอย่าหวังเอาเงินให้หวังเอางาน ไม่ให้ตกเป็นทาสของเงิน
การเงิน ให้แบ่งจ่ายเป็น 4 หน้าที่ คือ 1) ใช้จ่ายเลี้ยงตัวเอง 2) รักษา เก็บ หรือลงทุน 3) บริจาค 4) ทำบุญและอย่าให้เงินรั่วไหลไปกับอบายมุข
การงาน ให้ทำด้วยความขยันขันแข็งตั้งใจทำอย่างดีที่สุด3) ฉลาดพัฒนาในเรื่องคนรอบตัว ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงกล่าวไว้กับนายสิงคาลกะ ถึงวิธีการปฏิบัติตนต่อผู้อื่น โดยให้ความสำคัญกับบุคคลต่าง ๆ ที่เปรียบเสมือนทิศทั้ง 6 รอบตัวของเรา ได้แก่ บิดามารดา ครู อาจารย์ คู่ครอง มิตรสหาย เจ้านาย ลูกน้อง ลูกหลาน และพระสงฆ์
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 26 Feb 2023 - 57min - 226 - พุทธวิธีในการแก้ปัญหาทะเลาะวิวาทในครอบครัว [6608-1u]
พระพุทธเจ้าเปรียบการครองเรือนเหมือนการเข้าไปอยู่ในป่า ที่จะต้องเจอกับภัยอันตราย การออกจากเรือนเหมือนอยู่ที่โล่งกว้าง ดังนั้นการที่จะทำให้อยู่ร่วมกันในครอบครัวได้อย่างเป็นสุข ไม่ตกเป็นเครื่องมือของมาร สมาชิกในครอบครัวต้อง "รักษาศีล 5" "มีพรหมวิหาร 4" อันประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขา เช่น การกระทำบางอย่างไม่ผิดศีล แต่พูดให้เจ็บใจกัน ก็ให้มีสัมมาวาจา คำที่พูดออกมาไม่มีประโยชน์ ทำให้ผิดใจกัน พูดกระแทก มีอารมณ์ อย่าพูดดีกว่า ให้วางอุเบกขา เป็นต้น
พระพุทธเจ้าทรงอธิบายเรื่องการแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาท ไว้ใน“กินติสูตร” เพื่อให้ภิกษุสงฆ์ใช้เป็นแนวทางในการเสริมสร้างความสามัคคีให้เกิดความระลึกถึงกันให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกันและกัน โดยทรงยกประเด็นในเรื่องของภิกษุมีความเห็นแตกแยกกันผูกใจเจ็บต่อกันไม่เชื่อถือกัน ไม่ยินดีต่อกันโดยพระองค์ทรงชี้แนะให้หาคนกลางเข้ามาเจรจาด้วยวิธีการประนีประนอม หรือโน้มน้าวใจที่เปี่ยมไปด้วยหลักของความเมตตากับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 19 Feb 2023 - 55min - 225 - อุปนิสัยที่ต้องละ [6607-1u]
นิสัย 22 อย่าง ที่เราไม่ควรมี ที่ดึงชีวิตของให้ต่ำลง
1. การไม่ยอมตื่น
2. บันเทิงเกินไป
3. ไม่เข้าหาบัณฑิต
4. แวดล้อมด้วยคนเทียมมิตร
5. อยู่กับศพ
6. ไม่เปิดทางน้ำเข้า
7. ไม่ปิดทางน้ำออก
8. ไม่รู้จักทำงบประมาณ
9.ไม่ฝังทรัพย์
10. ไม่จ่ายหนี้
11. ไม่ให้คนยืม
12. เติมเนื้อไม้ใหม่
13. มีตาเดียว
14. หวั่นไหวในโลกธรรม
15. คำนึงถึงแต่สิ่งที่ล่วงมาแล้ว
16. มุ่งหวังในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
17. ไม่รับภาระ
18. ไม่สนทนาธรรมตามกาล
19. ไม่รู้ว่าวันนี้จะทำอะไร
20. คิดลบ
21. ตั้งเลท
22. ไม่รู้ประมาณในการบริโภค
ถ้าเราแก้นิสัยทั้ง 22 อย่างนี้ได้ จะทำให้ชีวิตเราก้าวหน้า เจริญ เป็นมงคล
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 12 Feb 2023 - 1h 02min - 224 - รักษาจิตด้วยธรรมะ [6606-1u]
ให้เรามีธรรมะในจิตใจ รักษาจิตของเราด้วยธรรมะให้ได้ตลอดเวลา ดำเนินชีวิตไปด้วยสติ ระมัดระวังเพื่อไม่ก่อให้เกิดการสร้างบาป มีเมตตา กรุณา มุฑิตา เวลามีผัสสะอะไรเข้ามากระทบให้เราตั้งสติไว้ ไม่หลงไปตามกระแส ทำจิตใจของเราให้บริสุทธิ์ ด้วยการรักษาศีล ทำการปฏิบัติบูชา ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่นไปได้ หนักก็จะเป็นเบา สุขอยู่แล้วก็จะสุขมากยิ่งขึ้น เป็นกำไรของชีวิต ทำให้ได้ตลอดเวลาทุกวัน ก็จะทำให้เราดำเนินชีวิตของเราไปได้ และมีผล คือ นิพพานเป็นที่สุดจบ
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 05 Feb 2023 - 54min - 223 - ธรรมที่เป็นอนุสาสนีปาฏิหาริย์ [6605-1u_Live]
การตามรอยพระอรหันต์ หรือ อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ การทำตามคำสอนแล้วเราจะได้ผลตามนั้น และที่เราต้องตามรอยพระอรหันต์ นั้นก็เพื่อที่เราจะได้ฝึกสมาธิปฏิบัติธรรม แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้จำเป็น เพราะการตามรอยพระอรหันต์ คือ การที่เราต้องตามรอยทางการปฏิบัติ นั่นก็คือตามมรรค “มรรคแปลว่าทาง” ที่มีองค์ประกอบอันประเสริฐแปดอย่าง คือ “ศีล สมาธิ ปัญญา” และที่เป็นอย่างนั้น เพราะพระพุทธเจ้าเน้นย้ำมายังจุดที่ว่า “บางทีดูยากว่า ภิกษุรูปไหนเป็นพระอรหันต์และบางทีถูกหลอก”
การที่จะดู “พระอรหันต์” ต้องดูที่ข้อปฏิบัติของท่าน ซึ่งมีขั้นตอนอยู่ และที่สำคัญ คือ เราทำตัวเองดีกว่า “ให้ไปสว่าง หาจุดที่สว่างไป” ทำกาย วาจา ใจ ที่เป็นสุจริต ชื่อว่า “ไปสว่าง” เพราะฉะนั้นถ้าเราสว่างอยู่ เช่น มีเงินทองใช้ ทำอะไรก็โชคดีราบรื่น ฯลฯ คุณอย่าไปมืด ขณะที่เราโชคไม่ดีโชคร้าย ทำอะไรติดขัด แสดงว่าเราอยู่มืดแล้ว เราต้องไปสว่าง ที่ไม่ใช่อะไรที่เป็นโชคลาภ แต่ให้ “คิดดี พูดดี ทำดี” รักษาศีลให้ดี ปฏิบัติให้ดี มาตามมรรคแปด ชื่อว่า “ไปสว่าง”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 29 Jan 2023 - 1h 05min - 222 - ระบบการปฏิบัติตามรอยพระอรหันต์ [6604-1u]
ไม่ใช่การตามหาบุคคลภายนอกว่าใครหนอ ๆ เป็นพระอรหันต์ เอาความเพียรนั้น ทำตนเองให้เป็นพระอรหันต์จะดีกว่า แทนที่จะต้องหาบุคคลใดมาเป็นกำลังใจ เพื่อให้ตนเองสามารถดำเนินไปตามการปฏิบัติ มันไม่จำเป็น เพราะ “ธรรมวินัย” นี้เป็นเรื่องของ “ระบบ - พุทโธ ธัมโม สังโฆ” ที่ไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคล
“พุทโธ” หมายถึง การตรัสรู้ เชื่อว่าความสำเร็จได้ มีอยู่ “สังโฆ” หมายถึง หมู่ที่ปฏิบัติตามธรรมะ “ธัมโม” แล้วสามารถดับทุกข์ได้จริง ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ และทั้งหมดนี้อยู่ที่ว่า “คุณได้อริยมรรคมีองค์แปดอยู่ในจิตใจ” ซึ่งจะเกิดได้ ถ้ามีตัวเรา ถ้ามีคุณธรรมนั้น นั่นก็คือ “พึ่งตนพึ่งธรรม” ใส่ความพยายามเข้าไป คือ “พึ่งตน” ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักธรรม คือ “พึ่งธรรม” สองอย่างรวมกัน จึงเป็นระบบแห่งการปฏิบัติที่ถูกต้องขึ้นมา พัฒนาที่จิตใจของเรา นำหลักธรรมเข้าสู่จิตใจให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ตามระบบของมรรคแปด จิตใจของเรา ก็เข้าสู่ความเป็นอรหันต์ได้นั่นเอง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 22 Jan 2023 - 56min - 221 - คิดเป็นกุศล [6603-1u]
‘จิต’ ใช้สมองเป็นเครื่องมือในการคิดนึกสิ่งต่างๆ ความคิดบางอย่างก็ควบคุมได้ บางอย่างก็ควบคุมไม่ได้ หรือบางทีพยายามจะคิดก็คิดไม่ออก และเพราะความคิดที่ดีประกอบด้วยกุศล มีประโยชน์ทั้งสองฝ่ายทั้งต่อตนเองต่อผู้อื่น ขณะที่ความคิดที่ชั่วเป็นอกุศล ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ เป็นโทษต่อตนเองต่อผู้อื่น แต่เป็นไปเพื่อความทุกข์ตลอดกาลนาน…แล้วเราจะควบคุมความคิด ควบคุมจิตได้อย่างไร
“ต้องฝีกจิต” วิธีการนั้นต้องรู้จักแยกแยะ เริ่มจากการตั้งสติ “สติเป็นอธิบดี” แยกแยะ สังเกตอาการในจิต “ถ้าเรารู้ว่าเรามีปัญหาอะไร เราแก้ได้ แต่ถ้าไม่รู้ว่าเรามีปัญหาอะไร มันแก้ไม่ได้” แก้ตามกระบวนการ “ศีล สมาธิ ปัญญา” ฝึกสมถะวิปัสสนา ฟังธรรมอยู่เรื่อยๆ น้อมจิตมาในทางกุศล ฝึกซ้ำฝึกย้ำ จิตใจจะมีความก้าวหน้า พัฒนาเป็นอินทรีย์ที่สะสมเอาไว้ มีกัลยาณมิตร ชวนกันฟังเทศน์ฟังธรรม ฝึกปฏิบัติ ปิดทางที่จะสู่อบายภูมิ ทางที่จะให้เกิดทุกข์โทษ แล้วให้เปิดทางของจิตที่จะไปสู่ความสุขความประเสริฐ “ทำได้ทุกคน ทำได้ในขณะนี้ ตลอดปีนี้และตลอดปีต่อๆ ไป สะสมความดี” อาสวะที่เป็นไปในทางฝ่ายทุกข์โทษ จะหลุดลอกออกไป จิตใจของเราปรับได้แก้ไขได้แน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 15 Jan 2023 - 59min - 220 - ชีวิตที่คุ้มค่า [6602-1u]
ลักษณะคำถามที่ว่า เกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทำไม? หรือ What is the meaning in life? เหล่านี้เป็นคำถามประเภทเดียวกัน ซึ่งเป็นคำถามที่ยังไม่ตรง 100% แต่ที่ควรจะเป็นคำถามในที่นี้ก็คือว่า ความหมายอะไรที่เราจะให้ในชีวิต หรือ คุณเกิดมาคุณจะทำอะไร? เพราะลักษณะคำถามแบบนี้มันขึ้นอยู่กับว่าใครจะให้ความหมายอย่างไรกับชีวิตที่มี ซึ่งก็อยู่กับผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น
แล้วอะไรคือประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น? ถ้าไปถามนักธุรกิจ นักเที่ยว นักเล่น นักดื่ม เขาก็จะพูดถึงผลประโยชน์ในลักษณะที่เป็นเรื่องของกาม เป็นเรื่องของความสุข เรื่องของอำนาจ เรื่องของเงินทอง แต่ถ้าไปถามผู้รู้ ท่านก็จะอธิบายถึงประโยชน์ในชาตินี้ ประโยชน์ในโลกหน้า ประโยชน์ตนเอง ประโยชน์ผู้อื่น และก็ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย พระพุทธเจ้าจึงตรัสไว้ถึงทางที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ ที่จะไม่ใช่เป็นไปเพื่อสุดโต่งสองข้าง
ถ้าเราต้องการมีปัญญา จึงควรเข้าไปหาสมณะผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ถามถึงว่า“อะไรจะเป็นประโยชน์เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน อะไรทำแล้วจะเป็นทุกข์เป็นโทษตลอดกาลนาน” อะไรที่มันจะไม่มีประโยชน์เราก็อย่าทำ อะไรที่จะมีประโยชน์มากเราก็ทำ
สิ่งที่มีประโยชน์มากมีโทษน้อย ก็คือ อริยมรรคมีองค์ 8 (ทางแห่งศีล สมาธิ ปัญญา) ในทางตรงข้ามสิ่งที่มีโทษมากมีประโยชน์น้อย ก็จะไม่ไปตามทางนี้ เช่น ถ้าทำอะไรที่มันจะผิดศีลหรือออกทางอันประเสริฐนี้ แล้วคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์เป็นสุข อันนั้นจะเป็นทางหลอกลวง จะเป็นสุดโต่งพาไปตัน พาไปอ้อม พาไปวน
เพราะฉะนั้น ให้เรามาตรวจสอบดูตัวเองว่า ชีวิตของเราที่เกิดมาจนถึงตอนนี้ มันมีสัดส่วนที่ตรงกันกับเกณฑ์ของทางอันประเสริฐที่มีองค์ประกอบ 8 อย่างนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งถ้ามีมาก จึงขึ้นชื่อว่าเกิดมาแล้วคุ้มค่า ได้ประโยชน์ได้กำไร ไม่เสียชาติเกิด.
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 08 Jan 2023 - 52min - 219 - ทางสู่ความสำเร็จ [6601-1u]
“ใครจะสำเร็จอะไรอย่างไร ถ้าจะเพียงได้ด้วยความปรารถนาแล้วโลกนี้จะไม่มีใครเสื่อมจากอะไร ทุกคนก็จะสำเร็จหมด”...ให้เราลองทบทวนเป้าหมายในปีที่ผ่านมา สิ่งที่เราหวังไว้อยากไว้อ้อนวอนไว้ปรารถนาไว้มันสำเร็จทุกข้อหรือไม่? สิ่งที่เราคิดไว้หวังไว้ปรารถนาไว้ว่าจะทำนั่นทำนี่ให้สำเร็จจะทำอันนั้นอันนี้ให้ได้ นั่นคือแผนที่ แล้วเราจะไปซ้ายหรือขวา แล้วความปรารถนาอะไรที่จะทำให้สำเร็จ ๆ นี้ มันจะไปถูกที่ถูกทางหรือไม่? พระพุทธเจ้าคือผู้ที่สำเร็จแล้ว สำเร็จความปรารถนาสูงสุดในความที่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณ ท่านตรัสเปรียบไว้กับคนบอกทาง ที่เมื่อเราไปถามทางเขา เขาก็บอกเส้นทางเรามา คนบอกและคนถาม (ผู้เดินทาง) มันคนละส่วนกัน
ทางสู่ความสำเร็จมันมีอยู่ ทางที่จะสำเร็จประโยชน์ที่เราคาดหวังไว้ มันมีทั้งประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายประโยชน์ในโลกนี้ ประโยชน์ในโลกหน้า ประโยชน์เพื่อบุคคลเราเอง ประโยชน์เพื่อครอบครัว ทางที่จะไปสู่ความสำเร็จเหล่านี้ ไม่มีผิดพลาด จะไม่เป็นไปเพื่อความเสื่อมประโยชน์ จะไม่เป็นไปเพื่อความมีทุกข์โทษ แต่จะเป็นไปเพื่อความสุขความสำเร็จ ทางนี้คืออริยมรรคมีองค์แปด คือ ศีล สมาธิ ปัญญานั่นเอง โดยแบ่งเค้าโครงออกเป็น การละความชั่วก็คือเรื่องของศีล การทำความดีก็คือเรื่องของทางจิตเรื่องของทางสมาธิ และการทำจิตให้บริสุทธิ์เป็นเรื่องของทางปัญญา เพราะการกำหนดเค้าโครงก็คือกำหนดเส้นทาง
ในทางกายทางวาจา เป็นฐานที่มั่นคงด้วยรักษาศีลคือข้อปฏิบัติ ในทางใจ ความคิดนึกของเราจะสำเร็จหรือไม่ จิตเราต้องมีกำลัง ทำอย่างไรจิตถึงจะมีกำลังใจได้?...ถ้ามีอกุศลธรรมอยู่ในปัจจุบันต้องละ มีกุศลธรรมอยู่ในปัจจุบันต้องเพิ่ม คิดแบบนี้เป็นลักษณะของสัมมาวายามะ (ความเพียรชอบ) เป็นหนึ่งในส่วนของการทำดี ซึ่งจะให้จิตของเรามีกำลัง ฉะนั้นอยู่กับปัจจุบัน คิดเรื่องอดีต อนาคตด้วยเหตุผลเป็นการพัฒนาปรับปรุงตัวเอง ซึ่งเป็นส่วนตรงกลางที่ต้องทำให้มาก และในส่วนปลายยอดนั่นคือปัญญาที่ใช้ตัดกิเลส ทำจิตให้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้นเราต้องมีพื้นฐานที่มั่นคงด้วยศีล มีกำลังคือกำลังใจสูงด้วยสมาธิ และมีปัญญาที่คมดั่งมีด เปรียบเหมือนคนเก็บผลไม้ในที่สูง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 01 Jan 2023 - 58min - 218 - การอนุโมทนาและเหตุแห่งโภคทรัพย์ [6552-1u]
เมื่อเราทำบุญ ถ้าเป็นการให้ทาน เรียกว่า ทานมัย การรักษาศีลเรียกว่า ศีลมัย การภาวนาเรียกว่า ภาวนามัย นั่นคือ เราได้บุญต่อแรกแล้ว และถ้าเราบอกบุญคนอื่น เราจะได้บุญต่อที่สอง เรียกว่า “ปัตติทานมัย” และเมื่อเขาอนุโมทนาบุญกับเรา คือเขาแสดงความยินดีกับบุญของเรา เขาจะได้บุญจากการอนุโมทนา เรียกว่า ปัตตานุโมทนามัย
การ “อนุโมทนา” เป็นการกระทำทางใจ บุญเกิดขึ้นที่ใจ การที่มีใจยินดีกับผู้อื่นด้วยใจจริง จะสามารถแก้ความอิจฉาริษยาได้ และผู้ที่มักจะมีโชคหรือมีกำไรจากทำอะไรก็แล้วแต่ เป็นเพราะเขาได้มีการให้ทาน แต่แทนที่เราจะหวังว่าจะถูกหวย 50 ล้าน 70 ล้าน ให้มาหวังว่า ทำธุรกิจแล้วรวยเป็นร้อยล้าน ยังจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าอีก เพราะบุญที่เราเคยทำไว้ เมื่อมันมีช่องทางให้บุญออกผล คือ การค้าขาย การทำงานด้วยความขยันขันแข็ง สุจริต มีปัญญา จะเป็นเหตุปัจจัยที่ทำให้เรามีโภคทรัพย์ขึ้นมาได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 25 Dec 2022 - 51min - 217 - เติมพลังความดี [6550-1u ]
เพราะเป็นภัยของวัฎสงสาร จึงมีผัสสะมีการกระทบกระทั่งกับคนอื่นๆ เป็นธรรมดา ซึ่งพระพุทธศาสนาสอนว่า “ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไร” “ทุกอย่างเป็นอนัตตา” “ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา” และความเข้าใจที่ถูกในเรื่องของกรรม คือ “ทำกรรมไม่ว่าจะดีหรือชั่วอย่างไร จะได้รับ ‘ผล’ ของกรรมนั้น” ไม่ใช่! จะได้กรรมนั้น
ฉะนั้น ถ้าเรามีความทุกข์อยู่ แล้วมัวแต่ไปหาว่าคนนั้นคนนี้เขาอย่างนั้นอย่างนี้ หาว่าทำไมเขาพูดแบบนี้ทำแบบนี้ มันหาไม่จบ แต่ให้มีสติตั้งไว้ “จิตอยู่ที่ไหน สติต้องอยู่ที่นั่น” แล้วใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริงว่า “จิตเป็นนามธาตุ สั่งสม เกิดดับเป็นกระแสเหมือนกระแสน้ำกระแสไฟฟ้า ตัวตนของมันไม่มี” แล้วที่เราทุกข์อยู่นี่ ก็เป็นเพราะไปยึดถือเป็นตัวตนเป็นตัวเรา แต่ถ้าไม่ได้เป็นตัวเรา ไม่ได้เป็นตัวตน เป็นอนัตตา ความทุกข์มันจะเกาะอยู่ไม่ได้ ก็ตัดความรักความพอใจความไม่พอใจนั้นเสีย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 11 Dec 2022 - 54min - 216 - แผ่เมตตาด้วยพรหมวิหาร 4 [6549-1u]
ถ้ายังมีความคิดว่า "เขาทำเราอยู่ เขาว่าเราอยู่ เขาเอาของ ๆ เราไปอยู่ ยังคิดว่าเขาทำไม่ดีให้เราอยู่ คิดอยู่เรื่อย ๆ มันไม่มีทางที่จะคลายความไม่พอใจในเพื่อนบ้านนั้นได้เลย"
“โรคในจิตของเรา” คือ ศัตรูที่แท้จริงเป็นกิเลสที่อยู่ในใจ ทำให้เราขัดเคืองบ้าง บีบคั้นให้ลุ่มหลงบ้าง ทำให้ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่วิธีที่ดีที่สุดในการรบ คือ "เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร" อันดับแรกเราต้องรักษาศีลให้ดี แล้วระงับความคิดในใจด้วยเมตตา กรุณา อุเบกขา
เอากิเลสในใจออกไป เปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนด้วยพรหมวิหารสี่ ด้วยสติ ด้วยปัญญา รักษาจิตใจของเราแบบนี้ ก็ชื่อว่ารักษาผู้อื่นด้วยรักด้วยความรักความเมตตา ด้วยความไม่เบียดเบียน ด้วยเมตตาจิต ก็ชื่อว่ารักษาตัวเราเอง ด้วยการประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยการทำให้มันสมควรแก่ธรรมะ ก็ชื่อว่ารักษาผู้อื่นด้วยเหมือนกัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 04 Dec 2022 - 58min - 215 - บุญเพื่อสุข สุคติ [6548-1u]
ด้วยการกระทำทางกายวาจาใจ กับหลักการ 3 อย่าง คือ 1) เหตุคือกรรมหรือการกระทำ ผลคือวิบาก 2) ความหนักเบาของผลที่เปรียบไว้เหมือนรอยกรีดบนหิน บนทราย บนน้ำ 3) การให้ผลที่มากหรือน้อย เปรียบเหมือนความเค็มจากเกลือที่ผสมในน้ำ
ด้วยความเข้าใจ 3 อย่างนี้ให้มั่นใจได้ว่า ถ้าเราสร้างเหตุไว้จะได้ผลแน่นอน ซึ่งกรรมที่หนักๆ ได้ผลยาวๆ และเตรียมการน้อย นั่นคือ การรักษาศีล การเจริญภาวนา สองอย่างนี้ เราจะมั่นใจได้ว่า เราจะไปสู่สุคติ ณ ปัจจุบัน ด้วยจิตที่สงบจากการภาวนาเป็นกรรมหนัก เพราะเห็นผลทันที มีสติไม่ว่าจากการดูลมหายใจ การนึกพุทโธ การฟังธรรม มีปัญญาเข้าใจความธรรมดาของชีวิต หาความสุขในภายในได้ นั่นจะเป็นวิหารธรรม เป็นที่อยู่ในจิตใจของเรา อยู่ที่ไหนก็เป็นสุข เป็นสุขได้ในปัจจุบัน ภายภาคหน้าไปสวรรค์ ทำทางไปสู่นิพพานได้แน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 27 Nov 2022 - 53min - 214 - วางแผนชีวิตสู่ความสำเร็จ [6547-1u]
สำหรับคนที่เริ่มทำงานเหมือนเด็กหญิง Alice ที่ก้าวไปในแดนมหัศจรรย์ “Alice in Wonderland” เมื่อถึงทางแยก“ถ้าไม่รู้ว่าเราควรไปทางไหน ไม่มีแผนไม่มีเป้าหมาย” นั่นจะเป็นปัญหา “รู้ว่าไม่รู้อะไร กับไม่รู้ว่าไม่รู้อะไร” เป็น 2 ระดับ ไม่มีแผนการดำเนินชีวิต ไม่ลงมือทำ เอาแต่คิดอย่างเดียว มันพัฒนาไม่ได้ และเราก็จะตกไปอยู่ในแผนการดำเนินชีวิตของคนอื่น
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ “ลงมือทำ” ทำจริงแน่วแน่จริง คือ “ทำเต็มที่” แล้วมันจะเกิดความรู้ว่า สิ่งนั้นๆ มันใช่หรือไม่ใช่สำหรับเรา และเราชอบหรือไม่ชอบที่ไม่ได้เป็นไปตามความอยาก ซึ่งถ้าเราไม่รู้ว่า ทางนี้จะดีสำหรับเราไหม ก็ให้ข้อคำแนะนำจากผู้รู้ผู้ที่ประสบความสำเร็จมาก่อน “ลงมือทำ ทำเต็มที่” มีอินทรีย์ 5 อิทธิบาท 4 จะเป็นทางที่เร็วที่สุดที่จะทำให้เรามีความแจ่มแจ้งในเป้าหมาย ไปถึงจุดหมายของเราได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 20 Nov 2022 - 59min - 211 - ดีชั่วอยู่ที่ตน [6546-1u]
ปรากฎการณ์พยับแดด “เหมือนจะใช่ แต่จริงๆ หาสาระไม่เจอ หาแก่นสารไม่ได้” เรื่องความเชื่อต่างๆ เราต้องพิจารณาใคร่ครวญให้ดี เปรียบเทียบในคำสอน อันไหนลงกันไม่ได้เข้ากันไม่ได้ ก็ทิ้งไป อันไหนลงกันได้เข้ากันได้ ก็รับมาทำ
“ความดีหรือความชั่วของเรา จะมีหรือจะไม่มี ดวงดาวไม่ได้จะทำอะไรได้ แต่จะดีหรือจะชั่ว อยู่ที่การกระทำของเรา”“บุญจากการให้ต้องประกอบด้วยเจตนา บุญเกิดตั้งแต่ตอนที่ตั้งเจตนา เมื่อให้ไปแล้วก็ได้บุญต่อเนื่อง” ให้มีกำลังใจ ‘โสตาปัตติยังคะ 4’ คือ ศรัทธาในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ศรัทธาในสิ่งที่ดีปฏิบัติได้จริงของพระธรรม ศรัทธาในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพระสงฆ์ และศรัทธา คือ มั่นใจในศีลของเรา มี “สัมมา คือ ความดี” ในครอบครัว ไล่ไปตั้งแต่สัมมาทิฏฐิจนถึงสัมมาสมาธิ คือ อริยมรรคมีองค์ 8รักษาธรรมะในครอบครัวให้ดี เราจะเป็น Smart Family ครอบครัวคุณภาพ มีเมตตากรุณา และปัญญา ไม่ใช้อาชญา ไม่ใช้ศาสตราในการที่ครูจะสอนลูกศิษย์ให้ประพฤติตามเป็นคนดี สังคมไทยก็จะมีความมั่นคง ประเทศไทยเจริญรุ่งเรืองไปได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 13 Nov 2022 - 57min - 210 - รับพรเดือนเบลอ ๆ [6545-1u]
เราต้องมีระบบ ระเบียบ วินัย ที่สามารถจะลงมือทำ ในสิ่งที่ต้องทำ ในเวลาที่ต้องทำ ไม่ว่าจะอยากทำหรือไม่อยากทำก็ตาม ซึ่งบางคนมักจะให้ความสำคัญกับงานหรือสิ่งต่างๆ ที่ควรจะต้องทำไม่ถูก แล้วมาเร่งลงมือทำในช่วง 4 เดือนท้ายของปี (Ber Months) เพราะใกล้ถึงกำหนด (Deadline)
ด้วย ‘อิทธิบาท 4’ มีการงานหรือสิ่งต่างๆ เป็นธรรมเครื่องปรุงแต่ง อาศัยสมาธิจดจ่อเชื่อมกับ ‘ฉันทะ’ จะทำให้ “งานเริ่มได้” เชื่อมกับ ‘วิริยะ’ จะทำให้ “งานเสร็จได้” และในระหว่างเชื่อมกับ ‘จิตตะ’จะทำให้ “งานต่อเนื่องได้” เชื่อมกับ‘วิมังสา’ จะทำให้ “พัฒนางานให้ถูกวิธีถูกเวลาได้” ทำด้วยความเข้าใจที่ถูก ทำตามระบบทำตามวินัย ตั้งใจทำให้ดีตามระบบระเบียบ สิ่งที่เราตั้งเอาไว้นั้น จะมีความสำเร็จเกิดปาฏิหาริย์เป็น Miracle Month ขึ้นมาได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 06 Nov 2022 - 1h 00min - 209 - เติมไฟในการทำงาน [6544-1u]
เจริญในทางโลก หมายถึง ชีวิตครอบครัว การงาน การเงิน สิ่งแวดล้อม เพื่อนฝูง ที่เป็นปัจจุบัน จะดีได้ เราต้องมีธรรมะที่บางคนเรียกว่า “คาถาเศรษฐี/หัวใจเศรษฐี - อุ อา กะ สะ” คือ อุฏฐานสัมปทา อารักขสัมปทา กัลยาณมิตตตา และสมชีวิตา ซึ่งการงานจะสำเร็จ ไม่คั่งค้าง ไม่หมดไฟ เมื่อมีการเจริญอิทธิบาท 4 ด้วยการที่เอาการงานนั้นๆ เป็นธรรมเครื่องปรุงแต่ง แล้วมี “ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา” แต่ละข้อๆ เป็นประธานกิจ โดยอาศัยสมาธิ การงานนั้นจะสำเร็จได้
ส่วนเจริญในทางธรรม ให้มีธรรม 4 อย่าง “ศีล ศรัทธา จาคะ ปัญญา” ที่เมื่อเรารักษาจิตให้อยู่ในทางธรรมแล้ว พอแก่ตัวไป อินทรีย์มีความแก่กล้ามากขึ้นๆ ในเวลาต่อมาๆ ถ้าตายไปแล้ว มีธรรมะ ก็จะไม่ตกต่ำ มีที่ไปที่สูงที่ดีได้ และการสวดมนต์ ถ้าเรารู้ความหมายของบทสวดก็จะดีกว่า แต่ที่สำคัญ คือ จิตใจต้องสงบเย็นเป็นสมาธิจากการสวดนั้นด้วย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 30 Oct 2022 - 52min - 208 - ฝึกสติ..สร้างปัญญา เพื่อพลังจิต [6543-1u]
“คนคิดมากคิดน้อยไม่เป็นไร แต่คิดแล้วๆ จะสามารถให้เกิดประโยชน์ ป้องกันโทษที่จะเกิดได้ไหม และจะหาประโยชน์จากความคิดของเราได้หรือไม่” แล้วอะไรคือความคิด ด้วยสภาวะของความเป็นมนุษย์ ระบบสมองจึงมีความซับซ้อน ทำให้คิดอะไรได้ซับซ้อน ซึ่งสมองไม่ใช่จิต สมองเป็นแค่เครื่องมือสำหรับการคิด
‘จิต’ มีสภาวะของการสั่งสม แล้วอะไรที่ทำให้เราแยกแยะได้ว่า “อันนี้ควรคิด อันนี้ไม่ควรคิด อารมณ์อะไรที่เราควรเสพ หรือไม่ควรเสพ” นั่นคือ สติ และปัญญา ซึ่งถ้าไม่มีสติ ปัญญา สะสมไว้ จิตของเรา ก็จะไปตามอารมณ์เหมือนสัตว์ป่าที่ฝึกไม่ได้ จะมีสติมีปัญญาได้ ต้องอาศัยสมาธิ มีศีลเป็นพื้นฐาน ประกอบกับความเพียรแล้ว “จิตเราทุกคนที่เกิดเป็นมนุษย์ ฝึกได้แน่นอน”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 23 Oct 2022 - 1h 03min - 207 - สร้างเหตุดี ๆ ด้วยอิทธิบาท 4 [6542-1u]
สิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติ ‘เกิด’ คือ อุบัติ ‘ดับ’ คือ นิโรธ เมื่อมีการเกิดอุบัติขึ้น การเกิดก็ดับไป เป็น “ชาติหรือชา-ติ” ถ้าตายคือมรณะ แล้วคิดว่าตายซะ ปัญหาจะจบๆ ไป มันไม่ใช่ แต่ความตายเป็นส่วนหนึ่งของความทุกข์ต่างหาก “การทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป ทำให้ปราณหรือชีวิตหายไป ล่วงไป อันนี้เป็นการผิดศีล ยิ่งทำให้ความทุกข์เพิ่มขึ้น” แต่จะดับการตาย ต้องดับที่การเกิด ด้วยการปฏิบัติตามระบบของมรรค 8
ถ้ามีการเจริญอิทธิบาทสี่ จะทำให้อายุสังขารของเรา ในที่นี้หมายถึงแขนขา และระบบสมอง อยู่ได้เต็มขีดจำกัดของเขา และถ้าเรา “เกษียณ” หมายถึง มีโอกาสว่าง นอกจากจะทำกิจกรรมสันทนาการต่างๆ แล้ว ให้ทำที่พึ่งของเราต่อไปและต่อๆ ไป คือ บุญกุศล ให้มาพัฒนาตรงนี้ “ฝึกสมาธิ ฟังธรรม” บุญเกิดได้หลายอย่าง และจิตไม่ได้จะมีหญิง หรือชาย เป็นเด็กเป็นผู้ใหญ่ มีสิทธิเท่าเทียมกัน ตรัสรู้ธรรมได้ ทำได้เหมือนกัน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 16 Oct 2022 - 55min - 206 - สถาบันครอบครัว [6541-1u]
สถาบันครอบครัวเป็นสถาบันที่มีความสำคัญ เป็นพื้นฐานของทุกสิ่งทุกอย่าง ‘ครอบครัว’ คือ เรื่องของคนที่อยู่ในวงในที่ใกล้ชิดกับตัวเรามากที่สุด วงนี้จึงมีความสำคัญ แล้วถ้าในวงนี้มีเงื่อนไขที่ไม่ลงตัว ปรับตัวแปรไม่ดี มันจะกลายเป็นเงื่อนเป็นปมที่ถ้ามันแน่นเข้าๆ คลี่คลายไม่ออก มันจึงทุกข์ได้
‘มารดาบิดา’ สองบุคคลที่หาได้ยากในโลก ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เราต้องเลี้ยงท่านตอบ ต่อให้ท่านไม่อยู่หรือไม่ได้เลี้ยงดู เราก็ต้องทำบุญอุทิศให้ เพราะความกตัญญูกตเวทีจะเกิดขึ้นในจิตใจเราทันที และต้องไล่ลำดับความสำคัญให้ถูก พ่อแม่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก รองมาคือพี่น้อง ลูก และสุดท้ายจึงเป็นคู่ครอง “ถ้าปมอยู่ตรงไหน แก้ตรงนั้น แต่ถ้าแก้ไม่ถูก มันจะกลายเป็นเสี้ยนหนามได้ แต่ถ้าแก้ถูกแล้ว ตรงนั้นจะเกิดเป็นมงคลในชีวิตขึ้นมาได้”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 09 Oct 2022 - 1h 00min - 205 - บริหารความเสี่ยง ‘ชีวิต’ โดยแยบคาย [6540-1u]
การลงทุนมีความเสี่ยง จะป้องกันการถูกหลอกได้ด้วย ‘โยนิโสมนสิการ’ การใคร่ครวญโดยแยบคาย อย่าเพิ่งเชื่อแต่ให้ตรวจสอบกับกิเลสในใจตัวเองว่าเป็นความอยากความโลภหรือไม่ และให้มีการบริหารความเสี่ยง แบ่งจ่ายทรัพย์ 4 ส่วน เลี้ยงตน/ลงทุน/บริจาค/สร้างบุญสร้างกุศล ให้ถูกต้อง…จริงๆ ทุกอย่างในชีวิตมีความเสี่ยงทั้งการทำงาน การเดินทาง การพูดคุย ซึ่งเราต้องมีสติสัมปชัญญะอย่างมาก ที่สามารถฝึกได้เตรียมตัวไว้ก่อนได้
‘บุญ’ ไม่ใช่มีแค่จากการให้ทาน แต่ยังมีบุญที่เกิดจากการรักษาศีล นั่งสมาธิ เจริญภาวนา ฟังธรรมหรือบุญจากการอนุโมทนา ฯ ซึ่งถ้าเรามีเงินน้อย แต่ถ้าแบ่งให้แบ่งใช้ให้ถูกใน 4 หน้าที่ มีการทำบุญ เราไม่ใช่คนจนแต่เป็นร่ำรวยต่างหาก เพราะมีอริยทรัพย์ ไม่ใช่จิตที่ตระหนี่ ดังนั้นเกิดเป็นคนแล้วให้เราทำกิจที่ควรทำให้เต็มที่ในทิศทั้ง 6 เพื่อที่เราจะไม่ร้อนใจในภายหลัง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 02 Oct 2022 - 56min - 204 - อยู่อย่างไรให้สมองไม่แก่ [6539-1u]
ถ้าร่างกายเราแก่ไปๆ จิตใจที่เชื่อมอยู่กับกาย มีสมอง มีแขนขา เราจะรักษาสมองอย่างไรให้มันแก่ไปตามร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ด้วยตัวแปรที่เป็นทวาร 3 อย่าง คือ กาย วาจา ใจ
ปรุงแต่งทางกาย: ด้วยการนอนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย กินพออิ่ม มีการจัดระเบียบในชีวิต
ปรุงแต่งทางวาจา: ด้วยการฝึกอ่านออกเสียง พูดตามภาพที่คิด ฝึกตั้งคำถาม ฝึกฟังคนอื่นพูด ฝึกชมคนอื่น
ปรุงแต่งทางใจ: ด้วยการเขียนปรับความคิด ฝึกคิดวางแผน คิดเรื่องสร้างสรรค์ เป็นประโยชน์ ฝึกสมาธิ และฟังเทศน์บ้าง
“ฝึกสมองให้คม” สมองควบคุมร่างกาย แต่จิตควบคุมสมองอีกที ดังนั้นถ้าฝึกสังเกตโดยไม่ส่งจิตออกนอก แต่รักษาจิตด้วยสมาธิ คอยสังเกตดู จะช่วยพัฒนาสมองได้ เมื่อสมองยังดี จิตใจที่ดีมีกุศลธรรม ด้วยบุญกุศลที่เราสะสมไว้ กายและใจเราจะให้เกิดเป็นผลดีได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 25 Sep 2022 - 1h 01min - 203 - พัฒนาตนตามทาง [6538-1u]
“เวลาฟังข่าวแล้วหรืออ่านตำราหนังสืออะไร ต้องดูว่าเขาสื่อถึงอะไร แล้วเราจะไม่หลุดประเด็น เราก็จะทำความดีได้” ในทีนี้ได้พูดคุยเรื่องข่าวอยู่หลายประเด็น ซึ่งการสำรวจหรือการศึกษามันไปได้ไม่มีที่สุดจบ แต่ถ้าจะจบได้ ต้องศึกษาต้องสำรวจมาในภายใน คือ รู้กายรู้ใจของเรา และการที่จะรู้ได้นั้น ต้องเดินตามทาง ‘เส้นทาง’ ที่มีองค์ประกอบอันประเสริฐ 8 อย่าง
นอกจากนั้น “การตั้งจิตไว้ถูก” องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่าง คือ ‘เป้าหมาย’ ในชีวิตที่เราต้องรู้และต้องมีอิทธิบาท 4 เมื่อมีอิทธิบาท 4 และมาตามทางที่ถูกต้องแล้ว สามารถที่จะบรรลุผล 3 ขั้นตอนทั้งผลเฉพาะหน้า ผลในระยะกลาง และผลที่สุด ได้ประโยชน์ทั้งในปัจจุบัน ในเวลาต่อไปและต่อๆ ไปได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 18 Sep 2022 - 57min - 202 - ผาสุกแม้เผชิญภัย 5 อย่าง [6537-1u]
เมื่อเจอสิ่งที่ไม่น่าพอใจ พลัดพรากจากสิ่งที่พอใจนั้น เราจะต้องทำอะไรที่ไม่สุดโต่งไปทั้งสองทาง แต่ได้ประโยชน์ทั้งตนเอง ทั้งผู้อื่น และทั้งสองฝ่าย นั่นคือ ไปตามทางสายกลาง ‘มัชฌิมาปฏิปทา’ มีการพิจารณาใคร่ครวญ เพื่อให้เกิดปัญญา เพราะปัญญา คือ สัมมาทิฏฐินั้นจะเป็นองค์นำหน้าของมรรคแปด
ในที่นี้ใช้ 3 นัยยะ คือ 1. ฐานะที่เป็นธรรมดาที่ใครๆ ในโลกไม่พึงได้ คือ ขออย่าให้แก่ เจ็บไข้ ตาย สิ้นไป และฉิบหายไป 2. อนมตัคคปริยาย คือ น้ำตาไม่มีที่สิ้นสุดที่มาจากการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักตลอดกาลยืดยาวนานของสังสารวัฏ และ 3. กล้าที่จะเผชิญหน้าความจริงว่า “มันก็เป็นแบบนี้แหละ” ในเมื่อธรรมชาติเป็นแบบนี้ แล้วจะไปยึดถือเพื่ออะไร ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่เป็นการงานต้องทำ ก็ทำไป ปัญญามันเกิดตรงนี้
พิจารณาอยู่เนืองๆ ทำอยู่เป็นประจำ จะทำให้สติมีกำลังเพิ่มขึ้นๆ เราจะมีอาวุธคือปัญญา ที่เราจะอยู่ผาสุกได้ แม้เจอผัสสะที่ไม่น่าพอใจ แม้ในการที่จะพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รักที่น่าพอใจได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 11 Sep 2022 - 59min - 201 - มงคลธรรม [6536-1u]
“ให้ตั้งอยู่ในความดี ห้ามเสียจากบาป” นี่คือ 2 ใน 5 หน้าที่ของมารดาบิดา และครูอาจารย์บางท่านที่ก็ทำหน้าที่แทนพ่อแม่ให้ด้วย แต่ถ้าจะห้ามด้วยการทำบาปเหมือนกัน มันจะไม่ได้ “ทำชั่วก่อน เพื่อจะชักชวนให้คนอื่นเขาทำดี” แต่ “ต้องใช้ดี ในการห้ามความชั่ว” “ใช้เมตตาใช้อุเบกขา ไม่ใช่ใช้อาญชา ใช้ศาสตรา” นี่คือ หลักการในทางคำสอน
ให้เรามี “ที่พึ่งที่เกษม” คือ พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ “พึ่งตนพึ่งธรรม” พึ่งตน คือ ให้มีสติ พึ่งธรรมะ คือ ให้มีมรรคแปด ให้มีการตั้งตนไว้ถูกตั้งตนไว้ชอบ นั่นคือ ตั้งจิตนั่นเอง ต้องมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งกระบวนการตรงนี้ คือ ปฏิบัติตามศีล สมาธิ ปัญญา เมื่อตั้งสติ ตั้งด้วยมรรคแปดแล้ว ไปตามทางนี้ ตั้งตนไว้ถูก จะมีความเกษม คือ นิพพานนั่นเอง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 04 Sep 2022 - 58min - 200 - เป็นบ้า แก้ได้ [6535-1u]
คนเราถ้ายังมีกิเลสอยู่ มันเหมือนเป็นบ้า ถ้าคุณตามราคะโทสะโมหะนั้นไป อยู่ที่บ้ามากหรือบ้าน้อย อยากได้สิ่งใดบางทีไม่เป็นตัวเอง หรือโกรธไปตามเสียงที่เขาด่าว่า เราจะประสาท เราจะมีปัญหาทันที
ในที่นี้ยกตัวอย่างคนที่ได้ยิน หรือเห็นภาพที่คนอื่นไม่ได้สัมผัสแบบเดียวกัน ดังนั้นต้องเริ่มจากการแยกแยะว่า เป็นความคิดที่เกิดจากการปรุงแต่งของจิต เราคิดขึ้นเอง หรือเกิดจากสิ่งภายนอก หรือเป็นญาณทัสสนะจริงๆ
เครื่องมือที่จะช่วย คือ ‘ศีล’ ที่จะรักษากาย วาจา และ ‘สติ’ รักษาใจ ทำจิตให้ละเอียดลงไป..3 ช่องทางนี้ และจิต 4 ทิศทาง 4 ตัวแปร ที่สามารถปรับไปมา พอปรับตัวแปรถูก มาตามทางที่มีองค์ประกอบอันประเสริฐแปดอย่าง เราจะลดความเป็นบ้าความเพี้ยนในจิตใจของเรา รักษาได้แก้ไขได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 28 Aug 2022 - 1h 04min - 199 - บุญ ‘ทาน ศีล ภาวนา’ [6534-1u]
“บุญเป็นชื่อของความสุข” แยกได้เป็น ‘ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา’ หรือแบ่งเป็นทางกาย วาจา ใจ
‘ทาน’ มากหรือน้อยไม่ได้วัดที่ตัวเงิน แต่ปริมาณบุญที่ได้อยู่ที่ศรัทธาของผู้ให้ และราคะ โทสะ โมหะของผู้รับ
“ศีลเป็นไปเพื่อความไม่ร้อนใจ เป็นไปเพื่อโภคทรัพย์” ที่ไม่ใช่การอ้อนวอนขอร้อง แต่สร้างเหตุปัจจัยที่ถูกต้อง และถ้าทำผิดไปแล้ว “เห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วกระทำคืนตามธรรม” นี่คือ บัณฑิตเป็นคนฉลาด
‘ภาวนา’ มาจากศัพท์คำว่า ภาวิตา คือ พัฒนา จากที่มีน้อยทำให้มีมากขึ้น จากที่ยังไม่ค่อยดี ทำให้ค่อยๆ ดีขึ้น “ทำสิ่งที่เป็นกุศล ละสิ่งที่เป็นอกุศล” และการปฏิบัติธรรมแตกต่างกับ ‘การหลีกเร้น’ ที่ทำให้สติของเรามีกำลังขึ้นมาได้ พอสติมีกำลัง จิตจะเป็นสมาธิ จิตที่มีสมาธิจะมีปัญญาในการกำจัดรากถอนโคนอวิชชาได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 21 Aug 2022 - 55min - 198 - รักษาชีวิตคู่ [6533-1u]
‘สามีภรรยา’ ถ้าจะอยู่ด้วยเมถุนธรรมอย่างเดียว มันไม่รอดหรอก แต่จะอยู่ร่วมกันให้ยืดยาวให้อยู่อย่างผาสุกได้ ต้องอยู่แบบเพื่อนกัน ด้วยธรรมะอะไรที่จะต้องมี “ชีวิตเมื่อมีความทุกข์ ต้องแสวงหาทางออกจากทุกข์ ถ้าไม่ใช่ธรรมะทางออกนั้นไม่เกษมไม่ยั่งยืน เวลาเสียเปล่า”
ในที่นี้ยกตัวอย่างเรื่องในสมัยพุทธกาล และชีวิตคู่ที่มีคนที่สาม ต่อมาเมื่อเขาปรับพฤติกรรมแล้ว เราต้องไม่เอามาเป็นของอ้างในการไม่ไว้ใจกัน ไม่อดทนกัน ถ้ามีความระแวงให้กัน มันอยู่ไม่เป็นสุข หรือเอาความชั่วความไม่ดีของเขา จึงจะทำชั่วบ้างไม่ดีบ้าง อ้างความดีที่จะให้เขากลับตัวเป็นคนดี ด้วยการด่า นั่นก็ไม่ดี ดังนั้นสามีภรรยาต้องรักษาหน้าที่ของกันและกัน ลองคิดดู ถ้าสามีหรือภรรยาประพฤติอะไรๆ ก็ตามที่เป็นที่พอใจของอีกฝ่าย ปัดโธ่!! เป็นสุขแน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 14 Aug 2022 - 1h 01min - 197 - อยู่กับทุกข์โดยไม่ทุกข์ [6532-1u]
ความทุกข์อันใดอันหนึ่ง 5 อย่าง “ที่เป็นธรรมดา” ไม่ว่าจะเป็นเทวดาเทพมารพรหมหรือสมณะองค์ไหนก็ตาม” ที่ขอว่า “อย่าแก่..อย่าเจ็บไข้..อย่าตาย..อย่าสิ้นไป..อย่าฉิบหาย”..เขาจะไม่ได้..
ความทุกข์เมื่อมีมา เมื่อมีความทุกข์ถูกต้องแล้ว รุมเร้าบีบรัด จะมีพฤติกรรมมีการกระทำอันเป็นผลจากความทุกข์อยู่ 2 ประการนี้เท่านั้น คือ ร่ำไห้คร่ำครวญ ทุบอกชกตัว ถึงความเป็นผู้งุนงงคลั่งเพ้อ หรือแสวงหาว่า “ที่พึ่งภายนอก ใครหนอจะรู้ทางออกของความทุกข์นี้ สักหนึ่งหรือสองวิธี”
“ที่พึ่งบางอย่าง ไม่ใช่ที่พึ่งอันเกษม” เพราะมันจะวนจะตันจะกลับที่เก่า “ไม่ได้แก้ปัญหานั้นได้อย่างยั่งยืน”
“ที่พึ่งอันเกษม คือ พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์” มี “ศีลสมาธิปัญญา” เป็นทางสายกลาง เป็นทางที่จะออกจากปัญหานี้
“ด้วยอะไรที่เราต้องมี ที่ถ้าเราจะต้องทุกข์อยู่อย่างนี้ เราจะอยู่ได้อย่างผาสุก” คำตอบนี้คือ “ต้องมีปัญญาที่จะมอง ปัญญาที่จะเห็น ปัญญาที่จะเข้าใจ ปัญญาที่จะพิจารณา อ๋อ! ทุกข์มันก็เป็นแบบนี้แหละ”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 07 Aug 2022 - 55min - 196 - ผาสุกแม้มีเงินเฟ้อเงินฝืด [6531-1u]
กลยุทธ์ที่จะรับมือกับวิกฤตการเงินที่ใครๆ ก็โดน! ได้ด้วย ‘สมชีวิตา’ ให้รายรับท่วมรายจ่าย แบ่งจ่ายทรัพย์ให้ถูกต้องเหมาะสมใน 4 หน้าที่ คือ ใช้จ่าย ใช้เก็บ ใช้ลงทุน และใช้สงเคราะห์ผู้อื่นสร้างบุญ “บุญเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ ถ้าจิตใจฝืดเคืองตระหนี่ จะมีอริยทรัพย์ไม่ได้” เราจะมีอริยทรัพย์ภายในได้ด้วยการทำหน้าที่อย่างนี้
คำถามในที่นี้ คือ จะอยู่อย่างไรที่ถ้าภัยอื่นๆ ในอนาคตที่พระพุทธเจ้าทรงเตือนไว้ โจรกำเริบ สงคราม ข้าวยากหมากแพง ความแก่ ความเจ็บ ความตาย “จะอยู่อย่างไรให้ผาสุก อะไรที่ต้องรู้ อะไรที่ต้องเห็น อะไรที่ต้องบรรลุ” ด้วยอริยทรัพย์ในจิตใจ “ศีล ศรัทธา ปัญญา จาคะ ฟังธรรม” จะหล่อเลี้ยงให้จิตใจไม่ให้แห้งผาก ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชุ่มเย็นร่าเริงในใจ “แม้ทรัพย์ข้างนอกฝืดเคือง แต่ทรัพย์ข้างในให้มี เราจะอยู่ผาสุกได้”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 31 Jul 2022 - 1h 00min - 195 - ไม่ใช่แค่กรรมลิขิต [6530-1u]
ไม่ใช่ทั้งหมดที่ความสุขสมหวัง ความผิดหวังในชีวิต จะเกิดจากผู้อื่นบันดาลเป็นพรหมลิขิตหรือกรรมเก่าอย่างเดียว แต่มีเหตุมีปัจจัย และไม่ใช่ว่าเหตุเดียวผลเดียว อาจเกิดจากการเตรียมตัวไม่สม่ำเสมอ หรือเหตุบังเอิญก็เป็นไปได้ และหากรู้สึกรักใคร่ชอบพอก็อาจจะเคยเกื้อกูลกันมาในภพก่อนๆ มีศรัทธา ศีล จาคะ ปัญญา ที่เสมอๆ กัน
‘กรรม’ เกิดได้ทางกายวาจาใจ เป็น ‘ราคะ โทสะหรือโมหะ’ ซึ่งกรรมอันใดที่ไม่ได้ทำเพราะโทสะหรือโมหะ นั่นไม่ได้เป็นกรรมที่จะให้เกิดการผิดศีล แต่เพราะมีการกระทบกระทั่งเบียดเบียนกันเกิดขึ้น เราจึงรู้สึกไม่ดี เพราะนี่คือโทษของวัฏฏะ โทษของสังสารวัฏ ซึ่งพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ไม่เบียดเบียนอยู่แล้ว ดังนั้นแม้ใครจะเบียดเบียนเรา แต่ให้มี ‘ธรรมเครื่องขูดเกลา’ ที่เรายังต้องมีความอดทน มีความรักใคร่เอ็นดู มีเมตตาจิตอยู่เสมอ พิจารณาแบบนี้จิตใจเราจะสูง ต่อให้ตาย การตายนั้นเป็นการตายที่ไม่สูญเปล่า
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 24 Jul 2022 - 53min - 194 - กฏเกณฑ์ความสุขในชีวิต [6529-1u]
ถ้ามีกฎเกณฑ์ความสุขในชีวิตมาก เป็นไปตามกระแสของโลกมาก ความทุกข์ของเราจะมาก ตามกระแสของโลกคือตัณหา มีตัณหามากความทุกข์ก็มาก แทนที่จะความสุขมากตามกฏเกณฑ์ที่มีมาก No! ความทุกข์ยิ่งมาก แต่ถ้ามีกฎเกณฑ์ความสุขในชีวิตน้อย คือ ไม่ต้องไปตามกระแสของตัณหาเท่าไหร่ เออ! มีกฎเกณฑ์ความสุขน้อย ความสุขกลับมาก
เป็นความสุขที่เหนือกว่าสุขเวทนา เพราะจิตใจไม่ผูกเป็นปมเป็นเงื่อนไม่ลงตัว กินอะไรอยู่ที่ไหนทำอะไรก็มีความสุขได้ เป็นความสุขเกิดขึ้นจากในภายใน ไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของในภายนอก เราต้องรอสิ่งต่างๆ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขปัจจัยที่คาดหวัง ถึงจะมีความสุข ไม่จำเป็น แต่มีความสุขที่นี่เดี๋ยวนี้ปัจจุบันนี้ได้ทันที ด้วยการตั้งจิตใหม่ให้มาตามทางมรรคที่มีองค์ประกอบอันประเสริฐ 8 อย่าง“ปรับกฎเกณฑ์ใหม่ ให้กฎเกณฑ์ของเราเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของโลก กฎของอริยสัจคือความจริงอันประเสริฐ ถ้าปรับตามนี้แล้ว ชีวิตของเราจะมีความสุขได้ทันที”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 17 Jul 2022 - 1h 01min - 193 - ทำที่ไม่ประมาทเพื่อบรรลุธรรม [6528-1u]
ทุกคนในโลกที่เกิดมาเป็นมนุษย์ บรรลุถึงธรรมะที่ให้เกิดความดีจะว่าอย่างนั้นก็ยังได้ เพราะความที่เกิดเป็นมนุษย์ไม่ใช่ง่าย ๆ เราบรรลุซึ่งความดีที่ได้ยากแล้ว มีบุญมากพอ ต่อไปอีก คนจะมามืดหรือมาสว่าง แต่ให้ไปสว่าง จึงควรแท้ที่จะไม่ประมาท เพราะที่สูงขึ้นไปยังมีให้เกิดการบรรลุเป็นขั้น ๆ เหมือนการปฏิบัติที่เป็นไปตามลำดับ
ธรรมะใช้ให้ถูกจุด เราจะมีกำลังใจในการปฏิบัติ เริ่มจากศีลธรรมดา ๆ ความเพียร หิริโอตตัปปะ หรือแม้แต่การกินอาหารที่ไม่ได้มัวเมา แต่เพื่อระงับเวทนาฯ .. เมื่อเข้าใจถูกแล้ว ทำเป็นขั้น ๆ “ทำทีละน้อย ๆ ฝนตกทีละเม็ด ๆ เขื่อนเต็มขึ้นมาได้” เหมือน “เราตั้งสติไว้ทีละครั้ง ๆ ก็บรรลุมรรคผลนิพพานได้” นี่หมายถึงระดับขั้นสูงนั่นเลย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 10 Jul 2022 - 54min - 192 - เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน [6527-1u]
ถ้าจะให้ประสิทธิภาพในการทำงานยังมีอยู่สูง เราต้องมีวิธีละความเครียด “เจริญธรรมะฉันทะ เพื่อละกามฉันทะ” ซึ่งรูปแบบของความเครียดจะมาว่าเราอยากไปดูเฟสบุ๊ค ยูทูป นั่นคือ มีกามฉันทะขึ้นแว๊บนึง หรือมีความไม่พอใจคนนั้นคนนี้ มีความง่วง มีความคิดฟุ้งซ่าน สงสัย เคลือบแคลง คือ มีนิวรณ์ 5 เกิดขึ้น
‘สติ’ จะเป็นตัวแยกแยะว่า เราจะสู้ต่อหรือพอแค่นี้ แต่ถ้าสติมีกำลังอ่อน ก็ฝึกให้สติมีกำลังมากขึ้น สมาธิก็จะมีกำลังมากขึ้น ด้วยการจดจ่อในการเจริญอิทธิบาท 4 ‘ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา’ อย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดสมาธิได้ “ทุกคนมีศักยภาพในการทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรู้จักเลือกที่จะใช้ในงานที่จะต้องทำ ในเวลาที่เหมาะสม ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 03 Jul 2022 - 57min - 191 - ‘ธรรมะทางลัด’ แก้ทุกข์ จิตเป็นสมาธิ [6526-1u]
“ธรรมะทางตรงธรรมะทางลัด คือ ทางเอก ไม่ใช่ทางอ้อม” เป็นมัชฌิมาปฏิปทา เป็นการแก้ปัญหาโดยตรง ต้องทำตามนี้ ไม่อย่างนั้นต้องวนกลับมาเหมือนเดิม “เกิดในสังสารวัฏ ทุกคนเป็นเจ้ากรรมนายเวรของกันและกันอยู่แล้ว มีความเกี่ยวข้องกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง” ท่านจึงแนะนำว่าอย่าไปอยู่ในสังสารวัฎ มันทุกข์มาก มีปัญหามาก
เมื่อมีผัสสะคุณจะมีเวทนา ถ้ามีเวทนา คุณจะมีความทุกข์ได้” สำคัญคือ มีผัสสะแล้ว มีทุกข์ไหม ถ้าเข้าใจผัสสะได้ถูกต้องว่า “ผัสสะไม่เที่ยง สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นตัวเราหรือเปล่า” นี่คือสัมมาทิฏฐิ…เข้าใจได้เริ่มจากศรัทธา ฟังธรรม จิตเป็นสมาธิ จะมีสัมมาสมาธิได้ ต้องมีสัมมาสติ ซึ่งอานิสงส์ของผู้ที่เจริญเมตตาอยู่เป็นประจำ จะทำให้เข้าสมาธิได้ง่าย
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 26 Jun 2022 - 55min - 190 - ปรับพฤติกรรมด้วยสติปัญญา [6525-1U]
จิตที่ไม่มีสติ เสวยอารมณ์ใดๆ จะผลิตสิ่งที่เรียกว่ากิเลส เมื่อสั่งสมมากเข้า ๆ จนเป็นอาสวะหรือสิ่งที่ไหลออกจนเป็นพฤติกรรม ‘โมหะ’ อาสวะที่ทำให้กลัว มีโทษมากคลายช้า “เรากลัวสิ่งใด จะละความกลัวได้ ก็ต้องละในสิ่งนั้น” ‘ราคะ’ อาสวะที่ทำให้เกิดความหลง โทษน้อยคลายช้า ส่วน ‘โทสะ’ อาสวะที่ทำให้ขัดเคือง โทษมากคลายเร็ว อาสวะเหล่านี้ จะตัดจะแก้ได้ ต้องใช้ ‘ปัญญา’ เปรียบเหมือนความคมของมีด กำลังของ ‘สมาธิ’ คือมีดเล่มเล็กหรือใหญ่ เล็งลงไปให้ตรง นั่นคือสติ
"อาสวะมันเหนียว ฟันทีเดียวไม่ขาด หรือขาดแล้วต่อใหม่ได้" เพราะเป็นพฤติกรรมที่สั่งสมมานาน จึงต้อง “พิจารณา” ซ้ำ ๆ ย้ำ ๆ ถึงกุศลและอกุศล ฟันลงไปฟาดลงไปให้ตรง พิจารณาต่อเนื่อง จะเกิดประโยชน์ขึ้นแน่นอน
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 19 Jun 2022 - 1h 00min - 189 - สิ้นกรรม [6524-1u]
“ศาสนานี้คำสอนนี้ เป็นศาสนาของปัญญา” เมื่อ “เห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วกระทำคืนตามธรรม” ที่ว่าจำเป็นต้องทำไม่ดี ต้องดูที่เจตนาเปรียบเหมือนรอยกรีดลงบนน้ำ ทรายหรือหิน “กระทำอะไรก็ตาม ต้องได้รับผลมีวิบากของกรรม” ซึ่งการที่เกิดมาเป็นคน มีความดีรักษาเราอยู่แล้ว ฉะนั้นให้เป็นผู้มีตาที่ 1 ในการทำความดี ตาที่ 2 ในการหาทรัพย์ และตาที่ 3 ในการเห็นอริยสัจ 4
ฟังแล้วใคร่ครวญให้เกิดปัญญา ไม่ประมาทในชีวิตทั้ง 3 วัย คุณธรรมอะไรดีๆ เก็บไว้ๆ ไม่เห็นแก่ว่ามันน้อย มันสั้น แต่เก็บไว้ด้วยการตั้งสติให้ดี แทงลงตรงจุดที่เป็นกุศลธรรม แก้กรรมที่ทำไม่ดีมาก่อน อินทรีย์มีความแก่กล้าขึ้น ปล่อยวางจุดนั้นจุดนี้ จิตสุดท้ายทำให้ดี จะทำให้เกิดการสิ้นกรรมขึ้นมาได้
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 12 Jun 2022 - 56min - 188 - 'ปัญญา' ที่ลึกกว่าตาเห็น [6523-1u]
โลกนี้..หลายๆ อย่างมันเป็นเงื่อนงำ ผูกเป็นปมซ่อนเร้นให้ไม่เห็นว่า ข้างในเป็นอะไร ฉะนั้นเราต้องมองให้ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่เพียงผิวเผิน ใคร่ครวญโดยแยบคาย ที่จะให้เกิดสิ่งที่ไม่ดีในลักษณะให้ไม่เข้าใจ ให้ไม่พอใจ หรือให้เกิดความลุ่มหลงเป็นอาสวะ 3 แบบกาม ปฏิฆะ และอวิชชา ขึ้นมาได้
“ทำดี” ไม่ได้จะหวังเอาสิ่งดีๆ แต่เพื่อกำจัดความอยาก เพื่อกำจัดความตระหนี่ “จะดีหรือไม่ดี ไม่ได้อยู่ที่ปากคนอื่น ไม่ได้จะอยู่ที่ว่าจะมีสุขหรือมีทุกข์ จะร่ำรวยหรือยากจน ไม่ได้อยู่ที่เวทนาแบบไหน แต่อยู่ที่ตัวเรา” เราจึงต้อง “พึ่งตนพึ่งธรรม” ใช้ปัญญา พิจารณาเข้ามาที่ตัวเองในลักษณะที่ไม่ให้อาสวะเกิดขึ้น ปัญญาก็จะแจ่มแจ้งขึ้นอยู่ตรงนั้นนั่นเอง
Hosted on Acast. See acast.com/privacy for more information.
Sun, 05 Jun 2022 - 1h 07min
Podcasts similares a 1 สมการชีวิต
- นิทานชาดก 072
- พี่อ้อยพี่ฉอด พอดแคสต์ CHANGE2561
- หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม dhamma.com
- เล่าเรื่องรอบโลก by กรุณา บัวคำศรี karunabuakamsri
- ลงทุนแมน longtunman
- Mission To The Moon Mission To The Moon Media
- ไหนๆ ก็เล่าแล้ว Nai Nai Kor Lao Laew
- พระเจอผี Podcast Prajerpee
- เคาะข่าวค่ำ radio tonews
- SONDHI TALK sondhitalk
- คุยให้คิด Thai PBS Podcast
- พระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) Thammapedia.com
- The Secret Sauce THE STANDARD
- THE STANDARD PODCAST THE STANDARD
- คำนี้ดี THE STANDARD
- ข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ ภาคภาษาไทย 6:30 – 7:00 น. - วอย VOA
- Luangpor Paisal Visalo‘s Podcast (ธรรมะ จาก หลวงพ่อไพศาล วิสาโล) watpasukato
- 3 ใต้ร่มโพธิบท ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 4 คลังพระสูตร ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 5 นิทานพรรณนา ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 6 ขุดเพชรในพระไตรปิฏก ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- 7 ตามใจท่าน (ธรรมะสากัจฉา) ปัญญา ภาวนา ฟังธรรมะ ปัญญาภาวนา Panya Bhavana
- พุทธวจน พุทธวจน
- หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ หลวงพ่อจรัญ ทักขญาโณ
Otros podcasts de Salud
- Sanamente Caracol Pódcast
- Abierta Mente: Conversaciones con Yoga al Alma Ana Isabel Santa María
- El Podcast de Marco Antonio Regil Sonoro | Marco Antonio Regil
- Sonidos para dormir mejor White Noise For Sleep and Relax
- Relax Mind and Body Relax Body and Mind
- En Armonía Caracol Pódcast
- Relatos eróticos con la voz de tus fantasías RELATOS PARA TOCARME
- Psicologia Al Desnudo | @psi.mammoliti Psi Mammoliti
- Salsa Romesco Radio Primavera Sound
- Ojalá lo hubiera sabido antes Álex Rovira
- 8 Hour Binaural Beats 8 Hour Sleep Music
- A Calzón Quita'o Recargado | PIA Podcast PIA Podcast
- Salud 180 Grupo Imagen
- Meditación para dormir Noelia García
- Super Sexo. Dra. MIRIAM BALBELA Sexo y Relaciones de Pareja
- Relatos eróticos Bali Club
- Sin tabú: relaciones, sexualidad y sexo Bumbox Podcast
- ¡Qué locura! Bumbox y La No Ficción
- SOLO SEXO Estelar Producciones
- Psychologie to go! Dipl. Psych. Franca Cerutti